หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

พระเครื่องสามารถป้องกันผีหรือไล่ผีได้จริงหรือไม่

โพสท์โดย ตี๋ใหญ่เมืองมังกร


ดู ทีวีหลายๆเรื่อง เห็นเวลามีผีเข้าทีไร ก็หาพระมาคล้องแล้วผีก็จะกลัว และออกจากคนนั้นไปทุกที เลยลองตัดคำตอบบางส่วนจากหนังสือ "ตอบโจทย์เรื่องผี ชี้ทางวิญญาณ" มาให้อ่านกันว่า ตกลงแล้วพระเครื่องสามารถไล่ผีหรือป้องกันผีได้จริงหรือไม่

ใน ความเป็นจริงนั้น “พระเครื่อง” ไม่ได้สามารถป้องกันผีหรือไล่ผีได้ทุกองค์ตามที่หลายคนเข้าใจเสมอไป เพราะการที่ “พระเครื่อง” จะสามารถไล่ผีหรือป้องกันผีได้หรือไม่นั้นต้องขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยหลาย ประการ ซึ่งผมจะขออธิบายแยกแยะรายละเอียดเพิ่มเติมขึ้นอีกในหนังสือเล่มนี้ เพื่อให้ท่านผู้อ่านสามารถทำความเข้าใจถึงเหตุปัจจัยที่จะทำให้พระเครื่อง สามารถป้องกันผีหรือไล่ผีได้อย่างชัดเจนขึ้น โดยเหตุปัจจัยหลักที่จะทำให้พระเครื่องกันผีไล่ผีได้นั้น มีอยู่ ๕ ประการด้วยกันได้แก่

๑. พลังงานของผี – ถ้าผีมีพลังงานน้อย เป็นสัมภเวสีเร่ร่อนธรรมดาทั่วไป พระเครื่องทั่วๆไปก็สามารถป้องกันได้ แต่ถ้าเป็นผีที่มีพลังงานสูง เป็นเปรต อสุรกาย เป็นสัมภเวสีที่มีความอาฆาตแค้น เป็นสัมภเวสีที่รู้วิชาคาถาอาคม พระเครื่องทั่วๆไปก็คงไม่สามารถป้องกันหรือขับไล่ได้ หรือยิ่งถ้าเป็นผีชั้นสูงที่มากด้วยพลังงานบุญบารมีเช่น เทวดา หรือพรหมทั้งหลายนั้น ก็คงยากจะหาพระเครื่องใดๆมาป้องกันหรือขับไล่ได้ (ซึ่งจริงๆแล้วถ้าเขารู้ว่า ผีนั้นเป็นเทวดา ไม่ใช่ผีร้ายใดๆมาหลอกหลอน ก็คงไม่มีใครคิดจะไล่เทวดา แต่เทวดาบางครั้งท่านก็ชอบจำแลงตนมาลองใจ บางครั้งแกล้งมาในสภาพน่ากลัว คนทั่วไปก็เลยพาลนึกว่าผีไปซะอย่างนั้น ซึ่งผีประเภทเทวดาจำแลงนี่ไล่ยากครับ)

๒. พลังงานของผู้ปลุกเสกพระเครื่อง – ถ้าผู้ปลุกเสกพระเครื่องเป็นผู้ไม่มีศีลไม่มีธรรม เป็นผู้ไม่มีกำลังจิตสูงส่ง แม้จะท่องคาถาปลุกเสกกัน ๓ เดือน ๕ เดือน พระเครื่องนั้นก็ยากจะมีพลังงานความศักดิ์สิทธิ์ใดๆมากันผีไล่ผีได้ แต่ถ้าผู้ปลุกเสกมีวิชาอาคมและกำลังจิตสูงจริง ก็คงต้องประลองกำลังกันหน่อยว่าพลังจิตและวิชาอาคมของผู้ปลุกเสกกับพลังจิต และวิชาอาคมของผีนั้นใครจะแน่กว่ากัน ถ้าของผู้ปลุกเสกเข้มแข็งกว่า พระเครื่องนั้นก็กันผีไล่ผีได้ แต่ถ้าของผู้ปลุกเสกด้อยกว่า พระเครื่องนั้นก็กันผีไล่ผีตนนั้นไม่ได้

