มารู้จักเรือเดินสมุทรในปี 1900 ยุคหลังตอนที่ 2 ตอนสุดท้าย......
| The Empress of Ireland - Specifications: | |
| Length: | 570 feet (174.1 m) |
| Beam: | 65.6 feet (19.99 m) |
| Tonnage: | 14,191 gross tons |
| Engines: | Quadruple expansion engines turning two propellers. |
| Service speed: | 18 knots |
| Passengers: | 1,580 people |
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
2.
RMS Lancastria (1920-1940)สายการเดินเรือ Cunard
เรือของสายการเดินเรือ Cunard ลำนี้ ถูกแปลงไปเรืออพยพทหารที่นอร์เวย์ไปส่งที่ประเทศฝรั่งเศส เเละยังได้ช่วยเหลือทหารที่ชายฝั่งอีก 1000 กว่าคน ทำให้ภายในเรือแออัดอัดไปด้วยผู้คนถึง 8,000- 9,000 คน (ไม่ได้พิมพ์ผิด เรือลำเล็กๆๆลำนี้เต็มไปด้วยผู้โดยสาร + ทหาร ถึง 9000 ยัดกันเเน่นไปทั้งเรือ) ทั้งๆๆที่เรือได้รับการออกแบบสำหรับผู้โดยสารสูงสุด 1785 คน
การตกเเต่ง
ตกเเต่งอย่าง Modern, Baroque , Dutchอย่างเรียบง่าย..
จุดจบ
17 มิถุนายน 1940 เวลาบ่าย 4 10 นาที เรือถูกเรือดำนำ้เยอรมันยิงตอปิโดใส่ (อีกเเล้ว) ทำให้เรือเอียงตะเเคงซ้ายเเละจมลง 20 นาที มีทหารเกือบ 3000 กว่าคนติดอยู่ในท้องเรือ เเละรวมถึงผู้โดยสารที่ไม่สามารถออกมาได้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 5,000 คน รอดชีวิต ประมาณ 2,000 กว่าคน
*** จำไว้ว่าเวลาเรือเอียงตะเเคงซ้ายหรือขวา หรือจมตามเเนวขวาง เรือบดจะเยอะมากเเค่ไหนก็ไม่สามารถหย่อนลงได้เพราะถ้าหย่อนในตอนเรือเอียงจะทำให้เชือกขาด หรือเรือเสียสมดุลเเละควำ่ สุดท้ายก็ไร้ค่า มีเรือบดdHเหมือนไม่มี ต่างจากไททานิคที่จมตามเเนวยาว ที่สามารถหย่อนเรือชูชีพได้อย่างไม่มีปัญหา..
ตัวอย่าง
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
3.
SS. Cap Arcona (1927 - 1945) สายการเดินเรือร่วม Hamburg-Amerika Line และ Norddeutscher Lloyd
| The Cap Arcona - Specifications: | |
| Length: | 676 feet (206.5 m) |
| Beam: | 84 feet (25.7 m) |
| Tonnage: | 27,560 gross tons |
| Engines: | Steam turbines turning two propellers. |
| Service speed: | 20 knots |
| Passengers: | 1,315 people |
หลังสงครามโลหครั้งที่ 1 เยอรมันหวังจะฟื้นฟูตลาดการเดินเรืออีกครั้ง จึงได้ให่สายการเดินเรือทั้ง 2 สาย ออกแบบเรือโดยสารสุดหรูลำหนึ่ง เพื่อข้ามเส้นทางเดินเรือฮัมบูร์ก -อเมริกาใต้สำหรับการขยายเเละค้าขาย เรือได้เปิดตัวเมื่อ เมื่อ 14 พฤษภาคม 1927 เพื่อเป็นเรือโดยสาร ที่หรุหราเเละทันสมัยที่สุดในยุคนั้นให้ได้ ซึ่งก็เป้นที่พึ่งพอใจของเยอรมัน ในปี 1945 เรือ Cap Arcona ถูกนำมาใช้เพื่อช่วยเหลือผู้ลี้ภัย และ ขนส่งผู้ต้องขัง จากค่ายกักกัน Neuengamme มากกว่า 5,000 คน ทำให้มีปัญหาเรื่องการเดินทางที่ยาวนานเพราะเรือทำความเร้วได้เพียง 20 น็อต จึงจำเป้นต้องมีเรือพิฆาตเยอรมัน คอยเเล่นตามไปด้วย เพื่อป้องกันการโดนจมของฝ่านศัตรู

การตกเเต่ง
เรือ Cap Arcona ตกเเต่งแบบ jacobean , Dutc, Louis XIV, Empir, Georgian เรือได้เเรงบัยนดาลใจในการตกเเต่งแบบไททานิค ขึงมีการเลียนแบบภายในหลายอย่างที่คล้ายๆๆกัน
สระว่ายนำ้

