เรื่องราวของนักดนตรีเพื่อชีวิตที่เป็นตำนานในแผ่นดินไทย....."แอ้ด คาราบาว"

2.พ่อและแม่แอ้ดเป็นคนจีน มีรกรากมาจากซัวเถา แม่แซ่ตั้ง พ่อแซ่หู ซึ่งเป็นเชื้อสายมาจากมองโกล(ประธาณาธิบดีจีนก้อแซ่หู..หู จิน เถา)

3.แอ้ดมีชื่อจีนว่า "หู ฉุน ฉาง" แปลตรงตัวได้ว่า"คนแซ่หูผู้กล้าหาญ มีคุณธรรม"

4.เนื่องด้วยมีเชื้อสายมองโกล แอ้ดจึงตั้งค่ายเพลงของตัวเองในชื่อ"มองโกลเรคคอร์ด"เมื่อปี 2545

5.สมันเด็ก บ้านแอ้ดอยู่ใกล้ๆบ้านครูเพลง"สุรพล สมบัติเจริญ"มาก(อยู่ติดบ้านคุณยาย)สิ่งที่ด.ช.ยืนยงโปรดปรานมากในตอนนั้นคือ ขโมยยิงมะม่วงมันบ้านครูสุรพลมากิน (แบบนี้อร่อยกว่าซื้อกินเอง ใครเคยทำจะรู้ดี)

6.แอ้ดจบการศึกษาจากรร.วัดสุวรรณภูมิและกรรณสูติศึกษาลัยตามลำดับ และได้เดินทางมาสอบเข้าอุเทนถวายตามความตั้งใจ โดยสอบติดในอันดับต้นๆของรุ่น คือ อันดับที่ 16 อยู่ห้อง 1 หมายเลขประจำตัว 15047 รุ่น คณะสถาปัตยกรรม

7.หลังศึกษาจบ งานประจำงานแรกในชีวิตคือ เป็นสถาปนิกบริษัทเอกชนของผู้พันดำรงศักดิ์ เจริญเนติศาสตร์ มีลูกน้องเป็นช่างออกแบบ 3 คน

8.งานสุดท้ายในสายงานสถาปนิกของแอ้ดคือ สถาปนิกประจำโครงการของการเคหะฯ เงินเดือน 3,030 บ. สวัสดิการ 475 บ.

9.ในช่วงเหตุการณืความไม่สงบ 6 ตุลา 2519 แอ้ดอาสาเป็นพลเดินเมล์ให้พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย(พคท.)ใช้ชื่อว่า"สหายเชี่ยว" โดยมีหน้าที่ส่งข่าวสาร ยา อาหารแห้ง และของอื่นๆตามต้องการไปยังฐานที่มั่นที่ภูพาน

10.ในช่วงเวลาที่เป็นพลเมล์(ปี 2521) แอ้ดได้มีโอกาสเจอบุคคลที่มีอิทธิพลทางความคิดมากมาย เช่น สหายร้อย(วัฒน์ วรรลยางกูร),สหายรุ่งโรจน์และสหายไพรำ(วิสา คัญทัพและภรรยา),สหายเข้ม(หมอเหวง โตจิรการ),ผาแดง(พี่ล้วน เขจรศาสตร์),สหายเหล็กกล้า,สหายเทอดไท พิทักษ์ธรรม,สหายองอาจ...และสหายฟ้าใหม่ ผู้ดูแลสุขภาพทุกคนบนฐานที่มั่น ซึ่งเธอได้พลีชีพเพื่ออุดมการณ์บนที่มั่นภูพานนี่เอง

11.ปี 2523 รัฐบาลประกาศใช้นโยบายพระราชปัญญัตินิรโทษกรรม 66/23 นับเป็นห้วงเวลาสุดท้ายของ พคท. ...ทำให้แอ้ดหันหน้าเข้าสู่สังคมและเริ่มต้นสร้างตำนานบนเส้นทางสายดนตรี...

