เปสการีธิดา โสดาบุคคลที่ยึดธรรมะ "ความตายเป็นของเที่ยง"
โพสท์โดย ทิมมี่ ทิมมี่
พรรษาที่ ๑๖ พระพุทธองค์ประทับจำพรรษาที่ อัคคาฬวเจดีย์ เมืองอาฬวีิ
เปสการีธิดา เป็นลูกสาวของนายช่างหูก เมืองอาฬวี มีอายุ ๑๖ ปี
...
วันหนึ่งในตอนเช้าองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเสด็จไปแต่พระองค์เดียว เข้าสู่เขตเมืองอาฬวี ชาวบ้านได้ฟังข่าวเข้าก็มาเฝ้าพระพุทธเจ้า นำภัตตาหารมาถวาย ขณะนั้นเปสการีธิดา ทราบข่าวก็ไปเฝ้าพระพุทธเจ้า เมื่อเข้าไปแล้วถวายอาหารแก่องค์สมเด็จพระภควันต์เสร็จ หลังจากนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าก็ทรงเทศน์ ทรงเทศน์แบบสั้น ๆ ว่า
"... ท่านทั้งหลายจงอย่าประมาทในชีวิต เพราะว่าชีวิตเป็นของไม่เที่ยง แต่ว่าความตายเป็นของเที่ยง ขอทุกท่านจงคิดไว้เสมอว่า อย่างไรก็ดีเราต้องตายแน่ สำหรับเวลากำหนดการตายของเราไม่มีแน่นอน เพราะความตายไม่มีนิมิตเครื่องหมาย ท่านทั้งหลายจงประกอบแต่ความดีเข้าไว้ ..
ถ้าใครสร้างความชั่ว ตายแล้วจะไปสู่อบายภูมิมีนรกเป็นต้น เกิดมาเป็นคนก็จะมีแต่ความเร่าร้อน มีแต่ความลำบาก แต่ถ้าคนใดสร้างความดี คิดถึงความตายไม่ประมาทในชีวิต คิดไว้เสมอว่าเราต้องตายแน่ จงอย่าคิดว่า วันพรุ่งนี้ หรือ เดือนหน้า ปีหน้า เดือนโน้น เราจึงจะตาย คิดไว้เสมอว่าวันนี้เราอาจจะตาย แล้วก็สร้างความดีเข้าไว้ ความดีจะส่งผลให้ท่านมีความสุข ทั้งในปัจจุบันและสัมปรายภพ .. "
พรรษาที่ ๑๘ ช่วงออกพรรษา พระพุทธองค์จำพรรษาที่จาลิกบรรพต เขตเมืองจาลิก
เมื่อเธออายุย่างเข้า ๑๙ ปี องค์สมเด็จพระชินสีห์ทรงตรวจอุปนิสัยของสัตว์ในเวลาเช้ามืด เห็นนางตกอยู่ในข่ายของญาณ ก็ทรงทราบด้วยอำนาจญาณว่า ในตอนสายวันนี้ กุลสตรีคนนี้ก็จะถึงแก่ความตายด้วยอุบัติเหตุ องค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์จึงได้พิจารณาว่า ถ้าเราไม่ช่วยเธอ เธอจะมีคติแน่นอนไหม องค์สมเด็จพระจอมไตรทรงทราบว่า ถ้าเราไม่ช่วยเธอ เธอมีคติไม่แน่นอน
* คำว่า "คติ" แปลว่า การไป
