หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

บทสรุปเนื้อเรื่อง RESIDENT EVIL 6 : ตอนที่4 -Ada Wong-

โพสท์โดย ~...No NamE...~

แคมเปญที่4ของบทสรุปเนื้อเรื่องไบโอ6โดยtaepoppuri แคมเปญสุดท้ายซะที ตอนนี้ก็จะพบกับ เอด้า!

อธิบายรอบสุดท้าย ในภาคนี้เนื้อเรื่องแบ่งออกเป็น4แคมเปญ คือ

1.ลีออน

2.คริส

3.เจค

4.เอด้า (ปลดล็อคโดยเล่นสามอันข้างบนจบหมด แต่เดี๋ยวก็จะมีแพทช์ทำให้เล่นได้ตั้งแต่แรกแล้ว ส่วนตัวไม่คิดว่าควรมีเท่าไหร่ เก็บไว้เล่นอันสุดท้ายแบบเดิมก็ดีอยู่แล้ว)

ในตอนนี้ก็จะเป็นตอนของเอด้าที่ไขปริศนาทุกอย่างในเกมเสียที เนื่องจากเอด้าเป็นสายลับประเภทลุยเดี่ยว จึงไม่มีคู่หูในการเดินทางครั้งนี้แต่อย่างใด(ปลายปีจะมีแพทช์ออกมาเพิ่มคู่หุให้เล่น แต่ก็เป็นแค่ทหารคล้ายๆHUNKตัวนึง ไม่มีบทบาทอะไร) ลุยคนเดียว บู๊คนเดียว คิดแผนคนเดียว เอาตัวรอดคนเดียว แถมยังพูดคนเดียวอีกด้วย - -" แอบดูเหมือนคนบ้าเล็กน้อย พูดคนเดียวทั้งเกม

มารู้จักกับเอด้ากันก่อนสำหรับคนที่ไม่เคยเล่นภาคเก่าๆ

เอด้า หว่อง

สายลับสาว(ภาคนี้ไม่ค่อยสาวเท่าไหร่แล้ว แต่หน้ายังเด้งอยู่)ผู้มีเชื้อสายจีน ปรากฏตัวครั้งแรกในภาค2 บทบาทที่น่าจดจำในภาคนั้นก็คือช่วยชีวิตลีออนเอาไว้ ก่อนตายก็ได้มีฉากโรแมนติคคิสกันนิดหน่อย แต่ปรากฏว่าเธอไม่ตาย รอดมาได้ หลังจากนั้นก็จะปรากฏตัวมาพบลีออนเป็นครั้งคราว ยามที่มีภารกิจพาดผ่านเกี่ยวข้องกัน ประวัติของเอด้านั้นล้วนเป็นปริศนา จุดมุ่งหมายก็ไม่รู้แน่ชัด แต่แฟนเกมนี้ก็จัดให้เธออยู่ในประเภทตัวเอกที่เป็นฝ่ายดีละกัน(ประมาณแอนตี้ฮีโร่) บางครั้งเธอก็หลอกใช้ลีออนเพื่อเป้าหมายส่วนตัว แต่ก็ไม่เคยปล่อยให้ลีออนตกอยู่ในอันตรายหากเธอช่วยได้

สรุปแล้วจะเชื่อใจได้หรือไม่ได้ก็ยังน่าสับสนอยู่ เป็นตัวละครที่ไม่ขึ้นกับใคร ไม่มีห่วงหรือภาระหน้าที่ ขึ้นกับตัวเองอย่างแท้จริง  มาภาคนี้ก็มาพร้อมกับสีแดงแรงฤทธิ์ประจำตัวและความสุขุมคล่องตัวฉลาดครบเครื่อง อาวุธพิเศษคือหน้าไม้ ทั้งยังมีปืนยิงสลิงสำหรับห้อนโหนโจนทะยานราวกับสไปเดอร์แมน

*ขอบคุณภาพประกอบจาก HassanAlHajry ชาเนลยูทูปที่อัพเดตเกมได้เร็ว เยอะ ชัด มีคุณภาพ ล่าสุดอัพแอสซาซินครีดสามตั้งแต่ต้นยันจบทั้งหมด50พาร์ทภายในสามชั่วโมง ณ วันที่เกมออก สุดยอดจริงๆค่ะคุณพี่

*หากผิดตรงไหนก็บอกกล่าวอันที่ถูก หรือใครอยากแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแง่มุมใด ตามสบายขรั่บ

-----------------------------------

ณ ใจกลางทะเลลึก ทางตอนเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติค หุ่นยนต์ตัวหนึ่งกำลังเปิดประตูเรือดำน้ำขนาดยักษ์ท่ามกลางความมืดใต้ทะเล 

Photobucket

เมื่อมันเข้าไปด้านในคนบังคับก็เผยโฉมออกมา เธอคือเอด้านั่นเอง  จากนั้นก็จะย้อนอดีตกันเล็กน้อยย้อนไปถึง เหตุผลที่เธอมาที่นี่

ในอดีตไม่นานมานี้ ขณะที่เธอหนีการไล่ตามอยู่ในคฤหาสถ์ เอด้าหลบเข้ามาในห้องแห่งหนึ่ง บนโต๊ะนั้นมีโทรศัพท์รูปลูกบาศก์วางตั้งอยู่อย่างเรียบร้อย ราวกับมีการเตรียมการมาแล้ว และแล้วโทรศัพท์นั้นก็จะดังขึ้น เธอหยิบมันขึ้นมา เมื่อกดรับสาย บนโทรศัพท์ก็ปรากฏใบหน้าของคนที่เธอเคยรู้จักขึ้นมา

"ซิมมอนส์?"

"เอด้า หว่อง"

"ไม่เจอกันนานนะ"

"ไม่ค่อยนานเท่าไหร่หรอก นายยังนิสัยขี้เล่นเหมือนเดิมนะ"

"หึๆ นิสัยเดิมมันเปลี่ยนกันยากนะ"

"ต้องการอะไร?"

"ผมได้ข้อมูลสำคัญบางเกี่ยวกับเกี่ยวตัวคุณมา มันน่าจะส่งผลกระทบกับอนาคตของคุณเยอะเชียวล่ะ"

"สนใจมั้ยล่ะว่ามันคืออะไร"

"ไม่เห็นจะอยากรู้สัดนิด"

และแล้วเมื่อวางสาย ซิมมอนส์ก็ส่งข้อมูลแหล่งที่ตั้งของเรือดำน้ำลำหนึ่งมาให้เอด้า เธอครุ่นคิดชั่งใจถึงคำท้าทายของซิมมอนส์ และในที่สุดเธอก็มาถึงเรือลำนั้นจนได้

"ว่าแล้วว่าคุณต้องอดใจไม่ไหว"

"ชั้นมาทีนี่ก็เพราะอยากรู้ว่านายวางแผนอะไรเอาไว้มากกว่า"

"ก็ดีแล้วนี่ เอาเลย"

"ขอบอกไว้ก่อนละกัน ว่าที่เลเวล4น่ะ ต้องอาศัยลายนิ้วมือถึงจะผ่านประตูไปได้ แต่ผมก็จัดการให้มันจำลายนิ้วมือของคุณเอาไว้เรียบร้อยแล้วล่ะ"

"นายมีลายนิ้วมือของชั้นเหรอ?"

