ชา 6 ชนิดที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
สาวๆคนไหนชอบดื่มชากันบ้างคะ? (ผู้เขียนขอยกมือด้วยว่าเป็นคนชอบดื่มน้ำชามากๆอีกคน) นอกจากรสชาติของน้ำชาที่เราหลงไหลกันแล้ว คุณผู้อ่านทราบหรือไม่คะว่าชายังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย (ชาในที่นี้ คือ ชาที่ชงใหม่ๆ ไม่เติมน้ำตาล ไม่ใช่น้ำชาสำเร็จรูปที่เติมน้ำตาลและแต่งรสชาติให้หวานมาขายบรรจุขวดพร้อมดื่มนะคะ) วันนี้ทางชุมชนผู้หญิงสุขภาพดีจึงมีเรื่องราวของชาที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมาฝากคุณผู้อ่านกันค่ะ
1. ชาดำ (Black tea)
ชาดำเป็นชาที่แพร่หลายมากที่สุดชนิดหนึ่ง เกิดจากการเอาใบชาสายพันธุ์ Camellia sinensis มาผ่านกระบวนการบ่มชา อบแห้ง และบดใบชา ชาชนิดนี้จะมีรสชาติขมเล็กน้อย และมีปริมาณคาเฟอีนมากที่สุดในบรรดาชาด้วยกัน (40 มิลลิกรัมต่อถ้วย) แต่ก็ยังน้อยกว่าในกาแฟค่ะ
ชาดำนั้นจะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น Theflavins, Thearubigins เป็นต้น ซึ่งจะมีส่วนในการช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดอีกด้วย มีการศึกษาพบว่า คนที่ดื่มชาดำประมาณ 3 ถ้วยต่อวัน จะมีโอกาสเกิดภาวะหัวใจวายเฉียบพลันลดลงถึง 21%
2. ชาเขียว (Green tea)
ชาเขียวนั้นจะมีกลิ่นที่หอมนุ่มนวลกว่ากลิ่นของชาดำ โดยจะมีปริมาณคาเฟอีนที่น้อยกว่าชาดำ คือ 25 มิลลิกรัมต่อชา 1 ถ้วย ชาเขียวนั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก เช่น สาร Catechins ซึ่งช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งและโรคหัวใจ มีการศึกษาพบว่าการดื่มชาเขียววันละ 1 ถ้วยจะลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเกี่ยวกับหัวใจได้ประมาณ 10% ค่ะ
3. ชาอูหลง (Oolong tea)
ชาอูหลงนั้นผลิตจากใบชาชนิดเดียวกับชาดำ แต่ผ่านกระบวนการบ่มใบชาที่สั้นกว่า ทำให้ได้รสชาติที่ดีกว่า ชาอูหลง 1 ถ้วยจะมีปริมาณคาเฟอีนประมาณ 30 มิลลิกรัม หลายคนเชื่อว่าชาชนิดนี้ช่วยในการลดน้ำหนัก เพราะสารในชาอูหลงนั้นจะช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ที่ทำหน้าที่ในการย่อยไขมันในกลุ่มไตรกลีเซอไรด์ มีการศึกษาหนึ่งพบว่าผู้หญิงที่ดื่มชาอูหลงจะมีอัตรการเผาผลาญพลังงานได้เร็วกว่าผู้หญิงที่ดื่มน้ำเปล่าเล็กน้อย
4. ชาขาว (White tea)
