สิบเมืองน่าเที่ยว
โดย ชัยรัตน์ ยิ่งกิจสถาวร
ทั้งสิบเมืองในรายชื่อนี้ ล้วนแล้วแต่มีความโดดเด่นทางชัยภูมิที่ตั้ง และมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของตนเองไม่ซ้ำใคร กระจายครบทั่วทุกทวีปบนโลกนี้ บางเมืองเป็นเมืองใหญ่ทันสมัย บางเมืองได้รับการหมางเมินจากนักท่องเที่ยว บางเมืองเข้าถึงได้ด้วยเรือเท่านั้น และบางเมืองเป็นเมืองเก่าอายุนับพันปี
10. เชียงใหม่ – ประเทศไทย
เมืองนี้เปรียบได้กับศิลปินนักร้อง-นักแต่งเพลง-บ็อบ ดิแลน อบอวลไปด้วยบรรยากาศเป็นมิตร คลาคล่ำด้วยความเป็นศิลป์ ออกแนวโบฮีเมียน เมืองโบราณแห่งนี้เคยเป็นศูนย์กลางอาณาจักรล้านนา ในปัจจุบันคือแหล่งท่องเที่ยวทำเงินสำคัญ ที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก เชียงใหม่ในปัจจุบันผสมความเก่าและความใหม่ไว้ด้วยกัน ฉาบด้วยเอกลักษณ์ไทยเหนือ ที่สร้างความประทับใจให้แก่คนที่ไม่เคยสัมผัส เป็นเมืองที่ง่ายต่อการสำรวจและปลอดภัยไร้กังวล วัดวาอารามยังคงไว้ด้วยความขลัง
9. นิวแคสเซิล – ออสเตรเลีย
เมืองนี้ตั้งอยู่ในรัฐนิวเซาท์เวลล์ เก่าแก่เป็นอันดับสองของประเทศ ห่างจากซิดนีย์ไปทางใต้ 150 ก.ม. โดนเสน่ห์ของซิดนีย์กลบเกือบมิด หลายคนคงแปลกใจว่ามีอะไรดี นิวแคสเซิลเล็กกว่าซิดนีย์หนึ่งในสิบ แต่มีทุกอย่างเหมือนกัน เช่น ซากเมืองเก่า ชิวิตกลางคืน ชายหาดสำหรับเล่นกระดานโต้คลื่น และไร่องุ่นทำไวน์ ที่แปลกไม่ซ้ำใครคือจุดชมวาฬอพยพและจุดให้อาหารปลาฉลาม
8. เดลี – อินเดีย
หมายรวมถึงโอลด์เดลีและนิวเดลี สมควรอย่างยิ่งแก่การแวะเที่ยว เพราะเมืองใหญ่แห่งนี้เพิ่งเป็นเจ้าภาพกีฬาเครือจักรภพในเดือนตุลาคมปีที่ แล้ว และปีนี้จะมีการฉลองการก่อตั้งนิวเดลีครบร้อยปี สบายใจได้ว่าสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกมีพร้อมมากมาย รวมถึงระบบรถไฟใต้ดินอันทันสมัย เมื่อเวลามาถึงเมืองแห่งนี้จะเต็มไปด้วยสีสันและชีวิตชีวา
7. เจนท์ – เบลเยี่ยม
ตั้งอยู่ในอ้อมกอดของบรัสเซลล์-บรูจจ์-แอนท์เวิร์พ คือเมืองเก่าที่รุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่11 เต็มไปด้วยบ้านเรือนสถาปัตย์เก่าริมแม่น้ำ อันสวยงามดั่งเมืองในเทพนิยาย ในราวกรกฎาคมของทุกปีจะมีเทศกาลเจนท์ เป็นเทศกาลฤดูร้อนกลางแจ้งที่มีผุ้ร่วมงานนับล้านคน
6. อิกิโตส – เปรู