* แน่นอนหรือไม่แน่นอน ก็หมายความว่า ถ้าแน่นอนก็ไม่ไปทุคติ ไม่ไปเกิดเป็นสัตว์นรก ไม่เกิดเป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉาน ต้องเกิดเป็นคน หรือเป็นเทวดา หรือเป็นพรหม ไปนิพพานอย่างนี้ ชื่อว่ามีคติแน่นอน
องค์สมเด็จพระชินวรจึงมาคิดว่า ถ้าเราจะช่วยเธอ เธอจะมีคติแน่นอนไหม ก็ทรงทราบว่าถ้าทรงช่วยจะมีคติแน่นอน และพิจารณาต่อไปว่าจะช่วยเธอยังไง จึงจะมีคติแน่นอน
องค์สมเด็จพระชินวรก็ทรงทราบว่า ถ้าเราถามปัญหาเธอ ๔ ข้อ เธอตอบเราให้สาธุการรับรอง พอจบคาถา ๔ ข้อ เธอก็จะได้บรรลุพระโสดาบัน การตายคราวนั้นของเธอก็จะไปสวรรค์ชั้นดุสิต เป็นที่อยู่อันเป็นบรมสุข
ฉะนั้นในตอนเช้า องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าจึงเสด็ไปองค์เดียว ลูกสาวของนายช่างทำหูกทำงานเสร็จ ตัดสินใจมาเฝ้าพระพุทธเจ้าก่อน องค์สมเด็จพระชินวรจึงได้ทรงมองดูหน้าเธอ
องค์สมเด็จพระจอมไตรจึงได้ถามปัญหา ๔ ข้อว่า
"เธอมาจากไหน"
"ไม่ทราบพระเจ้าข้า"
"เธอจะไปไหน"
"ไม่ทราบพระเจ้าข้า"
"เธอไม่ทราบหรือ"
"ทราบพระเจ้าข้า"
"เธอทราบหรือ"
"ไม่ทราบพระเจ้าข้า"
ปัญหา ๔ ข้อนี้ คือ : -
ข้อที่หนึ่ง ทรงถามว่า "เธอมาจากไหน...?"
เธอตอบว่า "อาศัยที่องค์สมเด็จพระจอมไตรถามว่า เมื่อก่อนจะเกิดมาแต่ไหน เธอไม่ทราบ"
ข้อที่สอง ทรงถามว่า "เธอจะไปไหน...?" เธอตอบว่า "ตายแล้วไปไหน หม่อมฉันก็ไม่ทราบ"
ข้อที่สาม ท่านถามว่า "ไม่ทราบหรือ...?" เธอตอบว่า "ทราบว่ายังไง ๆ ก็ตายแน่ พระเจ้าข้า"
ข้อที่สี่ แล้วองค์พระพุทธเจ้าทรงถามว่า "เธอทราบหรือ..?" เธอก็ตอบว่า "ไม่ทราบ ก็เพราะว่าจะตายเวลาเช้า เวลาสาย เวลาบ่าย เวลาเที่ยง ก็ไม่ทราบพระเจ้าข้า และไม่ทราบอาการตาย ยังไง ๆ ก็ตายแน่"
พระพุทธเจ้าก็รับรองด้วยสาธุการ จึงถามเพียงเท่านี้ ความมั่นใจของเธอทำให้เธอเป็นพระโสดาบัน แต่ความจริงในตอนต้นนั้น เธอเข้าถึงพระโสดาปัตติมรรคอยู่แล้ว คือ
"เธอมาจากไหน"
"ไม่ทราบพระเจ้าข้า"
"เธอจะไปไหน"
"ไม่ทราบพระเจ้าข้า"
"เธอไม่ทราบหรือ"
"ทราบพระเจ้าข้า"
"เธอทราบหรือ"
"ไม่ทราบพระเจ้าข้า"
ปัญหา ๔ ข้อนี้ คือ : -
ข้อที่หนึ่ง ทรงถามว่า "เธอมาจากไหน...?"
