รู้จักมั้ย?? โรคเริมที่ปาก
โรคเริมเป็นอีกหนึ่งโรคที่หลายๆ คนเคยเป็นและก็มีหลายๆ คนยังไม่เคยเป็นม เริมจะเกิดขึ้นโดยที่ไม่แสดงประมาณว่าอยู่ดีๆ ก็เป็น และแถมยังไม่มีอาการบอกลวงหน้า ทำให้หลายๆ คนสงสัยกันมากว่า เริมที่ปากเกิดจากอะไร ก็เลยมีคำตอบของโรคเริมนี้มาฝาก พร้อมทั้งมี วิธีรักษาโรคเริมที่ปาก มาแนะนำให้ได้รู้กันรวมถึงสาเหตุของโรคเริมและวิธีป้องกันโรคเริมกันด้วยค่ะ ถ้าใครที่ตอนนี้เป็นเริมอยู่หล่ะก็ ไม่ต้องตกใจนะค่ะเพราะว่าเริมไม่ใช่โรคที่ร้ายแรงและหน้ากลัวอย่างที่คิดเลยค่ะ และยิ่งอากาศร้อนๆ แบบนี้ก็มีส่วนทำให้เกิดเชื้อโรคได้และถ้าไม่ดูแลตัวเองก็อาจจะทำให้เจ็บป่วยได้ค่ะ แต่ตอนนี้ไปดูกันก่อนเลยดีไหมค่ะว่า เริมที่ปากเกิดจากอะไร และพร้อมกันนั้นเราก็ไปรู้จักกับ วิธีรักษาโรคเริมที่ปาก ไปด้วยเลยนะค่ะ ถ้ารู้สาเหตุและวิธีรักษาที่ถูกไม่ว่าโรคไหนก็ไม่ใช่ปัญหาที่ร้ายแรงหรอกค่ะ
เริมที่ปากเกิดจากอะไร และ วิธีรักษาโรคเริมที่ปาก
เริมที่ปากคืออะไร
เริมที่ปากเป็นโรคติดเชื้อที่ผิวหนังและเยื่อบุบริเวณปาก โดยมีลักษณะเป็นตุ่มใสๆ เล็กๆ บริเวณริมฝีปาก และมีอาการปวด แสบ คัน รอบปาก จากนั้นตุ่มน้ำใสจะแตกออกและตกสะเก็ด
เริมเกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่เรียกว่า herpes simplex type 1 (HSV-1) โรคเริมที่ปากมักเกิดกับเด็กหลังจากอาการหายแล้ว เชื้อไวรัสจะหลบซ่อนภายในประสาทและผิวหนังรอบบริเวณเดิมที่เคยเป็น ต่อมาเมื่อร่างกายอ่อนแอลง มีอารมณ์เครียด หรือถูกแสงแดด เชื้อไวรัสนี้จะกำเริบออกมายังบริเวณที่เคยมีอาการติดเชื้อครั้งแรก ทำให้เป็นๆ หายๆ อยู่บ่อยๆ
สาเหตุของโรค
สาเหตุที่แท้จริงของเริมที่ปากยังไม่ชัดเจน แต่เมื่อไวรัสเข้าสู่ร่างกายก็กระตุ้นให้เกิดโรคได้ โรคดังกล่าวมักพบน้อยลงหลังอายุ 35 ปีไปแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เป็นอีกเลย การถูกแสงแดด โดยเฉพาะแดดจัด ช่วงที่ร่างกายอ่อนแอ มีอาการเจ็บป่วย เช่น เป็นหวัด หรือไข้หวัดใหญ่ ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง ความเครียด และอาการอ่อนเพลีย ล้วนเป็นสาเหตุให้เกิดเริมได้ทั้งสิ้น
แนวทางรักษา
เริมที่ปากเมื่อเป็นแล้วจะหายไปเองในเวลาประมาณ 10 วัน แต่การทาครีมฆ่าเชื้อไวรัส ช่วยให้หายเร็วขึ้นได้ ยิ่งถ้ารักษาแต่เนิ่นๆ ก็จะหายเร็วขึ้น ทางที่ดีควรลงมือรักษาทันทีที่เริ่มมีอาการแสบคัน ฉะนั้นเมื่อมีอาการ ควรไปพบเภสัชกร โดยเภสัชกรจะจ่ายยา acyclovir หรือยากลุ่มต้านเชื้อไวรัส เช่น ครีมรักษาเริมที่ปากอย่าง Zovirax ซึ่งมีทั้งชนิดหลอดและชนิดฉีดพ่น ไอบูโพรเฟนจะช่วยลดอักเสบ บวม
