ตัวอับเฉา ทำไมจึงเรียกเช่นนั้น
สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้ก็มีเกร็ดเล้กเกร็ดน้อยเสริมความรู้มาฝากกันครับ เกี่ยวกับเรื่องอับเฉา หรือเครื่องอับเฉา ซึ่งเรื่องนี้ถ้าถามเพื่อนๆ หลายคนก็คงตอบกันได้ แต่ถ้าถามว่าหน้าตาเป็นอย่างไร ก็เชื่อว่าหลายคนคงตอบเหมือนกันว่าเป็นรูปปูนปั้น ซึ่งถูกแต่ไม่ทั้งหมด ยังมีอับเฉาอีกแบบที่เชื่อว่าหลายคนคงไม่รู้จัก มาติดตามกันครับ
สำหรับใครที่เคยไปเยือนวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือ วัดโพธิ์ แล้วละก็ย่อมต้องเคยพบเห็นรูปสลักหินจีนทั้งหลายที่ตั้งประดับตามซุ้มประตูและที่ต่างๆ มีทั้งสลักจากหินและปูนปั้น โดยหลายคนอาจจะไม่รู้ว่ารูปสลักหินจีนเหล่านี้ มีชื่อเรียกว่า ตัวอับเฉา หรือ เครื่องอับเฉา (Chinese Ship Ballast)
ตัวอับเฉานั้น มีต้นกำเนิดจากการค้าสำเภา (การค้าขายสินค้าด้วยเรือสำเภาเดินทะเล) ในสมัยรัชกาลที่ 3 โดยเมื่อประเทศไทยจะส่งสินค้าไปขายยังเมืองจีนหรือยังต่างประเทศนั้น สินค้าจะเป็นพวก ไม้สัก ข้าวสาร งาช้าง ดีบุก พลวง ไม้ เครื่องเทศ ซึ่งเป็นของมีน้ำหนัก หากไปค้าขายที่เมืองจีน เมื่อขายสินค้าแล้ว ขากลับก็จะซื้อสินค้าจากเมืองจีน (หรือจากประเทศคู่ค้า) กลับมา เป็นพวกผ้าแพร ผ้าไหม แร่ทอง แร่เงิน ไขมุก ซึ่งมีราคสูงและมีน้ำหนักเบา ซึ่งเรือสำเภาที่จะแล่นฝ่าคลื่นลมในทะเลได้นั้นต้องมีน้ำหนักพอสมควร มิฉะนั้นเรือจะโคลงแล่นฝ่าคลื่นลมมาไม่ได้ จึงต้องมีการถ่วงน้ำหนักใต้ท้องเรือ โดยมีการใส่อับเฉามาใต้ท้องเรือ
อับเฉา ในยุคแรกๆ จะมีลักษณะเป็นแท่งหินยังไม่มีการทำเป็นตุ๊กตาหิน โดยนำไปใช้เป็นแท่งหินปูพื้นทำถนนทางเดิน ณ พระบรมมหาราชวังในปัจจุบัน ซึ่งเชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนที่อ่านอยู่นี้ก็คงได้เหยียบมาแล้วโดยไม่รู้ว่าเรากำลังเหยียบอับเฉพาะที่มีประวัติมายาวนาน ต่อมามีการนำตุ๊กตาหินมาใส่เป็นตัวอับเฉา ซึ่งตอนแรกๆ นั้น ทางจีนทำมาอย่างไร เราก็ซื้อมาตามนั้น แต่ภายหลังมีการออกแบบจากไทยไปให้ช่างจีนทำตุ๊กตาหินตามสั่ง ซึ่งตุ๊กตาหินเหล่านั้นได้นำมาตั้งตกแต่งพระอาราม พระราชวัง วัง หรือบ้านผู้มียศศักดิ์ โดยสลักเป็นรูปต่างๆ ทั้งรูปคน ฝรั่ง จีน เทพเทวดา และรูปสัตว์
แต่เดิมผู้เขียนเชื่อว่าอับเฉา หรือตัวอับเฉาคงไม่ได้มีการซื้อขายกัน ด้วยเหตุที่ว่าเวลาเดินเรือไปค้าขายในอดีต การใช้อับเฉาถ่วงดังที่กล่าวมาข้างต้นก็เป็นประโยชน์อยู่ แต่หากชาวจีนซื้อสินค้าที่มีความหนักกลับมาด้วยดูว่าตัวอับเฉาจะทำให้เรือหนักเกินกำลัง โดยเฉพาะในอดีตประเทศไทยเป็นแหล่งส่งออกแร่ดีบุก, ข้าว และไม้สัก ที่หลายประเทศมีความต้องการ ประเทศไทยได้ขึ้นชื่อว่าส่งแร่ดีบุกออกเป็นอันดับหนึ่งของโลกทีเดียว ดังนั้นสินค้าเหล่านี้เวลาทางจีนขนกลับก็มีน้ำหนักมากโขอยุ่ จึงเป็นไปได้ว่าต้องนำอับเฉาออกจากเรือ ซึ่งในยุคแรกเป็นแท่งหินที่ไม่ได้มีูรูปลักษณ์อะไร ผู้เขียนจึงคิดว่าไม่น่าจะมีการขาย อีกทั้งชื่อก็ฟังไม่เป็นมงคลสำหรับคนไทย "อับเฉา" จะมีคนไทยคนไหนซื้อไว้เล่า ดังจะเห็นว่าตัวอับเฉานั้นจะมีก็แต่ในวัดเท่านั้น ไม่มีตามบ้านเรือนแต่อย่างใด แต่ต่อมาระยะหลัง ถ้าพ่อค้าจากจีนยังต้องนำอับเฉามาทิ้งเสียเปล่าๆ ก็ดูจะรุสึกเสียดาย เพราะนิสัยค้าขายของคนจีนก็เป็นที่ทราบกันอยู่้ว่ามีหัวการค้า อะไรๆ ก็เป็นเงินเป็นทองได้หมด หลังจากนั้นพ่อค้าชาวจีนอาจคิดว่าถ้าต้องนำหินมาทิ้งเสียเปล่าๆ ก็น่าจะทำเป็นรูปปั้นเวลาจะนำออกจากเรือก็ขายให้คนไทย ซึ่งเวลานั้นก็คงมีการซื้อขายเกิดขึ้นดังบันทึกที่มีมา
เนื่องจากในยุคแรกของอับเฉาไม่มีบันทึกถึงเรื่องการให้เปล่าหรือซื้อขายกัน ในท้ายบทความจึงเป็นเรื่องการวิเคราะห์จากความเป็นไปได้ของสินค้าแร่ดีบุก และไม้สักที่หนักจนต้องเอาอับเฉาออกนั้นเป็นการวิเคราะห์จากผู้เขียนเอง ส่วนจะเป็นที่น่าเชื่อได้หรือไม่ก็ให้เพื่อนๆ พิจารณาประกอบกัน หากเพื่อนๆ ได้ไปเที่ยวพระบรมมหาราชวังหรือวัดพระแก้วก็สังเกตุทางเดินดูนะครับ เพราะนั้นคือประวัติศาสตร์ที่วางอยู่ให้เราเดินผ่านไป แล้วพบกันใหม่ครับ...mata
เรียบเรียงโดย พรชัย สังเวียนวงศ์ (mata)
ขอบคุณภาพประกอบ http://www.dhammajak.net/, http://www.singhasquare.com
ที่มา: http://www.singhasquare.com
เขมรวิเคราห์ "จุดอ่อนของ T-50TH คืออะไร?"
"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชน
"ซินแสดัง" เผยดวงเมืองประเทศไทย ปี 2569..ยิ่งรบ ยิ่งแข็งแกร่ง ศัตรูแพ้ราบคาบ
เกาหลีแฉเอง! จีนเมินช่วยกัมพูชา ทัพฟ้าไทยจัดเต็มบินถล่มรังลับในเขมร
ทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจาย
📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำ
จรวดจีนฟัดจรวดจีน เปิดคลังอาวุธลับสมรภูมิสระแก้ว เมื่อไทย-เขมรต่างงัดไม้เด็ด "สายเลือดมังกร" มาดวลกัน
"อาจารย์ไอติม เรือนนาคา" ลุ้นรวยงวดปีใหม่ 2 มกราคม 2569
เขมร ยอมมาโต๊ะเจรจาที่จันทบุรี หลังไทยดัดหลัง "ไม่ย้ายประเทศ"
เลขเด็ด "พระนางสิลิดา" วัดท่าการ้อง ลุ้นโชครับปีใหม่ 2569
ปิดตำนาน 10 ปี "น้องคะน้า หรือ โมโมโนกิ คานะ" อำลาวงการทั้งน้ำตา
AI วิเคราะห์เลขท้าย 2 ตัว งวดวันที่ 2 มกราคม 69..โดยใช้สถิติย้อนหลัง 20 ปี
นักร้องเคป็อประดับตำนานเผย "ผมไม่ค่อยชอบเพลงฮิตอย่าง APT ของโรเซ่"
Body Gratitude การกล่าวขอบคุณร่างกาย ที่ให้เราได้ใช้ร่างกายในการดำเนินชีวิต โดยไม่ได้จำกัดแค่ความงาม เพื่อลดการเปรียบเทียบกับผู้อื่น และ สุขภาพจิตที่ดีขึ้น
เขมร ยอมมาโต๊ะเจรจาที่จันทบุรี หลังไทยดัดหลัง "ไม่ย้ายประเทศ"
เลขเด็ด "มหาทักษา" งวดวันที่ 2 มกราคม 69 มาแล้ว!..ส่องด่วนเลย!




