ห้องน้ำชาย

หากพิจารณาห้องน้ำชายเปรียบเทียบกับห้องน้ำหญิง สิ่งหนึ่งที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัด คือ โถปัสสาวะ มันเป็นสุขภัณฑ์เดียวที่บ่งบอกถึงความเป็นห้องน้ำชาย โถปัสสาวะถูกออกแบบมาเพื่อให้เหมาะสมกับสรีระของผู้ชายที่สามารถยืนปัสสาวะได้ แต่หากสังเกต จะเห็นได้ว่าการยืนปัสสาวะของผู้ชายสามารถกระทำในพื้นที่สาธารณะได้ ไม่ว่าจะเป็นตามพุ่มไม้ข้างถนน ตามกำแพง ความน่าสนใจอยู่ที่ว่าการปัสสาวะของผู้ชายสามารถกระทำในพื้นที่สาธารณะได้ ในขณะที่ผู้หญิงไม่สามารถจะทำได้

            โถปัสสาวะส่วนใหญ่ตามห้องน้ำชายมักจะถูกจัดวางอยู่ส่วนหน้าของบริเวณห้องน้ำ ดังนั้นเมื่อจะเข้าห้องน้ำ โถปัสสาวะก็เป็นสิ่งแรกที่บ่งบอกให้ผู้ที่กำลังเดินเข้าห้องน้ำทราบว่านี้คือห้องน้ำชาย การขับถ่ายที่ถูกกำหนดจากพื้นที่ห้องน้ำชายถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนอย่างเห็นได้ชัด นั่นคือ พื้นที่สำหรับปัสสาวะ กับพื้นที่สำหรับอุจจาระ โดยพื้นที่ปัสสาวะถูกจัดวางในส่วนของพื้นที่เปิดที่คนสามารถมองเห็นได้ ในขณะที่พื้นที่อุจจาระอยู่ในพื้นที่ปิดภายในห้องส้วม กล่าวอีกอย่างคือ ที่สำหรับปัสสาวะเป็นพื้นที่สาธารณะ ส่วนพื้นที่อุจจาระเป็นพื้นที่ส่วนตัว โถปัสสาวะจึงเป็นสุขภัณฑ์ที่แยกห้องน้ำชายให้ต่างจากห้องน้ำหญิง 

            คำถามก็คือ ทำไมโถปัสสาวะจึงถูกจัดวางในพื้นที่เปิด ทั้งที่การการขับถ่ายควรจะถูกจำกัดอยู่ภายในพื้นที่ปิด เหมือนกับห้องน้ำหญิงที่การขับถ่ายจะเกิดภายในห้องส้วมเท่านั้น นั่นแสดงว่าการยืนปัสสาวะจะต้องมีอะไรบางอย่างที่อยู่นอกเหนือจากการขับถ่าย หากพิจารณาจะเห็นว่าการแสดงความเป็นชายในพื้นที่แห่งการขับถ่ายอย่างหนึ่ง ก็คือ การยืนปัสสาวะ เพราะมันเป็นกลไกที่ปรากฏเฉพาะในเพศชายเท่านั้น ดังนั้นการยืนปัสสาวะจึงมีความสำคัญมากในฐานะที่เป็นกลไกที่บ่งบอกว่าคนคนนั้นเป็นผู้ชาย แต่หากจำกัดการขับถ่ายทั้งหมดของเพศชายไว้ภายในห้องส้วม ความเป็นชายของการยืนปัสสาวะก็จะไม่ได้ถูกแสดงออกมา จึงเป็นไปได้ที่การจัดวางโถปัสสาวะในพื้นที่เปิดก็เพื่อเป็นพื้นที่ให้ผู้ชายแสดงออกความเป็นชายออกมา