"ไม่ใช่แค่เรื่องเล่นๆแล้วสินะ"

"หึๆ มีมากกว่าลายนิ้วมือคุณซะอีก เดี๋ยวคุณก็จะรู้"

"แค่นี้ล่ะ โชคดีนะ"

"ได้เลยซิมมอนส์ มาดูกันหน่อยสิว่านายปิดบังอะไรเอาไว้"

ระหว่างทางจะเจอทหารที่หน้าตาละม้ายคล้ายเอเลี่ยน (อันที่จริงคือจาโวใส่หน้ากาก) ดักเก็บมันไปตามทางเรื่อยๆ แต่แล้วทหารตัวหนึ่งก็จะยิงพลาดไปโดนถังแก๊สระเบิดทำให้น้ำทะลุเข้าเรือมา ก็เลยต้องหนีจากการจมน้ำตายก่อน แล้วก็จะดำมาโผล่ในห้องที่มีเสียงผ่านอินเตอร์คอมถามคำถาม ไม่เช่นนั้นจะไม่เปิดทองออกให้ เอด้าจึงบอกว่าเล่นด้วยก็ได้

"เมื่อหกเดือนที่แล้วคุณทำการทดลองกับมนุษย์ที่ประเทศอีโดเนีย "

"แม้จะเป็นคำสั่งของซิมมอนส์ แต่คุณก็เต็มใจจะทำสิ่งนั้นด้วยตัวเอง"

"คุณจะชดใช้ความผิดนั้นได้อย่างไร"

"ฟังดูน่าสนใจนี่ แต่ควรจะตรวจสอบความถูกต้องบ้างสักนิด"

"ชั้นไม่ได้ทำงานให้ซิมมอนส์"

"ชั้นไม่มีความผิดอะไรต้องชดใช้"

"ชั้นรู้เรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับตัวคุณนะ คุณหว่อง"

"ชั้นรู้ว่าคุณต้องการอะไร"

"โลกแห่งความวุ่นวาย"

"ใช่มั้ยล่ะ?"

"ถ้ารู้เรื่องเกี่ยวกับชั้นจริง"

"ก็ไม่เห็นต้องถามยืนยันความมั่นใจเลยนี่นา"

"แต่จะบอกให้ก็ได้ โลกแห่งความวุ่นวายเหรอ ไม่ได้อยู่ในทอปลิสต์ของชั้นหรอกนะ"

"แต่ถ้านั่นจะทำให้ซิมมอนส์เดือดร้อนล่ะก็ ชั้นอาจจะคิดดูอีกที"

"ตอบได้ดี เอาล่ะ คำถามสุดท้าย"

"เดี๋ยวสิ ตาชั้นถามบ้าง"

"แกเป็นใคร?"

"ไม่ใช่หน้าที่ของชั้นที่จะต้องมาตอบคำถามของคุณหรอกนะ เอาล่ะ คำถามสุดท้าย"

"คุณต่อสู้กับอะไร"

"อะไรก็ตามที่มาขวางทางชั้นยังไงล่ะ"

"แล้วไวรัสก็มักจะเป็นหนึ่งในนั้นเสมอ"

"ชั้นชอบคำตอบเธอ"

"เอาล่ะ เธอไปได้แล้ว ซิมมอนส์รอเธออยู่"

"ชั้นจะรอดูว่าเรื่องราวทั้งหมดจะคลี่คลายยังไง"

และแล้วเสียงปริศนาหายไป จากนั้นเอด้าจะหนีขึ้นมายังทางออกด้านบน(ด้วยลีลาห้อนโหนยิ่งกว่าทรินีตี้จากเดอะเมตริกซ์)

แล้วซิมมอนส์ก็จะต่อสายเข้ามาอีกครั้ง

"เจออะไรน่าสนใจบ้างมั้ย"

"รายงานเมื่อ6เดือนที่แล้วน่ะนะ"

"ก็คุ้มแล้วนี่นา"

"เป็นอะไรไป"

"ยังไม่เฉลียวใจอีกรึ"

"จะอธิบายให้ฟังก็แล้วกัน"

"พรุ่งนี้ สหรัฐจะถูกโจมตีจากการก่อการร้ายด้วยอาวุธชีวภาพ"

"ต่อจากนั้นก็ที่จีน แล้วถัดไป หัวเมืองใหญ่ทั่วโลกก็จะต้องเผชิญชะตากรรมเดียวกันหมด"

"ด้วยน้ำมือของ เอด้า หว่อง ผู้นำแห่งนีโออัมเบรลล่าไงล่ะ"

"หึ แล้วนายคิดว่าชั้นจะนั่งบื้ออยู่เฉยๆยอมเป็นแพะรับบาปของนายรึยังไงกัน ซิมมอนส์"

"หาเรื่องใส่ตัวซะแล้ว"

ระหว่างที่ฟังไปเอด้าก็จะปลดล็อคยานกู้ชีพไปด้วย เมื่อวางสายไปก็ทันเวลากับที่น้ำทะเลทะลักท่วมเข้ามาพอดี

เมื่อหนีออกมาได้ เอด้าก็มุ่งหน้าไปที่ห้องวิจัยของซิมมอนส์ซึ่งตั้งอยู่ที่โบถส์ของเมืองทอลล์โอคส์ ระหว่างทางเธอก็ได้เห็นสภาพของเมืองที่กำลังมีผู้ติดเชื้อลุกลามแพร่กระจาย และก็จะแอบเห็นลีออนกับเฮเลน่าด้วย เอด้าตกใจเล็กน้อยที่ลีออนเข้ามาพัวพันกับเรื่องยุ่งๆนี้ด้วย เอด้าได้แต่คิดในใจว่าหวังว่าเธอจะมีกึ๋นพอนะจ๊ะลีออน

จากนั้นก็ต้องฝ่าปริศนาและฝูงซอมบี้หน้าตาโบราณหงำเหงือกในสุสานชั้นใต้ดิน แล้วก็จะเจอเหตุการณ์ที่ลีออนและเฮเลน่ากำลังพยุงเดโบราห์เดิน แต่เดโบราห์ก็ต้านทานไวรัสในร่างไม่ไหวจนกลายร่างเป็นดักแด้ เอด้าที่เห็นแบบนั้นในระยะไกลก็เตรียมประทับหน้าไม้ และส่งลูกดอกไปปักเข้าหัวของปิศาจเดโบราห์ทันทีที่ฟักตัวออกมา

ลีออนรีบหันมาเผชิญหน้าแต่แล้วเขาก็ตกใจช็อคตาตั้งเมื่อพบว่าเจ้าของลูกดอกคือเอด้า แต่ก็ผิดสังเกตุเล็กน้อยว่าลีออนดูตกใจเกินกว่าที่ควรจะเป็น

"เป็นอะไร? ทำหน้าอย่างกับเห็นผีแน่ะ "

"เอด้า? นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?"

