True Queen of Country Music : Kitty Wells
เชื่อว่าหลายๆคนคงเป็นแฟนเพลงคันทรี่และชื่นชอบนักร้องคันทรี่หญิงรุ่นใหม่ไฟแรงอย่าง Taylor Swift, Carrie Underwood, Miranda Lambert, Sugarland หรือจะเป็นระดับดีว่าอย่าง Reba Mcentire, Faith Hill, Shania Twain, Martina Mcbrideและอีกมากมาย แต่พวกเราในฐานะคนรุ่นใหม่คงไม่รู้จักหรืออาจมองข้ามนักร้องหญิงรุ่นบุกเบิกผู้หนึ่งไป ผู้ซึ่งทำให้นักร้องหญิงรุ่นแล้วรุ่นเล่ามีที่ยืนในวงการคันทรี่ในทุกๆวันนี้ เธอคือ Kitty Wells หรือที่รู้จักในนาม The Queen of Country Music
Kitty Wells (ชื่อจริงEllen Muriel Deason)เกิดเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ค.ศ.1919 ณ เมืองNashville รัฐTennessee เธอเกิดในครอบครัวที่ยากจน เธอเริ่มรักในการร้องเพลงตั้งแต่เด็ก โดยเรียนรู้การเล่นกีตาร์จากพ่อของเธอตอนอายุได้8ขวบ เมื่ออายุ18ปี เธอได้แต่งงานกับช่างทำชั้นวางของชื่อJohny Wrightซึ่งเขาก็ได้เข้าวงการเพลงคันทรี่ในเวลาต่อมา Kitty Wells เริ่มเข้าวงการในช่วงสงครามโลกครั้งที่2 หรือราวๆปีค.ศ.1940 โดยการเป็นนักร้องแบ็คอัพให้กับวงของสามีเธอ ในยุคนั้นเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมากสำหรับผู้หญิงที่อยากเป็นนักร้องคันทรี่ เพราะเป็นยุคที่มีขนบธรรมเนียมที่ว่าเพลงคันทรี่นั้นเป็นเรื่องของผู้ชายเท่านั้น นักร้องหญิงในยุคนั้นจึงไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรและก็ล้มเลิกไป จะมีก็แต่ Mother Mabelle Carter (Mother of Country Music) แห่ง Carter Family และPatsy Montana ที่ประสบความสำเร็จ แต่พวกเธอก็ต้องมีความคำช่วยเหลือโดยการอาศัยอยู่ในโชว์เดียวกับนักร้องชายเพื่อดำรงอยู่ในวงการ Kitty Wells ตระหนักว่าไม่เป็นการดีเลยที่จะอยู่ในวงการคันทรี่ตราบที่ยังมีธรรมเนียมเก่าๆนี้อยู่ จึงตั้งใจจะลาออกเพื่อไปเลี้ยงดูดูลูกๆ
จนกระทั่งในปีค.ศ. 1952 ประวัติสาสตร์เพลงคันทรี่ได้เปลี่ยนไปตลอดกาล เมื่อเธอได้ถูกขอให้ร้องเพลง It wasn’t god who made hongky tong angel ซึ่งเธอก็ลังเลในตอนแรกแต่สุดท้ายตอบตกลง เพลงนี้เป็นเพลงตอบรับเพลงของHank Tompson ซึ่งมีเนื้อหาประมาณว่า เป็นเรื่องน่าเศร้าที่อะไรก็โทษผู้หญิง ผู้ชายที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อคนรักต่างหากที่ทำให้เราผู้หญิงเปลี่ยนไป ด้วยเหตุที่เพลงมีเนื้อหาในเชิงลบต่อผู้ชาย เพลงและเธอจึงถูกแบนจาก Grand Ole Opry แต่อย่างไรก็ตามประชาชนชาวอเมริกันกลับชื่นชอบเพลงนี้เป็นอย่างมาก