บทสรุปเนื้อเรื่อง RESIDENT EVIL 6 : ตอนที่3 -Leon S. Kennedy-
แคมเปญที่3ของบทสรุปเนื้อเรื่องไบโอ6โดยtaepoppuri ถึงตาของลีออนที่หลายๆคนรอคอยเสียที
อธิบายอีกครั้ง ในภาคนี้เนื้อเรื่องแบ่งออกเป็น4แคมเปญ คือ
1.ลีออน
2.คริส
3.เจค
4.เอด้า(ปลดล็อคโดยเล่นสามอันข้างบนจบหมด)
โดยเรื่องราวจะเกิดขึ้นพร้อมๆกัน บางทีตัวละครก็จะมาเจอกันในที่ต่างๆระหว่างเคลียร์เรื่องราวของตัวเอง แต่หลักๆแล้วก็จะโฟกัสเนื้อเรื่องไปที่จุดต่างกัน ฉากจบก็คนละแบบ แนวเนื้อเรื่องก็คนละอารมณ์ อยากจะเข้าใจให้ครบถ้วนหรือได้อรรถรสเต็มที่ก็ต้องเล่นทั้ง4แคมเปญ
ในเนื้อเรื่องของลีออนนี้จะเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับพล็อตหลักมากที่สุดจนชวนให้คิดว่ามันต้องแต่งเรื่องของแคมเปญนี้ก่อนแน่ๆ... แต่บทที่จะเฉลยเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นของเอด้า ซึ่งถ้าไม่อยากงงก็ต้องรอติดตามกันต่อไป
อันที่จริงก็ทำมาตั้งกะแคมเปญคริสแล้ว คือถ้าบทสนทนาหรือเนื้อเรื่องจุดไหนมันซ้ำกันกับตัวอื่นเพราะตัวละครมาเจอกันพอดี ก็จะไม่ได้เล่าตรงนั้นละเอียด ให้อ่านเอาที่แคมเปญที่เขียนไปก่อน นะจ๊ะ ยกเว้นแต่ว่ามันเป็นจุดสำคัญของทั้งสองแคมเปญ ก็จะเล่าละเอียดซ้ำอีกที (บางทีเหตุการณ์เดียวกัน เป็นจุดไคลแมกซ์ของตัวละครนึง แต่เป็นฉากกลางๆของอีกตัวละครนึงก็มี)
เริ่มด้วยแนะนำตัวเอกสองตัวในแคมเปญ
ลีออน สก็อตต์ เคเนดี้
ตัวเอกที่เป็นที่เชิดหน้าชูตาของซีรีย์ ไปโผล่ทั้งในเกม หนัง ภาพยนตร์ ด้วยอุปนิสัยเจ้าสเน่ห์บวกกับฝีมือบู๊ระดับพระกาฬทำให้มีแฟนๆตรึม และแคปคอมก็ขยันจะเข็นไตเติ้ลที่มีลีออนนำแสดงเพื่อออกมาดูดเงินแฟนๆเช่นกัน...
บทบาทที่โดดเด่นก็อาทิ เป็นตัวเอกในภาค2และภาค4 นับจากการเป็นตำรวจมือใหม่ในภาคสอง มาบัดดี้ลีออนที่มีอายุ36ปีก็เป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยD.S.O.(หน่วยปฏิบัติการด้านความมั่นคงแห่งชาติ)ของอเมริกา หน้าที่หลักขององค์กรก็คือสืบสวนสอดแนมและปราบปรามการก่อการร้ายด้วยอาวุธชีวภาพ
ลีออนได้รับการฝึกฝนให้ใช้อาวุธทุกประเภท ประกอบกับที่เขามักต้องตกอยู่สถานการณ์อันตรายบ่อยๆก็ทำให้เขามีสกิลในการเอาตัวรอดสูงกว่าเอเจนท์ธรรมดาทั่วไป จุดอ่อนคือการขับยานพาหนะที่ขับที่ไรก็คว่ำทุกที จนควรจำไว้ว่าอย่าขึ้นอะไรก็ตามคันเดียวกับเฮียแก อาวุธพิเศษในภาคนี้ก็คือการใช้ปืนคู่
เฮเลนา ฮาร์เปอร์
เอเจนท์มือดีจากUSSS(องค์กรปฏิบัติการลับของสหรัฐอเมริกา) แม้จะอายุเพียง24ปีแต่ฝีมือในการทำงานของเฮเลน่าก็โดดเด่นจนฮันนิแกน(เจ๊โอเปอเรเตอร์จากภาค4นั่นแหล่ะ)เล็งเห็นแวว และส่งรายชื่อเข้าเป็นหนึ่งในผู้สมัครเข้าหน่วยD.S.O.
เธอเป็นคนรักในคุณธรรมเชื่อมั่นในความถูกต้อง แต่ก็มีจุดอ่อนที่นิสัยในการทำงานที่มักจะใช้อารมณ์ส่วนตัวขณะปฏิบัติหน้าที่ เธอเคยใช้กำลังรุนแรงกว่าเหตุกับผู้ต้องสงสัยว่าเป็นฆาตกรจนต้องถูกพักงานไป และเคยยิงใส่แฟนหนุ่มของน้องสาวที่ลงมือตบตีทำร้ายน้องของเธอ
เหตุการณ์เหล่านี้ทำให้โอกาสในการก้าวหน้าทางอาชีพของเธอชะงักลง ญาติที่เหลือเพียงหนึ่งเดียวของเธอคือ เดโบราห์ น้องสาวที่อายุห่างกัน4ปี แม้นิสัยและลักษณะการใช้ชีวิตจะแตกต่างกัน แต่เฮเลน่าก็รักน้องสาวของเธอมาก และอยู่ด้วยกันแค่สองพี่น้องมาตลอด
เฮเลน่าเชี่ยวชาญทั้งอาวุธปืนและการต่อสู้ประชิดตัว อาวุธพิเศษของเธอคือ ไฮดร้า ชอตกันที่สามารถใช้ควิกชอตยิงติดต่อกันสามนัดด้วยท่าพิเศษประจำตัวได้
รู้พื้นเพสองตัวเอกแล้วก็ไปลุยกันเลย!
*ขอบคุณภาพประกอบจาก HassanAlHajry ชาเนลยูทูปที่อัพเดตเกมได้เร็ว เยอะ ชัด มีคุณภาพ เก๋กู้ดสุดๆ
*หากผิดตรงไหนก็ช่วยท้วงติง หรือใครอยากแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแง่มุมใด ก็เชิญเลยพ่อแม่พี่น้อง
-----------------------------------
เปิดฉากที่มหาวิทยาลัยทอลโอคส์ ในห้องๆหนึ่ง ลีออนกำลังเล็งปืนไปยังผู้ติดเชื้อที่กำลังกินซากศพของเหยื่อ ผู้ติดเชื้อซึ่งเคยเป็นเพื่อนสนิทของเขาเอง ลีออนนึกเรื่องที่พวกเขาเพิ่งคุยกันไม่นานมานี้ ประธานาธิบดีตัดสินใจจะเปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่แรคคูนซิตี้เมื่อ15ปีก่อนให้ชาวโลกได้รับรู้
แม้มันอาจจะทำให้ความน่าเชื่อถือของสหรัฐลดถอยลงไปก็ตาม แต่มันก็เป็นจุดเริ่มต้นในการรวมกำลังต่อต้านและปราบปรามการก่อการร้ายด้วยอาวุธชีวภาพ การสนทนาครั้งนั้นจบลงที่ประธานธิปดีบอกเขาว่า ผมขอบคุณในมิตรภาพที่คุณมีให้ผมเสมอนะ ลีออน ....
แต่ ณ เวลานี้ท่านประธานาธิบดีกลับกลายเป็นศพเดินได้ และกำลังย่างสามขุมไปยังผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ในห้องนั้นเช่นเดียวกัน
"หยุดอยู่ตรงนั้น ท่านประธานาธิบดี"
"อย่าให้ผมต้องยิงเลย"
"ฮึก...."
"อดัม!"