ถามแบบนี้จะให้เล่าหมดยังไงล่ะคุณพี่...เอด้าจึงตัดบทไป

"เรื่องมันซับซ้อนน่ะ"

เฮเลน่าที่วิ่งเข้ามาจ่อปืนใส่เอด้าก็ถูกลีออนห้ามไว้ เธอลดปืนลงและทรุดลงไปกองกับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรงและหมดกำลังใจในการสู้ต่อไป ทว่าฝุ่นผงก็ร่วงลงมาจากเพดาน พื้นกำลังจะถล่มลง

"เอาไว้ก่อนแล้วกัน ตอนนี้คงไม่เหมาะที่จะยืนคุยกันเท่าไหร่หรอก"

แต่แล้วเดโบราห์ที่ฟื้นสภาพขึ้นมาก็ทำให้พื้นถล่มลงจนได้ เมื่อตกลงไปข้างล่างเอด้าก็ก็จะส่งแหวนที่ใช้ในการแก้ปริศนาให้ลีออนและบอกว่า อย่าเข้าใจผิดล่ะ(ไม่ใช่แหวนหมั้นนะยะ) เดี๋ยวก็มีประโยชน์เองล่ะ  แล้วก็ต้องรับมือกับเดโบราห์ไปด้วยพร้อมๆกับที่ลงไปสู่ชั้นล่าง จนสุดท้ายเมื่อถึงลานโล่ง ก็ต้องสู้กับเดโบราห์อย่างเต็มรูปแบบ เอด้าบอกให้เฮเลน่าตัดใจและส่งให้น้องไปสบายซะเถอะ แต่เฮเลน่าก็ยังทำใจไม่ลง

จนสุดท้ายเมื่อสองพี่น้องลื่นไถลใกล้หล่นขอบเหว เฮเลน่าก็จับมือน้องของเธอเอาไว้และได้เห็นสภาพที่สูญเสียตัวตนของเดโบราห์อย่างใกล้ชิดเต็มสองตา ทำให้เธอตัดสินใจจะปล่อยให้น้องจากไปซะ แล้วเรื่องการแก้แค้นจะเป็นหน้าที่ของเธอเอง

"ชั้นจะจัดการมันแน่...มันต้องชดใช้"

เฮเลน่ากัดฟันพูดทั้งน้ำตาพร้อมนึกถึงเรื่องที่ซิมมอนส์จับน้องเธอมาเป็นตัวประกันบังคับให้เธอต้องร่วมมือในแผนชั่วนี้ด้วย เมื่อเธอเล่าให้ลีออนและเอด้าฟังจบ ลีออนก็จะเปรยขึ้นมาว่าซิมมอนส์ทำไปเพื่ออะไรนะ ส่วนเอด้าที่มีข้อมูลมากกว่าก็เริ่มจะประติดประต่อเรื่องราวได้มากขึ้น แต่ก็ยังมีเรื่องคาใจเธออยู่บางอย่าง เอด้าจึงขอแยกทางกับลีออนและเฮเลน่าก่อนเพื่อไปยังห้องทดลอง พร้อมกับที่มีโทรศัพท์เข้า ก่อนจะจากไปเธอก็เตือนให้ทั้งคู่ระวังซิมมอนส์ด้วย

แยกจากลีออนมาเสร็จเธอก็รับสาย...

"รู้สึกยังไงบ้างล่ะ หืม"

"นายก็มาหาชั้นสิจะได้เข้าใจเร็วขึ้น สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น"

"หึหึหึ ไม่ล่ะ"

"แต่มีอะไรที่ผมอยากจะให้คุณดูนะ"

"เรื่องสนุกๆอีกล่ะสิ"

"ไม่เชิงหรอกน่า แต่ก็คิดว่าคุณน่าจะได้ประโยชน์จากมันไม่มากก็น้อย"

"ไปที่ห้องทดลองสิ"

ไต่ขึ้นไปจนถึงชั้นบนก็จะมาถึงห้องทดลอง เธอสังเกตุว่าเพิ่งมีคนผ่านมาในห้องนี้เร็วๆนี้ ซึ่งก็คงจะเป็นลีออนนั่นเองที่เข้ามาทางโบถส์ด้านบนในตอนแรก

เอด้ากดเล่นเทปที่วางอยู่ มันฉายภาพการทดลองของโปรเจ็คต์ซี-ไวรัส ดักแด้ที่แตกตัว คายร่างของหญิงสาวออกมา เมื่อร่างทดลองนั้นเงยหน้าขึ้นมาสบตาเธอก็พบว่า..นั่นคือใบหน้าของเธอเอง แล้วก็ได้เห็นภาพของมือที่ใส่แหวนที่นิ้วโป้งลักษณะเดียวกับซิมมอนส์ ก่อนเทปจะจบลง

"....หืม เหมือนชั้นเด๊ะเลยนี่นา"

"มิน่าล่ะ ลีออนถึงได้งงซะขนาดนั้น"

และแล้วสายก็จะเข้าอีกครั้ง...

"ดูเทปสนุกดีมั้ย?"

"แน่นอน นอกจากสนุก ก็ได้รู้เรื่องราวแจ่มแจ้งซะที"

"คุณหมายความว่ายังไง?"

"แหม ถ้าชั้นพูดผิดจะขัดคอก็ได้นะ แต่ไอ้ที่อยู่ในเทปนั่นน่ะ"

"ก็คือเธอเองไม่ใช่รึไง?"

" 'เอด้า' เธอนั่นแหล่ะที่เป็นคนอยู่เบื้องหลังนีโออัมเบรลล่า"

"ผมไม่เข้าใจ... ว่าคุณพูดถึงอะไร"

"จะบอกอะไรให้นะ ซิมมอนส์ตัวจริงน่ะ ไม่โง่ขนาดแบไต๋ออกมาให้รู้ถึงขนาดนี้หรอกนะ"

"และอีกอย่าง ซิมมอนส์และก็แฟมิลี่ของเขามีหน้าที่ในการควบคุมดูแลโลกใบนี้ให้มันมั่นคงไปในทางที่พวกเขาต้องการ"

"แต่เธอน่ะ"

"ต้องการจะทำลายมัน"

เมื่อแผนการถูกเปิดโปง ก็ไร้ประโยชน์ที่จะต้องปิดบังอีกต่อไป 'เอด้า'อีกคนหนึ่งกล่าวรับข้อกล่าวหาด้วยน้ำเสียงแสนชิงชังที่แท้จริง

"...ใช่แล้ว"

"และโลกทั้งใบ"

"ก็จะโทษแกยังไงล่ะ"

เอด้าวางสายอย่างไร้เยื่อใย ได้เวลาเอาจริงเสียที เธอจัดแจงงัดระเบิดนับถอยหลังออกมาติดตั้งเพื่อทำลายห้องทดลองนี้ทิ้งซะ...

"อยากได้เรื่องสนุกๆสินะ"

"ขอมาก็จัดให้"

"จากเอด้า หว่องตัวจริงนี่แหล่ะ"

เมื่อตั้งทิ้งไว้เสร็จ เอด้าก็เดินทิ้งห้องทดลองนั้นไว้เบื้องหลังพร้อมกับต่อสายถึงซิมมอนส์ตัวจริง

"นั่นใครกันน่ะ"

"เพื่อนเก่าไง ซิมมอนส์"

"เอด้า หว่อง"

"เอด้า!?"

"ขอเข้าเรื่องเลยละกัน"

"ยัยตัวปลอมที่นายฟูมฟักขึ้นมานั่นน่ะ เพิ่งจะเปิดอกคุยกับชั้นเมื่อกี้"

"ว่าหล่อนอยากจะทำลายโลกนี้ทิ้ง"

"ว่าไงนะ!?"

