ไม่เคยมีใครจดจำอันดับ 2 ได้ ตอนที่3 Nikola Tesla

*อาจจะยาวไปถ้าเข้ามาแล้ว เจ้าของกระทู้อยากให้อ่านให้จบจริงๆ ไม่ต้องเม้นไม่ต้องโหวตก็ได้

 

ใครคือ บิดาแห่งไฟฟ้า

 

 

 

 

Nikola Tesla (1856-1943)

 

เอดิสันอาจเป็นเจ้าของสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์ระดับโลกนับพันรายการ

แต่หลายๆสิ่งเขาไม่ได้เป็นคนต้นคิด อาศัยการต่อยอดและถือครองสิทธิ์มากกว่า

อาทิ หลอดไส้ เขาก็ไม่ใช่คนต้นคิดตัวจริง แต่สามารถพัฒนาจนออกวางขายได้ต่างหาก เบอร์สองอย่าง

นิโคลา เทสลา ใครหลายคนเรียกเขาว่าอัจฉริยะตัวจริง แต่ชะตากรรมต่างกับเอดิสันราวฟ้ากับเหวเชียวละ

ใครที่ได้ดูศึกมายากลหยุดโลก อาจเคยได้ยินชื่อเขามาบ้าง(ถ้าดูรู้เรื่องนะ) เพราะเป็นตัวละครคนเดียวที่มีอยู่จริง

ถึงเจ้าของกระทู้ใช้เวลาดูถึงสองรอบกว่าจะเข้าใจ แต่เป็นภาพยนตร์ที่ให้แง่คิดมากๆ และน่าสะพรึงกลัวทีเดียว

เอาละกลับเข้าเรื่องหลังจากจบมหาวิทยาลัย เทสลาได้ทำงานกับ บริษัท Continental Edison ในฝรั่งเศส

ก่อนอพยพมาสหรัฐในปี 1884   4ปีต่อมา เขาค้นพบมอเตอร์เหนี่ยวนำกระแสไฟฟ้าครั้งแรกในปี1888 แต่ว่า

ไม่มีใครตอบรับสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ของเขา ต้องใช้เวลานับสิบปีกว่าจะทำให้ไดนาโมกระแสไฟฟ้าสลับเป็นที่ยอมรับ

เทสลาได้ชื่อว่าเป็นผู้คิดค้นคลื่นไมโครเวฟ ระบบเรดาร์ และระบบไฟฟ้าที่เราใช้กันทุกวันนี้ แต่เอดิสันได้เครดิตไป

เกือบทั้งหมด เนื่องจากในปี1885เอดิสัน ได้ว่าจ้างเทสลาให้แก้ไขงานออกแบบต่างๆของเขา โดยรับปากจะจ่ายค่า

ตอบแทนให้ถึง 50,000 ดอลลาร์ แต่เมื่อเทสลาทำงานเสร็จกลับได้ยินคำพูดนี้จากเอดิสัน   "เทสลา คุณไม่

เข้าใจอารมณ์ขัน แบบอเมริกันเอาเสียเลย" แล้วก็เสนอจะจ่ายเพิ่มให้เทสลาสัปดาห์ละ 10 ดอลลาร์จากเงินเดือน

เดิม18 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ แต่เทสลาปฏิเสธและขอลาออก ไม่น่าแปลกใจถ้าเทสลาจะเกลียดเอดิสันมากๆ

เทสลาได้คิดค้นระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าสลับ  แข่งกับระบบกระแสไฟฟ้าตรงของเอดิสัน ด้วยแรงดันไฟฟ้าตกตาม

ระยะทางแบบกระแสตรงแต่อาจเกิดอันตรายหากไม่มีหม้อแปลง เอดิสันจึงใช้จุดนี้โจมตีไฟฟ้ากระแสสลับของ

เทสลา ด้วยการนำไปช็อตช้างจนตาย แถมด้วยการสร้างเก้าอี้ช็อตไฟฟ้าสำหรับนักโทษเพื่อดิสเครดิตเทสลาสุดๆ

 

 

 

