หมาขี้เรื้อน ~ ♡
หากใครชอบสังเกตจะเห็นว่า “หมาขี้เรื้อน” มักจะเที่ยวหาที่เกาขี้เรื้อนตัวเองไปเรื่อย ด้วยมันคิดว่า..สาเหตุที่ทำให้คันเกิดจากที่ๆมันอยู่ เลยต้องคอยย้ายที่อยู่เรื่อยๆ แต่ไม่ว่าจะย้ายไปที่ไหน ความคันก็ยังคงติดตามมันไปอยู่เช่นเดิม แม้กระนั้น มันก็ยังคอยตำหนิว่าที่มันคันอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะที่อยู่อาศัย หาใช่เกิดจากขี้เรื้อนที่ตัวมันเองไม่ เลยต้องคอยย้ายที่เกาอยู่ทั้งวัน..
บางครั้งคนเราเมื่อมีเรื่องทุกข์ใจ ไม่สบายใจ ก็มักจะออกเดินทาง เปลี่ยนสถานที่แสวงหาบรรยากาศใหม่ๆ เพื่อหวังผ่อนคลายความทุกข์เศร้าในใจ ไม่ว่าทุกข์นั้นจะมาจากปัญหาเรื่องงาน เรื่องครอบครัว หรือเรื่องความรักก็ตาม แต่ไม่ว่าจะเดินทางจนสุดขอบโลก หรือท่องเที่ยวไปจนสุขขอบจักรวาล บรรยากาศ วิวสวยข้างทาง สิ่งแปลกใหม่รอบตัว อาจทำให้เพลิดเพลินได้เพียงชั่วขณะ แต่ความทุกข์ที่อยู่ในใจก็ยังคงอยู่เช่นเดิม
ดังคำสอนๆนึง....
หลวงพ่อชี้ให้ภิกษุหนุ่มสามเณรน้อยทั้งหลายดูหมาขี้เรื้อนตัวหนึ่ง ที่นอนอยู่ใต้ม้าหินอ่อนตัวหนึ่ง จากใต้ต้นอโศกที่อยู่ใกล้
เธอทั้งหลายเห็นหมาขี้เรือนตัวนั้นหรือไม่ เจ้าหมาตัวนั้นน่ะมันเป็นขี้เรื้อน คันไปทั้งตัว ฉันเห็นมันวิ่งวุ่นไปมาทั้งวัน เดี๋ยวก็วิ่งไปนอนตรงนั้นเดี๋ยวก็ย้ายมานอนตรงนี้ อยู่ที่ไหนก็อยู่ไม่ได้นานเพราะมันคัน
แต่พวกเธอรู้ไหม เจ้าหมาตัวนั้นน่ะ มันไปนอนที่ไหนมันก็นึกด่าสถานที่นั้นอยู่ในใจ หาว่าแต่ละที่ไม่ได้ดั่งใจตัวเองสักอย่าง นอนที่ไหนก็ไม่หายคัน สถานที่เหล่านั้นช่างสกปรกสิ้นดี
คิดอย่างนี้แล้วมันจึงวิ่งหาที่ที่ตัวเองนอนแล้วจะไม่คัน แต่หาเท่าไหร่มันก็หาไม่พบสักที เลยต้องวิ่งไปทางนี้ทางโน้นอยู่ทั้งวัน เจ้าหมาโง่ตัวนั้นมันหารู้สักนิดไม่ว่า เจ้าสาเหตุแห่งอาการคันนั้หาใช่เกิดจากสถานที่เหล่านั้นแต่อย่างใดไม่ แต่สาเหตุแห่งอาการคันอยู่ที่โรคของตัวมันเองนั่นต่างหาก..
ตราบใดที่ยังเกาไม่ถูกที่คัน หรือไม่รู้ว่าคันเกิดจากที่ใด แม้จะเที่ยวเปลี่ยนสถานที่เกาไปจนชั่วชีวิต ก็หาทำให้หายคันไม่
“โคลนเกิดจากน้ำ ก็เอาน้ำนั่นแหละ..ล้างโคลน..ทุกข์เกิดจากใจ..ก็เอาใจนั่นแหละล้างทุกข์”
เครดิต : สมุดปกขาว