จึงทำให้เพลงนี้เป็นเพลงแรกโดยนักร้องคันทรี่หญิงที่ขึ้นสู่อันดับ1 ใน U.S. Country Charts ซึ่งอยู่ที่อันดับ1นานกว่า6สัปดาห์ เพลงนี้ยังติดอันดับท้อป40ใน Billboard Pop Charts และยังเป็นเพลงแรกโดยผู้หญิงที่มียอดขายเกินล้านแผ่น ด้วยความสำเร็จนี้จึงทำให้เธอกลายเป็นซุปเปอร์สตาร์หญิงที่แท้จริงคนแรกในวงการเพลงคันทรี่และได้รับการยกย่องให้เป็น The Queen of Country Music ผู้คนต่างหลงรักในน้ำเสียงที่มีพลังและสะกดอารมณ์ของเธอ และชื่นชมในความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวของเธออีกด้วย เธอเป็นนักร้องคันทรี่หญิงที่ประสบความสำเร็จที่สุดในยุค50ถึง60ตอนปลาย มีชื่อเสียงไปทั่วโลกด้วยยอดขายและจำนวนเพลงฮิตติดชาร์ตที่ยากจะหาใครมาเปรียบ ด้วยความสำเร็จของเธอ บรรดาค่ายเพลงต่างๆจึงล้มเลิกความคิดที่ว่าผู้หญิงไม่สามารถขายแผ่นเสียง ตั๋วคอนเสิร์ตหรือทำเงินให้กับบริษัทได้ จึงทำให้นักร้องหญิงรุ่นหลังมีโอกาสที่จะตามล่าฝันของตัวเอง นักร้องคันทรี่หญิงผู้เป็นตำนานอย่าง Patsy Cline, Tammy Wynette, Loretta Lynn และ Dolly Parton ก็ล้วนแล้วแต่เป็นหนี้บุญคุณเธอและต่างก็ยกย่องเธอเป็นฮีโร่และแรงบันดาลใจ
ในปี ค.ศ.1976 เธอได้รับเลือกเข้าสู่ Country Music Hall of Fame โดยเป็นนักร้องหญิงคนที่2 ต่อจากPatsy Clineที่ได้รับเกียรติอันสูงสุดของวงการคันทรี่ (Patsy Clineเสียชีวิตในปี1973ด้วยวัยเพียง30ปี ซึ่งเธอก็เป็นอีก1คนที่เป็นต้นแบบให้นักร้องรุ่นหลัง)ในช่วงยุค70 ตอนกลาง Kitty เป็นนักร้องหญิงคนแรกที่มีรายการทีวีโชว์เป็นของตัวเอง และในปี 1985 เธอได้รับรางวัล Pioneer Award จาก Academy of Country Music และในปี 1991 เธอเป็นนักร้องหญิงผิวขาวคนแรก(คนที่8โดยรวม)และเป็นนักร้องคันทรี่หญิงคนแรกที่ได้รับรางวัล Grammy Lifetime Achievement และเธอยังได้รับยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักร้องคันทรี่ที่มีความสำคัญและมีอิทธิพลที่สุดตลอดกาล
Kitty Wells อำลาวงการเพลงในปี2000 เพื่อใช้เวลากับครอบครัว แต่ก็ยังมีเล่นคอนเสิร์ตบางเป็นบางโอกาส แต่เรื่องสะเทือนวงการเพลงคันทรี่ได้เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วเมื่อเธอเสียชีวิตอย่างสงบที่บ้านของเธอด้วยวัย 90 ปี ถึงแม้เธอจะจากไปแต่บทเพลง เสียงและทุกสิ่งที่เธอได้ทำไปจะยังคงเป็นมรดกที่เหลือไว้ในวงการเพลงและหัวในผู้คน และจะเป็นที่รู้ตลอดไปว่าเธอคือ The Queen of Country Music ผู้ที่เปิดประตูและปูทางให้นักร้องคันทรี่หญิงรุ่นต่อรุ่นให้สานต่อเพลงคันทรี่ตลอดไป