หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

รักษาโรค ด้วยโนรา

โพสท์โดย โนราบรรดาศักดิ์

โนรา ศาสตร์แห่งการรักษาโรค
"เอวองค์ยามอ่อนช่างอ้อยอิ่ง ยามเยื้องยิ่งแกว่งกวัดสะบัดไหว
ปะ ทิง เทิ่ง เทิ่ง ปะ ประโคมไป อ่อนแข็งเคลื่อนไหวได้สมงาม
รู้ฝืนรู้ปรับบังคับร่าง เป็นท่าทางคล้องใจให้ไหวหวาม
สีหน้าสื่อบทบาทวาดร่างตาม สืบความงามตามอย่างทางโนรา"
สุรินทร์ มุขศรี : ประพันธ์
(คัดจาก นิตยสาร “ศิลปวัฒนธรรม” : ๒๕๔๐)

                    “มโนห์รา” หรือ “โนรา” ตามความเข้าใจของคนทั่วไปหมายถึง มหรสพพื้นบ้านที่มีการสืบทอดมาอย่างยาวนานและเป็นที่นิยมแพร่หลายในท้องถิ่นทางภาคใต้มาแต่อดีต โดยถือเป็นการละเล่นที่มีลีลาร่ายรำประกอบจังหวะและมีท่วงทำนองเร่าร้อน เน้นเครื่องดนตรีประเภทตีและเป่าซึ่งให้ความสำคัญกับการร่ายรำเป็นส่วนใหญ่ รองลงมาคือการทำบท (แสดงท่าทางประกอบบทร้อง)
ซึ่งมีการเล่นเป็นกลอน มีทั้งกลอนที่แต่งเอาไว้ก่อนแล้วและกลอนมุดโต (กลอนสด) โดยใช้คำร้องเป็นภาษาถิ่นทางใต้ บาง                    โอกาสก็มีการแสดงตามคติความเชื่อในลักษณะของพิธีกรรมต่างๆ ขณะที่บางโอกาสก็แสดงเป็นเรื่อง สำหรับเรื่องที่จะเล่นนั้นมักให้ความสำคัญเป็นอันดับสุดท้ายเหตุนี้ หากมองแค่เพียงผิวผ่าน “โนรา” ก็คือ “ศิลปะเพื่อความบันเทิง” ประเภทหนึ่งเท่านั้น แต่หากมีการศึกษาให้ลงลึกถึงแก่นแกนของความจริงแล้วจะพบว่า ภายใต้ความงดงามของศิลปะแห่งบทร้องและการร่ายรำนั้น “โนรา” ยังมีความลึกลับซับซ้อน ถือเป็นลักษณะของวัฒนธรรมอย่างหนึ่งที่มีรากฐานของความเชื่อโดยผ่านโลกทัศน์ของชาวบ้านอันสามารถบันดาลให้เกิดความสุขหรือความทุกข์ได้ โดยเฉพาะการเจ็บป่วย “โนรา” ได้เข้ามามีบทบาททั้งในด้านของผู้ที่เป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดการเจ็บป่วยและในด้านของผู้ที่ให้การรักษาเยียวยาโดยผ่านขั้นตอนของพิธีกรรมที่ละเอียดอ่อน เป็นรูปแบบการรักษาเยียวยาที่มีความน่าสนใจและน่าศึกษายิ่ง

โรคหรืออาการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นเนื่องจากอำนาจของครูหมอโนรา