            แต่การยืนปัสสาวะไม่ใช่เพียงการแสดงออกความเป็นชายเท่านั้น หากยังเป็นการประกอบสร้างความเป็นชาย โดยยืนยันความเป็นชายผ่านการยืนปัสสาวะและกำจัดความเป็นอื่นของเพศชายออกไปจากพื้นที่ห้องน้ำชายเพื่อคงความเป็นชายให้เหลือเพียงหนึ่งเดียว โดยความเป็นอื่นอย่างที่หนึ่ง ก็คือ ความเป็นหญิง การที่โถปัสสาวะถูกจัดวางไว้ด้านหน้าสุดของห้องน้ำ หากตีความในระดับตื้น ก็เพื่อบ่งบอกว่านี้คือห้องน้ำชาย เพื่อที่ว่าผู้หญิงจะได้ไม่เข้ามาในกรณีที่ไม่เห็นป้ายหน้าห้องน้ำ โถปัสสาวะ รวมทั้งผู้ชายที่กำลังยืนปัสสาวะจึงเป็นสัญลักษณ์หนึ่งในการกีดกันเพศหญิงให้ออกจากพื้นที่ห้องน้ำชาย แต่ในระดับลึก ก็คือ การกีดกันความเป็นหญิงออกไป เพราะการยืนปัสสาวะเป็นการประกาศว่านี้คือกิจกรรมของผู้ชายที่ทำได้เฉพาะผู้ชายเท่านั้น ดังนั้นผู้ที่ไม่สามารถกระทำกิจกรรมนี้ หรือไม่สามารถแสดงความเป็นชายออกมาได้ก็ไม่สามารถที่จะเข้ามาในพื้นที่นี้ได้ ในแง่หนึ่งก็คือการยืนปัสสาวะเป็นกิจกรรมของการคงความบริสุทธิ์ของความเป็นชายให้กับห้องน้ำชาย

ความเป็นอื่นที่สอง คือ ความไม่เป็นชาย อย่างเช่นเกย์(บางคน) เกย์ที่เข้าห้องน้ำชายบางคนเลือกจะปัสสาวะในห้องส้วม เพราะไม่ต้องการจะแสดงความเป็นชายออกมา โถปัสสาวะจึงเป็นสัญลักษณ์ในการกีดกันผู้ที่ไม่สามารถแสดงความเป็นชายออกมาได้  ซึ่งอาจมิใช่แค่เกย์เท่านั้น อาจยังหมายถึงผู้ชายที่ไม่สามารถแสดงความเป็นชายออกมาได้ เช่นในกรณีผู้ป่วย Urophobia(โรคกลัวการยืนปัสสาวะ ) เป็นต้น

โถปัสสาวะก็จะเป็นพื้นที่ของการกำจัดความเป็นอื่น(ความไม่เป็นชาย)ออกไป ให้เหลือเพียงความเป็นชายอันบริสุทธิ์เท่านั้น

สำหรับความเป็นอื่นต่อมา คือ เพศที่สาม เช่น “ทอม” หรือผู้หญิงที่มีพฤติกรรม(เลียนแบบ)ความเป็นชาย เช่น แต่งตัวแบบผู้ชาย ชอบผู้หญิง โถปัสสาวะที่ตั้งอยู่หน้าห้องน้ำ สำหรับทอมแล้วมันคือการตอกย้ำความเป็นของเทียม เพราะการเห็นโถปัสสาวะ เห็นการยืนปัสสาวะของผู้ชาย คือสิ่งที่ย้ำเตือนให้ทอมกลับมามองตนเองว่า อย่างไรตนเองนั้นก็ไม่ใช่ผู้ชาย ถึงแม้จะแต่งตัว หรือมีพฤติกรรมเลียนแบบความเป็นชายได้ขนาดไหน ก็ไม่สามารถเลียนแบบสิ่งนั้นสิ่งเดียวได้ นั่นคือ การยืนปัสสาวะ

