“พระกับอิหม่ามโคกโพธิ์”เพื่อนกันไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
พระ-โต๊ะอิหม่าม “สหายรัก”ไม่มีแยกศาสนา
“เอกลักษณ์ หนึ่งที่สะท้อนภาพวิถีชีวิตของพื้นที่ชายแดนภาคใต้ได้อย่างเด่นชัดนั่นคือ การอยู่ร่วมกันบนความหลากหลายของผู้คนต่างศาสนา ดั่งเช่นภาพของสองสหายรักแห่ง อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ที่บ่งชี้ถึงความผู้กพันรักใคร่กลมเกลียวอย่างยาวนานได้เป็นอย่างดี"
“สหายรัก”ไม่มีแยกศาสนา
เอกลักษณ์หนึ่งที่สะท้อนภาพวิถีชีวิตของพื้นที่ชายแดนภาคใต้ได้อย่างเด่นชัดนั่นคือ การอยู่ร่วมกันบนความหลากหลายของผู้คนต่างศาสนา ดั่งเช่นภาพของสองสหายรักแห่ง อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ที่บ่งชี้ถึงความผู้กพันรักใคร่กลมเกลียวอย่างยาวนานได้เป็นอย่างดี
การจับมือกันทำโครงการ“ชุมศรัทธากุมปาตะกะวา”มิใช่เป็นการจับมือร่วมกันเป็นครั้งแรกของ“พระครูโสภิตโพธิคุณ”กับ“ยะโก๊ะ มิหนา”แต่สองผู้นำศาสนาแห่งโคกโพธิ์ ยังเป็น “กัลยาณมิตร” ที่ดีต่อกันอีกด้วย เพราะทั้งคู่เติบโตมาด้วยกันและจับมือพร้อมสัญญาว่าจะเป็น“สหายรัก”ตลอดไป
ยะโก๊ะ บอกว่าในอดีตเมื่อครั้งเป็นเด็ก ได้ปั่นจักรยานไปไหนต่อไหนด้วยกัน ยามทุกข์ หรือสุขก็จะร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่มาตลอดแม้กระทั่งมีเรื่องชกต่อยจะยืนหยัดร่วมกันเสมอ
กระทั่งเมื่อเติบโตต่างคนต่างมีเส้นทางชีวิต และบทบาทหน้าที่ ที่ต้องทำแต่สัมพธภาพของความเป็นเพื่อนไม่เคยจางหาย และบ่อยครั้งจะขับรถแวะมาพูดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองในการช่วยเหลือสังคม ในฐานะผู้นำศาสนาจนกลายเป็นเรื่องปกติ
ดังนั้นจึงไม่แปลกหาก “พระกับโต๊ะอิหม่าม”จะร่วมมือกันสร้างสิ่งดีให้กับชุมชน เพราะองค์ศาสดาสอนเราว่า ห้ามมิให้รังแกมนุษย์ ไม่ก้าวก่ายสิทธิส่วนบุคคล ให้เสรีภาพในการนับถือศาสนา
และที่สำคัญ “สูเจ้าต้องเป็นดั่งสองมือ อย่าใช้ชีวิตแบบสองตา ที่เอาแต่มองโดยไม่คิดทำ”
พระครูโสภิตโพธิคุณ ย้ำว่า “เพื่อน”คือคำที่มีความหมายอยู่ในตัว การมีเพื่อนดี ย่อมนำพาสิ่งดีๆมาให้เรา ดังนั้นไม่ว่าเพื่อนจะอยู่ในสถานะใด หรือนับถือศาสนาใด
เขาก็ยังคงเป็นมิตรกับเราเสมอ ขอเพียงให้มีความเข้าใจซึ่งกันและกัน ซึ่งสิ่งนี้จะรักษาไว้ซึ่งสัมพันธภาพอันดีไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
อ่านเรื่องนี้ฉบับเต็มได้ที่นี่
v
v