ลีออนเรียกชื่อเพื่อนสนิทเป็นครั้งสุดท้ายและฝังกระสุนเข้าที่ขมับของประธานาธิบดีอย่างแม่นยำ ก่อนที่อดีตเพื่อนรักของเขาจะกระโจนเข้ากัดกินผู้หญิงคนนั้น ร่างของประธานาธิบดีกระเด็นไปกระแทกพื้นและแน่นิ่งไป เลือดที่ไหลรินและรอยแผลข้างกระโหลกบ่งบอกว่าเขาตายแล้วอีกครั้ง
"ชั้น...ผิดเอง"
"นี่เป็นความผิดของชั้นเอง"
"คุณหมายความว่าไง"
เธอเก็บปืนเข้าซอง เช็ดน้ำตาและครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะตอบว่า
"....โบสถ์ของทอลโอคส์ ชั้นจะอธิบายทุกอย่างให้คุณฟังที่นั่น เจ้าหน้าที่เคเนดี้"
"คุณรู้ชื่อผมได้ไง
ทันใดนั้นก็มีโทรศัพท์เข้ามา ผู้ติดต่อไม่ใช่ใครอื่นไกล ฮันนิแกนนั่นเอง
"ดีใจจริงที่พวกคุณสองคนปลอดภัย"
"ฮันนิแกน?"
"เธอสองคนรู้จักกันเหรอ?"
"ลีออน เธอคือเฮเลน่า ฮาร์เปอร์ สมาชิกคนหนึ่งของUSSS "
"สถานการณ์ฝั่งนั้นเป็นยังไงบ้าง"
"ผม..."
"ผมเพิ่งจะยิงท่านประธานาธิบดีไป"
"ว่าไงนะ!"
"เค้าช่วยชีวิตชั้นไว้ ตอนที่เรามาถึงท่านประธานาธิบดีก็ติดเชื้อไปเรียบร้อยแล้ว ... ถ้าเค้าไม่ยิง ชั้นก็คงตายไปแล้ว"
"...พระเจ้าช่วย..."
"เอาเป็นว่า ทั้งสองคนรีบออกมาจากที่เกิดเหตุเดี๋ยวนี้เลย ตอนนี้สถานการณ์แพร่เชื้อของไวรัสกระจายไปในรัศมีสามไมล์จากหมาวิทยาลัยแล้ว และก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะควบคุมได้ด้วย "
"แต่เราต้องไปที่โบสถ์ก่อน ลีออนมีเบาะแสว่าใครเป็นคนอยู่เบื้องหลังที่นั่น"
"?"
"จริงเหรอลีออน?"
เฮเลน่าหันมาส่งสัญญาณให้ลีออนรับคำ
"....อืม ผมอาจจะเจออะไรบางอย่าง"
"ก็ได้ ชั้นจะส่งแผนที่เส้นทางที่ปลอดภัยไปให้ แล้วจะติดต่อไปอีกที เปิดเครื่องสื่อสารไว้ล่ะ"
"เบาะแสเหรอ"
"คุณจะได้เบาะแสแน่ ถ้าตามชั้นมา"
จากนั้นทั้งคู่ก็จะมุ่งหน้าไปที่โบสถ์ ลีออนสงสัยว่าทำไมต้องไปที่โบสถ์ล่ะ แล้วทำไมถึงต้องโบ้ยว่าเขาเป็นคนที่มีเบาะแสด้วย เฮเลน่าบอกว่าถ้าเธอไม่บอกที่โบสถ์ล่ะก็ลีออนอาจจะไม่เชื่อเธอก็ได้ ยังไงก็ตามเธอมาที่โบสถ์เถอะแล้วเธอจะบอกเรื่องราวทุกอย่าง
ระหว่างทางจะเจอกับผู้รอดชีวิตที่เป็นลุงแก่ๆคนหนึ่ง เขากำลังพลัดหลงกับลูกสาว ก็เลยต้องกระเตงลุงไปด้วย พอไปเจอกับลูกสาวของแก ทั้งๆที่เห็นว่าเดี๋ยวมันต้องกลายเป็นซอมบี้แหง๋ๆ หน้าตาโคตรจะป่วยขนาดนั้น แต่ลีออนและเฮเลน่าก็ต้องพาไปด้วย(บทสั่งมา) พอเข้าไปในลิฟต์น้องหนูก็เทิร์นโปรกลายเป็นผีสมบูรณ์แบบ
หลังจากจัดการเสร็จแล้วก็ต้องหนีออกมาจากบริเวณมหาวิทยาลัยให้ได้ แม้จะเจอกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพผู้รอดชีวิตแต่เขาก็ต้องปล่อยไปเพราะยังไงก็ช่วยไม่ทันและยิ่งจะเป็นการถ่วงเวลาในการทำภารกิจไปอีก จนเมื่อขับรถหนีออกมาได้ไม่ถึงระยะ100เมตรดี รถที่ลีออนบังคับก็คว่ำกลิ้งโค่โล่ แต่ราวกับปาฏิหาริย์ ทั้งคู่ไม่เป็นอะไรเลยไร้รอยขีดข่วน จึงต้องใช้เส้นทางใหม่คือลงท่อระบายน้ำแทน
พอกระโดดลงมาในท่อลีออนก็ช่วยอุ้มเฮเลน่าที่เสียการทรงตัวไว้ และเกิดโมเมนต์ของการจ้องตาแบบเซ็กซี่ๆขึ้น เฮเลน่าตัดบทด้วยการบอกให้รีบไปที่โบสถ์เถอะ ลีออนก็นึกย้อนอดีตอีกครั้งถึงบทสนทนากับประธานาธิบดี
เหตุผลที่ประธานาธิบดีต้องการจะแถลงข่าวเรื่องแรคคูนซิตี้เพื่อการเริ่มต้นที่ใสสะอาดในการต่อต้านอาวุธชีวภาพ...และเขาก็ได้ตกปากรับคำว่าจะยืนอยู่เคียงข้างประธานาธิบดีเพื่อต่อสู้กับภัยนั้นด้วย
แต่ตอนนี้ประธานาธิบดีก็ตายไปแล้วด้วยมือเขาเอง และสถานการณ์การแพร่เชื้อก็กำลังลุกลามหนักราวกับเหตุการณ์เมื่อ15ปีก่อน ทำเอาลีออนรำพึงออกมาว่านี่คงจะเป็นการเดินทางที่โหดหินเอาการ
แล้วในที่สุดก็จะหนีออกมาจากบริเวณมหาวิทยาลัยได้ด้วยรถบัสพร้อมกับผู้รอดชีวิตคนอื่นๆ ลีออนและเฮเลน่ากำลังฟังรายงานความเสียหายผ่านทางฮันนิแกน
"กว่า90%ของประชากรในทอลโอคส์ติดเชี้อไปแล้ว หรือนับเป็นคนร่วมเจ็ดหมื่นคน"
"และเราก็ได้ข้อมูลมาว่าองค์กรที่อยู่เบื้องหลังนั้นชื่อว่า นีโออัมเบรลล่า"
"นีโออัมเบรลล่า?"
"ใช่ ชั้นรู้ว่าคุณคิดอะไรอยู่ ลีออน..."
"นี่มันเหมือนกับตอนแรคคูนซิตี้ชัดๆ"
"ใช่...เอาล่ะ นั้นคือข้อมูลทั้งหมดที่ชั้นมีตอนนี้ ถึงคราวพวกคุณต้องช่วยชั้นบ้างแล้วล่ะ"
"ชั้นต้องการข้อมูลว่ามีอะไรอยู่ในโบสถ์นั่น ตอนนี้มีคนๆนึงกำลังหายใจรดต้นคอชั้น จี้จะเอาข้อมูลให้ได้"
"ใครกัน?"