ด้วยนิสัยส่วนตัวที่ไม่ชอบเข้าสังคม ไม่มีความสัมพันธ์กับเพศตรงข้าม

ไม่ยอมจับมือทักทายกับคนอื่น รวมถึงเชื่อว่าตัวเองมีพลังจิต

แม้จะเป็นอัจฉริยะคนก็มองเขาไม่ต่างจากคนบ้า คนนึงเลยละ

บั้นปลายของเขาไม่ต่างจากคนไร้บ้าน แม้จะเป็นเจ้าของสิ่งประดิษฐ์กว่า

300 ชิ้น แต่ไม่ได้ช่วยให้ชีวิตดีขึ้น เขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะตายในบ้านตัวเอง

มีคนพบศพเขาในโรงแรม New Yorker สันนิษฐานว่าหัวใจล้มเหลว

ระหว่างวันที่ 5-8 มกราคม 1943 เย็นวันพบศพข้อมูลการคิดค้นต่างๆ

ของเขาตกถึงมือหลานชายซึ่งเป็นญาติคนเดียวในไม่กี่คนในสหรัฐ

ทางการสหรัฐกลัวข้อมูลจะตกไปอยู่ในมือเยอรมันซึ่งเป็นศัตรูในขณะนั้น

งานของเขาทั้งหมดจึงถูกปิดเป็นความลับสุดยอด(ก็ถูกสหรัฐยึดนี้

ขี้ตู่มากเลย ปล้นกันชัดๆ)    รวมถึงการค้นพบที่น่าสนใจ

ที่สุดของเขา คือ Teleforce  ที่สามารถส่งพลังงานไฟฟ้าได้แม้ในสภาพ

อากาศที่เบาบาง แต่เมื่อรัฐบาลห้ามทุกคนพูดถึงงานค้นคว้าของเขา

ก็ไม่ยากที่จะทำให้ฮีโร่ผู้นี้ถูกลืมเลือนมากที่สุดคนหนึ่งของโลก

 