เมื่อส่งข่าวเสร็จเธอก็วางสายทันทีเพราะขี้เกียจจะเสวนามากไปกว่านั้น

การต่อสู้ที่แท้จริงเริ่มขึ้นแล้ว

"สัญญาณออกตัวเริ่มดังสินะ"

"ดูซิ ว่าใครจะเข้าเส้นชัยคนแรก"

จุดหมายปลายทางสุดท้ายก็คือจีน ที่ๆเอด้าอีกคนหนึ่งวางแผนจะทำลายเมืองใหญ่เป็นอันดับแรก เมื่อไปถึงเอด้าก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากโจโวมือเลื่อยวิปริตทันที...

สู้กันบนทางรถไฟสักพัก เอด้าก็จะชิงจังหวะโหนสลิงหนีไปได้ ขณะที่พี่เลื่อยโดนรถด่วนชนเต็มแสกหน้ากระเด็นหายไป หลังจากนั่งกินลมในรถไฟสักพัก เอด้าก็จะดักฟังสัญญาณของหน่วยBSAAได้ ทำให้รู้ถึงที่อยู่ของเอด้าตัวปลอม จากนั้นก็โหนตัวออกมาเพื่อไปต่อตามทางบนยอดตึก และแล้วเธอก็จะสังเกตุเห็น...

"เชอร์รี่ เบอร์กิ้นส์?"

"ส่วนพ่อหนุ่มนั่นก็คือเจ้าของแอนติบอดี้ต้านไวรัสสินะ"

แต่แล้วก็จะเห็นพี่เลื่อยจอมโหดไปตามรังควานสองคนนั้นแทน

"ท่าทางจะพาตัวป่วนมาด้วย"

"เป็นตัวช่วยให้พวกเด็กๆหน่อยก็คงไม่เสียหายนะ"

แล้วเอด้าก็จะคอยยิงช่วยจากยอดตึก+มุมสูง ช่วยไปก็บ่นไปเล็กน้อย จนในที่สุดเมื่อเชอร์รี่จนมุม ใกล้จะโดนมือเลื่อยสับเป็นหมูบะช่อ เอด้าก็โหนตัวลงไปอุ้มเชอร์รี่มาโยนให้เจคด้วยความรวดเร็ว(เจ๊คะ เจ๊เป็นไบโอนิคคอมมานโดเหรอ โหนน้ำหนักตัวเอง+คนอีกคนด้วยมือข้างเดียว แขมไม่ล่ำเท่าเดอะร็อคไปแล้วเรอะเนี่ย)

เมื่ออยู่บนยอดตึกอีกครั้งเธอก็จะเห็นคริสและเพียร์สกำลังขับรถไล่ล่าเอด้าเก๊อยู่บนทางด่วนพอดี

"งานคืนสู่เหย้าแรคคูนซิตี้รึยังไงกันเนี่ย"

เมื่อเห็นทั้งคริสแล้วเธอก็อดจะคิดแบบนั้นไม่ได้ ดูเหมือนทุกคนที่เคยเกี่ยวข้องกับแรคคูนซิตี้จะมารวมตัวกันอยู่ที่นี่หมด เอด้ามองส่งท้ายเชอร์รี่และเจคก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อยและก็ไปต่อ

"แล้วเจอกันนะจ้ะ"

เมื่อมาถึงตึกที่เอด้าปลอมเข้าไปซ่อนตัวนั้น ระหว่างทางที่เดินขึ้นไปก็จะได้ยินเสียงเธอพูดโทรศัพท์กับซิมมอนส์ถึงเรื่องความเลวทรามของซิมมอนส์และการแก้แค้นของเธอ ทำเอาเอด้าสงสัยว่าซิมมอนส์ไปสร้างความแค้นอะไรให้เอด้าเก๊ถึงเพียงนั้นนะ และก็จะได้เจอคริสและเพียรส์แป๊บหนึ่ง ทั้งคู่ก็จะตะโกนให้เธอหยุดและพยายามจะจับเธอ (...คริสขาเพียร์สขา เมื่อกี้ยังไล่ไอ้คนเสื้อฟ้าอยู่แล้วทีนี้เสื้อคนละสี แต่งตัวคนละแบบ ไม่สงสัยอะไรบ้างหรือไง ถือคติจับไว้ก่อนสินะ) ทำเอาเอด้าต้องรีบหนี+บ่นว่าเข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว แต่ขี้เกียจจะอธิบาย

แล้วในที่สุดก็จะมาถึงห้องที่มีเบาะแส ในหีบที่กลางห้องเมื่อเปิดมาก็พบกับเทปอัดเสียง เป็นเสียงของซิมมอนส์ที่กำลังสั่งการให้นักวิจัยดำเนินงานทดลองสร้าง'เอด้า'ต่อไปอย่างไร้มนุษยธรรม เมื่อล้มเหลวก็หาตัวทดลองใหม่ ตัดต่อพันธุกรรมของผู้คนไปนับไม่ถ้วน

และสุดท้าย ตัวเลือกของซิมมอนส์ก็คือคาร์ล่า....คนสนิทของเขาเอง

เพียงเพราะเหตุผลที่ว่าเธอน่าจะมีโอกาสประสบความสำเร็จสูงแค่นั้นเอง... และเขายังกำชับให้นักวิจัยอย่าแพร่งพรายให้คาร์ล่ารู้ตัวก่อนว่าพวกเขาจะทำอะไร แล้วในที่สุด การทดลองก็เป็นผลสำเร็จ คาร์ล่าที่ถูกทดลองด้วยซีไวรัสเกิดใหม่ออกจากดักแด้ด้วยรูปลักษณ์ของเอด้า...ซิมมอนส์พร่ำพรรณนาอย่างปลาบปลื้มถึงความสมบูรณ์แบบของการทดลอง ถึงแม้เอด้าตัวจริงจะทิ้งเขาไป แต่ตอนนี้เขาก็ได้เอด้ามาเป็นของตัวเองแล้ว

"สุขสันต์วันเกิด.. เอด้า หว่อง"

เมื่อฟังเทปจบและได้ดูเอกสารทั้งหมด เอด้าก็เข้าใจที่มาที่ไปทั้งหมดเสียที ซิมมอนส์หลงใหลในตัวเธอจนทำการทดลองสร้างเธออีกคนขึ้นมาจนเป็นผลสำเร็จ และ คาร์ล่า ราดาเมซ คือตัวตนที่แท้จริงที่อยู่ใต้เปลือกร่างทดลองนั้น แม้เอด้าจะไม่คิดว่าเรื่องที่คาร์ล่าทำลงนั้นไปสมควรให้อภัย แต่เธอก็เริ่มจะเข้าใจถึงเหตุผลของการวางแผนของคาร์ล่าขึ้นมาบ้างแล้ว

ในหีบยังมีมีเบาะแสอีกอย่างคือโมเดลแท่งเหล็กที่สลักไว้ว่า"Quad tower" หรือหอคอยจัตุรัสซึ่งดูเหมือนจะมีหน้าที่แอบแฝงเป็นอุปกรณ์อะไรบางอย่าง หอคอยจัตุรัสเป็นตึกสูงที่สุดที่อยู่ใจกลางเมืองนี้ แต่แล้วเอด้าก็ได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์ เมื่อวิ่งออกมาดูก็จะจบว่าคาร์ล่าตกลงมาจากยอดตึกกระแทกพื้นเบื้องล่างแหลกเละน่าสังเวชใจ เอด้าจึงวิ่งตามลงไปดูที่พื้นด้านล่าง...

