มีคำถามว่าทำไมเวลาเรารับประทานน้ำมันมะพร้าวแล้วเกิดการระบายท้องในทุกเช้า และทำไมรับประทานน้ำมันมะพร้าวแต่ละยี่ห้อ จะเกิดการระบายท้องไม่เท่ากัน คำถามนี้มีคำตอบว่า ในลำไส้ใหญ่ของเราจะชุกชุมไปด้วย PROBIOTIC แบคทีเรียชนิดดีอยู่เป็นจำนวนมาก ทำหน้าที่ควบคุมเชื้อยีสต์ และเชื้อรา (ซึ่งเป็นสาเหตุของลำไส้ใหญ่อักเสบ เชื้อราในช่องคลอด) เมื่อเรากินอาหารที่มีไฟเบอร์ซึ่งมีมากใน ผัก ผลไม้ PROBIOTIC จะใช้เอนไซม์ช่วยย่อย สิ่งที่ได้หลังการย่อย จะได้เป็นกรดไขมันสายสั้น (SCFAs) และกรดไขมันสายปานกลาง (MCFAs) ในสภาพที่อุดมไปด้วยกรดไขมันนี้เป็นสภาวะที่เอื้อให้ PROBIOTIC เพิ่มจำนวนขึ้นมากอย่างฉับไว ส่งผลให้การย่อยในลำไส้ใหญ่มีศักยภาพสูง จึงขับถ่ายเร็วขึ้น และขับของเสียออกมาอย่างสะดวกสบายท้อง
น้ำมันมะพร้าวอุดมสมบูรณ์ไปด้วยกรดไขมันสายปานกลาง (MCFAs) จึงมีผลต่อ PROBIOTIC ทันทีที่น้ำมันเดินทางไปถึงลำไส้ใหญ่ ดังนั้นหลังจากกินน้ำมันมะพร้าวไปได้ไม่นาน จะรู้สึกเป็นการเร่งเร้าลำไส้ให้ขับถ่าย บวกกับคุณสมบัติความลื่นของไขมันจึงช่วยสนับสนุนให้การขับถ่าย ไหลลื่น สะดวดรวดเร็ว
การขับถ่ายที่ราบรื่นนี้ไม่เหมือนการขับถ่ายที่เกิดจากการทานอาหารผิดสำแดง ไม่มีโทษใดๆ กับร่างกายไม่ทำให้ร่างกายเหนื่อย เนื่องจากเสียเกลือแร่ ไม่มีผลอันตรายใดๆ เกิดขึ้นเหมือนเช่นรับประทานยาระบาย เพียงแต่ให้คอยสังเกตว่า ลำไส้ของเรามีความไวต่อเรื่องนี้มากน้อยอย่างไร ปรับจำนวนการทาน และเวลาที่สะดวกในการขับถ่าย ก็จะเหมาะสมและราบรื่นขึ้น
นอกจากคุณลักษณะของ MCFAs ที่ช่วยให้การขับถ่ายมีประสิทธิภาพดีแล้ว และหากคุณใช้น้ำมันมะพร้าวพร้อมกันหลายยี่ห้อและให้ผล จำนวนการรับประทานที่แตกต่างกัน เช่นบางยี่ห้อรับประทานเพียง 1 ช้อนโต๊ะ บางยี่ห้อต้องรับประทานถึง 2 ช้อนโต๊ะ จึงจะมีผลในการขับถ่ายเหมือนกัน ให้สันนิษฐานเบื้องต้นว่ามีความแตกต่างกันที่ความสะอาดในการผลิต ยี่ห้อที่รับประทานถึง 2 ช้อนโต๊ะน่าจะมีความสะอาดในการผลิตมากกว่า และควรกลับไปสังเกตเปรียบเทียบในคุณสมบัติข้ออื่นๆ หรือติดต่อสอบถามกับผู้ผลิตได้โดยตรง
น้ำมันมะพร้าวช่วยระบาย ควรรับประทานในช่วงเช้า หรือก่อนนอน เพื่อการขับถ่ายที่สะดวกและสุขภาพดีตลอดทั้งวัน เป็นเคล็ดลับสุขภาพที่มีประโยชน์อีกหนึ่งอย่าง