"ขอมละแวก" หอกข้างแคร่ "อโยธยา"
โพสท์โดย คุณชายชุน
กรุงละแวกเป็นเมืองหลวงช่วงหนึ่งของขอม ละแวกเป็นเมืองใหญ่และรุ่งเรือง
ว่ากันว่าแม้ม้าตัวที่แข็งแรงที่สุดก็ไม่สามารถวิ่งรอบพระนครได้เพราะมีกำแพงเมืองถึง5ชั้น
ยอดปราสาทสร้างจากทองคำ มีปราการธรรมชาติป้องกันพระนครคือป่าไผ่ที่ขึ้นอย่างหนาแน่น
ยากที่จะตีเอาเมืองได้โดยง่าย
ท้องพระโรงกรุงละแวก
"เมืองละแวก" เป็นศูนย์กลางการปกครองของอาณาจักรขอม ตั้งแต่ พ.ศ. 2096 ถึง พ.ศ. 2136 ตรงกับช่วงประมาณสงครามคราวเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่หนึ่ง เป็นยุคสมัยที่อาณาจักรเขมรรุ่งเรืองขึ้นเป็นครั้งแรกหลักจากประสบกับความเสื่อมโทรมมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาสองร้อยกว่าปี โดยกัมพูชาในสมัยนี้มีการติดต่อค้าขายกับชาวต่างชาติ โดยเฉพาะกับสเปน (ผิดกับชาติเพื่อนบ้านอื่นๆ เช่นพม่า ไทย เวียดนาม มลายู ซึ่งติดต่อกับโปรตุเกสเป็นส่วนใหญ่) ประกอบกับการที่ศัตรูสำคัญอย่างอาณาจักรอยุธยากำลังอ่อนแอด้วยการรุกรานของพม่า ทำให้กัมพูชาสามารถขึ้นมาเป็นฝ่ายรุกได้ แต่ก็เป็นช่วงเวลาอันสั้นเท่านั้น เพราะกรุงละแวกได้ถูกเผาทำลายลงอย่างรวดเร็วด้วยการรุกรานของทัพสยาม ในรัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทำให้กัมพูชาเข้าสู่กลียุคอีกครั้ง
นักพระสัตถาครองกรุงละแวกในคราที่สมเด็จพระนเรศวรเข้าตีเมือง
ความบาดหมางระหว่างอโยธยากับละแวก เริ่มขึ้นตั้งแต่ในสมัยพระไชยราชาโดยอโยธยานำทัพไปตีกรุงละแวกเพราะละแวกมักเป็นหอกข้างแคร่เคยรุกรานสยามเสมอเมื่อมีโอกาส แต่ฝ่ายอโยธยาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ทหารอโยธยาถูกจับเป็นเชลยจำนวนมาก และในสมัยพระมหาธรรมราชากรุงละแวกได้ถือโอกาสที่อโยธยาเพิ่งเสียกรุงแก่ทัพหงสาวดีใหม่ๆ ส่งกองทัพมาโจมตีและกวาดต้อนผู้คนถึงยังชานพระนคร
หลายปีต่อมา เมื่อสมเด็จพระนเรศวรทรงประกาศอิสรภาพและเริ่มทำศึกกับหงสาวดีอีกครั้ง ทางด้านนักพระสัตถา พระเจ้ากรุงละแวก ทรงเห็นว่า อโยธยากำลังจะเข้มแข้งขึ้น จึงมาขอผูกไมตรีด้วย โดยในศึกพระเจ้าเชียงใหม่ ทางกรุงละแวกได้ส่ง พระศรีสุพรรณนำทัพมาช่วยรบ(ฉากนี้อยู่ในภาพยนตร์ พระนเรศวร ภาค 3) แต่เมื่อถึงคราวออกรบ พระศรีสุพรรณกลับมิได้นำทหารเข้าช่วยอโยธยารบกับทัพเชียงใหม่ หากแต่ให้ตั้งทัพเฉยอยู่ จนเมื่อทัพพระเจ้าเชียงใหม่แตกพ่ายไปแล้ว พระศรีสุพรรณจึงให้ไพร่พลเข้าไล่จับเชลยและเก็บทรัพย์สินของทัพเชียงใหม่เพื่อส่งกลับไปละแวก