              โรคหรืออาการเจ็บป่วยที่ชาวไทยภาคใต้มีความเชื่อว่าเกิดจากอำนาจหรือการกระทำของสิ่งนอกเหนือธรรมชาติ  ในกรณีนี้หมายถึง “ครูหมอโนรา” (ครูหมอโนราถือเป็นบรรพบุรุษของโนรา  สามารถรำโนราได้  คนไทยทางภาคใต้ส่วนใหญ่มีบรรพบุรุษเป็นโนรา เพราะเชื่อว่าเป็นศิลปะชั้นสูง มีต้นกำเนิดมาจากกษัตริย์  คนที่จะรำโนราได้จึงหมายถึงเป็นคนที่มีบุญญาบารมี ดังนั้นในอดีตคนส่วนใหญ่จึงมีการหัดรำโนรากันโดยเหตุนี้ทำให้คนไทยทางภาคใต้มักมีเชื้อสายของโนรา) ซึ่งการจะหายขาดได้นั้นต้องได้รับการยินยอมจากครูหมอโนราก่อน เมื่อผู้ใดเกิดการเจ็บป่วยหรือมีอาการที่เชื่อว่าครูหมอโนราเป็นผู้กระทำก็จะมีพิธีกรรมเฉพาะสำหรับการเยียวยารักษาหรือแก้ไขภาวะการเจ็บป่วยนั้น  โดยผู้ป่วยหรือญาติผู้ป่วยสามารถติดต่อครูหมอผู้กระทำโดยผ่านร่างทรงเพื่อให้ครูหมอยินยอมรักษาเยียวยาและยกโทษให้   โรคหรืออาการเจ็บป่วยนั้นมีลักษณะเฉพาะตามความเชื่อซึ่งชาวไทยทางภาคใต้ได้ให้ความหมายของโรคหรืออาการนั้นว่า  “โนราย่าง” (โนราย่าง (มโนห์ราย่าง) เป็นอาการที่บุคคลป่วยกระเสาะกระแสะ  เนื่องจากครูหมอโนราให้โทษ จะรักษาเยียวยาหรือหาหมอหรือทำการรักษาอย่างไรก็ไม่หาย  อาการมีแต่ทรงกับทรุดแต่จะไม่ถึงตาย  ส่วนใหญ่มักซูบผอมไม่ยอมกินข้าวกินปลา   ซักถามสิ่งใดก็ไม่ค่อยพูดหรือพูดแต่จับใจความไม่ได้  ร่างกายมีสภาพเขียวคล้ำคล้ายผิวเกรียมไหม้)    ซึ่งอาการเช่นนี้ชาวบ้านมีความเชื่อกันว่า  อาจเกิดจากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งต่อไปนี้
                 . ลูกหลานผู้สืบเชื้อสายของครูหมอโนราไม่บวงสรวงสักการะบูชาครูหมอโนราซึ่งถือเป็นเชื้อสายต้นหรือขาดการเซ่นไหว้ครูตามวาระที่เคยปฏิบัติสืบต่อกันมา   เช่น  เดิมเคยจัดบวงสรวงทุกๆ ๒  ปี  แต่เมื่อครบกำหนดกลับไม่มีการจัดบวงสรวง  ก็จะมีเหตุให้เกิดการเจ็บป่วยได้
                 . ได้มีการบนบานต่อครูหมอมโนห์ราไว้อย่างใดอย่างหนึ่ง     ครั้นเป็นจริงตามที่ได้บนบานไว้ก็มิได้มีการแก้บนตามพันธะสัญญา  (ซึ่งภาษาทางโนราเรียกพันธะสัญญาว่า “เหฺมฺรย” (อ่านว่า ม-เหรย โดยออกเสียง “ร” ควบกล้ำ)) เกิดการลงโทษจากครูหมอโนรา  ทำให้เกิดการเจ็บป่วยเนื่องจากการผิดพันธะสัญญานั้นเรียกว่า  “ถูกเหฺมฺรย”
                 . มีการกระทำการหรือประพฤติตนที่ไม่เหมาะสม    เช่น    พูดจาหรือแสดงพฤติกรรมในเชิงดูถูกดูแคลนปรามาศครูหมอหรือกรณีที่หิ้งบูชาเกิดชำรุดหักพังแล้วมิได้มีการซ่อมแซม นอกจากนี้การเก็บเครื่องดนตรี  เครื่องแต่งกาย  เครื่องประดับของโนราไว้ในสถานที่ที่ไม่เหมาะสม   เช่น  ใต้ถุนบ้านหรือวางไว้ระเกะระกะ  ไม่เป็นระเบียบ   เหล่านี้อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ถูกครูหมอลงโทษได้
 