ห้องทานอาหาร
ห้องสูบบุหรี่
ห้องนั่งเล่น
จุดจบ
เรือได้จมในวันสุดท้ายของสงครามโลกครั้งที่ 2 (วันดีจริงๆ) เมื่อ 3 พฤษภาคม 1945, หลังจากไม่กี่วันหลังจากที่ฮิตเลอร์ฆ่าตัวตายและก่อน 4 วันที่เยอรมันยอมจำนนเรือได้ถูกถูกโจมตีโดย 1B Hawkerของอังกฤษประกอบด้วยเลขที่ 184 หมู่เลขที่ 263 หมู่, ฉบับที่ 197 ฝูงบินและฉบับที่ 198 ฝูงบิน (อังกฤษโจมตีอย่างเก็บกดหลังจากเรือของตนโดนจมไปเยอะ) การโจมตีประสบความสำเร็จ ทำให้เกิดไฟ้ไหม้อย่างกว้างขวางบนเรือและต่อมาเรือได้พลิกคว่ำเเต่ยังไม่จม ผู้โดยสาร เเละทหารบนเรือแทบจะออกมาไมไ่ด้ ผู้ที่ออกมาเรือก็จะถูกฆ่าตายทันทีโดยนักบินกองทัพอากาศยิงกราดผู้รอดชีวิตในน้ำ บนเรือที่เต็มไปด้วยผู้บริสุทธิ์ที่ไม่รู้อโหน่อิเหน่ เเละสุดท้ายเรือที่ควำ่ก็ค่อยๆจมลงไป
การสังหารหมู่ทั้งหมดนี้นักโทษรอดชีวิต 350 คนจาก 4,500 คน มีผู้โดยสารรอดชีวิต 490 จาก600 คน ตายรวมๆๆก็ 5000 กว่าคน เท่ากับเรือ RMS Lancastria ถือว่าเสมอกันทั้ง2 ฝ่าย
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
4.
RMS. Laconia
(1920-1940)สายการเดินเรือ Cunard
เป็นเรือลำน้องขอ rms. Scythia ถูกเปิดตัวในเมษายน 1921 และเดินทางครั้งแรกของเมื่อ 25 พฤษภาคม 1922 มาจากเซาแธมตันไปที่ New York ในปี 1939 ลาโคเนียได้แปลงเป็นเรือค้าและขนส่งอาวุธและขนส่งพลทหารม้า และจมลง ในปี 1941
การตกเเต่ง
ตกเเต่งแบบ Dutc , Louis, Georgian
บันไดกลาง
ห้องสมุด
ห้องนั่งเล่น
ห้องสูบุหรี่
ห้องทานอาหาร
จุดจบ
วันที่ 12 กันยายน 1942 เรือถูกตอร์ปิโดของเยอรมันและจมลง เรือรบฝรั่งเศสมาถึงและช่วยเรือชูชีพที่รอดชีวิต 1,000 คน จาก 3200 คน


---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
5.
Wilhelm Gustloff (1938 - 1945)
| The Wilhelm Gustloff - Specifications: | |
| Length: | 684 feet (208.9 m) |
| Beam: | 77 feet (23.5 m) |
| Tonnage: | 25,484 gross tons |
| Engines: | MAN diesels turning two propellers. |
| Service speed: | 15 knots |
| Passengers: | 1,465 |
เรือลำนี้เป็นเรือที่โด่งดังที่สุดของเยอรมัน ถูกสร้างที่อู่ต่อเรือของ Blohm & Voss ในฮัมบูร์ก เป็นเรือที่มีชื่อระดับสูง เรือเปิดตัว เมื่อ 5 พฤษภาคม 1937 เรือลำนีเป็นความภาคภูมิใจของเยอรมันเลยทีเดียว เพราะมีความทันสมัย ความสะดวกสบาย เทคโนโลยีการสื่อสารที่ทันสมัยที่สุด เเละเป็นเรือที่ฮิตเลอร์มาช่วยเปิดพิธีด้วย เรือลำนี้ไม่มีการเเบ่งเเยกผู้โดยสาร เเละเน้นฟังชันกืความเรียบงาน สะดวกสบายเเละโล่งสะอาดตา(โมเดิร์นเเหละ) เรือออกเดินทางครั้งเเรก เมื่อ 2 เมษายน 1938 สร้างความเชื่อมั่นเเละความมั่นใจของการเป็นจ้าวเเห่งการเดินเรือที่ทันสมัยอีกครั้ง เเต่น่าเสียดายที่จมลงไม่งั้น อาจได้เห็นมันเคียงคู่กับ นาซี ไปจนอีกยาวนาน.....
การตกเเต่ง
เรือตกเเต่งแบบ Modern , Georgian
ห้องนั่งเล่น