พระศรีสุพรรณธรรมาธิราชพระอนุชาของพระเจ้ากรุงละแวก
ต่อมาเมื่อ พระเจ้านันทบุเรงทรงยกทัพใหญ่มาตีกรุงอโยธยา พระเจ้ากรุงละแวกทรงเห็นว่า คราวนี้ อโยธยาคงรับศึกเอาไว้มิได้ จึงได้ตัดไมตรี และส่งทัพเข้ามาโจมตีนครราชสีมา แต่ถูกฝ่ายอโยธยารุกไล่จนล่าถอยไป
การที่ละแวกตระบัดสัตย์ ลอบโจมตีอโยธยาในยามติดศึกหงสาวดี ทำให้พระนเรศวรทรงพระพิโรธเป็นอย่างมาก และทรงมีดำริที่จะต้อปราบปรามเมืองละแวกให้จงได้
พระยาจีนจันตุผู้ที่พระเจ้ากรุงละแวกส่งให้มาสืบข่าวในอโยธยา แต่สมเด็จพระนเรศวรสืบทราบเสียก่อน พระยาจีนจันตุหลบหนีทางเรือ จนเกิดศึกยุทธนาวีขึ้น สุดท้ายพระยาจีนจันตุหนีรอดไปได้
สมเด็จพระนเรศวรออกศึกยุทธนาวี ล่าพระยาจีนจันตุ
จากด้านซ้ายคือ ออกญาเสนาภิมุข , พระราชมนู, สมเด็จพระนเรศวร, พระราชวังสรรค์
โดยในพงศาวดารกัมพูชา ได้เล่าถึง เหตุการณ์ที่สมเด็จพระนเรศวรยกทัพไปตีกรุงละแวก ไว้ว่า อโยธยาได้ยกมาตีกรุงละแวกสองครั้ง โดยในครั้งแรกนั้น ทัพอโยธยามิอาจตีกรุงละแวกได้ เนื่องด้วยเทพยดาที่รักษาเมืองได้สำแดงอิทธิฤทธิ์ป้องกันพระนครเอาไว้ และที่สำคัญ คือ รอบกรุงละแวก มีป่าไผ่แน่นหนาขึ้นล้อมรอบตัวเมืองจนเหลือช่องทองให้ผ่านเข้าได้เพียงแคบๆ เป็นอุปสรรคขัดขวางยามที่ทัพอโยธยายกเข้าตีเมือง
วางแผนการรบ
ดังนั้น สมเด็จพระนเรศวรจึงทรงมีพระบัญชาให้มหาดเล็กสองนาย ปลอมตัวเป็นพระภิกษุ ผู้มีวิทยาอาคมแอบแฝงตัวอยู่ในกรุงละแวก และแสดงคุณวิเศษให้ผู้คนหลงเชื่อ จากนั้นก็ให้หาโอกาสทำลายอิทธิฤทธิ์ของพระเสื้อเมืองทรงเมืองที่ปกปักษ์รักษากรุงละแวกอยู่ พร้อมกันนั้น ก่อนที่พระองค์จะเสด็จนำทัพกลับ ก็ทรงมีพระบัญชาให้นำเงินแท่งมาหลอมเป็นกระสุนและระดมยิงเข้าไปในป่าไผ่เหล่านั้นเป็นอันมาก จากนั้นทัพอโยธยาจึงล่าถอยกลับไป
ในเวลาต่อมา เมื่อชาวเมืองละแวกได้รู้เรื่องที่ทัพอโยธยายิงกระสุนเงินเข้าไปในป่า จึงพากันออกจากเมืองมาถางป่าไผ่เพื่อค้นหากระสุนเงินเป็นจำนวนมาก ทำให้ป่าไผ่ถูกทำลายไปเกือบหมด
ในขณะนั้นเอง ภิกษุปลอมทั้งสองก็ได้ทำคุณไสยเพื่อทำลายอิทธิฤทธิ์ของพระเสื้อเมือง ทั้งยังลอบเข้าไปทำลายปืนใหญ่สำคัญๆที่ประจำอยู่ในบนเชิงเทินด้วย จากนั้นจึงลอบส่งข่าวไปแจ้งแก่ทางอโยธยา
ออกศึกตีละแวก