"ดีเรค ซี. ซิมมอนส์ "
"ที่ปรึกษาศูนย์ป้องกันความปลอดภัยแห่งชาติ"
เมื่อได้ยินว่าใครกำลังเข้ามามีส่วนร่วมในปฏิบัติการครั้งนี้ เฮเลน่าก็มีสีหน้าโกรธแค้นขึ้นมาทันที แต่ก่อนจะได้พูดอะไร รถบัสก็ชนเข้ากับซอมบี้ตัวหนึ่งจนไถลออกข้างทางไปยังหน้าผา แม้จะหยุดได้อย่างหมิ่นเหม่แต่ก็เคราะห์ซ้ำกรรมซัด โดนรถดับเพลิงคนหนึ่งแล่นมาชนซ้ำจนกลิ้งตกผาไป แต่ทั้งคู่ก็คลานออกมาโดยไม่เป็นอะไรร้ายแรง(อีกแล้ว)
ไม่มีเวลาจะโศกเศร้าเสียใจกับผู้เสียชีวิต ลีออนและเฮเลน่าฝ่าดงผีเน่าที่ผุดขึ้นมาจากหลุมศพมากมายในสุสาน จนไปถึงโบสถ์ได้ในที่สุด เมื่อเปิดไปก็พบกับผู้รอดชีวิตจำนวนมาก เฮเลน่าบอกว่าใต้แท่นบูชาจะมีทางลับอยู่ แล้วเราก็ต้องแก้ปริศนาจนทางลับเปิดออก
ทันทีที่ทางลับเปิดออก ก็มีเสียงฝีเท้าของสิ่งมีชีวิตบางอย่างแว่วออกมา มันปรากฏกายพร้อมพ่นหมอกควันสีคล้ำใส่ผู้รอดชีวิต ท่ามกลางความโกลาหล ลีออนสังเกตว่าใครก็ตามที่สูดดมหมอกนั้นเข้าไปก็กลายเป็นผู้ติดเชื้อทันที เฮเลน่าตกใจว่าปีศาจนมย้วยพ่นหมอกเหล่านี้มาจากไหน เมื่อครั้งที่แล้วที่เธอมาที่นี่ยังไม่มีพวกมันเลยนี่นา
หลังจากจัดการมันและผู้รอดชีวิตตายหมด...(โคตรตัวซวย ไปที่ไหนคนตายหมด) ทั้งคู่ก็จะลงไปในทางลับนั้น
ลีออนสงสัยว่าเมื่อไหร่เฮเลน่าจะอธิบายเรื่องราวทั้งหมดเสียที แต่เฮเลน่าก็ขอร้องให้ทนรออีกหน่อย เมื่อมุ่งหน้าไปถึงสถานที่ๆคล้ายห้องทดลองแห่งหนึ่ง ทั้งคู่ก็พบกับหลอดแก้วบรรจุร่างดักแด้ขนาดเท่ามนุษย์จำนวนมาก
"นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย"
"สามวันที่แล้วยังไม่มีของพวกนี้เลยนี่นา "
ลีออนเดินไปที่มอนิเตอร์กลางห้อง บนโต๊ะนั้นมีเทปวิดิโอ(ยังมีคนใช้อยู่อีกเรอะะะ)ม้วนหนึ่งวางอยู่ ที่ด้านหน้าของเทปเขียนเอาไว้ว่า
'สุขสันต์วันเกิด เอด้า หว่อง'
เมื่อเทปเริ่มเล่น มันฉายภาพบันทึกของการทดลองปริศนาอันหนึ่งของโปรเจ็คซี-ไวรัส ทั้งคู่ได้เห็นภาพของดักแด้ที่ฟักตัวออกมาเป็นร่างของผู้หญิงคนหนึ่งที่ลีออนคุ้นเคยดี...ร่างนั้นมีใบหน้าของเอด้าที่เขารู้จัก ในตอนท้ายของวิดิโอ ภาพของมือที่ใส่แหวนที่นิ้วโป้งคล้ายของซิมมอนส์โผล่เข้ามาชั่วขณะหนึ่ง...แล้วเทปก็จบลง
"...นี่มันอะไรกัน เอด้า?"
"ที่คุณจะให้ผมดูคือเทปนี่น่ะรึ"
"ไม่ใช่นะ....ชั้น..."
หลังจากดูเทปจบ ก็มุ่งหน้าไปต่อยังชั้นใต้ดินที่อยู่ลึกลงไปจากห้องทดลอง ลีออนคาดคั้นเอาคำอธิบายเรื่องราวทั้งหมดจากเฮเลน่า แต่เธอก็ยังไม่ยอมบอกซะที(ว้อยยย) จนเมื่อไปถึงห้องโถงแห่งหนึ่ง ก็พบกับร่างของผู้หญิงคนหนึ่งทอดกายอยู่และร้องครวญคราง เฮเลน่ารีบวิ่งเข้าไปประคองร่างนั้นพร้อมกับเรียกชื่อว่าเดโบราห์ แม้จะงงว่าเรื่องราวทั้งหมดคืออะไรและผู้หญิงคนนี้คือใครกัน ลีออนก็ต้องช่วยเฮเลน่าออกไปจากที่นี่ก่อน
ระหว่างทางก็จะได้รู้ว่าเดโบราห์คือน้องสาวของเธอเอง แต่เมื่อวิ่งไปถึงจุดหนึ่ง เดโบราห์ก็ทนความเจ็บปวดไม่ไหวและส่งเสียงร้องโหยหวนออกมา
"แข็งใจไว้ เดโบราห์! เราใกล้จะถึงแล้วนะ"
"เดโบราห์ อย่าทิ้งพี่ไป! เข้มแข็งไว้!"
แต่สายเกินไปแล้ว ไวรัสในร่างกายของเธอทำปฏิกริยาขั้นสุดท้าย ร่างของเดโบราห์เกิดไฟลุกไหม้ พร้อมกับปล่อยเมือกเหนียวออกมาเป็นเปลือกดักแด้
"ไม่นะ! ไม่!! เดโบราห์!"
ลีออนเข้าไปรั้งเฮเลน่าเอาไว้ไม่ให้เข้าใกล้ ในห้วงสติที่รางเลือน เดโบราห์ยืนมือออกมาเพื่อสัมผัสกับพี่สาวของเธอ แล้วก็แน่นิ่งไป
"ไม่ ไม่จริง...ต้องไม่ใช่แบบนี้ นี่มัน.....ต้องไม่เป็นแบบนี้"
เฮเลน่าคร่ำครวญพร้อมน้ำตานองหน้า มือของเธอลูบเปลือกดักแด้ที่ห่อหุ้มร่างของน้องสาวอย่างแผ่วเบา...
ในขณะนั้นเองที่ดักแด้เริ่มทำการฟักตัว ลีออนชักปืนออกมาเตรียมพร้อม แต่แล้วก็มีลูกดอกลูกหนึ่งปักเข้าที่หัวของปิศาจที่กำลังฟักตัวออกมาทันที

เฮเลน่าเข้าไปประคองร่างของอดีตน้องสาวที่โดนศรปักหัวจนกระเด็นไป ลีออนก็หันปืนไปทางคนยิงลูกดอกทันที แต่ก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าคนๆนั้นคือเอด้านั่นเอง
"เป็นอะไร? ทำหน้าอย่างกับเห็นผีแน่ะ "
"เอด้า? นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?"
"เรื่องมันซับซ้อนน่ะ"
เฮเลน่าวิ่งเข้ามาจ่อปืนใส่เอด้าแต่ก็ถูกลีออนห้ามไว้ เฮเลน่าจึงลดปืนลงและทรุดลงไปกองกับพื้นอย่างหมดอาลัยตายอยาก ฝุ่นผงร่วงลงมาจากเพดาน พื้นกำลังจะถล่มลง เอด้าจึงรีบตัดบท
"เอาไว้ก่อนแล้วกัน ตอนนี้คงไม่เหมาะที่จะยืนคุยกันเท่าไหร่หรอก"
ขณะที่กำลังจะเตรียมตัวหนี เดโบราห์ก็ฟื้นขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับกลายร่าง งอกแขนขาคล้ายแมงป่องออกมาจากกลางแผ่นหลัง เฮเลน่าพยายามขอร้องให้อีกสองคนอย่าเพิ่งยิงน้องสาวของเธอ และแล้วพื้นก็ถล่มลง ทั้งสามคนตกลงไปยังชั้นล่างที่ประกอบไปด้วยนั่งร้านไม้ต่างระดับมากมาย จากนั้นก็ต้องหาทางกลับไปรวมกลุ่มกันให้ครบให้ได้สลับกับต้องต่อสู้กับเดโบราห์ไปด้วย
สุดท้ายเมื่อมาถึงชั้นล่างสุด เดโบราห์ที่โดนตัวเอกสามคนรุมซัดก็ทำท่าจะร่วงลงไปในเหว แต่เฮเลน่าก็จับมือน้องสาวเอาไว้ได้และสั่งเสียครั้งสุดท้าย
"อย่าร้องเลย เดโบราห์"
"พี่จะแก้แค้นแทนเธอให้ได้.."
"ได้โปรด... "
"ยกโทษให้พี่ด้วยเถอะนะ"
พร้อมกับมือที่ลื่นหลุดไป ร่างของเดโบราห์ก็ร่วงลงไปในความมืดมิด...
"ชั้นจะจัดการมันแน่...มันต้องชดใช้"
และแล้วเฮเลน่าก็จะนึกถึงอดีต ในห้องทรมาน เธอและน้องสาวถูกจับตัวเอาไว้
"มองตาพี่ไว้ ! อย่าหันไปทางอื่น!"
"มองตาพี่ไว้ ไม่ต้องกลัว! พี่สัญญา! เธอจะไม่เป็นอะไร"
"พี่! ช่วยหนูด้วย!!"
ดีเรค ซิมมอนส์ ยืมมองสองพี่น้องที่ถูกมัดไว้ด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะส่งสัญญาณให้ลูกน้องนำตัวเดโบราห์ออกไป
"ไม่!!! อย่า!! อย่าทำน้องสาวชั้น!"
