ไอ้ด้วยลักกะทะ การตัดสินคดีสมัยโบราณด้วยไหวพริบ
"พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์" พระปฏิภาณอันเฉียบแหลมในการตัดสินคดี
![]()
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าชุมพลสมโภช กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์
คดีตัวอย่างเล่าสืบต่อๆ มา และปรากฏหลักฐานเอกสารทางราชการอยู่หลายเรื่องซึ่งพอจะนำมาเล่าสู่ฟังสัก 2 เรื่อง ดังนี้
เรื่องแรก คนแขนด้วนลักกระทะ
เมื่อประมาณปี ร.ศ. 122 (พ.ศ. 2446) มีกระทาชายนายหนึ่งชื่อเชียงทัน บ้านตำบลในเมืองอุบลฯ แขนด้วนทั้งสองข้างมาแต่กำเนิด แต่ไม่ด้วนถึงกับหมด พอเหลือต่อจากไหล่มาประมาณถึงข้อศอก ไปลักกระทะทองเหลือทอดขนมฝักยังของอำแดงสี ซึ่งใช้ทอดขนมขายในงานออกร้านทุ่งศรีเมืองในเมืองอุบลฯ เขาจับได้พร้อมของกลาง เชียงทันไม่ยอมรับว่าเป็นคนไปลักเอามา แก้ตัวว่าจะเอาไปได้อย่างไร เพราแขนก็ด้วนทั้งสองข้าง มือก็ไม่มีจะจับถือ ก็เห็นกันอยู่แล้ว
ฝ่ายอำแดงสีไม่ยอม เข้าหากำนันให้เอาตัวเชียงทันไปสู้ความกันที่โรงศาล มีผู้คนไปฟังคดีกันมากหน้าหลายตาว่าแขนด้วนทำไมจึงลักของเขาได้ ศาลจะตัดสินว่าอย่างไร ในระหว่างการพิจารณาของตุลาการศาลอยู่นั้น พอดีเรื่องทรงทราบไปถึงเสด็จในกรมฯ ข้าหลวงต่างพระองค์ ทรงเห็นเป็นคดีแปลกประหลาดคดีหนึ่งเพิ่งจะปรากฏ จึงโปรดให้เบิกตัวโจทก์จำเลยไปทอดพระเนตร พร้อมด้วยคณะตุลาการ พระองค์ท่านไม่ได้ทรงไต่ถามพยานโจทก์จำเลยแต่ประการใด เมื่อทรงพระดำริอยู่ครู่หนึ่งก็พอจะทรงมองเห็นลู่ทางของเรื่องที่เกิดขึ้นรายนี้ได้บ้าง กอปรด้วยพระปรีชาในทางนิติศาสตร์ด้วยพระองค์เอง เพื่อทรงหาทางพิสูจน์ข้อเท็จจริงจะได้ไม่เป็นเยี่ยงอย่างแก่พวกเหล่าร้ายต่อไป เมื่อทรงพระดำริพอจะจับผิดเจ้าแขนด้วนนี้ได้แล้ว พระองค์จึงมีรับสั่งว่า
“ จริงของนายเชียงทันสมข้อต่อสู้ ให้เชียงทันเอากระทะใบนี้กลับคืนไปถือเสียว่าเป็นกระทะของเขาเอง ” ฝ่ายอำแดงสีโจทก์เมื่อได้ยินรับสั่งแก่จำเลยเช่นนั้นก็หน้าเสีย เพราะกระทะใบนี้เป็นของโจทก์จริงๆ ใครๆ ก็รู้เห็นเป็นพยานแต่เมื่อมีรับสั่งเช่นนั้นก็ไม่รู้จะทัดทานได้อย่างไร เป็นแต่นั่งนิ่งดูนายเชียงทันอยู่
ฝ่ายนายเชียงทันดีใจใหญ่ คิดว่ากระทะใบนี้เสร็จกูแน่สุดอุทธรณ์ฎีกาแล้ว ทั้งจะได้พ้นข้อหาไปเสียที อารามที่ดีใจ จึงตรงไปเอาหัวเข่าข้างหนึ่งกดขอบกระทะที่ตั้งวางหงายอยู่นั้นให้กระดกขึ้น แล้วเอาศีรษะรุนกระทะขึ้นด้วยแขนด้วน (ไม่มีมือ) นั้นขึ้นเทินบนศีรษะได้สะดวก รวดเร็วแล้วก็จะเดินลงจาศาลไป คณะตุลาการต่างก็ตกตะลึง