ครั้นเมื่อสมเด็จพระนเรศวรทรงทราบว่า อุบายที่วางไว้ประสบผลสำเร็จแล้ว พระองค์ก็เสด็จยกทัพมาอีกครั้ง โดยในครั้งนี้ กองทัพอโยธยาสามารถตีเมืองสำคัญของละแวกได้ทั้งสิ้น จากนั้นจึงยกเข้าล้อมเมืองละแวกเอาไว้อย่างแน่นหนา
เมื่อ ละแวกหมดสิ้นป่าไผ่ที่เป็นปราการป้องกันเมืองไปแล้ว ประกอบกับปืนใหญ่สำคัญๆ ก็ถูกอุปนิกขิตของอโยธยาทำลายไป ทำให้กองทัพอโยธยา สามารถเข้าประชิดกำแพงเมืองได้ หลังจากนั้นไม่นาน กรุงละแวกก็เสียแก่กองทัพของสมเด็จพระนเรศวร
ซึ่งในสงครามครั้งนี้ พงศาวดารกัมพูชาและบันทึกของชาวต่างชาติร่วมสมัย กล่าวไว้ว่า กองทัพอโยธยาสามารถจับตัวพระศรีสุพรรณ อุปราช กรุงละแวกได้ ส่วนนักพระสัตถา พระเจ้ากรุงละแวกนั้น ทรงหนีไปลี้ภัยอยู่ในที่ชายแดนระหว่างล้านช้างกับละแวก และสิ้นพระชนม์ที่นั่น หลังจากนั้นไม่นานนัก
ที่มา:ขอบคุณภาพประกอบจากตำนานสมเด็จพระนเรศวร, http://www.komkid.com/ประวัติศาสตร์สังคม/กลศึกพระเนศวร-คราวรบเมื/ , wikipedia, pantip ,คุณชายชุน เรียบเรียง
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
93 VOTES (4/5 จาก 23 คน)
VOTED: อ้ายเติ่ง
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
"ซินแสดัง" เผยดวงเมืองประเทศไทย ปี 2569..ยิ่งรบ ยิ่งแข็งแกร่ง ศัตรูแพ้ราบคาบ
ทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจาย
เขมรวิเคราห์ "จุดอ่อนของ T-50TH คืออะไร?"
"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชน
เซียนหวยคึกคัก ม้าสีหมอกปล่อยแนวทางเลขเด็ด งวด 2 มกราคม 2568
สิบเลขขายดีแม่จำเนียร งวด 2/1/69
วิเคราะห์หวยงวดวันที่ 2 มกราคม 69 โดยใช้ AI..เลขไหนมีสิทธิ์ถูกรางวัล
📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำ
AI วิเคราะห์เลขท้าย 2 ตัว งวดวันที่ 2 มกราคม 69..โดยใช้สถิติย้อนหลัง 20 ปี
สาวปริศนาปล่อยอึในร้านมินิมาร์ท พนง.เก็บกวาดปล่อยโฮ เพราะต้องตามเช็ด (เหตุเกิดที่ไทย)
"สรยุทธ" โดนโซเชียลแซะแรง..ตอบกลับสั้นๆ กับประโยคในตำนาน
เซ็นหยุดยิงได้ 35 นาที สระแก้วเดือดอีกรอบ! ถล่มปืนใหญ่Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
กินตามใจปาก เสี่ยงสารพัดโรค
เสียชีวิตอย่างน้อย 8 ราย จากเหตุโจมตีมัสยิดครั้งใหญ่ครั้งแรก นับตั้งแต่การล่มสลายของอัสซาด
เปิดประวัติ ทนายชาย เขต 3 นครศรีธรรมราช เบอร์ 6 พรรคประชาชน







