ชาวพุทธรวมตัวขับไล่มุสลิม จลาจลเมียนมาร์ลุกลาม
เหตุจลาจลที่เมียนมาร์ระหว่างชาวพุทธกับชาวมุสลิม ก็ยังคงลุกลามบานปลาย โดยล่าสุด ชาวพุทธจำนวนมากได้รวมตัวกันไล่ล่าชาวมุสลิม และขับไล่พวกเขาออกจากหมู่บ้าน ทำให้ชาวมุสลิมจำนวนมาก ตกอยู่ในภาวะอันตราย
ในค่ายผู้ลี้ภัย บางรายต้องซ่อนตัวอยู่ในบ้านพัก ไม่กล้าออกมาด้านนอก เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย โดยความรุนแรงในเมืองซิทควินนั้น เกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 แล้ว หลังจากที่กลุ่มชาวพุทธ ได้ใช้รถจักรยานยนต์กว่า 30 คัน ขี่ไปตามถนนต่างๆในหมู่บ้าน เพื่อขับไล่ชาวมุสลิมออกไป ขณะเดียวกัน ที่หมู่บ้านมินห์ลา ที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงกัน ก็เกิดการรวมตัวของชาวพุทธหลายร้อยคน ที่เดินขบวนไปทั่วหมู่บ้าน พร้อมกับเผามัสยิด และบ้านเรือนของชาวมุสลิมเสียหายทั้งหมด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชี้แจงว่า ชาวมุสลิมกว่า 2 ใน 3 จากจำนวนทั้งหมด 500 คน ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้ ได้อพยพออกไปแล้ว แต่อีกส่วนหนึ่งไม่มีทางเลือก ยังคงหลับซ่อนตัวอยู่ในบ้านพัก ท่ามกลางความกังวล ถึงความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
นอกจากปฏิบัติการกวาดล้างชาวมุสลิม ที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทางตอนกลางของเมียนมาร์แล้ว ในโลกโซเชียล มีเดีย อย่างเฟซบุ๊ก ก็มีการจัดทำแคมเปญรณรงค์ที่มีชื่อว่า "969 movement" ที่มีจุดประสงค์หลัก เพื่อการต่อต้านชาวมุสลิมที่อาศัยอยู่ในเมียนมาร์ ทำให้หลายฝ่ายแสดงความกังวลเป็นอย่างยิ่งว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ อาจนำไปสู่สงครามศาสนา ที่จะทำให้มีผู้เสียชีวิตจากความขัดแย้งเป็นจำนวนมาก
โดยก่อนหน้านี้ พลเอกเต็ง เส่ง ประธานาธิบดีของเมียนมาร์ ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ โดยประกาศอย่างชัดเจนว่า ทางการเมียนมาร์อาจใช้กำลังเข้าปราบปรามเหตุความขัดแย้งในครั้งนี้ หากพบว่า ผู้ก่อเหตุพยายามใช้ศาสนามาเป็นเครื่องมือในการยั่วยุปลุกปั่น ให้เกิดความแตกแยกภายในประเทศ สำหรับยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุจลาจลระหว่างชาวพุทธและมุสลิมรอบใหม่ในเมียนมา ร์ครั้งนี้ อยู่ที่ 42 รายแล้ว และมีชาวมุสลิมอีกนับหมื่นคน ที่ต้องไร้ที่อยู่อาศัย เนื่องจากบ้านเรือนถูกเผาทำลาย
ขอบคุณ
Voice tv