"เอาชั้นไปแทนเถอะ... ชั้นยอมทำอะไรก็ได้!"
"ได้โปรด!!"
"ได้โปรด! อย่าทำร้ายเธอเลย!"
"เดโบราห์!!!"
นั่นคือเหตุผลที่ทำให้เธอต้องยอมทำทุกอย่างตามที่ซิมมอนส์สั่งการ...เขาจับตัวเดโบราห์ไปเป็นตัวประกันนั่นเอง และเมื่อเขาวางแผนจะสังหารประธานาธิบดี ซิมมอนส์ก็ใช้เดโบราห์เป็นจุดอ่อนของเฮเลนาและบังคับให้เธอร่วมมือ แผนของซิมมอนส์ทำให้การป้องกันประธานาธิบดีหละหลวม แม้เฮเลน่าจะตัดสินใจบอกความจริงให้เอเจนท์คนอื่นระวังตัว แต่ก็ไม่มีใครเชื่อเธอเลย
กลับมายังปัจจุบัน เฮเลน่าที่สารภาพเรื่องราวทั้งหมดกับลีออนก็บอกอีกทั้งบอกว่าเธอเองเป็นคนที่ช่วยซิมมอนส์เจาะระบบป้องกันภัยของประธานาธิบดี ลีออนสงสัยว่าซิมมอนส์ทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร เอด้าก็บอกว่าเรื่องราวทั้งหมดมันซับซ้อนกว่าที่คิด และพวกเขาเองก็กำลังต่อกรอยู่กับคนที่อยู่เบื้องหลังการปกครองประเทศนี้จริงๆ พร้อมกับที่เธอเตือนลีออนให้ระวังตัวให้ดี เอด้าก็ยิงปืนสลิงและโหนตัวจากไป
แล้วฮันนิแกนก็จะติดต่อลีออนมา ทันทีที่รับสายลีออนก็เตือนให้ฮันนิแกนระวังซิมมอนส์ แต่ก็สายไปแล้ว...ซิมมอนส์ยืนอยู่ข้างฮันนิแกนนั่นเอง
"เจ้าหน้าที่เคเนดี้ ประธานาธิบดีชื่นชมนายไว้มากมายเลยเชียว"
"...เช่นกัน เขาก็เคยบอกผมว่าเป็นเพื่อนกับคุณมา30ปีแล้ว"
"อืม...จริงรึเปล่าที่ว่านายเป็นคนเดียวที่อยู่ในเหตุการณ์ตอนที่ท่านประธานาธิบดีเสียชีวิตน่ะ"
"...คุณต้องการจะพูดอะไร"
"นายรู้ตัวรึเปล่านะ ว่านายเป็นผู้ต้องสงสัยในเรื่องครั้งนี้น่ะ"
"แก.."
"เจ้าหน้าที่ฮาร์เปอร์ เธอเองก็ทิ้งตำแหน่งตอนที่เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นนะ "
"ทำให้ประธานาธิบดีต้องตกอยู่ในอันตราย"
"ก็คงต้องยอมรับล่ะนะ ว่าพฤติกรรมของพวกนายมันน่าสงสัยเต็มที "
"ไอ้ชาติชั่ว!! แกนั่นแหล่ะเป็นคนที่ทำเรื่องทั้งหมด!"
"ไหนล่ะหลักฐาน?"
"ชั้นเป็นที่ปรึกษาศูนย์ป้องกันความปลอดภัยแห่งชาติ"
"หน้าที่ของชั้นก็คือการป้องกันการก่อการร้าย ไม่ใช่เป็นผู้ทำซะเอง"
"ไอ้คนโกหก!"
"ถ้าอยากพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองนักล่ะก็"
"มามอบตัวซะ"
หลังจากวางสาย ลีออนก็บ่นว่าเรื่องมันชักจะแย่สุดๆ และบอกกับเฮเลน่าว่าต้องนี้ทั้งผมและคุณต้องลงเรือลำเดียวกันซะแล้วล่ะ ไม่ว่าจะอยากหรือไม่อยาก เราก็คงต้องเป็นคู่หูกันชั่วคราวซะแล้ว... ลุยต่อผ่านบอสและวิบากกรรมมากมายจนไหลออกมาตามทางน้ำ จะโผล่มาที่ทะเลสาปแห่งหนึ่ง ทั้งคู่ได้ยินเสียงเครื่องบินขับผ่านไปเหนือหัวและแล้วก็เกิดระเบิดขนาดใหญ่ในที่ๆไกลตาออกไป ... ทั้งสองคนรู้ทันทีว่าเป็นฝีมือของซิมมอนส์ที่บอมม์เขตทอลล์โอคส์ทิ้งเพื่อทำลายหลักฐาน และก็คงจะอ้างว่าทำไปเพื่อระงับการแพร่เชื้อ
แล้วฮันนิแกนจะติดต่อมาส่งข่าวว่าหลังจากคุยกับลีออนเสร็จ ซิมมอนส์ก็รีบมุ่งหน้าไปที่จีนทันทีด้วยท่าทีที่ร้อนรน ฮันนิแกนจะส่งภาพการก่อการร้ายที่ประเทศจีนมาให้ดู โดยมีข่าวกรองยืนยันแล้วว่าเป็นการก่อการร้ายด้วยอาวุธชีวภาพ ซี-ไวรัส แบบเดียวกับที่เกิดขึ้นที่อีโดเนียเมื่อ6เดือนก่อน ตอนนี้มีเพียงแค่ลีออน เฮเลน่าและฮันนิแกนที่รู้ความจริงเบื้องหลังของซิมมอนส์ ทำให้ลีออนและเฮเลน่าต้องตามไปจัดการเขาที่จีนทันที
แต่ฮันนิแกนก็แย้งว่าพวกเธอเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งในการฆ่าประธานาธิบดีอยู่นะ ลีออนจึงบอกว่าปล่อยรายงานลวงว่าพวกเราสองตายแล้วให้ที ถึงแม้จะปกปิดไว้ได้ไม่นาน แต่ก็คงนานพอที่จะทำให้ทั้งสองคนแอบมุ่งหน้าไปที่จีนได้
บนเครื่องบิน ในจอทีวีฉายภาพข่าวการก่อการร้ายที่จีน(สังเกตดีๆจะเห็นทีมของคริสกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในทีวีด้วย) เฮเลน่าที่สงสัยในการตัดสินใจของลีออนก็ถามขึ้น
"ทำไมคุณไม่ส่งชั้นไปมอบตัวล่ะ?"