หากวิเคราะห์เชิงจิตวิทยา พิจารณาท่ายืนปัสสาวะในระดับจิตใต้สำนึกร่วม(collective unconscious) การยืนเป็นท่าทางที่แสดงความมีอำนาจ เพราะมันมีลักษณะของการตั้งตรง คล้ายๆกับอวัยวะเพศชาย หรือองคชาต หรือลึงค์ ดังนั้นในระดับของการรับรู้ร่วมของมนุษย์ในส่วนของจิตใต้สำนึก การยืนมีลักษณะของความเป็นชาย ความเป็นหนึ่ง ความมีอำนาจ เช่น ศิวลึงค์ การยืนจึงมีอิทธิพลต่อจิตใต้สำนึกของแต่ละคนในลักษณะของท่าทางที่มีอำนาจ และเมื่อเทียบกับท่าทางการขับถ่ายของเพศหญิง คือท่านั่ง ซึ่งมีลักษณะเป็นแนวราบ ในแง่จิตวิทยามันเป็นท่าทางเชิงอ่อน(passive) ในกรณีของเกย์บางคนที่เลือกเข้าส้วมเพื่อปัสสาวะ และยังเลือกใช้ท่านั่งในการปัสสาวะของตน ก็เป็นไปได้ที่สาเหตุของการเลือกนั่งปัสสาวะอาจมาจากความต้องการหลีกเลี่ยงการแสดงออกความเป็นชายจากการยืนปัสสาวะ จึงเลือกที่จะใช้ท่าทางแบบหญิงแทน ซึ่งการเลือกก็มักจะขึ้นอยู่กับตัวตนทางเพศ หรืออัตลักษณ์ทางเพศของคนคนนั้นว่าจะเชื่อมโยงตัวตนของตัวเองกับความเป็นหญิง(feminine) หรือความเป็นชาย(masculine)อันไหนมากกว่ากัน

การยืนปัสสาวะในพื้นที่เปิด หากพิจารณาเชิงจิตวิเคราะห์แบบซิกมันด์ ฟรอยด์ การยืนปัสสาวะเป็นพฤติกรรมหนึ่งที่ขับเคลื่อนด้วยแรงขับทางเพศ(sexual desire) ในส่วนของความต้องการที่จะแสดงอำนาจออกมาในพื้นที่สาธารณะ และหากลองสังเกตอีกพฤติกรรมหนึ่ง ก็คือ การปัสสาวะเสียงดัง การปัสสาวะเสียงดังมักจะปรากฏแค่ในห้องน้ำชาย ในขณะที่ห้องน้ำหญิง การปัสสาวะเสียงดังดูจะเป็นเรื่องน่ารังเกียจ ยกตัวอย่าง จากสุขภัณฑ์ของประเทศญี่ปุ่น ที่ส้วมจะมีเครื่องอัดเสียงกดน้ำไว้เพื่อกลบเสียงปัสสาวะ หรืออุจจาระ

การปัสสาวะเสียงดังเป็นพฤติกรรมหนึ่งที่แสดงออกให้เห็นว่าคนคนนั้นมีแรงขับทางเพศในส่วนที่ต้องการแสดงออกความเป็นชาย แสดงอำนาจออกมาให้มากขึ้น และการแสดงออกนั้นก็ได้รับอนุญาตจากสังคม(เชิงจารีต) สังเกตว่าผู้ชายมักจะไม่ถือสากับเรื่องเสียงปัสสาวะ นั้นก็อาจเป็นเพราะห้องน้ำชายเป็นพื้นที่ที่ผู้ชายต่างก็รู้กันดีอยู่แล้วว่ามันเป็นพื้นที่แห่งการปลดปล่อยความเป็นชาย เพื่อยืนยันความเป็นชายให้กับผู้ชายที่เข้าไปใช้ห้องน้ำ

สรุึปได้ว่า การยืนปัสสาวะของผู้ชาย คือ ความแมนและตัวตนที่แท้จริงของบุรุษเพศ แสดงถึงพลัง ความสามารถ และอำนาจของผู้ชาย หากผู้ชายคนใดที่มีแนวคิดหรือพฤติกรรมในการปัสสาวะเป็นอย่างอื่นไปโดยที่ไม่ใช่ท่ายืน คนๆนั้น ย่อมถือว่าเป็นพวก"อีแอบ"(ไม่ยอมรับตัวตนของตัวเอง)

ห้องน้ำชาย จึงเป็นพื้นที่แห่งการสร้างอำนาจ

ซึ่ง เกย์ หรือแม้แต่กระเทย(บางคน) ก็ยังยืนปัสสาวะได้เลย!!! 

ปล. ข้อมูลยาวหน่อยนะ  

ทีนี้พวกผู้ชายก็ได้รู้ว่าเพื่อนๆชายของคุณมีพฤติกรรมแบบไหน บ่งบอกได้จากห้องน้ำนี่แหล่ะ