ชวนชม The Great Gatsby ชายหนุ่มคนหนึ่งผู้รอคอยรักแท้ตลอดกาล[รีวิว ไม่สปอยส์]
จั่วหัว : The Great Gatsby..The Great Movie
The Great Gatsby : รักเธอสุดที่รัก
คมนิด จี๊ดเลย : - มันไม่ง่ายเลยนะ ที่จะทำให้คนได้รู้ว่าการที่เราจะรักใครสักคนได้อย่างสุดหัวใจ มันมีค่ามากเพียงใดสำหรับตัวเรา
- มิตรแท้เพียงหนึ่งเดียว มีค่ามากกว่ามิตรเทียมนับร้อยนับพัน
Napat's Rating : (A) , 9.5 /10
อัพเดท เรื่องหนัง ทันใจ!! คลิก Like!!! :
https://www.facebook.com/Napat.Tang.Fans
- คำเตือน : นี่คือเรตติ้งและความคิดเห็นส่วนตัวหลังชมหนังของผมคนเดียวเท่านั้น ย้ำว่าส่วนตัวนะครับ บางคนเห็นตรง บางคนอาจเห็นต่าง ถือว่าเอามาแลกเปลี่ยนทัศนะกันเฉยๆ โปรดอย่าได้ถือสากับคำวิจารณ์ของผมเลยนะครับ เพราะเป็นเพียงอีกหนึ่งเสียงจากการชมหนังในฐานะคนดูหนังธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น -
จากใจ..ถึงหนังเรื่องนี้ : และนี่ก็เป็นหนังอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ทันได้คาดหวังอะไรจากตอนที่ชมตัวอย่าง ก็คิดว่าจะมาดูชมVisionทางด้านภาพอันเลิศล้ำของผู้กำกับบ้าโปรดักชั่นดีไซน์อย่างบาซ เลอมานน์ แต่ที่ไหนได้ เรื่องนี้กลับมีอะไรให้ขบคิดและเสียดแทงเราได้มาก ขนาดที่ว่าจุกอกและอารมณ์ขึ้นแทนตัวละครนำของเรื่องเลยทีเดียว จนอารมณ์ค้างออกมาจากโรง ถ้าจะให้เปรียบเปรย หนังเรื่องนี้เป็นเสมือน แอปเปิ้ลผลงามแต่อาบยาพิษที่ร้ายแรง แล้วเราๆคนดูก็อาจตกเป็นเหยื่อแบบสโนไวท์ก็เป็นได้
ก่อนที่จะรีวิวขึ้นลึก ขอพูดถึงหนังแบบรวมๆOverviewก่อน ในฐานะที่ไม่เคยรู้จักนายแกสบี้อะไรนี่มาก่อน ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะถูกหยิบมาสร้างจากบทประพันธ์ของนักเขียนอเมริกัน F. Scott Fitzgerald ที่ผมชอบ ผู้เคยเขียน The Curious Case of Benjamin Button มาแล้ว ผมก็ไม่เคยมีโอกาสได้อ่านมัน แต่พอมาดูหนัง หนังมันทำให้เราอยากรู้จักแกสบี้มากขึ้น จนสามารถถลำลึกไปเจอตอบางอย่างที่อาจทิ่มแทงเราๆคนดูบางคนได้
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของเรื่องนี้คงจะหนีไม่พ้นไปจากภาพสุดตระการตา ผมคอนเฟิร์มเลยว่าตั้งแต่ดูหนังมาในต้นปีจนจวบจะกลางปีแล้ว หนังเรื่องนี้คือหนังที่ถ่ายออกมาสวยที่สุด งดงาม ตรึงตา ทุกฉาก ทุกคัทเลยก็ว่าได้ และสิ่งที่ทำให้ภาพออกมางามขนาดนี้ได้ อีกข้อคงต้องยกเครดิตให้กับโปรดักชั่นดีไซน์ อาร์ตไดเรคชั่น มู้ดแอนด์โทนของเรื่อง วิชชั่นการออกแบบฉาก