คิดจะร้อยไหม อ่านก่อน
พูดถึงการร้อยไหม ใครๆจะคิดถึงการนำเข็มไปจิ้มๆบนหน้า เพื่ออะไรซักอย่าง
เเต่จริงๆเเล้วร้อยไหมทำเพื่ออะไรมาลองฟังกันดูครับ
ไหมที่ใช้กันปกติทั่วไปตามคลินิกต่างๆ เรียกกันง่ายๆเลยว่าไหมละลาย เเต่ด้วยคำนี้เป็นคำต้องห้ามผิดกฎหมาย(ซึ่งก็ไม่เป็นเรื่องไร้สาระในเมืองไทย) คลินิกต่างๆจึงเปลี่ยนมาเรียกกันว่า "ไหมเกาหลี ไหมPDO" ซึ่งมันก็ตัวเดียวกันหมดเเหละครับ
ประโยชน์ของการร้อยไหม จริงๆที่สัมผัสได้คือหน้าจะใสขึ้น เเต่ผมที่ได้ตามมาคือความตึงกระชับ ในบริเวณที่ถูกเข็มจิ้มลงไป ด้วยหลักง่ายคือ เมื่อเข็ม หรือไหม ถูกจิ้มเเละร้อยผ่านบริเวณไหนก็ตามเเต่ในชั้นใต้ผิวหนัง เมื่อปล่อนไปซักพักผิวบริเวณดังกล่าวก็จะถูกเติมเต็มด้วยคลอลาเจนใหม่ เมื่อไหมละลายไปตามกาลเวลาที่กำหนด ผิวก็จะเปล่งปลั่ง เด้งกระชับ เเต่ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นจำเป็นต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือนถึงจะเริ่มเห็นผล
เพราะเส้นไหมเกาหลีทั่วไป มีความเล็กมาก(ขนาดเท่าเส้นด้าย) เเต่ด้วยวิวัฒนการ การพัฒนาเพื่อทันใจผู้รักในความงามทั้งหลาย
ทำให้มีผู้คิดค้นไหมที่มีความหนากว่าปกติถึง 24 เท่า เเถมมีกิ่งก้านคล้ายกิ้งไม้ เพื่อคอยดึงเนื้อใต้ชั้นผิวให้เด้ง ตึง ได้ไวสมใจ ไหมMISKO ด้วยโครงสร้างที่หนาเเน่นกว่าปกติ ทำให้ความเหนี่ยวรั้ง ค่ำจุน ได้ดีเเละเห็นผลทันทีหลังทำการร้อยเสร็จ เเละเมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยด้วยความหนาของไหมMISKO นอกจากจะทำให้ใต้ชั้นผิวสร้างคลอลาเจนเพิ่มเติมเเล้วยังเพิ่มกล้ามเนื้อในยริเวณที่ร้อยด้วย ทำให้เมื่อไหมสลายไปหมดเเล้ว ผิวบริเวณที่ทำการร้อยจะไม่ตกลงมาเหมือนเดิม ซึ่งอาจจะเทียบเท่ากับการผ่าตัดเพื่อดึงผิวไก้เลยทีเดียว
สนใจศึกษา หรือปรึกษาได้ที่ https://www.facebook.com/THEKLINIQUEinternational