ชาขาวได้จากการเก็บใบชาตั้งแต่ยอดชายังอายุน้อยๆ ชาชนิดนี้จะมีกลิ่นอ่อนกว่าชาชนิดอื่นและมีปริมาณคาเฟอีนน้อยกว่า คือ ประมาณ 15 มิลลิกรัมต่อถ้วย พบว่าชาที่ชงจากใบชาใส่กาจะมีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าชาที่ชงจากชาที่อยู่ในถุงชาค่ะ
ประโยชน์ของชาขาวนั้นมีหลากหลาย ตั้งแต่ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งและโรคหัวใจเหมือนชาชนิดอื่นๆแล้ว พบว่าชาขาวอาจจะมีประโยชน์ช่วยป้องกันโรคเบาหวานอีกด้วย เพราะพบว่าผู้ที่ดื่มชาขาวเป็นประจำ จะมี Glucose tolerance ดีขึ้น (ความทนต่อการเพิ่มขึ้นของน้ำตาลกลูโคสในเลือด หรือพูดง่ายๆก็คือ ร่างกายสามารถปรับตัวให้มีการหลั่งอินซูลินออกมาควบคุมปริมาณน้ำตาลกลูโคสในเลือดได้นั่นเอง) และยังช่วยลดคอเลสเตอรอลได้อีกด้วยค่ะ
5. ชาอโรม่า/ชาแต่งกลิ่น (Aromatic tea, Flavored tea)
ชาอโรม่าก็คือ ชาที่นำผลิตภัณฑ์ที่ให้กลิ่นหอม เช่น ลาเวนเดอร์ อบเชย(ชินนามอน) เปลือกส้ม มาผสมกับใบชาต่างๆอาจจะเป็นชาดำ ชาขาว หรือชาเขียวก็ได้ ชาชนิดนี้อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระคล้ายกับในชาชนิดอื่นๆ และชาอโรม่าบางชนิดที่ผสมผลไม้บางชนิด เช่นชาบลูเบอร์รี่ ก็อาจจะยิ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้นได้
แต่ผลิตภัณฑ์ชาอโรม่าหรือชาแต่งกลิ่นนี้ ไม่แนะนำให้ทานแบบที่ชงสำเร็จบรรจุขวดมาขายนะคะ เพราะชาเหล่านี้มักจะใส่น้ำตาลในปริมาณมาก (น้ำตาลเยอะๆคงไม่ดีต่อสุขภาพแน่ๆ) และยังมีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระน้อยกว่าแบบชงเองถึง 20 เท่าด้วยค่ะ
6. ชาสมุนไพร (Herbal tea)
ชาสมุนไพรนั้นจริงๆแล้วไม่ใช่ชา งงกันหรือไม่ค่ะ เนื่องจากชาสมุนไพรนั้นทำจากผลไม้ ดอกไม้ และสมุนไพรตากแห้ง ไม่ได้มีส่วนผสมที่เป็นใบชาเลย (แต่เราก็ยังเรียกว่าชา เพราะวิธีการชงนั้นเหมือนกับการชงชาทั่วๆไปนั่นเอง) ชาชนิดนี้ไม่มีคาเฟอีน (เพราะอย่างที่บอกไปแล้วว่าไม่มีส่วนประกอบของใบชาอยู่เลย) แต่ไม่แนะนำให้ดื่มชาสมุนไพรยี่ห้อที่อ้างสรรพคุณว่าช่วยลดน้ำหนักนะคะ เพราะมีโอกาสสูงมากที่จะเจอชาที่ผสมยาระบายที่อาจเป็นพิษต่อร่างกายได้ค่ะ
ประโยชน์ของชาสมุนไพรนั้น ยังมีงานศึกษาวิจัยไม่มากนัก แต่ก็มีอยู่บ้างที่รายงานว่า การดื่มชาสมุนไพรจะช่วยทำให้ความดันเลือดลดลงในผู้ป่วยที่มีปัญหาความดันเลือดสูง ชาคาร์โมไมล์นั้นเชื่อกันว่าจะช่วยทำให้หลับสบายขึ้น และชาเปปเปอร์มินท์จะช่วยให้สบายท้องค่ะ