เธอตอบว่า "อาศัยที่องค์สมเด็จพระจอมไตรถามว่า เมื่อก่อนจะเกิดมาแต่ไหน เธอไม่ทราบ"
ข้อที่สอง ทรงถามว่า "เธอจะไปไหน...?" เธอตอบว่า "ตายแล้วไปไหน หม่อมฉันก็ไม่ทราบ"
ข้อที่สาม ท่านถามว่า "ไม่ทราบหรือ...?" เธอตอบว่า "ทราบว่ายังไง ๆ ก็ตายแน่ พระเจ้าข้า"
ข้อที่สี่ แล้วองค์พระพุทธเจ้าทรงถามว่า "เธอทราบหรือ..?" เธอก็ตอบว่า "ไม่ทราบ ก็เพราะว่าจะตายเวลาเช้า เวลาสาย เวลาบ่าย เวลาเที่ยง ก็ไม่ทราบพระเจ้าข้า และไม่ทราบอาการตาย ยังไง ๆ ก็ตายแน่"
พระพุทธเจ้าก็รับรองด้วยสาธุการ จึงถามเพียงเท่านี้ ความมั่นใจของเธอทำให้เธอเป็นพระโสดาบัน แต่ความจริงในตอนต้นนั้น เธอเข้าถึงพระโสดาปัตติมรรคอยู่แล้ว คือ
ข้อหนึ่งนึกถึงความตายเป็นอารมณ์ ไม่ประมาทในชีวิต ในข้อที่ว่า สักกายทิฏฐิ เธอเข้าถึงแล้วในเบื้องต้น
ข้อที่ ๒ เธอนึกถึงองค์สมเด็จพระทศพลบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าอยู่ทุกวัน จัดว่าเป็นพุทธานุสสติกรรมฐาน
ข้อที่ ๓ นึกถึงพระธรรมคำสั่งสอนที่องค์สมเด็จพระชินวรทรงสอนไว้เสมอว่า ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง แต่ความตายเป็นของเที่ยง เธอทั้งหลายจงอย่าประมาทในชีวิต
ข้อที่ ๔ ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระธรรมสามิสร มีศีล ๕ เป็นต้น ที่องค์สมเด็จพระทศพลทรงสอนไว้ เธอจำได้ทุกอย่าง และ ปฏิบัติทุกอย่าง
เมื่อเธอเดินทางกลับบ้านบิดาของเธอได้ถามว่าทำไมถึงกลับมาช้านัก เธอจึงตอบว่า เธอไปฟังธรรมจากพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้ามา ทันใดนั้นบิดาเธอทำกระสวยทอผ้าหลุด กระสวยนั้นก็พุ่งเข้าชนร่างเธอ จนเธอล้มลงและเสียชีวิตในทันที
ชาวบ้านต่างเข้าใจว่าบิดาฆ่าลูกสาว ต่างประณามบิดาของเธอ ทำให้บิดาของเปสการีต้องหนีออกจากเมืองอาฬวีไปเพราะทนชาวบ้านไม่ไหว แม้พระราชาก็จะทรงลงพระอาญา
ในเวลาต่อมาบิดาของเปสการีธิดาก็ได้บวชในสำนักในป่าเจริญพระกัมมัฏฐานจนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ ต่อมาในวันมหาปวารนา ภิกษุทั้งหมดเข้ามาเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าที่อาฬวี ผู้คนเห็นบิดาของเปสการีธิดาจึงได้กล่าวติเตียน พระพุทธองค์ทรงตรัสว่าภิกษุนี้ไม่ได้ฆ่าธิดาของเธอ เธอตายเพราะกรรมของเธอ และได้ประกาศว่าบิดาของเปสการีเป็นพระอรหันต์แล้ว
ขอบคุณที่มาบทความและภาพ จากคุณแมว Supani ศิษยานุศิษย์วัดป่าบ้านตาด
ปล. ใช้บัญชีเฟสบุ๊คเข้าโพสจังไม่ได้ ทำให้ต้องสมัครใหม่ เริ่มนับหนึ่งใหม่เลย ไม่รู้ทำไงดี
ที่มา:
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ชาวบ้านอึ้ง!! หลังพบคู่รักซั่มกันบนดาดฟ้า ท้าลมหนาวHot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ผิดเวลาไปหน่อย!! ป้าเข้าวัดสวดมนต์เสียงดั่งลั่นโบสถ์ พระทำวัตรเย็นก็ไม่ได้ ต้องให้ตำรวจมาเชิญตัวออกไปชาวบ้านอึ้ง!! หลังพบคู่รักซั่มกันบนดาดฟ้า ท้าลมหนาวชันสูตรศพแบงค์ เลสเตอร์ ทางทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ตำรวจ มุ่งไปที่ภาวะแอลกอฮอล์เป็นพิษ