 
              อาการเจ็บป่วยที่เกิดจากครูหมอลงโทษจะแตกต่างจากอาการเจ็บป่วยทั่วๆ ไป    เพราะผู้ป่วยมักแสดงอาการหรือกิริยาบางอย่างให้เห็นเป็นนัยๆ ว่าครูหมอเป็นผู้กระทำ เช่น  นอนละเมอเป็นกาพย์กลอนหรือร้องรำแบบโนรา, ส่งเสียงร้องตกใจว่าจะมีใครมาทำร้าย,   บ่นว่าอยากจะกินอาหารที่ครูหมอโปรดปรานเป็นพิเศษเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ตลอดจนมีเหตุการณ์ที่ครูหมอหรือภูติผีอื่นๆ มาเข้าทรงและบอกให้ทราบถึงสาเหตุของการเจ็บป่วย  เป็นต้น 
              จากลักษณะเฉพาะของอาการที่ส่อเหตุเป็นนัยๆ เช่นนี้เอง  ทำให้ญาติพี่น้องหรือผู้ใกล้ชิดของผู้ป่วยต้องหาคนกลางเพื่อมาติดต่อกับครูหมอเรียกขั้นตอนการติดต่อนี้ว่า   “การเชื้อ” หมายถึง การเชื้อเชิญครูหมอมาไต่ถามพูดคุยสำหรับคนกลางโดยทั่วไปมักเป็นโนราอาวุโสหรือเป็นหมอยากลางบ้านที่มีความรู้ทางด้านไสยศาสตร์หรือคาถาอาคมมีการค้นหาสาเหตุโดยการสังเกตและสอบถามผู้ใกล้ชิดหรือญาติพี่น้องของผู้ป่วยบางครั้งถึงขั้นเชิญครูหมอมาเข้าทรงเพื่อไต่ถามให้รู้แน่ชัด เมื่อรู้ความแล้วก็ขออภัยโทษต่อครูและให้สัญญาว่า เมื่ออาการเจ็บป่วยหายเป็นปกติแล้วจะให้ผู้ป่วยกระทำตามที่ครูหมอปรารถนา ซึ่งในพิธีกรรมก็คือการใช้โนรารำแก้บนในพิธี “โนราลงครู” (“มโนห์ราลงครู”  เป็นการแสดงโนราเพื่อเชิญวิญญาณบรรพบุรุษที่เป็นโนรา ซึ่งหมายถึงครูหมอโนรามาเข้าทรงลูกหลานเพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษเพื่อความเป็นสวัสดิมงคลแก่ครอบครัว หรือเพื่อการแก้บนตามที่ได้บนบานไว้  พิธีโนราลงครูอาจจะจัดปีละครั้ง ,ปีเว้นปีหรือ ๓ ปีต่อครั้ง  ขึ้นอยู่กับความสะดวกของเจ้าภาพหรือตามความยินยอมผ่อนผันของครูหมอโนราจากการเข้าทรงในครั้งก่อนแต่ห้ามไม่ให้เลิกจัดเพราะครูหมอจะลงโทษ    โอกาสที่จะจัดพิธีนี้มักเป็นช่วงหลังฤดูการเก็บเกี่ยว ดินฝ้าอากาศปลอดโปร่ง เช่น เดือน ๔ เดือน ๖ หรือเดือน ๙ หรือเดือนมีนาคม พฤษภาคมและเดือนตุลาคมตามเดือนสากล) หากมีการติดต่อกับครูหมอโนราโดยคนกลางแล้วปรากฏว่าผู้ป่วยยังไม่หายจากการเจ็บป่วย   ก็จะมีการติดต่อในลักษณะเดิมอีก ๒-๓ ครั้ง  แต่หากไม่ได้ผลอีกก็จะเลิกล้มความคิดว่าการเจ็บป่วยดังกล่าวเกิดจากการกระทำของครูหมอโนรา ต้องแสวงหาการรักษาอย่างอื่นต่อไป (แต่จากการสอบถามชาวบ้านผู้อาวุโสหลายท่าน  ได้คำตอบว่า  ส่วนใหญ่หากได้มีการติดต่อกับครูหมอโนราโดยคนกลางแล้ว  ผู้ป่วยมักจะหายทุกราย  และนำไปสู่ขั้นตอนของการใช้โนรารำแก้บนในพิธีโนราลงครูต่อไป)
 
 