"เพราะความชิงชังซิมมอนส์"

"มันผลักดันให้เธออยากจะทำลายโลกที่แฟมิลี่ของเขาสร้างขึ้นใช่มั้ย"

ร่างของคาร์ล่าที่มีรูปลักษณ์ของเอด้าทอดกายแน่นิ่งไม่ไหวติง แม้ตอนตายยังต้องตายในฐานะของตัวตนที่สร้างขึ้นมา ...

"น่าเสียดายนะ"

"ถ้าเธอคิดวางแผนล้างแค้นแค่เจ้าหมอนั่นคนเดียว"

"ชั้นคงจะช่วยเธออีกแรง"

แต่แล้วร่างที่คิดว่าตายไปแล้วนั้นก็กระตุกและลืมตาเบิกโพลง

"ช่วยชั้นงั้นเรอะ"

"อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย!"

ร่างของคาร์ล่าดันทุรังลุกขึ้นยืนแม้นแขนขาจะบิดเบี้ยวผิดรูปเพราะกระดูกที่แตกหัก

"ชั้นนี่แหล่ะ"

"คือเอด้า หว่อง ตัวจริง!!"

"ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากใครทั้งนั้น"

"แผนของชั้นไม่ได้ล้มเหลว"

"มันกำลังจะเสร็จสมบูรณ์"

"อึกก.."

ของเหลวสีขาวจำนวนมากไหลออกมาจากร่างกายของเธอปกคลุมไปทั่วบริเวณ

"อีกไม่นาน สังคมนี้ก็จะล่มสลาย"

"หลังจากนั้น รู้มั้ยว่าโลกเราจะเป็นยังไง..."

"ไม่เหลืออะไรเลย!"

"โลกนี้จะกลายเป็นขุมนรก จะมีแต่ความยุ่งเหยิง"

"หึหึหึ"

"และชั้น เอด้า หว่อง"

"ก็จะเป็นราชินีแห่งโลกใบใหม่"

ร่างของคาร์ล่าละลายหายไปในกองของเหลวนั้น และเริ่มก่อตัวใหม่พุ่งเข้าโจมตีเอด้าที่หนีเข้าไปด้านในตึกและปิดประตูได้ทันพอดี

"ไม่อยากจะทำร้ายจิตใจหรอกนะ"

"แต่อย่างเธอ"

"ก็เป็นได้แค่ของเลียนแบบเกรดต่ำเท่านั้นล่ะ"

"ขอให้ไปสู่สุขคตินะ คาร์ล่า"

เธอกล่าวอำลาคาร์ล่าที่ตัวตนที่แท้จริงเลือนหายไปหมดแล้ว เหลือไว้แต่ความคิดที่เคียดแค้นชิงชังโลกใบนี้

จากนั้นก็จะต้องหนีจากคาร์ล่าที่กลายสภาพไปเป็นเมือกเหลวที่ก่อรูปทรงได้หลากหลายและค่อยๆแทรกซึมผนังเข้ามาโจมตีได้จากทุกด้าน จนเมื่อหนีไปถึงฐานจอดเฮลิคอปเตอร์ได้แล้วเอด้าก็ไม่ลังเลที่จะบังคับเครื่องมุ่งหน้าไปที่หอคอยจัตุรัสทันที ระหว่างทางก็จะสังเกตุเห็นเครื่องบินของคริสและเพียรส์ที่ออกตัวมาเช่นกัน

"ปล่อยให้พวกนั้นไปสะสางเรื่องของคาร์ล่าแล้วกัน"

"ส่วนชั้นต้องขอไปเคลียร์กับซิมมอนส์ก่อน"

เมื่อบังคับฮ.เข้ามาถึงในเมืองก็จะเห็นสภาพของเมืองติดเชื้อที่กำลังรุนแรงขึ้นทุกขณะ ขณะที่ขับผ่านนรกบนพื้นเบื้องล่างไปเรื่อยๆ เอด้าก็จะเห็นลีออนที่กำลังเดินโซซัดโซเซประคองเฮเลน่าอยู่

"ลีออน"

"เอาตัวรอดได้เสมอเลยนะ"

และแล้วเอด้าก็จะคอยช่วยยิงคุ้มกันลีออนจากบนเฮลิคอปเตอร์(ถ้าเป็นเรื่องจริง ไอ้กระสุนที่สาดไปไม่ยั้งจากเฮลิคอปเตอร์ เมื่อมีลูกหลงไปโดนลีออนกับเฮเลน่าก็คงทำให้ทั้งคู่ร่างพรุนไปแล้วแน่ๆ แต่ก็นะ เกมก็คือเกม สาดไปเร้ยย) ลีออนที่ได้ข่าวมาจากคริสว่าเอด้าตายไปแล้วก็สับสนไม่น้อย แต่ก็ต้องเอาตัวรอดจากฝูงซอมบี้ก่อน เอด้าที่ช่วยยิงก็จะบ่นเล็กน้อย

"นี่ชั้นกลายเป็นบอดี้การ์ดประจำตัวคุณไปแล้วรึเปล่าหืม? คุณเคเนดี้?"

และเมื่อเคลียร์ทางให้ลีออนกับเฮเลน่าได้หมดแล้ว เอด้าก็จะมุ่งหน้าไปยังหอคอยจัตุรัส ระหว่างทางก็จะเจอกับฝูงเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธพร้อมรบยิงขัดขวาง ราวกับไม่ต้องให้มีใครไปยังหอคอยนั้นได้ ยิ่งทำให้เอด้าสงสัยว่าตกลงแล้วคาร์ล่าซ่อนอะไรเอาไว้ที่นั่นกันแน่นะ หลังจากจัดการเหล่าเฮลิคอปเตอร์หมดแล้ว(...นี่ยิ่งกว่าแรมโบ้อีกมั้งเนี่ย คนเดียวกวาดเรียบ) ก็จะมาถึงหอคอยจัตุรัสเสียที ทว่าก็พบกับลีออนที่เผชิญหน้ากับซิมมอนส์อยู่

ซิมมอนส์พยายามก้าวเดินด้วยร่างกายที่สั่นกระตุก เมื่อเอด้าฉายไฟไปที่ตัวเขา ซิมมอนส์ก็ตะคอกออกมาอย่างสุดแค้น

"อั่กกก....!"

"ชั้นรู้...ว่า...แกทำ...อะ..ไร.."

"เอด้า!!!"

"แก...ขัดคำสั่งชั้นน..."

ซิมมอนส์รวบรวมคำพูดอย่างยากลำบากขณะที่ไวรัสในตัวกำลังทำปฏิกริยามากขึ้นเรื่อยๆ

"แก...พาตัวลูกชาย...ขะ..ของเวสเกอร์..ไป..."

"แล้วก็ใช้...เลือด..ของไอ้เด็กเปรตนั่น...!"

"ทำให้ไวรัสรุนแรงขึ้นน.."

ซิมมอนส์เข้าใจแผนการทั้งหมดแล้ว และระบายออกมาด้วยความเคียดแค้นต่อการทรยศของคาร์ล่า โดยไม่รู้ว่าคาร์ล่านั้นตายไปแล้ว ที่อยู่เบื้องหน้าเขาคือเอด้าตัวจริงต่างหาก

"อ๊ากกกกกกก!!!"