เคล็ดลับการชงชาให้อร่อยและได้คุณค่าจากชาที่สุด
หลายคนอาจจะคิดว่า ชงชาไม่เห็นจะยากอะไร แค่เอาใบชาใส่แล้วเอาน้ำร้อนเติมลงไป ซักพักก็ใช้ได้แล้ว แต่จริงๆไม่ใช่อย่างนั้นเสมอไป โดยเฉพาะการชงชาจากใบชา ไม่ใช่ชาที่อยู่ในถุงชงสำเร็จรูป จริงๆแล้วจะมีขั้นตอนการชงชาที่ทำให้ได้รสชาติที่ดีเยี่ยมที่สุด (ตอนผู้เขียนไปเที่ยวเมืองจีน โดนทัวร์ต้อนไปร้านขายใบชา ถึงได้รู้ว่าวิธีการชงชาที่ถูกต้องเป็นอย่างไร) เราจึงมีเคล็ดลับการชงชามาฝากคุณผู้อ่านเป็นการแถมท้ายด้วยค่ะ
- ปริมาณชาที่จะใช้ จะขึ้นกับรูปร่าง ลักษณะและคุณภาพของใบชา โดยมากจะใส่ประมาณ 25-30% ของความจุกาน้ำชา แต่ถ้าใครไม่ชอบรสชาเข้มข้นอาจจะลดปริมาณชาให้น้อยลงได้ค่ะ
- อุณหภูมิน้ำ น้ำจะชงชาเป็นน้ำร้อนแต่ไม่ใช่น้ำเดือดอุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียสเสมอไป ชาแต่ละชนิดจะใช้น้ำที่อุณหภูมิที่ชงไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับรูปร่างและชนิดของชา เช่น ชาที่มีใบกลมแน่น จะใช้น้ำที่อุณหภูมิ 90 องศาเซลเซียสขึ้นไป ชาที่มีใบเรียวเล็กหรือชาที่ยอดใบอ่อนเยอะอย่างชาขาว จะใช้น้ำที่อุณหภูมิ 80-90 องศาเซลเซียส ส่วนชาเขียวมักจะชงที่น้ำอุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียสลงไปเล็กน้อย
- กาน้ำชา กาน้ำชาที่จะทำให้ได้รสชาติของชาดีที่สุดคือ กาดินเผา หรือกาเซรามิค
- วิธีการชงชานั้น จะแนะนำให้เอาน้ำร้อนเทใส่กาชาไว้ และเทออก เพื่ออุ่นกาชาก่อน หลังจากนั้นจึงตักใบชาใส่ลงไปตามที่ต้องการ (โดยมาก 25-30% ของความจุกาชา) แล้วจึงเทน้ำร้อนลงไปประมาณครึ่งกา แล้วเทน้ำออกใน 5 วินาที (ขั้นนี้เป็นการอุ่นใบชา ไม่ต้องเสียดายน้ำนี้นะคะ) หลังจากนั้นจึงเทน้ำร้อนลงไปจนเต็มกา และปิดฝากาไว้ เทน้ำร้อนไว้ที่ฝากาเล็กน้อยด้วย (เพื่อเป็นการกักความหอมของชาไว้ในการไม่ให้ระเหยออกมาหมด) รอประมาณ 40-60 วินาที จึงรินชามาดื่มค่ะ
- ชา 1 กานั้น สามารถเติมน้ำเพื่อชงซ้ำได้ประมาณ 4-6 ครั้ง หรือจนกว่าความหอมของชาจะหมดไป และแต่ละครั้งควรเพิ่มระยะเวลาในการรอน้ำชาหลังจากเติมน้ำครั้งละ 10-15 วินาทีด้วยค่ะ
- การชงชาแต่ละครั้ง ควรรินน้ำชาให้หมดกาเสียก่อนจึงค่อยเติมน้ำร้อนลงในกาใหม่ ถ้าไม่รินน้ำชาเก่าออกให้หมด ชาจะเสียรสชาติ อาจมีรสขมหรือฝาดเพิ่มขึ้น และยังอาจทำให้ท้องผูกได้ด้วย