"แบบนั้นคุณก็จะกลายเป็นผู้บริสุทธิ์ได้"
"ก็อาจจะใช่ แต่ทำแบนั้นก็ไม่ช่วยหยุดซิมมอนส์นี่นา"
"และอีกอย่าง"
"ผมก็เริ่มจะติดใจคุณขึ้นมาหน่อยแล้วล่ะ"
ขณะที่ลีออนกำลังรุกหน้าทำแต้มหยอดคำหวาน เครื่องบินก็เกิดปัญหาและเสียการทรงตัวทันที ทั้งสองคนมุ่งหน้าไปที่ห้องควบคุม ก็พบว่านักบินเสียชีวิตไปหมดแล้ว แถมยังฟักตัวออกมาจากดักแด้อีกตังหาก
ทั้งสองคนหนีออกมาจากซากเครื่องบิน(รอดจากยานพาหนะพังเป็นรอบที่3 ยิ่งกว่าดายฮาร์ด) ขณะที่กำลังจะเดินหน้าต่อ ก็พบกับเชอร์รี่และเจค
ทั้งสองฝ่ายต่างตกใจที่เจอกันและกัน เมื่อลีออนรู้ว่าหัวหน้าผู้สั่งการของเชอร์รี่คือซิมมอนส์เขาก็ฉุกคิดทันทีว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล ลีออนถามว่าภารกิจของเชอร์รี่คืออะไรและซิมมอนส์รออยู่ที่ไหน แต่เชอร์รี่ก็ลังเลที่จะตอบเพราะเป็นภารกิจลับ เมื่อลีออนคาดคั้นหนักเข้าเจคก็เข้ามาขวางเอาไว้
ลีออนสงสัยเล็กน้อยว่าไอ้หนุ่มหัวเกรียนนี่คือใคร และทำไมถึงมากับเชอร์รี่ เกี่ยวข้องอะไรกับภารกิจของเชอร์รี่รึเปล่า? และแล้วตอนนั้นUstanakก็โผล่มาโจมตีใส่ทั้ง4คน ทำให้ต้องร่วมมือกันปราบมันก่อน

ระหว่างที่สู้ลีออนจะพูดเล่นกับเชอร์รี่ว่าลำบากแค่นี้ เทียบกับตอนแรคคูนซิตี้ก็เหมือนกับเรื่องขำๆน่า แต่เชอร์รี่ก็บอกว่าตอนนั้นเธอยังเด็กมาก ไม่รู้เรื่องกับเขาหรอกว่าอันตรายแค่ไหน หลังจากจัดการมันแล้วหอคอยก็จะพังลงมาขวางจนทั้งสองทีมต้องแยกจากกันอีกครั้ง เชอร์รี่ตัดสินใจตะโกนบอกจุดนัดพบกับซิมมอนส์ให้ลีออนรู้ แล้วก็เกิดระเบิดทำให้ต้องหนีไปคนละทางทั้งๆที่ยังคุยกันไม่จบ เฮเลน่าเป็นห่วงว่าเด็กสองคนนั้นจะเป็นอะไรมั้ย(อันที่จริงเชอร์รี่แก่กว่าเธอนะ แต่คงหน้าเด็กเพราะจี-ไวรัส) ลีออนก็ได้แต่หวังว่าเจคจะเก่งอย่างที่มั่นใจก็แล้วกัน
ไปต่อจนถึงโรงงานแห่งนึงก็จะเจอกับเอด้าในชุดสีน้ำเงิน แต่แล้วในขณะที่ลีออนเรียกเธอ ก็มีใครบางคนยิงใส่เอด้า เธอหลบได้ทันและโหนสลิงหนีไป ลีออนและเฮเลน่าวิ่งตามไป จนพบกับคริสที่กำลังจะยิงเอด้า
"ใช่...ชั้นจะปกป้องเค้า"
ถึงลีออนแทบจะไม่รู้ภูมิหลังของเอด้า ไม่เข้าใจเหตุผลและการกระทำของเธอในหลายๆที แม้เอด้าจะหลอกใช้ลีออน แต่เธอก็เคยสละชีวิตแทนเขา...และยังช่วยเขาไว้อีกหลายครั้งหลายหน เรื่องราวที่เคยพบร่วมกันมาในอดีตทำให้เขาตัดสินใจจะปกป้องเธอ
ในขณะที่ทุกคนเผลอ เอด้าก็โยนระเบิดแสงออกมาและอาศัยช่องว่างที่เหล่าตัวเอกมองไม่เห็นเพื่อหลบหนีไป คริสและเพียรส์รีบวิ่งตามไป ลีออนรั้งคริสเอาไว้ แต่ในที่สุดเขาก็ตัดใจสินว่าเขาจะเชื่อมั่นในตัวคริส และเชื่อว่าคริสจะเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ใช่ตามืดบอดไปด้วยความแค้นส่วนตัว ลีออนปล่อยให้คริสไปพร้อมกับบอกเฮเลน่าว่าคริสต่อสู้กับอาวุธชีวภาพมานานพอๆกับเขาเอง เพราะฉะนั้นไว้ใจคริสเถอะ
แล้วในที่สุดก็จะมาถึงจุดนัดพบที่เชอร์รี่บอก ซิมมอนส์นั้นรอคอยอยู่แล้วพร้อมลูกน้องติดอาวุธครบมือจำนวนมาก เชอร์รี่ที่ตามมาทันพอดีก็จะเข้ามาถามซิมมอนส์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซิมมอนส์อ้างว่าเขาทำไปเพื่ออนาคตของสหรัฐอเมริกา และสั่งให้ลูกน้องเขาโจมตีใส่ลีออนทันที
เมื่อกลิ้งหลบมาอยู่ในที่กำบังแล้วลีออนก็จะบอกให้ทั้งสองคนหนีไป
"ไปถึงประตูตรงนั้นไหวรึเปล่า หนีไปซะ"
"ทำไมเราไม่จัดการมันซะให้หมดล่ะ" (เจคอยากลุย)
"ไม่ล่ะ นายต้องปกป้องเชอร์รี่"
"แล้วพวกคุณล่ะ"
"เราจะจัดการกับซิมมอนส์"
"ก็ได้...ลีออน ข้อมูลในนี้สามารถใช้หยุดยั้งซี-ไวรัสได้"
"ซิมมอนส์ต้องการมัน"
"ขอบใจนะ"
"เอาล่ะ"
"ไปซะ"
หลังจากเชอร์รี่ส่งข้อมูลให้แล้ว ลีออนก็ช่วยยิงคุ้มกันเชอร์รี่ขณะที่ทั้งสองคนมุ่งหน้าไปที่ประตู ทางด้านซิมมอนส์ที่มองอยู่ชั้นบนก็เตรียมตัวจะเดินจากไปปล่อยให้ลูกน้องจัดการ แต่แล้วกลับมีทหารรับจ้างลูกกระจ๊อกคนหนึ่งยิงเข็มฉีดไวรัสใส่ซิมมอนส์(เดินมายิงทื่อๆเลย ง่ายไปปะเพ่)
"บ้าที่สุด!"
"นังนั่น"
"ร้ายกาจนักนะ!"
ดูเหมือนว่าซิมมอนส์จะคิดว่าตนเองรู้ว่าเป็นฝีมือของใคร เขาเดินโซซัดโซเซ ตกลงไปยังรถไฟเบื้องล่าง ลีออนและเฮเลน่าจึงรีบติดตามไปทันที ซิมมอนส์ที่ยืนรอคอยอยู่แล้วกำลังฟังเสียงจากโทรศัพท์ของเขาด้วยสีหน้าเคียดแค้นถึงขีดสุด
"ชั้นก็แค่ให้สิ่งเดียวกับที่แกเคยมอบให้ชั้น...ซิมมอนส์"
"คงจะกลัวสินะ "
"แต่อย่ากลัวไปเลย "
"แกก็แค่กำลังจะกลายเป็นสัตว์ประหลาด...แบบที่แกก็เป็นมาตลอดอยู่แล้ว"
"แกกับทุกๆคนบนโลกใบนี้"
เขาโกรธจนบีบโทรศัพท์แหลกละเอียดคามือ ลีออนและเฮเลน่าที่ตามมาก็ตั้งท่ายกปืนขู่ทันที
"ยอมแพ้ได้แล้วซิมมอนส์!"
"แกยังจะมาเอาอะไรกับชั้นอีก..ทั้งๆที่นังนั่นกำลังลอยนวลอยู่!"
"นังนั่น?"
"นังคนทรยศ เอด้า หว่อง!"
"ใครจะไปรู้ ว่านังนั่นมีแผนอะไรซ่อนไว้อีกบ้าง!!"
"มีคนอื่นไล่ตามเธอไปแล้ว แต่แกน่ะซิมมอนส์ เป็นหน้าที่ๆชั้นจะจัดการเอง"
"อ้อ มาแก้แค้นให้ประธานาธิบดีสินะ ไอ้หน้าโง่...."
"ถ้ามันเปิดเผยเรื่องที่แรคคูนซิตี้ล่ะก็ อำนาจของอเมริกาก็จะสั่นคลอน!"
"ลำดับความมั่นคงทางการเมืองของโลกนี้ก็จะระส่ำระสาย!"
"เพราะกลัวหายนะแบบนั้นเพียงเรื่องเดียว แกก็เลยสร้างหายนะอื่นขึ้นมาแทนงั้นรึ!?"
"ผู้คนต้องตายไปมากมาย- "
"ต้องมีคนหยุดไอ้หมอนั่นไว้! เจ้าประธานาธิบดีนั่นเป็นผู้นำประเทศนี้ และก็โลกนี้ มันจะทำให้ความรุ่งเรืองของเราพังทลาย...."
ไวรัสในตัวซิมมอนส์ทำปฏิกริยามากขึ้น เขาทรุดตัวลง เลือดเลือดบนร่างกายปูดโปน
"อึก....นังนั่น!"
"มันกล้าขัดขืนชั้นได้ยังไงกัน!!!"
ร่างกายของซิมมอนส์ลุกเป็นไฟและแยกออกเป็นชิ้นๆ เมื่อชิ้นส่วนเหล่านั้นกลับมารวมกันใหม่มันประกอบตัวเป็นสัตว์ประหลาดรูปร่างคล้ายเสือและโจมตีใส่ทั้งคู่ด้วยความโกรธเกรี้ยว แต่สังเกตว่าซิมมอนส์ยังคงมีสติเป็นของตัวอยู่อย่างสมบูรณ์
"แกมันไม่รู้อะไร"
"ถ้าชั้นตาย...จะเกิดอะไรขึ้นแกรู้บ้างมั้ย"
"โลกเราก็จะน่าอยู่ขึ้นไงล่ะ!"