ทำไมคุณถึงต้องรู้จัก Nikola Tesla

• ช่วงแรกเขาได้สร้างระหัดวิดน้ำชนิดไม่มีใบพัด และทำให้เขาได้แรงจูงใจในการสร้างกังหันน้ำชนิดไม่มีใบพัดในเวลาต่อมา
• เขาจะทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันซ้ำกันหลายครั้ง จนกว่าจะได้จำนวนที่หาร3 ลงตัว
• เขาเป็นผู้ประดิษฐ์ขดลวดเทสลา หรือ Tesla coil และยังค้นพบวิธีการเปลี่ยนสนามแม่เหล็กเป็นสนามไฟฟ้า 
• ในปี 1940หลังวันเกิดครบรอบ 84ปี เทสลาให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ The New York Times วันที่ 22 กันยายน 1940 ว่า “…เขาพร้อมที่จะเปิดเผยความลับเกี่ยวกับพลัง ‘โทรกำลัง’ (teleforce) ต่อรัฐบาลสหรัฐอเมริกา พลังนี้มีอานุภาพหลอมละลายเครื่องยนต์ของเครื่องบินจากระยะไกลถึง  250ไมล์ทำให้สามารถสร้างแนวกำแพงป้องกันรอบประเทศแบบกำแพงเมืองจีน แต่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า”
• สหรัฐอเมริกาเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ ๒ และเทสลาเองก็คงเป็นกังวลกับการที่ยูโกสลาเวีย ประเทศบ้านเกิดของเขา ได้แพ้ต่อกองทัพเยอรมัน เทสลาต้องการยก “รังสีหายนะ”ให้แก่รัฐบาลอเมริกัน เพื่อช่วยทั้งประเทศบุญธรรมและประเทศบ้านเกิดเมืองนอน ปี 1943 เทสลาจึงโทรศัพท์ไปที่แผนกการสงครามสหรัฐฯ ขอคุยกับพันเอกเออร์สไกน์ เสนอยกความลับของขีปนาวุธ “โทรกำลัง” ทั้งหมดให้แก่รัฐบาล เออร์สไกน์ไม่รู้ว่าเทสลาคือใคร คิดว่าเขาเป็นแค่คนบ้าคนหนึ่ง เออร์สไกน์ให้สัญญากับเทสลาว่าจะติดต่อกลับ แล้วหลังจากนั้นเขาก็ลืมสนิท 
• คงเป็นตลกร้ายที่รังสีหายนะของเทสลากลับกลายเป็นเรื่องจริง วงการวิทยาศาสตร์เพิ่งตามเขาทัน เมื่อปี1993กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เริ่มก่อสร้างศูนย์วิจัยไอโอโนสเฟียร์ ในเมืองกาโคนา มลรัฐอะแลสกา ศูนย์นี้มีชื่อว่า HAARP (High Frequency Active Auroral Research Program) ในการดำเนินโครงการเพื่อศึกษาคุณสมบัติการสะท้อน (resonant properties) ของโลกและชั้นบรรยากาศโลก โครงการนี้มีความเกี่ยวโยงกับงานของเทสลาอย่างชัดเจน กล่าวคือ HAARP กำลังศึกษาปรากฏการณ์เดียวกันกับที่เทสลาค้นคว้าที่โคโลราโดเมื่อกว่า 100ปีก่อน
• เป็นเรื่องน่าเสียดายที่เทสลาไม่เคยตีพิมพ์ทฤษฎีแรงโน้มถ่วงที่มีพลวัตของ เขา องค์ความรู้ที่เรามีเกี่ยวกับแรงโน้มถ่วงในปัจจุบันบอกว่า เมื่อวัตถุหนักเคลื่อนที่ มันจะแผ่คลื่นแรงโน้มถ่วง (gravity wave) ออกมา   ความเห็นของเทสลาที่ไม่ตรงกันกับไอน์สไตน์สะท้อนให้เห็นว่าเขาได้ขยายแนวคิด นี้ไปสู่แรงโน้มถ่วงด้วย การโจมตีงานของไอน์สไตน์ทำให้แวดวงวิทยาศาสตร์ตอนนั้นโจมตีเทสลา
• ในปี1980 ความคิดของเทสลาได้รับการพิสูจน์ว่าถูกต้อง ผลการวิจัยเรื่องการสูญเสียพลังงานในพัลซาร์ดาวคู่นิวตรอน (double neutron star pulsar) ชื่อ PSR 1913+16 พิสูจน์ว่าคลื่นแรงโน้มถ่วงมีอยู่จริง แต่เทสลาไม่เคยอธิบายทฤษฎีแรงโน้มถ่วงของเขาให้โลกรู้  เราเพิ่งจะเข้าใจแรงโน้มถ่วงมากพอที่จะระลึกได้ว่าความคิดของเทสลานั้นถูก ต้องเมื่อไม่นานมานี้เอง
• หลังจากเสียชีวิตได้ 6เดือน ศาลสูงสหรัฐตัดสินว่าเทสลาเป็นผู้ประดิษฐ์วิทยุคนแรกของโลก ไม่ใช่ กูกลิเอลโฒ มาร์โคนี นักประดิษฐ์ชาวอิตาเลียน แต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไรเพราะสิทธิบัตรดังกล่าวหมดอายุแล้ว(และทั้งคู่ตายแล้ว)
• ทั้งเทสลา และเอดิสัน  ไม่เคยได้รางวัลโนเบล หลายฝ่ายคาดว่าอาจเป็นเพราะความเกลียดชังของทั้งคู่ที่ไม่ยินดีจะรับรางวัลรวมกัน
• ปี1960 เทสลา ได้รับเกียรติให้เป็นหน่วยวัดสนามแม่เหล็ก (T) และยังได้รับการยกย่องให้เป็นบิดาแห่งวิศวกรรมศาสตร์ไฟฟ้า นอกจากนั้นภาพของเทสลายังได้โอกาสปรากฏอยู่บนธนบัตรของเซอร์เบียด้วย

 

บทความนี้เจ้าของกระทู้ได้พยายามเรียบเรียงและนำแต่ส่วนสำคัญๆมาแล้วนะคะ แต่ข้อมูลทั้งในหนังสือและในเว็บมันเยอะมากจนเราคิดว่าไม่อยากตัดมันออกเลยสักอันเดียว คือเราสนใจมากถือได้ว่าเป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งของโลกที่คนรู้จักน้อย และเคยถูกลืมเลือนเป็นร้อยปี มันน่าเศร้าใจที่ตอนมีชีวิตอยู่เขาถูกมองไม่ต่างจากคนสติเพี้ยน และมันทรมานมากนะที่ไปทางไหนก็ไม่มีคนยอมรับ และสหรัฐยุคนั้นก็กระทำกับเขาผู้ล่วงลับเหมือนบุคคลอันตรายและไม่ต่างจากการปล้นแนวคิดซ้ำยังปกปิดมาเป็นร้อยปี

*ท้ายๆไม่ได้ยกวิกิพีเดียมานะ อย่ามาว่าเค้านะ