เมืองนี้คือดินแดนลับแลในป่าฝนของเปรู เข้าถึงโดยเรือจากปากน้ำฝั่งแอ็ทแลนติคที่ห่างจากเมืองราว 3600 ก.ม. หรือโดยเครื่องบิน นักท่องเที่ยวส่วนมากมักล่องเรือมาที่นี่ เพื่อผจญภัยไปตามลำน้ำผ่านบราซิลและโคลัมเบีย ณ ที่นี่ความเป็นลาทินอย่างเช่นซัลซ่าและตึกรามแบบโคโลเนียลคือนางเอก พระเอกของท้องเรื่องคือศิลปวัฒนธรรมแบบชนเผ่าพื้นเมืองของแอมะซอน
5. บาเลนเซีย – สเปน
บาเลนเซียเป็นเมืองใหญ่อันดับสามรองจากมาดริดและบาเซโลน่า เธอมีความเซ็กซี่และเย้ายวนในแบบฉบับนักร้องสาวบ้านนาเสียงทรงพลัง ตั้งอยู่ริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เคยจัดการแข่งขันเรือยอช์ทอเมริกาคัพหลายครั้ง และเป็นหนึ่งในเมืองที่จัดฟอร์มูล่าวันกรังค์ปรีซ์ยูโรเปี้ยนคัพ รวมทั้งยังเป็นเมืองที่นิยมจัดการประชุมและสัมมนาของยุโรป
4. เวลลิงทัน – นิวซีแลนด์
ความคูลของเวลลิงทันต้องสะกดด้วยตัว C ใหญ่ เน้นๆ กันอย่างชัดเจนถึง ความเป็นเมืองที่มีคุณภาพทางด้านอาหารการกิน มีร้านอาหารโดยเฉลี่ยต่อหัวประชากรมากกว่านิวยอร์ค และที่เจ๋งไม่มีใครเหมือนคือ การท่องเที่ยวแนวอนุรักษ์ของเวลลิหวูด ไปตามป่าใหญ่และลำน้ำ สถานที่ถ่ายทำ Lord Of The Ring และ Hobbit ในปีนี้เวลลิงทันจะเป็นเจ้าภาพการแข่งขันรักบี้ชิงแชมป์โลก
3. เทลาวีฟ – อิสราเอล
เป็นด้านตรงข้ามกับเยรูซาเล็มอย่างสิ้นเชิง เทลาวีฟขึ้นชื่อในด้านกิจกรรม-ชีวิตยามค่ำคืน เหล่าดีเจคือทวยเทพ เรือนร่างคือวิหาร ผู้คนเสพหาความสุขจากาการเต้นรำ เป็นเหมือนอีกศาสนาที่เชื่อมโยงคนเข้าไว้ด้วยกัน คลับมีให้เห็นมากกว่าศาลของชาวยิว แต่ก็อุดมไปด้วยความน่าสนใจทางวัฒนธรรมสมัยใหม่ เพราะมีทั้งมหาวิทยาลัย พิพิธภัณฑ์ เป็นแหล่งกำเนิดศิลปะ หนัง และ ดนตรี รวมทั้งมีชุมชนชาวสีม่วงที่ใหญ่ที่สุดในซีกโลกตะวันออกกลาง
2. แทนเจียร์ – โมร็อคโค
นครสีขาวแห่งนี้ตั้งอยู่ตรงช่องแคบยิบรอลทา ฟากหนึ่งคือยุโรป อีกฟากหนึ่งคือแอฟริกา เป็นสถานที่ที่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนบรรจบกับมหาสมุทรแอทแลนติค มีความน่าสนใจในด้านวัฒนธรรมที่ปนเปกันระหว่างสเปญเจ้าอาณานิคมและแอฟริกัน เฉกเช่นเดียวกับมาร์ราเคช อีกสิ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวประทับใจคือชายหาดทอดยาว
1. นิวยอร์ค – สหรัฐอเมริกา
ภายในปีนี้ นิวยอร์คจะให้การต้อนรับอนุสรณ์สถานเหตุการณ์ 9/11 บนกราวด์ซีโร่ พลาซ่าแห่งใหม่จะเปิดให้ใช้ และน้ำพุที่ตั้งลึกลงไป 30 ฟุต ณ จุดที่ตึกเวิลด์เทรดถล่มลงมา ซึ่งในยามค่ำคืนจะปรากฏรายชื่อผู้ประสบเคราะห์กรรมเรืองแสงเพื่อไว้อาลัย
*
[จาก Lonely Planet]
ที่มา: http://www.poppaganda.net/