12.เมื่อเริ่มจริงจังกับงานดนตรี อาวุธคู่ใจแอ้ดในการทำอัลบั้มแรก คือ กีต้าร์อะคูสติกยี่ห้อมอรีส และกีต้าร์เฟนเดอร์ รุ่น Tele (แต่ทั้งสองต้องเดินทางเข้าโรงจำนำบ่อยๆตามสภาวะเงินทองของเจ้าของ)

13.ก่อนทำอัลบั้มแรก แอ้ดได้ใช้ชีวิตคลุกคลีอยู่กับวงดนตรีวงนึงถึงขนาดเหมือนจะเป็นครอบครัวเดียวกัน วงดนตรีแห่งตระกูลปาทาน วง"แฮมเมอร์"....ด้วยเหตุนี้ ในอัลบั้มที่ 2 ของแฮมเมอร์จึงปรากฏเพลง"ถึกควายทุย ภาค1"ของแอ้ดอยู่ด้วย

14.อัลบั้มที่โด่งดังที่สุดของแฮมเมอร์"ปักษ์ใต้บ้านเรา"ได้รับการออกแบบปกโดยน้าแอ้ดเรานี่เอง

15.เพลงที่แอ้ดเขียนขึ้นเป็นเพลงที่สองคือเพลง"ลุงขี้เมา" ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับอัลบั้มเริ่มต้นของประวัติศาสตร์คาราบาวนี่เอง

16.ชุด"ลุงขี้เมา"วางแผงปลายปี 2524 คาราบาวต้องใช้วิธีโปรโมทด้วยการไปขอร้องให้สถานีวิทยุต่างๆช่วยเปิดให้ และหลังจากสถานีวิทยุปตอ.เปิดเพลง"หนุ่มสุพรรณ"และ"ลุงขี้เมา"ได้หนึ่งสัปดาห์ ก้อมีโทรศัพท์มาถึงแอ้ด แจ้งว่านายทหารคุมสถานีมีคำสั่งห้ามเปิดเพลงของคาราบาวอีกต่อไป

17.นี่คือการเริ่มต้นโดน"แบน"ครั้งแรก คาราบาวโดนตั้งแต่ชุดแรกและตลอดมา......

18.ช่วงเวลานั้น แอ้ดเล่นดนตรีประจำอยู่กับวงโฮปที่ดิกเก้นผับ โรงแรมแอมบาสเดอร์ และแน่นอนว่าทางโรงแรมห้ามเล่นหนุมสุพรรณและลุงขี้เมาเด็ดขาด จนวันหนึ่ง มีเพื่อนเก่าแอ้ดแวะมาหาที่ผับเพื่อดูแอ้ดเล่นดนตรี เพื่อนคนหนึ่งรบเร้าให้เล่นลุงขี้เมากับหนุ่มสุพรรณให้ได้ จนแอ้ดจัดให้ตามคำขอ...ผลคือ โดนไล่ออกตั้งแต่เท้ายังไม่ลงจากเวที !!!

19.เมื่อเพื่อนผู้ขอเพลงทราบว่าแอ้ดโดนไล่ออกหลังเล่นจบ...ได้เสียครับ เพื่อนผู้อยู่ในอารมณ์เมา(ก้อกินเหล้านี่เนอะ)จัดการอาละวาดพังโต๊ะ เก้าอี้ โคมไฟร้านกระจายห่างห่วง จนแอ้ดและเพื่อนคนอื่นๆต้องช่วยกันดึงคนผู้นี้ออกจากร้านอย่างทุลักทุเล....เพื่อนผู้นี้มีนามว่า"เล็ก ปรีชา ชนะภัย"

20.จากเหตุการณ์วันนั้น ทั้งคู่ตกลงใจร่วมงานกันด้วยแนวทางเหมือนกัน ทำให้ก่อเกิดกระบี่มือหนึ่งคู่ใจแอ้ดตลอดมาในวงคาราบาวนาม"เล็ก คาราบาว

21.เมื่อเริ่มต้นทำอัลบั้มชุด 2 เล็กได้ดึงเพื่อนเข้ามาช่วยอีกคนคือ"เขียว กีรติ พรหมสาขา ณ สกลนคร" และมีนักดนตรีมาช่วยอีก 2 คน คือโก้(คีย์บอร์ด)และต๊ะ(กลอง) โดยมีวงเพลสซิเด้นส์ วงเก่าของเล็กมาช่วยแบ็คอัพด้วย กำเนิดอัลบั้ม"แป๊ะขายขวด"

22.ในอัลบั้มนี้มีเพลงอมตะเพลงนึงปรากฏอยู่ด้วยคือ เพลง"กัญชา" แอ้ดเขียนเพลงนี้เนื่องจากต้องการเลิกจากสมุนไพรชนิดนี้อย่างเด็ดขาด(แอ้ดเป็นอีกหนึ่งนักดนตรีที่ชื่นชอบสมุนไพรนี้ครับ) เมื่อแต่งเพลงนี้จบแอ้ดก้อประกาศต่อหน้าเพื่อนทุกคนขอเลิกเด็ดขาดจากบ้อง...นับแต่นั้นแอ้ดก้อไม่เคยแตะมันอีกเลย