พิธีกรรมกับกระบวนการรักษาเยียวยา

พิธีกรรมสำคัญๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการรักษาเยียวยามี ๒ พิธีกรรม คือ
              ๑. พิธีกรรมหาสาเหตุการเจ็บป่วย
                       หลังจากที่ผู้ป่วยแสดงอาการเจ็บป่วยที่สามารถให้ความหมายเฉพาะว่าน่าจะมีสาเหตุมาจากการกระทำของครูหมอโนราแล้ว  ญาติผู้ป่วยหรือผู้ใกล้ชิดก็จะดำเนินการจัดหาคนกลางมาติดต่อกับครูหมอเพื่อทราบสาเหตุของการเจ็บป่วยและต่อรองเพื่อหาวิธีการแก้ไขต่อไป  ซึ่งขั้นตอนสำคัญๆ สำหรับพิธีกรรมนี้  มีดังนี้
                        ๑.๑  ตั้งสำรับเพื่อการสักการะครูหมอโนราที่ผู้ป่วยหรือญาติให้ความเคารพนับถือ  เรียกการตั้งสำรับนี้ว่า “ที่สิบสอง” หรือ “ข้าวสิบสอง” คือสำรับที่ประกอบด้วยถ้วยตะไล ๑๒ ใบ  ใส่อาหารคาวหวาน ๑๒ ชนิด  ใส่เงิน ๑๒ บาท  พร้อมทั้งหมากพลู  เทียน  ข้าวตอกดอกไม้
                         ๑.๒  เมื่อตั้งสำรับเรียบร้อยแล้ว  คนกลางจะทำพิธีเชื้อคือ     การกล่าวเชิญให้ครูหมอมาบอกสาเหตุของการเจ็บป่วย     ขั้นตอนนี้จะมีทั้งคนกลางที่ติดต่อกับครูหมอโนราแล้วนำมาบอกกับผู้ป่วยหรือญาติพี่น้องหรือผู้ใกล้ชิดหรือจะเป็นการเข้าทรงคนกลางเองแล้วให้ผู้ป่วยญาติพี่น้องหรือผู้ใกล้ชิดสอบถามสาเหตุการเจ็บป่วยก็ได้เช่นกัน
                         ๑.๓  เมื่อได้คำตอบแล้วว่าสาเหตุที่ถูกกระทำเกิดจากอะไร  ก็จะมีการหาวิธีการแก้ไข    โดยมีข้อกำหนดของพันธะสัญญาว่าต้องหายจากการเจ็บป่วยภายในเวลากี่วัน    หลังจากนั้นจะให้ทำอะไรบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการรำมโนห์ราแก้บนในพิธีมโนห์ราลงครู (หากไม่หายจากการเจ็บป่วยตามที่มีพันธะสัญญากันไว้  ก็จะไม่มีการดำเนินการตามขั้นตอนใดๆ อีก แต่หากหายตามพันธะสัญญาก็จะมีการดำเนินการตามขั้นตอนของพิธีกรรมอื่นๆ ต่อไป  พร้อมทั้งกำหนดว่าจะดำเนินการแก้บนได้ในช่วงใด)
 
 
 
              ๒. พิธีกรรมการรำมโนห์ราแก้บน
                       หลังจากที่มีการตกลงร่วมกันระหว่างคนกลางกับครูหมอโนราแล้ว  ขั้นตอนต่อไปก็คือการ “รำโนราแก้บน” โดยจะจัดในพิธีของโนราลงครูซึ่งเป็นการจัดแสดงเพื่อเชิญวิญญาณบรรพบุรุษที่เป็นครูหมอโนรามาเข้าทรงลูกหลานที่รับอาสาเป็นคนทรงเพื่อแสดงให้เห็นถึงความกตัญญูกตเวทีต่อบรรพบุรษและเพื่อความมีสวัสดิมงคลแก่ชีวิตครอบครัวในระหว่างนี้ก็จะมีการรำโนราถวายเพื่อแก้บนตามที่ได้สัญญากันไว้   หากไม่กระทำตามสัญญาก็อาจจะถูกลงโทษซ้ำอีก   โดยอาการเจ็บป่วยอาจจะเหมือนเดิมหรืออาจจะรุนแรงกว่าเดิมก็ได้  ซึ่งขั้นตอนต่างๆ ในพิธีกรรมนี้  มีดังนี้
 
