มัมมี่ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มัมมี่ชินคอร์โร
สวัสดีครับเพื่อนๆ ถ้าพูดถึงมัมมี่ หลายคนก็คงนึกถึงมัมมี่อิยิปต์โบราณ ซึ่งก็เป็นที่เผยแพร่กันอย่างกว้างขวางซึ่งมีอายุราว 3,000 ปี ก่อนคริสตกาล หรือประมาณ 5,000 ปีที่แล้ว ซึ่งก็ถือว่าเป็นมัมมี่ที่มีความเก่าแก่มาก แต่จริงๆ แล้วการทำมัมมี่มีมานานกว่านั้นอีก เป็นมัมมี่อะไรมีเรื่องราวอย่างไร เรามาติดตามกันนะครับ
มัมมี่ชินคอร์โร (chinchorro) ถูกค้นพบในพื้นที่ทะเลทรายตอนเหนือของประเทศชิลีต่อ กับตอนใต้ของประเทศเปรู ชนเผ่าชินคอร์โร ซึ่งในเวลานี้ได้ชื่อว่าเป็นชุมชนที่มีวัฒนธรรมและขนบประเพณีในการทำมัมมี่ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มัมมี่ของชินคอร์โร มีอายุระหว่าง 7,000-8,000 ปี เก่าแก่กว่าอารยธรรมอียิปต์กว่า 4,000 ปี นักโบราณคดีอย่าง พาโบล มาร์เควท สถาบันซานตาเฟ่ ในรัฐนิวเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา ศึกษาหาข้อมูลว่าเพราะเหตุใด ชนเผ่าชินคอร์โร จึงพัฒนาอารยธรรมมัมมี่ของตนขึ้นมา มาร์เควท เชื่อว่า สภาวะแวดล้อมเป็นเหตุปัจจัยสำคัญ เนื่องจากภาวะอากาศร้อนแห้งแล้งแบบทะเลทราย มีส่วนช่วยในการรักษาสภาพศพโดยธรรมชาติอยู่แล้ว เมื่อมีการตั้งหลักแหล่งเป็นชุมชน มีประชากรมากขึ้น ก็เริ่มมีการนำเอาศพที่ไม่เน่าเปื่อยมาใช้ทั้งในเชิงการเมือง และในเชิงวัฒนธรรมกันมากขึ้น ที่ส่งผลให้มีความพยายามตกแต่งประดับประดา และหาหนทางรักษาศพบางศพให้อยู่ได้ยืนยาวให้มากที่สุดตามไปด้วย
มัมมี่ชินคอร์โร การทำมัมมี่ขอบชนเผ่านี้ต่างกันกับมัมมี่ของอิยิปต์โบารณ ตรงที่การทำมัมมี่เพื่อรักษาสภาพศพของคน ที่เขารักให้คงอยู่ตลอดไป โดยไม่น่าจะมีนัยทางความเชื่อเรื่องการฟื้นคืนชีพ ส่วนของอิยิปต์นั้นเน้นไปในเรื่องพิธีกรรม และความเชื่อหลังความตาย และเชื่อว่าสักวันวิณญาณจะกลับมาคืนร่าง ซึ่งแต่เดิมก็จะทำแต่องค์ฟาโรห์เท่านั้น ซึ่งภายหลังจึงได้ทำกับบุคคลอื่น รวมทั้งสัตว์ด้วย ดังนั้นมัมมี่ของอิยิปต์จึงมีความพิถึพิถันและละเอียดมากกว่ามัมมี่ชินคอร์โร
กระบวนการทำมัมมี่ของ ชาวชินคอร์โรมี 2 แบบ คือ
แบบแรก เริ่มด้วยเขาจะนำศพมาตัดส่วนหัวออกก่อน จากนั้นก็เป็นขา และส่วนต่างๆ ของศพนั้นจะถูกลอกหนังออกมาก่อน จากนั้นก็เริ่มทำการคว้านเอาอวัยวะภายในออกมาทั้งหมด ส่วนร่างที่เหลือจะถูกทำให้แห้งด้วยถ่านร้อนๆ ส่วนท่อนขาที่ถูกแยกออกมาจากศพ จะถูกผ่าเพื่อนำเอากระดูกออกมาแล้วนำไปทำความสะอาดจากนั้นก็ตากให้แห้ง ส่วนบริเวณสมอง สมองนั้นก็เอาออกมาจากกะโหลกทั้งหมด เมื่อทุกส่วนถูกทำความสะอาดหมดแล้วจึงนำมาต่อเข้าด้วยกัน โดยจะมีการเสริมแรงให้กับกระดูก ที่สอดเข้าไปที่เดิมอีกครั้งด้วยการผูกกระดูกเข้ากับไม้ ช่องว่างภายในร่างกายจะถูกอุดด้วยหญ้าแห้งและขี้เถ้า การประกอบส่วนต่างๆของมัมมี่จะนำ ส่วนทั้งหมดของร่างมาเรียงตามตำแหน่งเดิมและพอกด้วยขี้เถ้า เมื่อพอกทุกส่วนหมดแล้ว หนังที่ลอกไว้เมื่อช่วงแรกก็นำมาวางไว้ที่ตำแหน่งเดิม และต่อมาก็ทาร่างมัมมี่ด้วยสารสีดำที่ได้มาจากแร่แมงกานีส ส่วนใบหน้าจะถูกวาดขึ้นอย่างคร่าวๆ