- ใบชาที่ชงเสร็จแล้ว อย่ารีบนำไปทิ้งนะคะ เราสามารถเอาใบชาที่ชงแล้วไปตากแห้งและนำมายัดหมอนที่นอนแทนนุ่น จะช่วยให้หลับสบายขึ้น หรือนำใบชาเหล่านี้ไปประกอบอาหารเมนูใหม่ๆเพื่อทานได้ด้วยค่ะ
ที่มา:
- http://www.realsimple.com/health/nutrition-diet/healthy-eating/types-of-tea-00100000068566/index.html
- http://www.theptarin.com/health/150605182853.pdf
- http://www.janyatea.com/detail/tea_method.html
- http://hakkapeople.com/node/162
ซ้ำขออภัยค่ะ
รูปประกอบ : อินเตอร์เน็ต
โซเชียลแห่แชร์ภาพ "ลิซ่า" ปรากฎตัวที่ "วัดเจดีย์หลวง" จ.เชียงใหม่..ถ่ายโปรโมตท่องเที่ยวไทย
คู่หมั้นผู้นำ "เนเธอร์แลนด์" หุ่นไม่ธรรมดา..ว่าที่บุรุษหมายเลขหนึ่ง
#ทายนิสัยจากกาแฟ: เดือนเกิดคุณเปรียบเหมือนกาแฟแก้วไหน? ทายบุคลิก ความรัก และการเงินจากเครื่องดื่มแก้วโปรด
Mind Day วันพักใจ หยุดพัก เพื่อดูแลสุขภาพจิตใจ
ปูมัณฑนาเดือด แจ้งความเพจอีป้าข้างบ้าน หลังพบเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนข้อเท็จจริง
นิสัย "ดาร์กๆ" ตามวันเกิด: สำรวจด้านมืดที่ซ่อนอยู่
แปรงลิ้น ทำไมต้องทำความสะอาด ลิ้น สำคัญกับช่องปากอย่างไร
แฟนนางงาม อื้ง! ณวัฒน์..ยอมยกมือไหว้
“หมวดอ๋อ” ขอแฟนแต่งงานในบรรยากาศโรแมนติก พร้อมโพสต์ภาพและข้อความประกาศข่าวดี
รวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ ส่วนข้อคิดประจำวันก็คือ อย่าหัวเราะถ้าพายุจะพัดไปประเทศใคร เพราะพายุมันอาจจะพัดเข้าประเทศตัวเองแทนก็ได้เด้อ ขอบคุณครับ
"เจนี่" เผยสถานะหัวใจกับ "เศรษฐีฮ่องกง"..ยอมรับมีคนคุย แต่ไม่พร้อมโฟกัสเรื่องรัก
เลขเด็ด "ทักษาพารวย" งวดวันที่ 16 พฤศจิกายน 68...อยากถูกหวย ส่องด่วน!
ทำไมไอดอลกรุ๊ป ถึงห้ามมีความรัก ห้ามถูกตัวผู้ชาย ทั้งที่มีกิจกรรมให้จบมือได้?
😁 ชวนเข้ามาลองดูภาพถ่ายที่ตั้งใจให้ดูธรรมดา แต่กลายเป็นว่ามันไม่ธรรมดาซะงั้น 😉
เขมรเรียกร้องให้ไทยปล่อยตัวเชลยศึกตามสัญญา
ปูมัณฑนาเดือด แจ้งความเพจอีป้าข้างบ้าน หลังพบเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนข้อเท็จจริง
“หมวดอ๋อ” ขอแฟนแต่งงานในบรรยากาศโรแมนติก พร้อมโพสต์ภาพและข้อความประกาศข่าวดี
คู่หมั้นผู้นำ "เนเธอร์แลนด์" หุ่นไม่ธรรมดา..ว่าที่บุรุษหมายเลขหนึ่ง