ร่างของเขาแปรสภาพอีกครั้ง กลายเป็นอาวุธชีวภาพขนาดใหญ่รูปร่างคล้ายไดโนเสาร์ และแล้วลีออน เฮเลน่า กับเอด้าก็จะงัดอาวุธทุกอย่างที่มีออกมาถล่มมัน แม้จะหวั่นใจไปกับขนาดร่างกายที่ใหญ่โต แต่สุดท้ายซิมมอนส์ก็ต้านทานพลังสามัคคีของเหล่าตัวเอกไม่ไหวจนล้มลงไป เมื่อปราบได้แล้ว เอด้าก็จะส่งสัญญาณให้ลีออนตามขึ้นมาที่ชั้นดาดฟ้า

ระหว่างเดินทางไปจอดเฮลิคอปเตอร์เธอก็จะทำภารกิจเป็นแม่นางแสนดีช่วยเหลือผู้ตกค้างบนยอดตึกเล็กน้อย และแล้วเมื่อถึงดาดฟ้าเอด้าก็ลงจอด พร้อมกับทิ้งหลักฐานที่มีประโยชน์บางอย่างไว้ให้ลีออน และยังให้ร็อคเก็ตลอนเชอร์ไว้อีก1กระบอกซะด้วย

(สังเกตดีๆ ที่ร็อคเก็ตลอนเชอร์จะมีรอยลิปสติกจุ๊บอยู่ด้วย 555) ลงจากฮ.แล้วหน้าที่ของสปายสาวก็ยังไม่จบ เธอรู้ว่าซิมมอนส์ยังไม่ตาย ถึงเวลาจัดการมันให้สิ้นซากไปเสียที ระหว่างที่ลงมาจากดาดฟ้าก็จะเห็นลีออนและเฮเลน่ากระโดดออกมาจากลิฟต์ที่กำลังระเบิด เอด้ายืนดูอยู่ซักพักจนแน่ใจว่าพวกนั้นปลอดภัยแล้วก็ไปต่อ จนเจอกับซิมมอนส์ที่ยืนรออยู่บนทางเชื่อมระหว่างตึก(ปีนขึ้นมาไวแท้)

"อยากถูกทำโทษเพิ่มรึไง นายนี่เป็นพวกไม่รู้จักพอจริงๆ"

ซิมมอนส์ที่กำลังคุ้มคลั่งก็จะโจมตีใส่ พร้อมด่า+พร่ำเพ้อเป็นชุด... แกมันไม่มีวันเพอร์เฟ็คเท่าเอด้าตัวจริง แต่ชั้นก็สร้างแกขึ้นมา ทุกๆตารางนิ้วของร่างกายของแกเป็นของชั้น แกต้องฟังคำสั่งชั้น เราทั้งคู่ถูกฟ้าลิขิตมาให้ปกครองโลกนี้เคียงข้างกัน อย่าขัดขืนเลย แกอยู่โดยไม่มีชั้นไม่ได้!!

เอด้ารำพึงออกมาว่าแกนี่มันน่ารังเกียจจริงๆ และชั้นก็ไม่ใช่หุ่นเชิดของแกหรอกนะ สิ่งเดียวที่ชั้นมีเหมือนคาร์ล่าก็คือความเกลียดชังที่มีต่อแกเท่านั้น กระนั้นซิมมอนส์ที่วีนแตกอยู่ก็ไม่ได้ยินอะไรทั้งสิ้น อีกฝั่งหนึ่งลีออนและเฮเลน่าที่ปีนมาถึงพื้นระดับเดียวกันอีกฝั่งก็จะช่วยยิงเสริมมาอีกแรง

"ขอบใจสำหรับความพยายามนะ แต่ชั้นดูแลตัวเองได้น่า ลีออน"

สู้ไปสักพัก พื้นก็ทำท่าจะถล่มลง เอด้าจึงโหนตัวหนีขึ้นไปยังทางเชื่อมด้านบนอีกอันหนึ่ง แล้วซิมมอนส์ก็จะเบนความสนใจไปที่ลีออนและเฮเลน่าแทน เอด้าจึงช่วยยิงไม่ให้ซิมมอนส์ไล่กวดลีออนและเฮเลน่าที่กำลังปีนสายสลิงของลิฟต์อยู่

ทว่าเอด้าก็ประมาทไปหน่อย ในขณะที่ยิงช่วยอีกสองคนอยู่นั้น ซิมมอนส์ก็หันมาแว้งกัด กระโจนใส่เอด้า ทำให้เธอกระแทกไปกระแทกพื้นอย่างแรงจนหมดสติไป ลีออนที่เห็นดังนั้นก็กระโจนวิ่งเข้ามาประคองเอด้าไว้ทันที

"เอด้า ได้ยินผมรึเปล่า!"

ลีออนพยายามเรียกเอด้าให้ได้สติคืนมาในขณะที่ซิมมอนส์ย่างสามขุมเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ

"ไม่เอาน่า! มันไม่จบแค่นี้หรอก"

"...ออกไปให้พ้นเธอซะลีออน!! แกมันไม่ได้เสี้ยวหนึ่งของผู้ชายที่คู่ควรกับเธอเลย!"

"มากับชั้นเถอะที่รัก.. เราจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไป!"

"ข้ามศพชั้นไปก่อนเถอะ"

"...ฟื้นสิ เอด้า"

"ถ้าคุณเป็นเอด้าที่ผมรู้จัก..."

"กับเรื่องแค่นี้ คุณต้องผ่านมันไปได้แน่"

"เราทั้งคู่..."

"ผ่านมันไปด้วยกันได้"

ซิมมอนส์ยิงกระสุนลำแสงสาดเข้าใส่ หมายจะโจมตีคนทั้งสอง แต่ลีออนก็โอบเอด้าเอาไว้และหลังหันเอาตัวบังปกป้องเธอไว้จากกระสุนเหล่านั้น

และเอด้าก็จะได้สติฟื้นขึ้นมา และพยายามชันกายขึ้นเพื่อสู้ต่อไป แม้จะร่างกายบอบช้ำจากการกระแทกพื้น แต่ก็ยังอยากจะพูดล้อเล่นเพื่อให้ลีออนรู้ว่าเธอไม่เป็นอะไร

"แค่พักสายตาเฉยๆน่า"

"หึ...งีบหลับตอนทำงานเนี่ยไม่ดีเลยนะ"

และแล้วทั้งคู่ก็จะร่วมมือร่วมใจกันจัดการกับซิมมอนส์ โดยมีเฮเลน่า(ที่ถูกลืม)ช่วยยิงมาจากระยะไกล

"น่าจะเห็นแล้วสินะ ซิมมอนส์เป็นพวกทำใจกับการโดนปฏิเสธไม่เป็นน่ะ"

"มีเรื่องในอดีตที่ผมควรจะรู้เพิ่มเติมมั้ยเนี่ย"

"ไม่มีเรื่องที่เป็นสาระหรอกน่า"

และแล้วลีออนก็จะเสียท่า ไถลไปจนเกือบตกขอบแต่ก็จับเอาไว้ได้ ซิมมอนส์จะเดินเข้ามาเหยียบขยี้มือลีออนเอาไว้แล้วบอกให้เค้าร้องขอชีวิต แต่ลีออนก็ปฏิเสธ