งานสร้าง ทำให้หนังเรื่องนี้เปรียบได้ดั่งงานศิลปะแขนงเอกที่รวมหลายๆมุมมองผนวกเข้าไว้ด้วยกันจนรู้สึกถึงความมหัศจรรย์ที่ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นภาพยนตร์ อีกทั้งดนตรีประกอบ และเพลงประกอบก็ออกมาได้อย่างเข้าที่ทางสุดๆ และที่สำคัญที่สุด หนังเรื่องนี้ยังได้การแสดงดีๆจาก เลโอนาโด ดิคราปิโอ โทนี่ แมคไกว แคร์รี่ มัลลิแกน และโจเอล เอดเกิร์ลตัน รวมถึงการเซอร์ไพรต์เข้ามาแจมในบางฉากจากดาราในตำนานของอินเดียอย่าง อมิตาป ปัจจัน (ที่เคยมีพระเอกหนังสลัมด๊อกตอนเด็กเห่อมากจนวิ่งฝ่าบ่อขี้ไปขอลายเซ็นต์มาแล้ว ถ้าจำกันได้) ทุกคนสามารถแสดงกันได้อย่างสมบทบาทและเข้าถึงบทมาก
เอาเป็นว่า ใครที่จะไปดู อยากให้ไปดูชมแบบสามมิติ เพราะเรื่องนี้ทุกคัททุกฉากสวยงามและความละเมียดละไมของภาพสามมิติอาจทำให้คุณๆสามารถเคลิ้มไปได้ก่อนหนังจบเลยทีเดียว ไม่ใช่เคลิ้มหลับนะ แต่เราหมายถึงความฟินน่ะ อรรถรสมันได้กว่ากันมาก ดังนั้นจะเสียตังค์ดูทั้งที ขอแนะนำแบบสามมิติเป็นพิเศษสำหรับเรื่องนี้ครับ
บทความต่อจากนี้ จะไม่พยายามสปอยส์เนื้อเรื่องให้ดูแล้วหมดสนุก แต่จะพูดถึงตัวเรื่องในลักษณะที่ชวนมาคิดต่อ ดังนั้นคิดว่าคนที่ยังไม่ดูก็น่าจะสามารถอ่านได้ แต่ถ้าอยากเมคชัวร์ ก็อาจไปรอชมกันก่อนแล้วค่อยมาอ่านก็ไม่ว่ากันครับ
เรื่องราวของแกสบี้ทั้งหมด ถูกถ่ายทอดผ่านตัวละครอย่าง "นิก คาราเวย์" ที่เล่นโดยปีเตอร์ พาร์คเกอร์ เอ้ย โทนี่ แมคไกว น่ะครับ หนังค่อยๆเริ่มปูทางมาว่าแกสบี้เป็นเพียงเพื่อนบ้านของเขา แต่สิ่งที่น่าสงสัยคือ เขาเป้นคนที่ลึกลับมาก ชอบจัดปาร์ตี้โออ่าฟู้ฟ่า อลังการ แถมยังเป็นมหาเศรษฐีที่เรียกได้ว่า "รวยล้นฟ้า" ตัวจริงเสียงจริงเลยทีเดียว วันนึงเขาได้รับบัตรเชิญไปงานปาร์ตี้จากเพื่อนบ้านคนนี้ และเรื่องราวต่างๆมากมายก็เกิดขึ้นตามมา "มิตรภาพ ความรัก การทรยศหักเหลี่ยมโหด ความเห็นแก่ตัว ความผิดหวัง และโศกนาฏกรรม" คือสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงเมื่อการถลำลึกไปในความสัมพันธ์บางอย่างกับคนลึกลับคนนี้ที่ดึงนำคนรอบตัวมาเกี่ยวข้อง โดยเป้าหมายที่สำคัญของเขาคือนางเอกที่สวยอย่างกะนางฟ้า ที่แค่ฉากแรกโผล่มา ก็แทบใจละลายกันคาจอ แถมยังมีชื่อในเรื่องงดงามสมชื่ออย่าง "เดซี่" อีกด้วย