๓. วิธีการปลุกเสกพระเครื่อง – พระเครื่องบางองค์นั้น ผ่านการปลุกเสกมาอย่างดีก็จริง แต่ถ้าท่านเสกมาใช้ไปในทางหนึ่งทางใดโดยเฉพาะเช่น เสกให้เอาไปใช้ป้องกันตัวเป็นคงกระพันหนังเหนียวบ้าง เสกให้เอาไปใช้เป็นเมตตาไปไหนก็มีแต่คนรักใคร่บ้าง เสกให้เอาไปใช้ค้าขายไปไหนมีแต่โชคลาภเงินทองไหลมาเทมา เป็นต้น แล้ว พระเครื่ององค์นั้นก็ไม่สามารถกันผีไล่ผีได้ เพราะไม่ได้เสกมาใช้ในทางกันผีไล่ผีด้วย ซึ่งส่วนใหญ่การปลุกเสกลักษณะนี้จะเป็นการปลุกเสกด้วยวิชาคาถาอาคม ซึ่งแต่ละวิชาก็จะใช้ไปแต่ละทาง ถ้าเสกไม่ครบ หรือประสงค์จะให้เอาไปใช้ทางใดทางหนึ่งโดยเฉพาะก็อาจเอามาช่วยกันผีไล่ผีไม่ ได้ แต่ถ้าเป็นการปลุกเสกโดยการอธิษฐานจิตด้วยบุญฤทธิ์ อัญเชิญบารมีแห่งพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ เทพพรหมมาเป็นประธานในการปลุกเสกแล้ว พระท่านจะเสกให้ทุกทางทำให้ครบหมด และมีพลังงานสูงที่สุด เพราะไม่มีใครจะมีพลังงานสูงเท่าพลังงานแห่งพระรัตนตรัย ดังนั้นการปลุกเสกพระเครื่องด้วยบุญฤทธิ์นี้จะสามารถอธิษฐานใช้ได้ทุกทาง รวมทั้งกันผีไล่ผีได้เป็นอย่างดี เพราะคงไม่มีผีตนใดมีพลังงานมากกว่าพระรัตนตรัยไปได้แน่นอน เพียงแต่การหาผู้ที่ปลุกเสกได้อย่างถึงพระถึงเจ้าขนาดนี้นั้นค่อนข้างหาได้ ยาก เพราะต้องเป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์ มีจิตบริสุทธิ์จริงๆจึงจะสามารถอัญเชิญพลังงานพระและเทพพรหมมาช่วยปลุกเสก ได้

๔. มวลสารที่ใช้ทำพระเครื่อง – แม้ผู้ปลุกเสกอาจจะไม่มีกำลังจิตสูงส่ง ปลุกเสกก็ไม่มีวิชาอาคมเพียงพอจะทำได้ครบทุกทาง จะเชิญบารมีพระและเทพพรหมมาช่วยปลุกเสกก็ทำไม่ได้ แต่ถ้ามวลสารที่ใช้ผสมในการสร้างพระเครื่ององค์นั้น เป็นมวลสารที่มีพลังงานความศักดิสิทธิ์สูงในตนเองเช่น พระธาตุ เส้นเกศาจีวรชานหมากของพระสงฆ์ผู้ทรงฤทธิ์อภิญญา เหล็กไหล ปรอทสำเร็จ ผงเก่าจากพระเครื่องที่พระเกจิอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงเคยปลุกเสกไว้ในอดีต ฯลฯ พลังงานที่แฝงอยู่ในมวลสารเหล่านั้นก็อาจจะสามารถแผ่ออกมาช่วยในการกันผีไล่ ผีได้เช่นกัน