23.อีก 10 ปีต่อมา เมื่อกัญชาเลิกได้บุหรี่ก้อเรื่องเล็ก แอ้ดเลิกบุหรี่ได้ทันที วิธีการที่ใช้ คือ "เอามันออกจากปาก" (นี่ตามคำบอกเล่าตัวแกเองนะ)

24.นายกรัฐมนตรีเมืองไทยที่แอ้ดให้ความนับถือมากที่สุดหาใช่คนบ้านเดียวกันอย่างคุณบรรหารไม่...ท่านนั้นคือ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ และ พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ

25.ช็อปเปอร์คันโปรดที่แอ้ดใช้ประจำในช่วงพีคสุดขีดคือ ฮาเลย์ เดวิดสัน 1340 ซีซี เฮอริเทจ ซอฟเทล คลาสสิค ปี 1995

26.เพลง"ยายสำอางค์" แอ้ดแต่งขึ้นจากเรื่องจริง ยายสำอางค์มีตัวตนจริง ยายสำอางค์ถูกพบโดยบังเอิญราวๆปี 2530 เนื่องด้วยแกมาร้องเพลงขอทานหน้าบ้านอาจารย์อภัย นาคคง (เป็นอาจารย์สอนที่เพาะช่าง) และได้แนะนำผ่านกันมาจนถึงแอ้ด แอ้ดได้ไปร่วมงานเผาศพยายสำอางค์ที่วัดนก ซ.จรัญฯ13 ในวันที่4 ต.ค. 2540 ด้วย

27.แอ้ดเคยเกือบต้องเอาชีวิตไปทิ้งบนเวทีมาครั้งนึง เมื่อครั้งงานคอนเสิร์ตไทยช่วยไทย ใช้ของไทย จัดขึ้นที่สนามหลวง แสดงร่วมกับศิลปินเพื่อชีวิตอีกหลายท่านในวันที่ 27 พ.ย. 2540 ...โดยเป็นคอนเสิร์ตกลางแจ้ง แต่วันนั้นฝนตกหนัก นักดนตรีก้อฝืนแสดงกัน !! .......ผลคือ โดนไฟดูดกันถ้วนหน้า (ดีสม..ไม่รู้จักหยุดก่อน ไม่ตายก้อบุญแล้ว)

28.ปัจจุบัน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์(ก้อของเมานั่นแหล่ะ)ที่แอ้ดโปรดปรานที่สุด คือ ไวน์แดง ..ที่ชอบเป็นพิเศษคือ ไวน์ราคาขวดไม่เกิน 300 บ. (ไม่ระบุยี่ห้อ คออินเตอร์ว่างั้นเหอะ)

29.หนังสือเล่มโปรดของแอ้ด คาราบาวมี 6 เล่ม คือ 1.มหาภารตยุทธ(แนวปรัชญาตะวันออก) 2.คัมภีร์ห่วงทั้งห้า 3.มุซาชิฉบับท่าพระจันทร์(ทั้ง2เล่มเป็นประวัติและเรื่องราวของมิยาโมโต้ มุซาชิ) 4.ขุนเขายะเยือก(เชิงปรัชญา สอนให้คนอยู่กับธรรมชาติ) 5.ศาสดาขบถ(บ็อบ มาเลย์) 6.ปฏิวัติยุคสมัยด้วยฟางเส้นเดียว (แนวคิดล้ำลึกจากฟูกุโอกะ)

30.ผลงานนอกเหนืองานเพลง มีงานแสดงหนังและละคร 1.หนัง สวรรค์บ้านนา 2.หนัง เ้สียงเพลงแห่งเสรีภาพ 3.ละคร เขี้ยวเสือไฟ 4.ละคร ส่วย 5.ละคร ลูกผู้ชายหัวใจเพชร 6.หนัง พรางชมพู 7.ละคร กษัตริยา 8.หนัง หว้อ หมาบ้ามหาสนุก

31.มี 1 อัลบั้มที่คาราบาวไม่สามารถวางขายได้เลย เนื่องจากรัฐบาลห้าม(อีกแระ) คือ "ไม่ต้องร้องไห้" แอ้ดจึงใช้วิธีขายพร้อมหนังสือชื่อเดียวกะอัลบั้ม (ซื้อหนังสือแถมเทปว่างั้นเหอะ) ราคาชุดละ 299 บ.ร้านดอกหญ้า(ถ้าจำไม่ผิดนะ)