"ไม่ใช่ว่าอยากได้อะไรแล้วคนเราก็จะได้เสมอไปนะ ซิมมอนส์"

เอด้าหยิบลูกดอกออกมาแล้วเสียบเข้าเต็มๆที่สีข้างของซิมมอนส์ จากนั้นจึงลากร่างของซิมมอนส์ให้ร่วงหล่นลงไปในกองเพลิง แล้วตนเองก็โหนสลิงหนีไป

"ใกล้ชิดกันนิดหน่อยเป็นการส่งท้ายแล้วกัน"

"นายน่าจะหัดทำใจแล้วไปต่อซะบ้างนะ"

ซิมมอนส์ที่ถูกไฟแผดเผาร้องโหยหวนอยู่ที่เบื้อง เอด้าที่กระโดดลงไปที่ตึกอีกฝั่งหนึ่งมองกลับมาที่ลีออนด้วยสายตาอ่อนโยน ลีออนก็มองตอบเช่นกัน ในแววตาของเขาแฝงไปด้วยความสงสัยจากคำถามมากมายที่เขามีต่อเธอ

"น่ารักจัง"

"คงจะจับต้นชนปลายไม่ถูกเลยสินะลีออน"

เอด้ากดส่งข้อความจากมือถือไปให้ลีออนแทนคำพูด

"....เห็นเธอสับสนแบบนี้ก็สนุกไปอีกแบบ"

จากนั้นเธอก็โบกมือลาแล้วเดินจากไป...โดยไม่หันหลังกลับแม้ลีออนจะเรียกเธอก็ตาม

เดินมาจนถึงห้องทดลองแหล่งสุดท้าย ความลับของการทดลองครั้งสุดท้ายของคาร์ล่า เอด้าใช้โมเดลเห,้กที่เอามาด้วยในการปลดล็อคระบบข้อมูล หน้าจอแสดงผลทำงานขึ้น และเล่นเสียงที่บันทึกเอาไว้ในอดีต

มันเป็นเสียงของคาร์ล่าที่บันทึกไว้ขณะทำการทดลองหลังจากเธอตัดสินใจทรยศซิมมอนส์....

"นี่ก็ล้มเหลว..."

"ไปเอาตัวทดลองใหม่มา"

"มีคนอีกเป็นพันๆให้เลือกใช้ ไปเอามาซะ"

"บอกเขาไปว่าชั้นกำลังยุ่งอยู่ มันใกล้จะสำเร็จแล้ว"

"แกจะขัดคำสั่งชั้นเหรอ"

"หรือว่าจะเป็นแกเอง ที่เป็นคนเลือกชั้นให้เป็นร่างทดลอง"

น้ำเสียงของเธอเปลี่ยนไป จากโหดเหี้ยมเย็นชากลับกลายเป็นน้ำเสียงที่แฝงความเคียดแค้นชิงชัง 

"เปล่า ไม่ใช่นะ! ซิมมอนส์สั่งผมมา อย่า อย่าทำผมเลย อย่า..."

"หึ เชื่อมั้ย?"

"ในตอนนั้น"

"ชั้นก็ขอร้องแบบนี้เหมือนกัน"

"..."

"สำเร็จแล้ว"

"ผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดของชั้น "

หน้าจอดับลงเมื่อฉายภาพและเสียงที่บันทึกไว้จนหมด เอด้าเดินต่อไปด้านในจนพบกับดักแด้ในหลอดทดลอง มันคือร่างทดลองที่คาร์ล่ากล่าวถึงเมื่อครู่ และแล้วดักแด้ก็จะเริ่มแตกตัวออก มือของสิ่งมีชีวิตที่มีรูปร่างเป็นมนุษย์เริ่มยื่นออกมา....

"แบบนี้ไม่ใช่แค่น่าสมเพชแล้วล่ะ"

แม้ว่ามันจะยังมีส่วนที่เป็นมนุษย์อยู่ แต่การใช้ชีวิตเป็นเครื่องมือของใครบางคน เป็นร่างทดลอง ก็ไม่ตายอะไรกับตายไปแล้ว

...ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไร มีหน้าตาเหมือนเธอหรือไม่

... ไม่ว่ามันจะเคยเป็นใครมาก่อนก็ตาม

แต่เอด้าก็ตัดสินใจจะไม่ปล่อยให้มันได้ออกมาเผชิญโลกภายนอกอีกต่อไป..

"มันเกินขีดจำกัดของมนุษยธรรมไปแล้ว"

เธอกราดยิงใส่ดักแด้ที่กำลังฟักตัวนั้น และส่งกระสุนไปทำลายข้อมูล อุปกรณ์ทั้งหมดในห้องนั้น ยิงจนหมดลูกกระสุนแล้วก็บรรจุมันเข้าไปใหม่ เอด้ายิงต่อไปอย่างยาวนานราวกับมันจะช่วยระบายความโกรธแค้นของเธอ

ในที่สุด...ทุกอย่าก็ถูกทำลาย เปลวไฟเริ่มลามเลียไปยังซากชิ้นส่วนและอุปกรณ์ต่างๆที่เสียหายกระจัดกระจาย

สุดท้าย เอด้าก็มองไปยังภาพของซิมมอนส์และคาร์ล่าที่อยู่บนโต๊ะ... บุคคลทั้งสองที่เป็นต้นตอของเรื่องทั้งหมด ต้นเหตุที่ทำให้ต้องมีคนตายไปมากมาย และหลายๆคนก็สูญเสียบางอย่างไปอย่างที่ไม่อาจจะเอาคืนมาได้อีก เธอโยนโทรศัพท์ลูกบาศก์ใส่ภาพนั้น เธอไม่ต้องต้องการมันอีกแล้ว

และแล้วเอด้าก็เดินจากมา ทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลังในกองเพลิง และแล้วโทรศัพท์อีกอันของเธอก็จะดังขึ้น...

"มีงานใหม่เหรอ"

เธอเหลือบไปมองเบื้องหลังเป็นครั้งสุดท้าย....

"ได้สิ"

"ตารางงานชั้นเพิ่งจะว่างเดี๋ยวนี้เอง"

หน้าที่ของเธอในภารกิจนี้...

สิ้นสุดลงแล้ว

THE END.

 -----------------------------------

บทส่งท้าย

ในประเทศที่มีภูมิอากาศแห้งแล้งคล้ายตะวันออกกลาง ในบ้านหลังเล็กๆหลังหนึ่ง ร่างในชุดคลุมกำลังคุยกับเด็กน้อย...

"เราตกลงกันไว้แล้วใช่มั้ย"

เมื่อได้ยินคำทวงถามเช่นนั้น เด็กชายจึงรีบหยิบแอปเปิ้ลออกมาส่งให้ชายในชุดคลุมทันที

ที่ด้านนอกมีเสียงของสัตว์ประหลาดดังแว่วมา ชายคนนั้นจึงเปิดประตูออกมาประจันหน้ากับเหล่าอาวุธชีวภาพจำนวนมาก..