ซิมมอนส์ปาแผ่นเหล็กขนาดใหญ่ใส่คนทั้งสอง แต่ลีออนก็ก้มตัวหลบและยิงแผ่นเหล็กนั้นทำให้มันถูกกระแทกลอยขึ้นไปสูงพ้นตัวเฮเลน่ที่เล็งปืนรออยู่อย่างไม่สะทกท้านและลั่นไกออกไป กระสุนนั้นฝังเข้าที่กลางแสกหน้าของซิมมอนส์พอดิบพอดี แต่แค่นั้นก็ยังไม่เพียงพอในการทำลายซิมมอนส์ มันลุกขึ้นมาอีกครั้ง ในตอนนั้นเองก็มีเฮลิคอปเตอร์ปริศนาลำหนึ่งแล่นเข้ามาดูเหตุการณ์ชั่วครู่หนึ่ง แล้วคนบนเฮลิคอปเตอร์ก็จะสั่งให้คนขับล่าถอยไป
"ทิ้งมันไว้ที่นี่"
"ไม่!!"
"ไม่จริง!"
"แฟมิลี่ของชั้น.."
"อย่าทอดทิ้งชั้น!!!"
ซิมมอนส์ตกตะลึงและแค้นใจที่ตนถูกองค์กรทอดทิ้ง เขาลื่นหล่นจากหลังคารถไฟและโดนล้อเหล็กบดทับซ้ำเติม ลีออนและเฮเลน่ากระโดดลงจากรถไฟที่เสียศูนย์พุ่งสู่แม่น้ำด้านข้าง เมื่อขึ้นฝั่งมาเฮเลน่าก็ถามว่าเรื่องราวทั้งหมดจบแล้วเหรอ ลีออนก็บอกว่าเราทำดีที่สุดแล้วล่ะ เมื่อเดินเข้าสู่เขตที่อยู่อาศัยก็จะเห็นทหารกำลังอพยพคนให้ออกจากพื้นที่เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ
"สิ่งสำคัญที่จะใช้หยุดยั้งไวรัสได้... นี่มัน!"
"เจค!"
ลีออนเข้าใจทันทีว่าทำไมเจคและเชอร์รี่ถึงได้ถูกจับตัวไป เพื่อไม่ให้มีการสกัดวัคซีนแก้ไวรัสได้นั่นเอง เจคคือกุญแจสำคัญในการยับยั้งไวรัส และพวกเขาต้องนำตัวเจคกลับมาให้ได้ ลีออนขอให้ฮันนิแกนรีบตรวจหาหน่วยBSAAที่อยู่ใกล้บริเวณนั้นมากที่สุดทันทีเพื่อติดต่อประสานงาน ขณะที่ฮันนิแกนพบว่าคริสเป็นคนที่อยู่ใกล้ที่สุดและกำลังต่อสายให้คุยกับลีออน บนฟากฟ้า....ก็มีมิซไซล์ลำหนึ่งพุ่งตรงมาที่ใจกลางเมือง
"คริส!"
"ลีออน นายอยู่ที่ไหน!?!!
"เราอยู่ในเขตทาจิ ทำไมรึ?"
"รีบออกมาจากที่นั่นเดี๋ยวนี้!!!"
คริสที่อยู่บนเครื่องบินและเห็นมิซไซล์ลำนั้นพุ่งตรงไปยังตัวเมืองก็ได้แต่ร้องตะโกนเตือนให้ลีออนรีบถอยออกมา
ภายในเสี้ยววินาที มิซไซล์ก็พุ่งมาถึงจุดที่กำหนดและแตกตัวออก
หมอกควันสีดำที่บรรจุพิษร้ายแฝงไปด้วยไวรัสปกคลุมไปทั่วเมืองทันที ประชาชนบริสุทธิ์นับไม่ถ้วนแปรสภาพกลายเป็นผู้ติดเชื้อและกัดกินผู้รอดชีวิตอย่างหิวกระหาย
...เมืองทั้งเมืองกลายสภาพเป็นนรกบนดินในพริบตา
"ลีออน นายเป็นอะไรรึเปล่า?"
"คริส...ชั้นไม่เป็นอะไร"
"แต่สถานการณ์ที่นี่ตอนนี้กำลังแย่ ... แย่มาก"
"บ้าเอ้ย!" คริสสบถออกมาอย่างเจ็บใจที่หยุดยั้งมิซไซล์ไม่ได้
"คริส ฟังนะ ชั้นต้องขอให้นายช่วย"
"มีตัวประกันสองคนถูกจับไป"
"เชอร์รี่ เบอร์กิ้นส์"
"และเจค มัลเลอร์"
"...เขาเป็นลูกชายของเวสเกอร์ "
"เวสเกอร์?"
"ใช่ เขามีแอนติบอดี้ที่สามารถต่อต้านไวรัสได้"
"...เข้าใจแล้ว ชั้นจัดการเอง"
"โอเค ขอบใจจริงๆ"
"เดี๋ยวลีออน อย่าเพิ่งวาง....ชั้นมีเรื่องจะบอกนาย"
"..."
คริสนิ่งไปสักพักก่อนจำใจจะบอกข่าวร้ายกับลีออน
"เอด้า หว่องตายแล้ว..."
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ลีออนตกใจและก็เงียบไปนาน...ในหัวของเขาครุ่นคิดถึงเอด้าที่เคยรู้จัก เธอตายไปแล้วจริงๆเหรอ?
"...."
"เข้าใจแล้ว..."
"เชอร์รี่กับเจครอนายอยู่ รีบไปเถอะ"
ลีออนวางสายจากคริสและก็ยังคงนิ่งเงียบอยู่ เฮเลน่าที่เห็นลีออนสะเทือนใจก็เข้ามาถามว่าคุณไม่เป็นอะไรนะ? แต่ลีออนก็ไม่ตอบ กลับบอกว่ารีบไปช่วยคนอื่นๆแล้วออกไปจากที่นี่กันเถอะ...
จากนั้นก็บู๊+หนีจนมีเฮลิคอปเตอร์ของBSAAมาช่วย หลังจากขึ้นไปบนฮ.ได้ไม่นาน คนขับก็เด๊ดสะมอเร่ ลีออนก็เลยเข้าไปบังคับแทน .... หลังจากนั้นไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่าเครื่องก็ตก(รอบที่4แล้วจ้าา).... หลังจากกระ...กระสนหนีออกมาจากเครื่องได้ก็จะมาถึงชั้นหนึ่งของหอคอยเสียที เมื่อเดินเข้าไปสำรวจก็จะพบว่าทหารที่ตกค้างนั้นตายหมดแล้ว และแล้วตัวการที่ฆ่าพวกเขาเหล่านั้นก็จะเดินออกมา...
"ซิมมอนส์ "
"อยากโดนอีกชุดรึไง"
"แก...."
เฮลิคอปเตอร์ของเอด้าแล่นเข้ามาและส่องไฟไปที่ซิมมอนส์
"ชั้นรู้...ว่า...แกทำ...อะ..ไร.."
"เอด้า!!!"
"แก...ขัดคำสั่งชั้นน..."
"แก...พาตัวลูกชาย...ขะ..ของเวสเกอร์..ไป..."
"แล้วก็ใช้...เลือด..ของไอ้เด็กเปรตนั่น..."
"ทำให้ไวรัสรุนแรงขึ้นน.."
"อ๊ากกกกกกก!!!"
ร่างของซิมอนส์สั่นกระตุก ควันพวบพุ่งออกมา เขากำลังแปรสภาพไปอีกขั้น ลีออนส่ายหน้าด้วยความสังเวชใจ
"หวังว่าแกคงมีเพื่อนที่โลกหน้านะ"
"เพราะไม่มีใครจะคิดถึงแกที่นี่หรอก"
จากนั้นก็ต้องสู้กับซิมมอนส์ร่างกลายพันธ์ที่คล้ายไดโนเสาร์ ปราบมันจนทรุดลงไปแล้วเอด้าก็จะส่งสัญญาณให้ตามเธอไปที่ดาดฟ้าของหอคอย ทั้งคู่จึงขึ้นลิฟต์ตามไป
"เธอคนนั้น....ไม่ใช่แค่เพื่อนใช่ไหม"
"คุณรักเธอสินะ"
ไร้ซึ่งคำตอบ ลีออนได้แต่ส่งยิ้มจางๆให้เฮเลน่า ทันใดนั้นประตูลิฟต์ก็ระเบิดออก ส่งให้ลิฟต์ถูกกระแทกไปนอกตึก
ลีออนที่เห็นแบบนั้นก็รีบกระโดดไปยังพื้นอีกฝั่งทันที
"ลีออน!"