 
                            ๒.๑  เมื่อถึงกำหนดวันที่จะดำเนินการรำโนราลงครูเพื่อแก้บนแล้ว   ก็จะมีการสร้างโรงโนรา   ตั้งเครื่องบวงสรวงและเครื่องเซ่นไหว้บูชา  โดยเครื่องบวงสรวง   ประกอบด้วย  หัวหมู  ไก่  เหล้า  หมาก  พลู  บุหรี่   ธูป  เทียน   ข้าวตอก  ดอกไม้   ของคาว  ของหวานและมะพร้าวอ่อน  รวมแล้วครบจำนวน ๑๒ อย่าง  ส่วนเครื่องเซ่นไหว้บูชาประกอบด้วย  บายศรีและดอกไม้ธูปเทียน   หลังจากที่ครูหมอเข้าทรงแล้วจะต้องขึ้นไปสำรวจเครื่องบวงสรวงบูชาเหล่านี้ (เครื่องบวงสรวงจะวางไว้บนศาลาเล็กๆ บนโรงโนราทางทิศตะวันออก  ซึ่งต้องทำเป็นบันไดทอดเอาไว้ทางซ้ายมือของศาลาเพื่อให้ครูหมอที่เข้าทรงปีนขึ้นมาสำรวจเครื่องบวงสรวงบูชาได้สะดวก    ส่วนทางขวามือของศาลาจะมี “เทริด”  “หน้าพราน” และ “เครื่องแต่งตัวโนรา”  ซึ่งถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์โดยแขวนไว้เพื่อเป็นเครื่องบูชา)

 

                              ๒.๒  วันแรกของพิธีกรรม (พิธีการของการลงโรง  ครูโนราจะต้องเข้าประจำโรงในวันพุธตอนเย็น  ซึ่งตามปกติจะสิ้นสุดรายการในวันศุกร์ตอนบ่ายหรือตอนเย็น หากวันศุกร์ตรงกับวันพระก็ไม่สามารถทำพิธีได้ ต้องหยุดและเลื่อนไปทำพิธีส่งครูหมออันเป็นขั้นตอนของการลาโรงในวันเสาร์ซึ่งถือเป็นวันเสร็จพิธีแทน) ในวันแรกของพิธีกรรมนี้จะมีการแสดงโนราให้คนดูเหมือนกับการแสดงในโอกาสธรรมดาที่เป็นการละเล่นหรือมหรสพทั่วๆ ไป   การแสดงเริ่มตั้งแต่ตอนพลบค่ำจนถึงดึกถึงจะเลิก   วันรุ่งขึ้นซึ่งเป็นวันพฤหัสบดีจะเป็นวันเริ่มพิธีลงครู   โดยวันนี้จะมีการรำไหว้ครูตลอดครึ่งวันตอนช่วงเช้า (เรียกการรำไหว้ครูนี้ว่า “แต่งพอก ในการรำแก้บนจะขาดขั้นตอนนี้ไปไม่ได้  เพราะหากไม่ได้มีการแต่งพอก  การแก้บนนั้นก็จะไม่สำเร็จ โอกาสที่จะกลับมาเจ็บป่วยอีกมีความเป็นไปได้สูง   ที่สำคัญโนราที่มีสิทธิ์ในการรำลงครูต้องเป็น โนราใหญ่” (มโนห์ราที่ผ่านการปวารณาเป็นโนราโดยสมบูรณ์แล้ว  โดยผ่านการบวชโนราแล้ว คือ  มีการผูกข้อมือ ผูกผ้าและครอบเทริดเท่านั้น)

