รีสตาร์ทให้กับชีวิต
ครั้งหนึ่ง มีคนถาม องค์ดาไลลามะ ว่าอะไรเป็นเรื่องที่ท่านรู้สึกแปลกใจมากเกี่ยวกับมนุษยชาติ ผู้นำทางจิตวิญญาณของทิเบต ตอบอย่างลุ่มลึกว่า “ มนุษย์เรานี้ ยอมสูญเสียสุขภาพเพื่อทำให้ได้เงินทองมา แล้วต้องยอมต้องสูญเสียเงินทอง เพื่อฟื้นฟูรักษาสุขภาพ และก็เฝ้าเป็นกังวลกับอนาคต จนไม่มีความรื่นรมย์กับปัจจุบัน ผลที่เกิดขึ้นจริงๆ ก็คือ เขาไม่ได้อยู่กับปัจจุบัน หรือแม้กระทั่งอยู่กับอนาคต เขาดำเนินชีวิตเสมือนหนึ่งว่า เขาจะไม่มีวันตาย และแล้วเขาก็ตายอย่างที่ไม่เคยมีชีวิตอยู่จริง ”
มากดปุ่มรีสตาร์ท แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ ด้วยการทำวันนี้ ชั่วโมงนี้ นาทีนี้ให้ดีที่สุด และรู้จักใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันอย่างมีความสุขที่สุดตามหลักธรรมชาติ บางครั้ง ความสุขล้วนอยู่รอบตัวเรา ไม่จำเป็นต้องตะเกียกตะกายไขว่คว้าดิ้นรนให้ทุรนทุราย
และด้วยสถานการณ์ทางการเมืองที่คุกรุ่น เศรษฐกิจที่ย่ำแย่ เราสามารถที่จะสร้างความสุขให้กับตัวเอง และเมื่อเราสุขแล้ว ก็ย่อมที่จะเผื่อแผ่ความสุขไปให้กับคนรอบข้างของเราได้ และช่วยลดปัญหาต่างๆในสังคมได้อีกทาง อีกทั้งยิ่งเรามีความสุขมากเท่าไหร่ ย่อมทให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง และสามารถทำงานได้ดียิ่งขึ้น ผลผลิตมากขึ้น ส่งผลให้องค์กรที่เราอยู่ประสบผลสำเร็จยิ่งขึ้นไปด้วย
ความสุขของคนเรา อยู่ใกล้แค่เอื้อม ทำได้ง่ายๆและทำได้ทุกวัน ด้วยวิธี “ รับอรุณด้วย 7 นาทีทอง ” การออกกำลังกาย เพียงแค่ครั้งละ 7 นาที ก็ถือว่า เป็นการออกกำลังกายที่มีคุณภาพแล้ว เพียงแค่ขอให้ทำอย่างสม่ำเสมอทุกวัน การออกกำลังกาย ช่วยทำให้สมองโลดแล่น เลือดลมสูบฉีด ช่วยลดความเครียดได้อย่างดียิ่ง ส่งผลดีต่อร่างกายอย่างมาก
ดังนั้น จึงขอฝากเทคนิคเล็กๆน้อย เพื่อเป็นการรีสตาร์ท ชีวิตของเราให้สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ดังนี้
“ หลับให้ลึก นอนให้อิ่ม” ชั่วโมงการนอนหลับที่ต้องการของแต่ละคนไม่เท่ากัน ไม่ว่าจะนอนน้อยหรือนอนมาก ขอให้เป็นการนอนหลับอย่างมีคุณภาพ รับรองว่าตื่นเช้ามาจะอารมณ์เบิกบานทั้งวัน และมีสมาธิดีในการทำงาน ดังนั้นหากได้ลองนอนตามที่บอก รับรองว่า อารมณ์ดีทั้งวันแน่ๆ
“ ฝึกยิ้มให้กว้างหน้ากระจก ” จะช่วยลดความเจ็บปวด ลบความขุ่นมัวในจิตใจ ทำให้มองโลกในแง่ดียิ่งขึ้น รวมทั้งส่งผลให้สุขภาพจิตดียิ่งขึ้นด้วย
“ แบ่งเวลาให้ครอบครัวมากขึ้น สังสรรค์กับเพื่อนแค่พอดี ” เลิกอ้างว่าทำงานหนักไม่มีเวลาให้ครอบครัว ถ้ารู้จักบริหารเวลาให้เป็นไม่ดองงานไม่เจ๊าะแจ๊ะ เมาท์มอย ปาร์ตี้ไม่เลิก คุณก็จะมีเวลากลับไปดูแลครอบครัวมากขึ้นอย่างแน่นอน
“ ใช้ชีวิตกลางแจ้ง เพิ่มดีกรีความสุขทวีคูณ ” เดินออกจากห้องสี่เหลี่ยมในออฟฟิศ หรือคอนโด หรือห้างสรรพสินค้า แล้วออกไปสูดอากาศข้างนอกบ้าง ให้สายลมแสงแดดได้สัมผัสกับตัวเรา เพื่อเปิดรับพลังบริสุทธิ์ของธรรมชาติบำบัด ยังช่วยปรับสมดุลในร่างกาย ทำให้มีภูมิต้านทานแข็งแรงขึ้น ขณะเดียวกันอามรณ์ต่างๆที่ถูกเก็บกักไว้ก็จะถูกปลดปล่อยอย่างเป็นธรรมชาติ
“ รู้จักให้สุขยิ่งกว่ารับ ” ไม่ว่าจะให้ด้วยการหยิบยื่นโอกาสแบ่งปันสิ่งของ ช่วยเหลือผู้ทุกข์ยาก ให้ความรักความเมตตาต่อผู้อื่นในสังคมหรือแม้แต่ทำงานจิตอาสาเพื่อช่วยเหลือสังคม ขอให้เชื่อเถอะว่ายิ่งให้ยิ่งสุขมาก และทำให้ชีวิตเรามีความหมายกว่าที่เคย ที่สำคัญก็คือ เมื่อให้ไปแล้วจงอย่าหวังสิ่งตอบแทน
เพียงเท่านี้ คุณก็จะได้มีพลังที่สดใส พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงต่างที่เกิดขึ้นในชีวิตคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยสุขภาพใจ และสุขภาพกาย ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังที่บริสุทธิ์