สมเด็จในกรมฯ ข้าหลวงต่างพระองค์ฯ ทรงพระสรวลแล้วทีรับสั่งว่า “ เฮ้ย เดี๋ยวก่อนอ้ายเชียงทันกลับมานี่ก่อน ขั้นแรกแกต่อสู้ว่าแขนด้วนไม่มีมือจับเอาไปไม่ได้ บัดนี้ปรากฏเห็นได้ชัดแก่ตุลาการแลคนทั้งปวงแล้วว่า แกเอากระทะใบนั้นไปได้ด้วยวิธีอย่างไร แกให้การเท็จต่อศาล และมีความผิดจริงสมดังโจทก์กล่าวหา จะแก้ตัวว่าอย่างไร ” นายเชียงทันทันหน้าซีดหมดทางต่อสู้ ก็กราบทูลสารภาพโดยดี จึงมีรับสั่งให้ตุลาการตัดสินส่งนายเชียงทันเข้าตะรางไปเลย
เรื่องที่สอง เรื่องอำแดงคำใหญ่
คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อ ร.ศ. 124 (พ.ศ. 2448) มีงานบุญบั้งไฟประจำปี เรื่องมีอยู่ว่า อำแดงคำใหญ่มีชื่อเสียงในทางเป็นนักมวยหญิง เคยชกปล้ำและต่อยเก่งในงานบุญบั้งไฟประจำปีมาก่อน ชายบางคนก็สู้แกไม่ได้ จะเกิดผิดใจกับทิดใบ พวกเซิ้งบั้งไฟด้วยกันมาก่อนอย่างไรไม่ปรากฏสาเหตุแน่ชัด ได้ไปร้องต่อศาลกล่าวหาว่า ทิดใบทำการกอดกุมจับต้องของสงวน และข่มขืนกระทำชำเราตนจนสำเร็จความใคร่ในเวลาค่ำคืน ณ ที่แห่งหนึ่งไม่มีผู้รู้เห็นด้วยทำให้ได้รับความอับอายเสียหาย ขอให้ศาลลงโทษทิดใบจำเลย ฝ่ายตุลาการสอบถามนายทิดใบก็ไม่ได้กอดกุมดังคำที่โจทก์กล่าวหา ตุลาการยังลังเลไม่ทราบจะหาข้อเท็จจริงมาประกอบหลักฐานเพื่อพิจารณาตัดสินให้เด็ดขาดลงไปได้ ก็พอดีเรื่องนี้ทรงทราบไปถึงเสด็จในกรมฯ ข้าหลวงต่างพระองค์อีก พระองค์ทรงพระปรีชาสามารถรอบรู้ในเชิงกระบวนความอรรถคดีอยู่แล้ว ได้ทรงเรียกตัวโจทก์ จำเลยไปทอดพระเนตรแล้ว ทรงเห็นว่าอำแดงใหญ่ รูปร่างสันทัดกว่าทิศใบ เหตุใดจึงมาร้องว่าเขากอดกุมข่มขืนจนเสียเนื้อเสียตัว เรื่องดูมันกระไรชอบกลอยู่ เมื่อพระองค์ได้ทรงพระดำริดูรูปการแล้ว ก็มิได้ทรงตัดว่ากระไร เป็นแค่มีรับสั่งให้ตุลาการนัดโจทก์ จำเลยไปว่า วันนี้หมดเวลาของศาลที่จะพิจารณาความแล้ว วันรุ่งขึ้นจึงให้คู่ความมาพร้อมกันอีกครั้ง
อำแดงคำใหญ่ถวายบังคมแล้วก็ลงจากศาลไป พออำแดงคำใหญ่เดินลับตาไปได้ประมาณครู่หนึ่ง จึงมีรับสั่งให้นายทิดใบตามอำแดงใหญ่ไปให้ทัน เมื่อทันแล้วก็อนุญาตให้เข้ากอดกุมฉุดปล้ำทันที หมายให้อำแดงใหญ่จำนน ทิดใบฉงนในพระดำรัสลังเลใจว่าฟังรับสั่งผิดไปหรืออย่างไร เพราะเขามาร้องหยกๆ ขืนไปกอดกุมฉุดปล้ำเขาอีก เรื่องก็ยิ่งจะหนักหนีตะรางไม่พ้น เสด็จในกรมฯ ทรงเห็นทิดใบรีรอไม่แน่ใจ จึงมีพระดำรัสสำทับไปอีกว่า “ ไม่ต้องลังเล ข้าสั่งแกไปแล้ว ไปทำตามนั้น ”