                             ๒.๓  หลังจากรำแต่งพอกเสร็จ  ต่อจากนั้นก็เริ่มพิธีเชิญครูหมอโนราเข้าทรงโดยโนราใหญ่จะรำโดยใช้ ท่ารำเพลงครู ๑๒ ท่า ประกอบการ เล่นบท ๑๒   (บท ๑๒ นี้ ถือเป็นเพลงครู  ผู้เล่นบทนี้จะหยิบยกเอานิยาย ๑๒ เรื่องมาเล่น  ทำบทเพลงทับ  เพลงโทน  อย่างละเรื่องๆสั้นๆ เพื่อเป็นการสักการะครู  หากไม่มีการเล่นบท ๑๒ ในขั้นตอนนี้ถือว่าพิธีไม่สมบูรณ์  การแก้บนหรือการแก้เหฺมฺรยซึ่งเป็นพันธะสัญญาจะไม่เป็นผล  อาการเจ็บป่วยจะไม่หายขาด)  หลังจากนั้นโนราใหญ่จะขับร้องบทเชื้อครูหมอโนรามาเข้าทรง (โดยปกติมีคนทรงประจำอยู่แล้ว   แต่หากคนทรงตายไปก่อนจะต้องเลือกคนทรงใหม่ทดแทน)  ลูกหลานที่เป็นเชื้อสายของครูหมอจะต้องมานั่งพร้อมหน้ากันเพื่อรอรับครูหมอซึ่งเป็นบรรพบุรุษของตน เมื่อโนราใหญ่ขับร้องบทเชื้อครูหมอ   ดนตรีจะทำเพลงเชิดประกอบ  ถึงตอนนี้ร่างกายคนทรงจะสั่นแสดงว่าครูหมอเริ่มมาเข้าทรงแล้ว  เรียกขั้นตอนนี้ว่า  จับลง

                               ๒.๔  หลังจากมีการเชื้อแล้ว  ครูหมอจะเริ่มมาเข้าทรง  โดยเริ่มจากครูหมอที่เป็นบรรพบุรุษร่วมของทุกตระกูล   ซึ่งมโนห์ราผู้เป็นผู้เชื้อจะรู้ดีว่ามีใครบ้าง  อาทิ  ตาหมอเทพ ตาหมอเฒ่า  ตาเทพสิงขร ฯลฯ จากนั้นก็จะเชิญครูหมอที่ผู้ป่วยเคารพบูชามาทรง    ซึ่งการเชื้อนี้ต้องเชื้อมาเข้าทรงทีละองค์    องค์เดิมต้อง บัด” (สลัด) หรืออกจากร่างทรงเสียก่อน  ถึงจะเชิญครูหมอองค์ต่อไปได้  ครูหมอแต่ละองค์เมื่อจับลงหรือเข้าทรงแล้วก็จะขึ้นศาลที่ได้จัดเตรียมเอาไว้เพื่อตรวจดูเครื่องสักการะบูชา   แล้วกลับลงมานั่งเสวยหรือกินเทียน ๓  ครั้ง อาจกินหมากหรือสูบบุหรี่ร่วมด้วย  ต่อจากนั้นก็มีการพูดคุยซักถามลูกหลานถึงเรื่องทั่วๆ ไป    ครูหมอบางองค์อาจไม่ขึ้นไปบนศาลแต่จะขอเครื่องทรงมาสวมและมีการร่ายรำตามแบบโนราโบราณให้ลูกหลานหรือผู้ที่อยู่ร่วมในพิธีกรรมดู

                                ๒.๕  ขั้นตอนสุดท้ายของพิธีกรรมรำโนราแก้บนคือ  ขั้นตอนในวันสุดท้ายของพิธีลงครู  โดยพิธีเริ่มจากการเชื้อครูหมอทุกองค์มาลงอีกครั้งในคนทรงคนเดิม มีการซักถามลูกหลานทั้งปัญหาทั่วๆ ไปและปัญหาการเจ็บป่วย  มีการนัดแนะพิธีที่จะมีในครั้งต่อไปและตกลงต่อรองระหว่างกันว่าครูหมอต้องการอะไร  ให้ลูกหลานทำอย่างไรบ้าง จากนั้นจะมีการสรงน้ำครูหมอร่วมกัน  ระหว่างที่ครูหมอเปลี่ยนเครื่องแต่งตัว  ลูกหลานที่บนบานอะไรไว้ก็เตรียมแก้บน  โดยสำรับต่างๆ ที่ใช้สำหรับการแก้บนต้องจัดเตรียมไว้ให้เรียบร้อย  เพื่อที่ครูหมอจะได้เสวยหลังจากที่แต่งตัวเสร็จแล้ว  ต่อจากนั้นจะเป็นการรำโนราแก้บนตามที่ได้ทำพันธะสัญญากันไว้    ซึ่งขั้นตอนนี้โนราใหญ่จะต้องมีการ   “รำคล้องหงส์”และ “รำแทงเข้” (แทงจระเข้) ด้วย จึงจะถือว่า “เหฺมฺรยขาด”หรือเป็นการหมดพันธะสัญญาต่อกัน   หลังจากนั้นลูกหลานจะเข้าไปหมอบกราบครูหมอเพื่อขอศีลขอพรโดยทั่วกันการรักษาเยียวยาก็ถือว่าเสร็จสิ้นอย่างแท้จริง  หลังจากหมดกิจธุระหรือเรื่องราวระหว่างกันแล้ว    โนราจะตีเครื่องดนตรีเป็นเพลงเชิดอีกครั้งเพื่อส่งครูหมอกลับ  ครูหมอก็ออกจากร่างทรง  เป็นอันเสร็จพิธีกรรมทั้งหมด
 