หนังได้ทำให้เห็นว่าคนหลายคนมักจะพูดถึงบุคคลลึกลับอย่าง"แกสบี้" อย่างนู้นอย่างนี้ บ้างก็ว่าเป็นฮีโร่สงคราม บ้างก็ว่าเป็นหลานมหาเศรษฐี บ้างก็ว่าเคยเป็นฆาตกรเสียด้วยซ้ำ แต่จริงๆแล้วกลับไม่มีใครรู้เลยว่าคนๆนี้เป็นใคร จนกระทั่งนิกได้เข้ามาในชีวิตของเขา จริงๆแล้วตัวละครนิกนั้นเป็นเหมือนนักเล่าเรื่อง เขาแฝงตัวได้กับทุกกลุ่ม เป็นดั่งคนที่ไร้ตัวตน แต่เขาก็รู้ว่าความจริงของเรื่องราวต่างๆมันเป็นอย่างไร
แกสบี้ได้เล่าให้เขาฟังว่า เขาเคยเป็นยาจกสมัยเด็กๆที่พยายามทะเยอทะยานออกตามหาความฝันจนได้มาเจอเรื่องราวต่างๆมากมาย จนดูเหมือนโม้สุดโต่งและเป็นไปไม่ได้ แต่ทว่ามันก็เป็นความจริง การที่นิคได้ใช้เวลาอยู่กับแกสบี้เพื่อทำความรู้จักนั้นเป็นเหมือนกับเขาได้อยู่กับพระเจ้าที่แทบจะเสกอะไรมาให้เขาก็ได้
ทว่าสิ่งที่แกสบี้ต้องการนั้น หาใช่สิ่งรอบตัวอะไรเลย นอกเสียจากผู้หญิงคนนึงที่เขาได้รักมากอย่างเดซ๊่ ก่อนที่เขาต้องพรากจากเธอไปเมื่อต้องออกไปทำสงคราม พอเขากลับมาก็พบว่าเธอกลับแต่งงานไปแล้วกับคนที่ชื่อว่า"ทอม บูชานัน" ซึ่งก็เป็นเพื่อนซี้ของนิคเช่นกัน จริงๆแล้วเขาพยายามทำอะไรหลายๆอย่างเพื่อหวังให้เธอผู้นั้นเหลียวมามองบ้าง แม้ว่าโอกาสแทบจะเป็นศูนย์ กระนั้นการที่เขาจัดปารืตี้โออ่า เขาเพียงต้องการให้เธอมาเยือนสักครั้ง
แต่ความหวังลมๆแล้งๆของแกสบี้นั้น ดูเหมือนจะมีโชคช่วยเมื่อนิก อาสาจะเป็นคนกลางให้สองคนนี้กลับมาเจอกันอีกครั้ง ทว่าเรื่องราวต่างๆมันไม่ง่ายอย่างที่คิด มันมีเรื่องรักสามเศร้าตามมาแน่นอน และความลับของตัวละครต่างๆที่ซ่อนไว้ก็ค่อยๆถูกเลาะเปลือกที่ดูโออ่าและเปิดเผยถึงข้างใน
ท้ายที่สุดตัวที่เผยหมดเปลือกก่อนคงไม่มีใครนอกจากแกสบี้ ที่กลายเป้นเหยื่อของแอปเปิ้ลอาบยาพิษซะเอง และต้องทนรับกรรมที่ไม่ได้ก่อ เพียงเพราะความรักแบบรักเดียวใจเดียวอย่างบริสุทธิ์ใจของตนสามารถเอาชนะทุกสิ่งทุกอย่างในใจเขาได้ แต่กลับไม่สามารถชนะใจคนอื่นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่เห็นความจริงใจของเขาเป็นแค่เรื่องตลกพกลม มันช่างน่าเจ็บปวดใจยิ่งนัก ตัวเขาเองสามารถทำทุกอย่างเพื่อที่จะปกป้องคุณค่าความรักของเขาไม่ให้เสื่อมไป
แต่เขาไม่อาจทำให้คนอื่นสามารถเข้าใจได้ว่า แท้จริงแล้วเขาเป็นคนอย่างไร เขาต้องการสิ่งใดในชีวิต คงจะเพียงนักเขียนอย่าง "นิค คาราเวย์" ผู้ซึ่งกลายมาเป็นมิตรแท้ของเขา และยังคงอยู่เคียงข้างเขา ในขณะที่เพื่อนที่เคยมาร่วมงานเลี้ยงมากมาย กลับหายหน้าหายตากันไปอย่างไร้ร่องรอยเมื่อถึงยามที่เขาล้ม
