โดย นายแพทย์อดุลย์ชัย แสงเสริฐ
ขึ้นหัวข้อแบบนี้ ต้องขอบอกว่า เขียนเนื่องในโอกาสวันแม่ จริงๆนะครับ แต่ไม่ได้เขียนเพื่อ เชียร์ให้คนไข้พาแม่มาผ่าตัด หรือต้องมาซื้อ Course Laser , Botox , filler ในวันแม่นะครับ ที่เขียนเพราะหมอสังเกตว่า คลินิกชั้นนำ และไม่ชั้นนำต่างๆ ได้ออก Promotion พาแม่มาทำสวย แล้วให้ส่วนลด มากมาย ( เพื่อแสดงความกตัญญูแก่แม่ ??? )
จริงๆต้องขอบอกว่า ใจนึงก็ไม่เห็นด้วย เพราะคิดว่าแสดงความกตัญญูแก่ แม่ น่าจะเป็นการทำความดีเพื่อแม่ พาแม่ไปเที่ยว หรือ การพาแม่ไปทำบุญ น่าจะเหมาะสมกว่า ที่จะพาแม่มาทำสวย แต่ถ้าถามว่ามีหรือเปล่าที่ลูกพาแม่มาทำ ศัลยกรรมในวันแม่ คำตอบคือ มี !!
แม้แต่หมอเอง ก็ยังต้องถามคนไข้ เลยว่า อยากมาเองหรือถูกลูกบังคับให้มา คนไข้ตอบว่า ลูกบังคับ เลยยอมมา หมอเลยถามคนไข้ถึงสาเหตุที่อยากมาทำการผ่าตัด คนไข้ตอบว่า ก็เพราะว่า มีปัญหามานานแล้ว แต่ไม่กล้าบอกลูก
หมอจึงอยากจะเขียนถึงปัญหาอะไรบ้าง ที่คุณแม่ อยากให้ ลูกพามาทำสวยในวันแม่ ( จริงๆ แม่หลายคนก็ไม่อยากให้ลูกพามาเพราะ กลัว ลูกเปลือง )
ปัญหาที่ 1 คือ หนังตาบนตก
หนังตาตกจนขนตาม้วนพับแยงตา |
แต่แท้จริงแล้ว เรื่องหนังตาตกนั้นเป็น โรคอย่างนึ่งนะครับ และถ้าปล่อยทิ้งไว้อาจเกิดปัญหาถึงขั้นกระจกตาเป็นแผลได้เลย สาเหตุเป็น เพราะว่า เมื่อหนังตาตกลงมามากๆ จะไปถ่วงขนตาให้พับเข้าไปแทงเยื่อบุตา และกระจกตาได้ เมื่อเป็นมากเข้าจะรู้สึกเคลืองตา น้ำตาไหลอยู่ตลอด แม่ๆส่วนใหญ่มักจะแก้ไขเบื้องต้นโดยการใช้ แหนบดึงขนตาออก ที่ละเส้น ที่ละเส้น ( บอกได้เลยว่า เจ็บมาก )
ถ้าเป็นหนักๆคงต้องเอา เทปดึงเอาไว้ |
การแก้ไข ทำโดยการผ่าตัดหนังตาบนออก ร่วมกับเย็บเปลือกตาบนให้พลิกออกด้านนอกเพื่อให้ขนตาม้วนออกนอกดวงตา
รูปภาพ ก่อนและหลังทำ จาก Mayo foundation |
ปัญหาที่ 2 คือ ถุงใต้ตา
ถุงใต้ตา หรือหลายคนเรียกว่า ถุงเงินถุงทอง โดยมากมักสังเกตว่า เริ่มมีตอนอายุ 40 แล้เริ่มเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ ฝรั่งเรียก ไส้เลื่อนของไขมันตา ( Herniate Orbital Fat ) อธิบายง่ายๆก็เหมือนพุงของเรานะครับ อายุมากขึ้นยิ่งยื่นมากขึ้น แต่การมีถุงใต้ตามากขึ้นจะเกิดผล 2 อย่างที่ไม่เหมือนกัน
กรณีแรกถุงใต้ตาที่มากขึ้นจะดันกระดูกอ่อนของเปลือกตาล่าง ( tarsal plate ) ม้วนพับเข้าไป ที่ดวงตา ( entropion ) ซึ่งก็จะเกิดอาการเดียวกันกับ เปลือกตาบน นั้นก็คือ ขนตาล่างแยงตา อยู่เรื่อยๆ จนเยื่อบุตาอักเสบ หรือเป็นแผลที่กระจกตา
ขนตาล่างม้วนพับแยงเยื่อบุตาจนเกิดการอักเสบ |
รางน้ำตายืนห้อยออกมา |
การแก้ไข
กรณีที่หนึ่ง แก้ไขโดยการเอาถุงไขมันใต้ตาออก ร่วมถึงตัดหนังตาเปลือกตาล่างออกและ เย็บเปลือกล่างให้ม้วนออก ( Lower blepharoplasty + capsulopalpebral fascia plication )
ภาพแสดงการผ่าตัดหนังตาล่าง |
ภาพแสดงการผ่าตัดเย็บย้นระยะทางของรางน้ำตา |
ปัญหาที่ 3 คือ ร่องน้ำหมาก ?