ขอขอบคุณข้อมูลจาก/ คุณวิวัฒน์   วนรังสิกุล   (สังคมวัฒนธรรมและสุขภาพ)
ศึกษาค้นควาหาข้อมูลและตรวจทานแก้ไขข้อมูลแสดงหน้าเว็บใหม่โดย/ โนราบรรดาศักดิ์  พิทักษ์ศิลป์ 
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
8 VOTES (4/5 จาก 2 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
"ซินแสดัง" เผยดวงเมืองประเทศไทย ปี 2569..ยิ่งรบ ยิ่งแข็งแกร่ง ศัตรูแพ้ราบคาบเขมรวิเคราห์ "จุดอ่อนของ T-50TH คืออะไร?"📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำวิเคราะห์หวยงวดวันที่ 2 มกราคม 69 โดยใช้ AI..เลขไหนมีสิทธิ์ถูกรางวัลทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจาย"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชนทหารเขมรยิงปืนใหญ่จากพื้นที่พลเรือน พอไทยสวนกลับ ก็กล่าวหาว่าไทยยิงโจมตีพื้นที่พลเรือนทหารเขมรโพสต์ภาพตัดอาร์มทหารไทยเจ้าตัวระบุซึ่งตัดร่างทหารไทยที่เสียชีวิต"ลิซ่า อลิซา" สาวไทยโกอินเตอร์ในแดนมังกร..กับซีรี่ส์ดัง "สาวไทยข้ามภพป่วนใจแม่ทัพ"ชายแดนเดือดข้ามคืน ไทยสวนปืนใหญ่ F-16 เปิดฟ้า ปอยเปตไฟดับทั้งเมืองจนท.ไทย ช่วย หมี-สิงโต ถูกทิ้งหิวโซในกาสิโนร้าง ชายแดนตราดเพราะเหตุใดเมื่อฟังเพลงบางเพลง จะทำให้เรานึกถึง ‘ใครบางคน’ เพลงนั้นจึงช่วยปลุกความทรงจำในวันวาน
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
"ซินแสดัง" เผยดวงเมืองประเทศไทย ปี 2569..ยิ่งรบ ยิ่งแข็งแกร่ง ศัตรูแพ้ราบคาบน้ำเสียง มีพลังมากกว่าคำพูด สิ่งที่ทำให้คู่รักทะเลาะกันมากที่สุดจนท.ไทย ช่วย หมี-สิงโต ถูกทิ้งหิวโซในกาสิโนร้าง ชายแดนตราดBBC อวยยศ พนมเปญติดอันดับโลก แต่ไกด์นั่งตบยุง นักท่องเที่ยวหายเครื่องบินรบขับไล่ Gripen และ F-16 ของกองทัพอากาศไทย ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศร่วมกัน ทิ้งระเบิดต่อเป้าหมายคลังอาวุธและฐานปฏิบัติการของกองทัพกัมพูชาพระนิกร มีลูก คดีสะท้านวงการสงฆ์เมื่อ 30 ปีก่อน ที่โคตรดราม่า ยาวเป็นทศวรรษ
ตั้งกระทู้ใหม่