๕. พลังงานของผู้ใช้พระเครื่อง – แม้พระเครื่องนั้นจะเป็นพระเครื่องราคาแพงที่ผ่านการปลุกเสกจากพระเกจิ อาจารย์ระดับตำนาน แต่ถ้าผู้ใช้พระเครื่องไม่มีศีลธรรมประจำใจ จิตไม่มีความศรัทธาเชื่อมั่นในพระเครื่ององค์นั้น จิตของเขาก็จะไม่สามารถสื่อถึงพระเครื่องและโน้มพลังงานจากพระเครื่องมาใช้ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และยิ่งถ้าผนวกกับเป็นช่วงที่กรรมชั่วให้ผลด้วยแล้ว พระเครื่ององค์นั้นแม้จะศักดิ์สิทธิ์มากเพียงใด ก็ไม่อาจจะช่วยกันผีไล่ผีที่เป็นเจ้ากรมนายเวรตนนั้นได้เลย แต่ในทางตรงกันข้าม แม้พระเครื่องที่ห้อยอยู่นั้นเป็นเพียงของเลียนแบบ ไม่ผ่านการปลุกเสกโดยครูบาอาจารย์ผู้ทรงฤทธิ์อภิญญา ไม่มีมวลสารศักดิ์สิทธิ์ใดๆผสมอยู่เลย แต่ถ้าผู้ใช้พระเครื่องมีศีลมีธรรม มีจิตที่มีกำลัง มีศรัทธาเชื่อมั่นไม่ลังเลสงสัยในพระเครื่ององค์นั้นแล้ว จิตของเขาก็จะเชื่อมโยงไปยังต้นพลังงานใหญ่ให้มาช่วยเหลือกันผีไล่ผีทั้ง หลายได้เช่น เขาศรัทธาหลวงปู่ทวดมาก แต่ไม่มีเงินเช่าพระหลวงปู่ทวด เลยไปตัดรูปหลวงปู่ทวดในหนังสือพระมาเลี่ยมห้อยคอ เอามาสวดมนต์ไหว้พระทุกวัน ทำบุญอุทิศบูชาคุณหลวงปู่ทวดอยู่เสมอ วันหนึ่งมีผีโผล่มาหลอกหลอนเขา เขาก็เอาพระหลวงปู่ทวดในคอมาสวดมนต์ ในใจก็นึกถึงหลวงปู่ทวด เชื่อมั่นในบุญบารมีแห่งหลวงปู่ทวดอย่างสนิทใจไม่ลังเลสงสัย แม้รูปในคอจะไม่ผ่านการปลุกเสก ไม่มีมวลสารศักดิ์สิทธิ์ แต่จิตของผู้ห้อยพระนั้นได้ส่งไปถึงหลวงปู่ทวดองค์จริงเรียบร้อยแล้ว หลวงปู่ทวดก็ย่อมแผ่บุญบารมีมาช่วยเหลือไล่ภูตผีปีศาจตนนั้นให้กระเด็น กระดอนหงายหลังถอยหนีไปได้ในทันทีไม่ต่างกับผู้มีพระเครื่องที่ผ่านการปลุก เสกมาอย่างดีอยู่ในคอแต่อย่างใด