ส่วนการประคบน้ำแข็งบริเวณที่เป็นแผลโดยตรง จะช่วยลดอาการบวมและบรรเทาปวดได้ หรือถ้าชอบการรักษาแบบธรรมชาติบำบัด ให้ป้ายแผลด้วยน้ำมันหอมระเหยเลมอนบาล์ม หรือทีทรีออยล์ เพราะมีสรรพคุณต้านเชื้อไวรัส หรือจะดื่มชาเลมอนบาล์ม สมุนไพรโกลเด้นซีลในรูปของอาหารเสริม หรือแคปซูลอิชินาเชีย
ควรไปพบแพทย์หรือไม่
เริมที่ปากไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่ถ้าสังเกตว่ามีน้ำเหลืองไหลออกมาจากตุ่มแผล และถ้ามีไข้สูงกว่า 100.5 องศาฟาเรนไฮต์ หรือมีอาการระคายเคืองตา ควรไปพบแพทย์ เพราะอาจเป็นไปได้ว่าตุ่มแผลเกิดการติดเชื้อ ถ้าโรคเริมของคุณเกิดจากอาการป่วยเรื้อรังที่เป็นสาเหตุทำให้ภูมิต้านทานโรคอ่อนแอ เช่น โรคมะเร็ง คุณก็ควรไปพบแพทย์
เริมเป็นโรคติดต่อหรือไม่
ใช่แล้ว เริมเป็นโรคติดต่อ จึงไม่ควรใช้ของใช้ร่วมกัน การรักษาสุขอนามัยของคุณและคนรอบข้างเป็นสิ่งจำเป็น ล้างหน้าด้วยสบู่อ่อนๆ วันละ 2 ครั้ง ระวังอย่าขยี้ตา เพราะเชื้อเริมที่ปากอาจติดต่อสู่ตาได้ ล้างมือทุกครั้งหลังสัมผัสตุ่มแผลที่ปาก รวมถึงหลังจากใส่หรือถอดคอนแทคเลนส์ วิธีนี้จะช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค
วิธีป้องกันเริมที่ปาก
การทาครีมกันแดดทุกวันช่วยได้ ผลการวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร The Lancet ระบุว่า การใช้ครีมกันแดดจะทำให้โอกาสในการเป็นเริมลดลง ลมหนาวก็มีส่วนกระตุ้นการทำงานของเชื้อไวรัส จึงควรพันผ้าพันคอตั้งแต่ช่วงล่างของใบหน้า
ช่วงที่ร่างกายอ่อนเพลียมีโอกาสติดเชื้อไวรัสได้ง่าย จึงควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ในสัดส่วนที่พอเหมาะ พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายมากๆ เริมที่ปากมักเกิดจากความเครียดด้วยเช่นกัน ดังนั้นควรรับประทานวิตามินบีซึ่งช่วยบำรุงประสาทให้เพียงพอ พบมากในเนื้อสัตว์ เป็ด ไก่ จมูกข้าวสาลี ผักใบเขียว ซีเรียลโฮลเกรน และขนมปังโฮลวีท
ยิ้มสู้เข้าไว้
ถ้าลองรักษาด้วยสารพัดวิธีที่กล่าวมาแล้ว แต่ยังไม่หาย ไม่ต้องตกใจ ตามปกติโรคนี้จะหายไปเองภายใน 10 วัน การทำจิตใจให้ร่าเริง แจ่มใสจะช่วยเพิ่มภูมิต้านทานโรค ดังนั้นยิ้มสู้เข้าไว้ และเดินหน้าสู้ชีวิตต่อไป
โพสท์โดย: moses