jowl line -- ร่องน้ำหมาก |
ใช้คำว่า ร่องน้ำหมาก อาจจะดูเชย เพราะหมอว่า แม่ๆรุ่นนี้คงไม่มีใครกินหมากกันแล้ว ร่องนี้แท้จริงแล้วก็คือ ร่องรอยพับที่ลากจากมุมปากมาที่คาง ร่องนี้มักก่อปัญหาให้คุณแม่หลายท่าน เพราะว่าเวลารับประทานน้ำ แล้วน้ำมักจะเลอะออกมาที่มุมปาก และไหลลงมาที่คาง ซึ่งทำให้ดูเหมือนรับประทานอาหารไม่เรียบร้อย และร่องนี้มักจะแฉะชื่นอยู่จากน้ำลาย ทำให้เกิดมุมปากอักเสบได้
การแก้ไข จริงๆต้องบอกว่า การผ่าตัดดึงหน้าส่วนล่าง และคอ สามารถช่วยได้ แต่สำหรับ หมอศัลยกรรมตกแต่งอย่างหมอ คิดเอาเองว่า ได้ไม่คุ้มเสีย เพราะถ้าต้องแลกกับแผลเป็นที่ได้จากการผ่าตัดแล้ว หมอว่าอย่าทำดีกว่า ดังนั้นวิธีการที่หมอว่า ดีกว่าคือ การทำ thermage ร่วมกับการใช้ไหมชนิดพิเศษ ( อันนี้พิเศษจริงๆ ไม่ใช้ ไหมไก่กา ที่ ฮิตทำกันอยู่ตอนนี้ ) มา ยกร่องน้ำหมากขึ้น
การทำ Thermage ยกร่องน้ำหมากได้ในระดับหนึ่ง |
สำหรับ หมอแล้ว ปัญหาทั้ง 3 อย่างนี้มักเป็นปัญหาที่ ก่อให้เกิดโรค ตามมาซึ่ง แม่ๆส่วนใหญ่มักมีปัญหามานาน แล้วเก็บปัญหาไว้ไม่ยอมบอกลูก ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆก็ตาม ไม่ว่าคุณแม่กลัวว่าจะรบกวนลูก กลัวลูกเสียเวลาพามา กลัวเปลืองเงินทองของลูก ทั้งนี้ทั้งนั้น หมอเชื่อว่าเป็นเพราะความรักของแม่ที่มีต่อลูก ที่ทำให้แม่ๆอดทนต่อปัญหาเหล่านี้จนกลายเป็นความเคยชินไป
อย่างไรก็ตาม หมออยากให้ลูกๆ ทั้งหลายลอง กลับไปหาคุณแม่ที่บ้าน มองหน้าท่าน แล้วถามถึงอาการดังกล่าวที่หมอเขียนมาข้างต้น กับคุณแม่ซักครั้ง บางทีคุณอาจจะได้ทราบว่า คุณแม่มีปัญหามานานแล้ว ก็ได้ แล้วค่อยหาโอกาสพาแม่มาทำสวยทีหลังก็ได้
หมายเหตุ ท่านสามารถพาคุณแม่ไปปรึกษากับคุณหมอศัลยกรรมตกแต่ง แถวๆบ้านก็ได้นะครับ ไม่ต้องพามาหาหมอ เพราะการผ่าตัดดังกล่าว คุณหมอศัลยกรรมตกแต่งทุกท่านทำได้ดีอยู่แล้ว