แกสบี้เป็นคนที่มีความฝัน ชีวิตของเขาต้องการที่จะมีเป้าหมายสูงขึ้นยิ่งๆขึ้นไป เขาทำทุกอย่างเพื่อที่จะมีชีวิตที่ดี กระนั้นเขาก็ยังรู้สึกว่าเขายังไม่มีชีวิตจริงๆตราบใดที่เขาไร้หัวใจ เขาจึงมอบหัวใจดวงนั้นไปให้กับใครบางคน แต่ใครคนนั้นจะเห็นคุณค่าของความรักที่เขามีให้หรือไม่นั้น เขาก็ไม่เคยยอมแพ้ เขายังคงเฝ้ารอเสมอมา แม้ว่าโลกแห่งความจริงจะไม่สวยหรูเหมือนในฝันไว้ หรือชีวิตที่สวยหรูภายนอกของเขา กลับไม่ได้มีความหมายกับเขาอย่างเต็มที่ แต่เขาก็พยายามที่จะพิสูจน์ตัวเองให้รู้ว่าเขาเองก็มีความหมายเหมือนกัน
แน่นอนว่าเมื่อเวลาผ่านไป เมื่อถึงยามที่ตกต่ำอาจไม่เหลือใครที่เหลียวแลแกสบี้อีกต่อไป แต่อย่างน้อยเขาก็มีเพื่อนคนนึงที่ยังเข้าใจเขา และรู้ว่าจริงๆแล้ว เขาไม่ใช่แกสบี้ แต่เขาคือ The Great Gatsby นิกจึงตัดสินใจเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับเขาเพื่อที่จะทำให้โลกรู้ว่า บางทีเราก้ไม่ควรตัดสินคนแต่ภายนอก เหมือนกับเปลือกนอกแบบความสวยหรูของหนังเรื่องนี้ ก็ไม่ได้แปลว่าหนังเรื่องนี้จะดี แต่เนื้อหา หรือหัวใจของมันต่างหาก คือคุณค่าที่คนดูจะได้รับ
และเรื่องราวของแกสบี้นั้น ถึงแม้ว่าจะทำให้จิตใจของใครบอบช้ำบ้าง แต่มันก็ทำให้เราได้เห็นว่า รสชาติของชีวิตจริง ที่ไม่ได้สวยหรูแบบนิยาย เราต้องทนรับมันให้ได้ และรู้จักมีสติที่จะอดทนปล่อยให้เรื่องเลวร้ายผ่านพ้นไป และสิ่งเดียวที่เราจะทำได้ในขณะที่ไม่มีอะไรเอื้ออำนวยให้เราไปถึงฝั่งฝันเลย สิ่งนั้นก็คงเป็นแค่ "การมีความหวัง" ที่จะเฝ้ารอคอย ให้สิ่งที่ดีกว่าเกิดขึ้น ต่อให้มันจะลมๆแล้งๆแค่ไหน แต่อย่างน้อยมันก็คงเป็นแสง(สีเขียว)ที่คอยส่องมาเตือนเราผ่านอุปสรรคม่านหมอก ให้เราไม่ลืมไปซะทีเดียวว่า
"อย่าลืมที่จะใช้ชีวิตต่อไปให้ถึงฝั่งฝันให้ได้ ตราบเท่าที่เรายังหายใจอยู่ ไม่ว่าคืนวันจะดีร้ายเพียงใดก็ตาม"
ปล.สุดท้ายนี้ ขอฝากหนังสั้นชวนตีความเรื่องนึงไว้ให้ชมกันนะครับ ควรตั้งใจดูและคิดตามไปด้วย น่าจะได้อะไรกลับไปขบคิดกันบ้างไม่มากก็น้อยครับ
อันนี้ตัวอย่างหนัง "The Great Gatsby" ครับ
แถมเพลงที่ไพเราะมากๆอย่างเพลงนี้คอยกล่อมให้เราหลงไปกับแสงสีของเรื่องราวและล่องลอยไปยังโลกของแกสบี้จนสุดปลายทางของเรื่องราวครับ
ติดตามผลงานรีวิวอื่นๆและผลงานหนังสั้นต่อได้ที่นี่ครับ
ใครชอบอ่านรีวิวหรืออยากติดตามเรื่องราวข่าวสารดีๆจากผม
ผมจะไป"แชร์"ให้ทุกท่านโดยตรงในเพจด้านล่างนี้นะคร้าบ มาLikeเยอะๆนะคร้าบ คลิกไปแล้วไม่ผิดหวังครับ!!
และสุดท้าย อย่าลืมช่วยกันโหวตกระทู้นี้นะคร้าบ
https://www.facebook.com/Napat.Tang.Fans
https://www.facebook.com/S.L.Studios.Ent