แบบที่สอง จะไม่มีการแยกส่วนต่างๆของร่างออกมา เขาจะลอกหนังออกมากองตรงส่วนข้อเท้า(เหมือนม้วนถุงเท้าลงมาที่ข้อเท้า) และจะใช้มีดเฉือนศพออกเป็นแนวยาวควักเอาอวัยวะภายในออกมา แล้วก็นำร่างไปทำให้แห้งด้วยถ่านร้อนๆ และก็ทำแบบวิธีแรกโดยเอาไม้มาช่วยค้ำยันร่างไว้เหมือนกัน และเมื่ออุดช่องว่างของมัมมี่เรียบร้อยแล้วก็จะม้วนแผ่นหนังที่กองไว้ตรงข้อเท้ากับเข้าที่เดิม จากนั้นก็พอกด้วยขี้เถ้าและทาสารสีดำเช่นเดียวกับวิธีแรก เป็นอันเสร็จกับการทำมัมมี่แบบที่สอง จะเห็นว่ามัมมี่ชินคอร์โรถูกแยกเป็นส่วนๆ อย่างเห็นได้ชัด มัมมี่ชาวชินคอร์โรที่มีหน้ากากและมีการนำเส้นผมมาจัดวางให้ดูสวยงาม
ก็จึงนับได้ว่ามัมมี่ของชาวชินคอร์โร เป็นมัมมี่ที่มีอายุเก่ากว่ามัมมี่ของอิยิปต์โบารณอยู่เกือบ 3,000 ปี ซึ่งวัตถุประสงค์ของการทำมัมมี่ของทั้งสองนั้นมีความแตกต่างกันดังที่กล่าวมาแล้ว แต่ถ้าพูดถึงเรื่องความปราณีตและใช้วิทยาการที่สูงกว่าก็คงต้องนับให้มัมมี่แห่งอิยิปต์สมบูรณ์กว่ามาก แต่ก็นั่นแหละครับก็เกิดทีหลังตัง 3,000 กว่าปี และยังเป็นยุคที่เฟื่องฟูทั้งศิลปวิทยการหลายศาสตร์หลายแขนงในช่วงนั้นของอิยิปต์โบราณ ไม่แน่นะครับผมแอบคิดไปเรื่ือยว่า บางทีการทำมัมมี่ของอิยิปต์โบราณ อาจได้แนวคิดมาจากอารยธรรมที่อื่นก็เป็นได้ เพียงแต่มีวิธีทางการแพทย์ที่ดีกว่าจึงทำให้มัมมี่อิยิปต์อยู่ในสภาพที่สวยงามจนทุกวันนี้
และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวเล็กๆ น้องๆ ทางประวัติศาสตร์ที่อยากนำมาฝากกัน แล้วพบกันใหม่ครับ...mata
เรียบเรียงโดย พรชัย สังเวียนวงศ์ (mata)
ขอบคุณภาพจาก
http://youknowaround.blogspot.com/2012/10/chinchorro.html
http://patitta.wonglamsam.com/mummy/mummy08.htm
ขอบคุณข้อมูลจาก
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชง
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
ตำรวจแยกสอบ 2 เคส! “เวย์ ไทเทเนี่ยม” ถูกเหยื่อแจ้งความฉ้อโกง อ้างชื่อนักธุรกิจดังตุ๋นลงทุนหุ้นทิพย์ สูญกว่า 50 ล้าน
ปิดฉาก! มหากาฬฯ โบนัสพนักงาน “ไดกิ้น” คือ Get out
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
เพื่อนสนิทเปิดใจหลังเกิดเหตุ! เผย 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา' หลับไม่ตื่น-ไม่ขอตอบปมทะเลาะในวงเหล้า ขณะผลชันสูตรชี้ชัดพบ "ไซยาไนด์"
“ศุภจี” เฮ! ARASCO ซาอุฯ สั่งซื้อมันสำปะหลังอัดเม็ดเพิ่ม 3 หมื่นตัน ปีหน้าลุ้นพุ่งแตะ 1 แสนตัน
หาดใหญ่จมน้ำ รถลูกค้า ‘วิริยะประกันภัย’ ขอเคลมพุ่ง 3,800 คัน