อย่าง ไรก็ดี จะเห็นได้ว่าในเหตุปัจจัยทั้ง ๕ ประการที่จะทำให้ “พระเครื่อง” สามารถกันผีไล่ผีได้นั้น เราไม่สามารถรู้ได้ว่าผีที่มาหลอกเรานั้นเก่งไหน เราไม่สามารถรู้ได้ว่าผู้ที่ปลุกเสกพระเครื่องมีพลังจิตสูงส่งแค่ไหน เราไม่สามารถรู้ได้ว่าครูบาาอาจารย์ท่านใช้วิธีการปลุกเสกแบบไหนปลุกเสกมา ครบถ้วนใช้ไล่ผีกันผีได้ด้วยรึเปล่า เราไม่สามารถรู้ได้ว่ามวลสารที่ผสมอยู่ในพระเครื่องมีความศักดิ์สิทธิ์เพียง พอหรือไม่ มีเพียงเหตุปัจจัยเดียวที่เราสามารถรู้ได้ควบคุมได้ก็คือ “พลังงานของผู้ใช้พระเครื่อง” ดังนั้นแทนที่เราจะมานั่งหาพระเครื่องดีๆ ผู้ปลุกเสกดีๆ มวลสารดีๆ ซึ่งก็มักจะราคาแพงๆ แถมมีของปลอมมาหลอกเยอะๆ ผมว่าเราหันมาฝึกฝนพัฒนาจิตใจตนเองให้มีศีลมีธรรม หมั่นสร้างบุญกุศล หมั่นสวดมนต์ไหว้พระ นึกถึงพระ ทำจิตเคารพศรัทธาในพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ไว้อยู่เสมอจะดีกว่า เพราะถ้าจิตเราดีจริง จิตเราถึงพระจริง ก็เท่ากับเรามีพระอยู่ในใจ ไม่ว่าจะห้อยพระเครื่องหรือไม่ห้อย ภูตผีปีศาจตนใดก็ไม่อาจเข้ามากร้ำกรายทำร้ายผู้มีใจอยู่กับพระได้เลย เมื่อเรานึกถึงพระ พระท่านก็นึกถึงเรา พลังงานท่านก็แผ่มาคุ้มครองเรา เมื่อใจเรามีพระ เทวดาทั้งหลายก็ย่อมมาดูแลรักษา เพราะผู้ใดมีพระในใจ ก็มั่นใจได้ว่าผู้นั้นเป็นแหล่งแห่งบุญกุศลชั้นดี เทวดาทั้งหลายย่อมต้องมาคอยดูแลเราผู้เป็นขุมทรัพย์แห่งบุญให้เขาได้ คอยอนุโมทนาบุญอยู่เสมอ แล้วภูตผีปีศาจสิ่งชั่วร้ายที่ไหนจะฝ่าดงเทวดาเข้ามาหลอกหลอนเราได้ล่ะครับ

 
ขอขอบคุณ ข้อมูลดีๆ จากเวป เซลล์กุมาร
 
 

 

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
20 VOTES (4/5 จาก 5 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เมื่อเเก้งชาวต่างชาติรวมตัวกันใส่บาตรตอนเช้า เป็นภาพที่น่ารักดีนะ ☺มีคนไปเจอ 'แมววิลาศ' แมวมงคลโบราณจากสมุดข่อยด้วยพม่าห้ามผู้ชายไปทำงานนอกประเทศอากาศร้อนจัดจนทางรถไฟโก่ง..เจ้าหน้าที่ต้องเอาน้ำแข็งและฉีดน้ำใส่ทางรางรถไฟ?พระราชธิดารัชกาลที่ 5 สตรีที่ถูกลืมนักเรียนชาย ม.4 รร.ดังเมืองคอนป่วยซึมเศร้าพลัดตกจากอาคารเรียนชั้น 4 ไปสิ้นใจที่ รพ.มหาราชDisney World ห้ามนักท่องเที่ยวใส่รองเท้าCrocsแปลกแต่จริง ชายเมียตาย ขอแม่ยายแต่งงาน โดยพ่อตาหลีกทางให้รู้มั๊ย? ทำไม"แม่น้ำสาละวิน"ถึงเย็นตลอดปี
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
พม่าห้ามผู้ชายไปทำงานนอกประเทศมีคนไปเจอ 'แมววิลาศ' แมวมงคลโบราณจากสมุดข่อยด้วยครั้งหนึ่งกองทัพอากาศอินเดีย ได้ตกแต่งเฮลิคอปเตอร์เป็นรูปช้าง!บาร์เซโลน่า เมืองแห่ง " La Sagrada Familia "
ตั้งกระทู้ใหม่