"เฮเลน่า ยิงคุ้มกันให้ผมด้วย"
ลีออนวิ่งเข้าไปประคองร่างของเอด้า แต่เธอก็ยังไม่ได้สติ ในขณะที่ซิมมอนส์เดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เขาก็ตัดสินใจจะคุ้มครองเอด้าเอาไว้
"เอด้า ได้ยินผมรึเปล่า!"
"ไม่เอาน่า มันไม่จบแค่นี้หรอก"
"ออกไปให้พ้นเธอซะลีออน!! แกมันไม่ได้เสี้ยวหนึ่งของผู้ชายที่คู่ควรกับเธอเลย!"
"มากับชั้นเถอะที่รัก.. เราจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไป!"
"ข้ามศพชั้นไปก่อนเถอะ"
"ฟื้นสิ เอด้า"
"ถ้าคุณเป็นเอด้าที่ผมรู้จัก..."
"กับเรื่องแค่นี้ คุณต้องผ่านมันไปได้แน่"
"เราทั้งคู่..."
"ผ่านมันไปด้วยกันได้"
ซิมมอนส์กลายร่างอีกครั้งและยิงกระสุนลำแสงเข้าใส่เป็นชุด ลีออนอุุ้มเอด้าขึ้นมาและเอาตัวบังปกป้องเธอไว้ด้วยร่างกายตัวเอง....
"แค่พักสายตาเฉยๆน่า"
"หึ...งีบหลับตอนทำงานเนี่ยไม่ดีเลยนะ"
แล้วซิมมอนส์ก็จะโดดเข้ามาโจมตี ทีนี้ลีออนก็ต้องร่วมมือกับเอด้าในการกำจัดมัน เอด้าบอกว่าท่าทางซิมมอนส์จะรับมืออาการอกหักไม่เป็น อาละวาดใหญ่เลย ลีออนก็ถามว่าตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่เอด้าก็บอกว่าอย่ารู้เลย เรื่องไม่เข้าท่าทั้งนั้น สู้ไปสักพักลีออนก็จะพลาดท่าถูกผลักกระเด็นกลิ้งไปใกล้จะตกขอบ ซิมมอนส์ก็จะเดินเข้ามาเหยียบมือลีออนเอาไว้ และบอกให้เขาขอร้อง
"ยังไม่อยากตายสินะ!"
"งั้นก็อ้อนวอนดูสิ ร้องขอชีวิตกับชั้นสิ!"
แม้จะจนแต้มแล้วแต่เขาก็ไม่ยอมทิ้งศักดิ์ศรีเด็ดขาด
"ไม่ล่ะ! "
"ไม่ใช่ว่าอยากได้อะไรแล้วคนเราก็จะได้เสมอไปนะ ซิมมอนส์"
เอด้าหยิบลูกดอกออกมาแล้วเสียบเข้าไปที่สีข้างของจอมวายร้าย ก่อนจะโดดลงไปในเปลวเพลิงด้านล่างพร้อมลากร่างของซิมมอนส์ลงไปด้วย
"ใกล้ชิดกันนิดหน่อยเป็นการส่งท้ายแล้วกัน"
"นายน่าจะหัดทำใจแล้วไปต่อซะบ้างนะ"
เอด้าปล่อยร่างของซิมมอนส์ให้ตกลงไปกระแทกพื้นเบื้องล่าง ส่วนตัวเองก็โหนสลิงกระโดดไปยังอีกตึกหนึ่ง ซิมมอนส์ร้องโหนหวนท่ามกลางไฟที่เผาไหม้ ลีออนเก็บปืนและมองไปที่เอด้าซึ่งอยู่ไกลออกไป...
"คุณเป็นอะไรกันแน่?"
"ทำไมถึงช่วยเรา?"
แล้วเอด้าก็จะส่งข้อความเข้ามือถือของลีออน...
"จาก เอด้า
ถึง ลีออน
อยากจะอยู่ให้นานกว่านี้...
แต่ชั้นก็ต้องไปแล้ว
มีของขวัญทิ้งไว้ให้คุณอยู่ที่ดาดฟ้า
แล้วเจอกันโอกาสหน้านะ ลีออน"
แล้วเอด้าก็จะโบกมือลาพร้อมเดินจากไป ลีออนตะโกนเรียกสุดเสียงแต่เธอก็ไม่หันกลับมา
"รีรออะไรอยู่..."
"ตามเธอไปสิ ลีออน"
"ไม่ล่ะ..."
"เราต้องไปต่อด้วยกัน"
ลีออนมองส่งเอด้าเป็นครั้งสุดท้ายพร้อมยิ้มที่มุมปากก่อนจะวิ่งกลับเข้าตึก.... ถ้ายังไม่ตาย ชีวิตนี้เขาต้องได้พบเธออีกแน่
มุ่งหน้าไปยังดาดฟ้าจะพบกับเฮลิคอปเตอร์ที่เอด้าทิ้งไว้ให้ แต่แล้วซิมมอนส์ก็จะปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง!! เฮเลน่าตกใจที่เขายังไม่ตาย และลีออนเองก็บอกว่าให้มันจบไปซะทีเถอะ...และก็จะเข้าสู่บอสสุดท้าย
ร่างของซิมมอนส์ที่กำลังแยกส่วนตกลงมาจากดาดฟ้าและสุดท้ายก็เสียบเข้ากับเหล็กแหลมที่พื้นดิน....เลือดที่ไหลออกมาจากร่างชโลมไปทั่วบริเวณ และเติมเต็มพื้นจุดนั้นให้กลายเป็นสัญลักษณ์ขององค์สุดชั่วช้าในอดีต.....
"สำหรับน้องสาวชั้น...สาสมแล้ว"
เฮเลน่ากัดฟันพูดออกมาในที่สุดเธอก็แก้แค้นแทนเดโบราห์สำเร็จ ลีออนบีบไหล่ของเธออย่างเข้าใจความรู้สึก
"ไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์กันเถอะ"
แล้วก็จะได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์กันจริงๆซะที เมื่อเปิดประตูมาก็พบกับตลับแป้งของเอด้า...ข้างในนั้นมีเมมโมรี่การ์ดที่รวบรวมหลักฐานยืนยันความผิดของซิมมอนส์เอาไว้ด้วย
"ที่นี้คุณก็จะพ้นจากข้อกล่าวหาเสียที"
"เราทั้งคู่นั่นแหล่ะ"
"ไม่จำเป็นสำหรับชั้นหรอก..."
"เฮเลน่า"
แล้วฮันนิแกนก็จะติดต่อเข้ามาบอกข่าวดีว่าสามารถหยุดยั้งไวรัสได้แล้ว(คริสไปช่วยเจคสำเร็จ) ทำให้ทั้งคู่โล่งใจเป็นครั้งแรกหลังจากเจอเรื่องยุ่งๆติดต่อกันแบบไม่หยุดมาเป็นเวลาสองวันเต็มๆ ทั้งสองคนก้าวขึ้นไปบนเฮลิคอปเตอร์และสตาร์ทเครื่องออกตัวไปจากดาดฟ้า...(เฮเลน่าเป็นคนขับ ฮา)
ลีออนหันกลับมามองทุกสิ่งทุกอย่างเป็นครั้งสุดท้าย
...พวกเขาจัดการตัวการที่อยู่เบื้องหลังได้สำเร็จ
...การแพร่กระจายของเชื้อก็ถูกควบคุมไว้แล้ว
เธอคนนั้น...ก็ไม่ได้ตายและยังเอาตัวรอดไปได้
ท่ามกลางความเหนื่อยล้าจากเรื่องราวทั้งหมด ลีออนยิ้มออกมา
ฝันร้ายจบลงเสียที....
-----------------------------------
บทส่งท้าย
ท่ามกลางแสงแดดและสภาพอากาศที่สดใส เฮเลน่าถือช่อดอกไม้มาเยี่ยมหลุมศพของน้องสาวของเธอ...เธอไม่มีวันได้เดโบราห์กลับคืนมาอีกแล้ว
"ถึงเวลาที่พี่ต้องรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วล่ะ"
ลีออนและฮันนิแกนเดินเข้ามา เฮเลน่าสังเกตเห็นลูกทีมของลีออนที่ยืนอยู่ด้านหลัง เธอพร้อมจะรับโทษที่ได้ก่อขึ้นแล้ว...