"คุณจะรักษาคำพูดใช่มั้ย"

เด็กน้อยถามด้วยความกลัว

ชายคนนั้นโยนผ้าคลุมทิ้งไป

เขาคือ เจค มัลเลอร์

เจคกัดแอปเปิ้ลอย่างสบายอารมณ์ ก่อนจะให้คำมั่นกับเด็กน้อย

"สัญญาต้องเป็นสัญญา เจ้าหนู"

THE END.

 -----------------------------------

ทิ้งท้าย...

-ภาคนี้ได้เห็นบทบาทของเอด้าเยอะมากกว่าภาคเก่าๆ เนื้อหาที่ได้เล่นในมุมมองของเธอก็ลึกซึ้งกว่าภาคที่แล้วมามาก แฟนๆเอด้าก็คงจะถูกใจกัน

-ได้เห็นเอด้าโกรธแบบจริงๆจังๆเป็นครั้งแรก แต่กระนั้นนิสัยโดยรวมก็ถือว่าเป็นตัวละครที่สุขุมเยือกเย็นที่สุดแล้ว ไม่มีเกรียนแตกหรือพลังคุณธรรมพลุ่งพล่านจนตัดสินใจอะไรโง่ๆแบบตัวเอกทั่วไป

-ผลก็คือเวลาดำเนินเรื่องด้วยเอด้าจะไม่ค่อยรู้สึกขัดใจเท่าไหร่ ฉลาดทันตัวร้ายดี เป็นสปายสาวมาดเฉียบนิ่งอย่างแท้จริง

-คนที่ยิงคาร์ล่าก็คือแฟมิลี่ อย่างที่รู้กันในเนื้อเรื่องคือแฟมิลี่นั้นแอบควบคุมแทรกแซงการปกครองโลกนี้มานานเพื่อให้เป็นไปตามทางที่เอื้อประโยชน์ต่อตนเอง เมื่อรู้ว่าคาร์ล่าทรยศ ก็ส่งคนมาเก็บ (แต่งงๆว่าทำไมมันรู้ช้าจัง - -")

-บทส่งท้ายที่เห็นเจค ทำเพื่อเอื้อไปต่อภาคหน้าแน่นอน แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นภาคหลักหรือภาคสปินออฟ

-ซิมมอนส์เป็นคนวางแผนสร้างความวุ่นวายที่ทอลล์โอคส์เพื่อกำจัดประธานาธิบดี แต่เอ๊าท์เบรคที่จีนและอาวุธชีวภาพเฮลอสเป็นแผนของเอด้าที่จะล้างโลก

-ในช่วงแรกหลังจากที่คาร์ล่าออกมาจากดักแด้ในสภาพของเอด้า เธอมีความทรงจำปลอมๆที่ซิมมอนส์ล้างสมองไว้และจงรักภักดีเค้าทุกอย่าง แต่ในใจเธอกลับมีเสียงร่ำร้องว่าให้แก้แค้นๆๆ จนเมื่อเธอได้ความทรงจำเดิมคืนมาและค้นหาความจริงจนพบว่าซิมมอนส์ไม่ได้รักเธอหรือเห็นความสำคัญของเธอเลย คาร์ล่าก็ตัดสินใจทรยศซิมมอนส์

-ตอนแรกกะจะเขียนสรุปพล็อต+ประเด็นที่น่าสนใจ+ฉากประทับใจอีกที แต่ไม่ทำแล้ว กินเวลามากกว่าที่คิด -__-" 

 

เนื้อหาของ  RESIDENT EVIL 6 ก็จบลงเพียงเท่านี้ (แปะๆ) ส่วนตัวคิดว่าเป็นภาคที่เนื้อหาครบทุกรสชาติมากที่สุดแล้ว 

ยังมีประเด็นที่สนุกน่าสนใจและเนื้อหาบางส่วนที่อยู่ในไฟล์เอกสารที่เก็บในเกม แต่เราก็คงจะไม่เขียนถึงแล้วอย่างที่บอกไป ใครสนใจก็ลองไปอ่านเล่นๆกันดูได้ที่ http://projectumbrella.net/articles/files

 

ป.ล.เจอกันใหม่เกมหน้าค่ะ ยังไม่รู้ว่าเกมไหน...แต่ลิสต์เกมที่จะเล่นแน่ๆต้นปีหน้าก็คือ DMC-devil may cry- และ Metal Gear Rising:Revengeance ก็คงจะมารีวิว เขียนสรุปเนื้อเรื่อง แปลบทสนทนาเหมือนเคย 

ป.ล.2 Okami แบบรีมาสเตอร์ฟูลเฮชดีออกแล้ว มีความสุขมากมาย เกมขึ้นหิ้งในใจเราเลยนะเนี่ยเกมนี้ เนื้อหาดี ภาพสวย ระบบเยี่ยม

ป.ล.3 สรุปเนื้อเรื่อง13-2ที่เหลือ และของดาร์คโซล ...ที่หายไปกับสายลม เขียนดองไว้นานละ นี่เปิดเทอมอีก ดองต่อ .... เค็มได้ที่แล้วจะเอามาปล่อยผี

ที่มา:
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
~...No NamE...~'s profile


โพสท์โดย: ~...No NamE...~
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
52 VOTES (4/5 จาก 13 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่งวิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569เจาะสถิติสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี (งวด 2 มกราคม)รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่ทหารไทย ยึดฐานกัมพูชา เจอถุงยางเกลื่อนฐานไทยซื้อระบบป้องกันทางอากาศใหม่ !เจาะลึกเลขเด็ดสำนักดัง งวดประจำวันที่ 2 มกราคม 2569สยายปีกรับทรัพย์! เลขเด็ด "นกตาทิพย์" แนวทางรวยงวดใหม่ 2 มกราคม 2569ทำไมกวางเรนเดียร์ของซานตาคลอสถึงอาจเป็น "ตัวเมีย" ทั้งฝูงฝันร้ายที่ซ่อนอยู่หลังกล้องในวงการหนังผู้ใหญ่ปิดฉากบทบาทนักการเมือง! "นอท พันธ์ธวัช" ย้ำชัดลาออกพรรคเปลี่ยน พร้อมประกาศจุดยืนไม่หนุนฝ่ายใดช่องอานม้าแตก! ทหารไทยรุกยึดบังเกอร์ ปักธงชาติคืนพื้นที่
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ทหารไทย ยึดฐานกัมพูชา เจอถุงยางเกลื่อนฐานชาวเขมร "จุดธูปกลับหัว" สาปแช่งให้ระบอบฮุนเซนพินาศ🎄ดราม่าต้นคริสต์มาสสนามบินลังกาวี! ชาวเน็ตมาเลเซียวิจารณ์ยับ หน้าตาคล้าย “กองอุจจาระ” จนกลายเป็นไวรัลสะเทือนโซเชียลทภ.2 แฉภาพจรวด BM-21 เขมร ถล่มบ้าน-ชุมชน-วัด-โรงเรียน-รพ.ป้าฟันต้นมะม่วงแก้วขมิ้นเพราะเกลียดเขมรที่ทำร้ายคนและทหารไทย ยอมรับความเกลียดและอยากให้ทหารจัดการเรื่องนี้เร็วๆปิดฉากบทบาทนักการเมือง! "นอท พันธ์ธวัช" ย้ำชัดลาออกพรรคเปลี่ยน พร้อมประกาศจุดยืนไม่หนุนฝ่ายใด
ตั้งกระทู้ใหม่