ทิดใบพอได้สติว่าแน่แล้วฟังไม่ผิด และเป็นพระโองการเจ้าเหนือหัวด้วย ก็รีบตามไปทันอำแดงใหญ่ยังไม่ทันออกนอกบริเวณศาล ไม่ฟังเสียงปี่เสียงขลุ่ยตรงเข้าฉุดปล้ำอำแดงใหญ่อุตลุดทันที หมายจะให้อำแดงใหญ่อยู่กับมือ ฝ่ายตุลาการก็คอยสังเกตการณ์อยู่อย่างสนใจ และต่างก็มองตากัน รำพึงแก่กันว่า “ เสด็จในกรมฯ จะทรงมาไม้ไหนอีกหนอ ” ฝ่ายอำแดงคำใหญ่ก็ตกใจ คิดว่าทิดใบโกรธตัวที่ไปร้องต่อเจ้านายจะเอาเข้าตะราง ผู้คนก็มุงดูแน่นเกรงจะเสียเหลี่ยมที่เคยดังมาแล้วก็ฮึดสู้ไม่ยอมเสียเปรียบทิดใบ ขณะที่ทิดใบกอดปล้ำอำแดงคำใหญ่อยู่นั้น ตุลาการเห็นทิดใบเพลี่ยงพล้ำสู้กำลังอำแดงใหญ่ไม่ได้ ต้องเสียหลักหลายครั้ง ในที่สุดทิดใบล้มหกคะเมนนอนหงาย อำแดงคำใหญ่ขึ้นคร่อมทับอยู่ จึงมีรับสั่งให้เจ้าหน้าที่ศาลไปตามโจทก์ จำเลยกลับมาศาลก่อน
เมื่อโจทก์ จำเลยมาถึงแล้ว รับสั่งให้ตุลาการบันทึกข้อพิสูจน์รู้เห็นไว้เป็นหลักฐาน แล้วที่พระโองการดำรัสไปว่า “ ให้ยกฟ้องโจทย์เสีย เพราะเหตุโจทก์ (อำแดงคำใหญ่) มาร้องต่อศาลว่าทิดใบกอดกุมข่มขืนสู้กำลังไม่ได้ ซึ่งตามข้อพิสูจน์แล้วทิดใบสู้กำลังอำแดงใหญ่ไม่ได้ ต้องล้มหงายไปหลายครั้งประจักษ์ต่อหน้าตุลาการอยู่เช่นนี้แล้ว หากโจทก์ซึ่งเป็นหญิงไม่ยินยอมเป็นใจด้วยจำเลยจะทำการสำเร็จได้อย่างไร จึงฟังข้อกล่าวหาของโจทก์ไม่ขึ้น โปรดให้ปล่อยทิดใบจำเลยพ้นข้อหาไป ” อำแดงใหญ่หน้าเสีย เดินคอตกจากศาลไป
ทั้งนี้นับได้ว่า นายพลตรี (และมหาเสวกเอก) พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ข้าหลวงต่างประองค์สำเร็จราชการมณฑลอีสาร ทรงพระปรีชาสามารถรอบรู้ในทรงธรรมศาสตร์การบ้านเมืองเล่ห์เหลี่ยมของคนอย่างยอดเยี่ยม สมกับที่ได้ดำรงพระยศและตำแหน่งข้าหลวงต่างพระองค์ ต่างพระเนตรพระกรรณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระปิยมหาราช ได้ทรงแต่งตั้งให้ทรงบริหารสำเร็จราชการส่วนภูมิภาคนี้เพื่อประเทศชาติได้เป็นอย่างดี
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชง
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
เพื่อนสนิทเปิดใจหลังเกิดเหตุ! เผย 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา' หลับไม่ตื่น-ไม่ขอตอบปมทะเลาะในวงเหล้า ขณะผลชันสูตรชี้ชัดพบ "ไซยาไนด์"
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
ปิดฉาก! มหากาฬฯ โบนัสพนักงาน “ไดกิ้น” คือ Get out
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
เพื่อนสนิทเปิดใจหลังเกิดเหตุ! เผย 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา' หลับไม่ตื่น-ไม่ขอตอบปมทะเลาะในวงเหล้า ขณะผลชันสูตรชี้ชัดพบ "ไซยาไนด์"
“ศุภจี” เฮ! ARASCO ซาอุฯ สั่งซื้อมันสำปะหลังอัดเม็ดเพิ่ม 3 หมื่นตัน ปีหน้าลุ้นพุ่งแตะ 1 แสนตัน
หาดใหญ่จมน้ำ รถลูกค้า ‘วิริยะประกันภัย’ ขอเคลมพุ่ง 3,800 คัน