"ขอบคุณนะ"
"สำหรับทุกๆอย่าง"
"ชั้นพร้อมแล้ว"
ลีออนจับมือของเธอ แต่เขาไม่ได้ใส่กุญแจมือเธออย่างที่คาดคิด....
"อะไรกัน"
"แต่ชั้นเป็นคนที่ให้ความร่วมมือในการก่อการร้ายนะ"
"มีการสอบสวนหลักฐานต่างๆใหม่อีกครั้ง "
"แล้วผลการตัดสินก็บอกว่าเป็นการไม่ยุติธรรม หากจะกล่าวหาเธอในเรื่องของอาชญากรรมที่ซิมมอนส์ก่อขึ้น"
"และข้อเท็จจริงนี้ก็จะเปิดเผยต่อสาธารณชนเช่นกัน"
"แต่ว่า..."
"ท่านประธานาธิบดีก็คงจะทำแบบนี้เหมือนกัน"
"เอาล่ะ ไปรวมทีมกันได้แล้ว"
ฮันนิแกนเดินกลับไปที่รถ เฮเลน่าเองก็เดินตามไปแต่ก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้
"ลีออน"
เฮเลน่าโยนของบางอย่างให้ลีออน
"เอาไว้คืนเธอ "
"ตอนที่คุณเจอเธอครั้งหน้าไง"
เห็นของนั้นแล้วลีออนก็ยิ้มออกมา นั่นสินะ จนกว่าจะเจอกันครั้งหน้า
"หึ"
"ผู้หญิงนี่จริงๆเลย"
ลีออนเดินตามทุกคนไป
เอด้า...เราจะได้พบกันอีกแน่นอน
เขาเชื่อแบบนั้น
THE END.
-----------------------------------
ทิ้งท้าย...
-รู้สึกว่าในภาคนี้ลีออนนิสัยเปลี่ยนไปจากปรกตินิดหนึ่ง เคร่งขรึมมากขึ้น ชิลล์น้อยลง พูดก็น้อยลง (เปรียบเทียบก็จากประมาณว่า จากดันเต้DMC1ไปเป็นดันเต้DMC2) โทนเรื่องก็ซีเรียสมากขึ้นตามสเกลความหายนะในเรื่อง
-ความสัมพันธ์ของลีออนและเอด้าก็(เหมือนจะ)พัฒนาไปอีกขั้นหนึ่ง 555 แต่สุดท้ายแล้วลีออนก็ยังจับไม่ได้ไล่ทันเอด้าอยู่ดี orz...อยากให้มันมีบทสรุปสักทีได้แล้ว
-ทั้งๆที่เป็นแคมเปญที่มีเนื้อหาหลักอยู่มากที่สุด แต่เมื่อรู้เรื่องราวจนจบ กลับรู้สึกว่ามีบทกินใจน้อยกว่าแคมเปญอื่นๆ อาจจะเป็นเพราะของคริสเน้นความดราม่าเข้มข้นและปัญหาชีวิต ส่วนของเจคก็ได้เห็นพัฒนาการตัวละครและความสัมพันธ์ใหม่ๆที่น่าสนใจ แต่ของลีออนนั้นตัวละครก็ไม่ได้พัฒนาระหว่างเกมให้เห็นชัดเท่าไหร่นัก ตรงส่วนของดราม่าก็ยังไม่ได้ให้น้ำหนักเท่าของคริส
-แต่ก็มีความน่าสนใจน่าติดตามในพล็อตหลักมาแทนที่ อ่านจนจบแล้วก็คงเดากันได้ทุกคนว่าเอด้าน่ะมีสองคน คนเสื้อน้ำเงินที่คริสบอกว่าตายไปแล้ว กับคนเสื้อแดงที่สู้กับซิมมอนส์ด้วยกัน แต่เหตุผลว่าทำไมถึงมีสองคนนั้นก็ต้องติดตามต่อไปในแคมเปญเอด้า
-มีการแนะนำองค์การตัวร้ายใหม่ 'แฟมิลี่' เป็นองค์การที่อยู่เบื้องหลังผู้มีอำนาจของโลกนี้มานานนม คอยแอบควบคุมความเคลื่อนไหลของโลกให้เป็นไปตามแบบที่ต้องการ ซิมมอนส์เองเป็นผู้นำองค์กร แต่เมื่อถูกฉีดไวรัสแล้ว แฟมิลี่ก็ตัดหางปล่อยวัดทันที
-องค์กรแฟมิลี่ อยู่ๆดีก็โผล่มาในภาคนี้นี่ล่ะ ยังหาไม่เจอว่าเคยเกริ่นถึงมาก่อนไหมในอดีต = =? เหตุนี้เลยทำให้บอสภาคนี้ไม่ค่อยEpicทางด้านเนื้อเรื่องเท่าไหร่ เพราะไม่ผูกพันธ์ด้วย ไปเน้นความอลังการในการเปลี่ยนร่างแทนละกัน
-ตอนจบแม้ซิมมอนส์จะตาย แต่แฟมิลี่ก็ยังคงอยู่ เอกสารลับที่มีให้อ่านในเกมจะบอกว่า แฟมิลี่เลือกผู้นำคนใหม่ได้แล้ว...ก็เป็นลางให้เห็นว่าองค์การร้ายยังไม่หมดไป ดั่งเช่นในเกมที่การตายของซิมมอนส์นั้นทำให้เลือดย้อมสัญลักษณ์ของอัมเบรลล่าจนปรากฏขึ้นมา เหมือนกับว่าคืนชีพอีกครั้ง
-ถ้าเข้าใจไม่ผิด ตอนจบเฮเลน่าก็ได้เข้าหน่วย D.S.O. แล้วล่ะ
ป.ล.ตอนหน้า แคมเปญสุดท้าย ของเอด้า เฉลยปริศนาพล็อตทุกอย่างในเกม คงไม่ยาวนักเพราะแคมเปญสั้นกว่าเพื่อน
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่ง
รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่
เจาะสถิติสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี (งวด 2 มกราคม)
ไทยซื้อระบบป้องกันทางอากาศใหม่ !
วิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569
อาเซียนเทเขมร ไม่เอาด้วย โยนให้ไทย กับกัมพูชาไปเคลียร์กันเอง
ปิดฉากบทบาทนักการเมือง! "นอท พันธ์ธวัช" ย้ำชัดลาออกพรรคเปลี่ยน พร้อมประกาศจุดยืนไม่หนุนฝ่ายใด
สยายปีกรับทรัพย์! เลขเด็ด "นกตาทิพย์" แนวทางรวยงวดใหม่ 2 มกราคม 2569
เจาะลึกเลขเด็ดสำนักดัง งวดประจำวันที่ 2 มกราคม 2569
ทำไมกวางเรนเดียร์ของซานตาคลอสถึงอาจเป็น "ตัวเมีย" ทั้งฝูง
สื่ออินเดียมอง ฉลาดล้ำลึก ทิ้งไข่ถล่มคาสิโนเขมรมาเป็นเกราะป้องกันตัว
ลือสะพัด เกาหลีใต้ถีบส่งแรงงานเขมรกลับบ้าน 5 หมื่นราย หลัง 37 องค์กรเกาหลี ไม่ทนพวกเขมรป่วนเมือง
อาเซียนเทเขมร ไม่เอาด้วย โยนให้ไทย กับกัมพูชาไปเคลียร์กันเอง
ปิดฉากบทบาทนักการเมือง! "นอท พันธ์ธวัช" ย้ำชัดลาออกพรรคเปลี่ยน พร้อมประกาศจุดยืนไม่หนุนฝ่ายใด
สาวญี่ปุ่นจัดอีเวนท์พบปะแฟนคลับ แต่ดันไม่มีใครมางานเลย จนกระทั่งเธอโพสต์ขอโทษ
ป้าฟันต้นมะม่วงแก้วขมิ้นเพราะเกลียดเขมรที่ทำร้ายคนและทหารไทย ยอมรับความเกลียดและอยากให้ทหารจัดการเรื่องนี้เร็วๆ
ทหารไทย ยึดฐานกัมพูชา เจอถุงยางเกลื่อนฐาน
แนะนำ! เว็บไซต์ ai สามารถวาดรูป [l8+](สร้างฟรี) ผู้ใหญ่เท่านั้น








































































































































