ห้องทานอาหาร


สระว่ายนำ้ผู้โดยสาีร

จุดจบ
การเดินทางครั้งสุดท้าย Wilhelm Gustloff ในเดือนมกราคมปี 1945 เรือถูกโจมตีโดยตอร์ปิโด ถึง 3 ลูก!!! จากเรือดำนำ้ S - 13 ของรัสเซีย ในทะเลบอลติก ในคืนวันที่ 30 มกราคม 1945 เรือได้เอียง เเละตะเเคงซ้าย จมลงประมาณ 45 นาที มีผู้เสียชีวิตเเละตายในเรือที่กำลังจมถึงประมาณ 9,400 คน (เป็นที่รู้จักกันในการสูญเสียที่ใหญ่ที่สุดของการจมเรือที่ในประวัติศาสตร์การเดินเรือที่บันทึกไว้)

ตอปิโดยิงลูกเเรงที่กลางเรือ เเละยิงต่อมาติดกันที่หัวเเละข้างเรือ จนจม..
คนเกือบ 9000 คน หนีตาย
ในหนังหดหู่ทีเดียว
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
6.
SS.Imperator
(1913 - 1938)สายการเดินเรือ Hamburg America Line (Hapag)
ในช่วงต้นปี 1910 สายการเดินเรือ Hamburg America Line เป็นคู่แข่งของ สายการเดินเรือ Cunard เเละ white star lineด้วยกระะเเสเรือขนาดใหญ่เเละการเเข่งขันที่สูงขึ้น เรือเปิดตัว เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 1912 ที่สร้างขึ้นโดย Vulcan, สเตตินเและเป็นเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลกในเวลานั้น 52,000 ตัน มีเรือพี่น้องอีก 2 ลำคือ Bismarck ,Vaterland การเดินทางครั้งแรกของไปยัง New York เมื่อ 20 มิถุนายน 1913 เมื่อสงครามโลกครั้งที่เป็นเรือขนส่งทหารอเมริกันส่งกลับประเทศในช่วงฤดูร้อน 1919 ต่อมา สายการเดินคิวนาด ก็ขอเช่าและซื้อเรือลำนี้ ในเดือนสิงหาคม 1921 สายการเดินเรือคิวนาดเปลี่ยนชื่อเรือเป็น Berengaria และใช้งานจน ถูกยกเลิกในวันที่ 21 มีนาคม 1938
การตกเเต่ง
เรือตกแต่งแบบ Romance, Luxury
บันไดกลางของเรือ
ห้องทานอาหาร
ห้องนอนผู้โดยสารชั้น 1
ห้องสูบบุหรี่
สระว่ายนำ้
ห้องทานอาหาร+นั่งเล่น
ห้องเต้นรำ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
7.
SS.Vaterland(1914 - 1938)สายการเดินเรือ Hamburg America Line (Hapag)
| The Vaterland/Leviathan - Specifications: | |
| Length: | 948 feet (289.6 m) |
| Beam: | 100 feet (30.6 m) |
| Tonnage: | 54,282 gross tons |
| Engines: | Parsons steam turbines turning four propellers. |
| Service speed: | 23.5 knots |
| Passengers: | 752 in 1st Class, 535 in 2nd, 850 in 3rd & 1,772 in Steerage. |

การตกเเต่งภายใน
เหมือนเรือImperator ทุกประการเช่นกัน
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
8.
SS.Bismarck (1922 - 1940)สายการเดินเรือ Hamburg America Line (Hapag)
| The Bismarck/Majestic - Specifications: | |
| Length: | 955.8 feet (291.9 m) |
| Beam: | 100.1 feet (30.6 m) |
| Tonnage: | 56,551 gross tons |
| Engines: | Four Parson-B & V direct drive steam turbines powering four propellers. |
| Service speed: | 23.5 knots |
| Passengers: | 2,145 people |
เรือลำน้องสุดท้องของตระกูล Hamburg เปิดตัวเรือในปี 1914 แต่สุดท้ายก็ยังไม่สามารถเป้นเรือโดยสารได้ เพราะเสร็จในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เช่นเดียวกับเรือ Britannic จึงถูกใช้งานจนสงคราม จนในปี 1919 เรือน้อง Imperator Vaterland, ประสบชะตากรรมเดียวกันโดนสายการเดินเรือ White Star line ซื้อเเละเปลี่ยนชื่อเป็น Majestic การเดินทางครั้งแรกของจากเซาแธมตันที่ New York,วันที่ 10 พฤษภาคม 1922 ด้วยขับระวางถึง ที่ 56,551 ตัน, มาเจสติกเป็นเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลกตอนนั้น เเละยังมีการเพิ่มความยาวอีกเป็น 100 ฟุต crackในปี 1924 ต่อมา ในปี 1934 Bismarck กลายเป็นส่วนหนึ่งของสายการเดินเรือร่วมCunade White Star จนในเดือนกันยายนปี 1939 ถูกขายกลับเเละเเยกชิ้นส่วน
เช่นเดียวกับเรือน้อง Imperator
ห้องทานอาหาร
ห้องทานอาหารอีกแบบ
ห้องนั่งเล่น
บันไดกลาง
ทางเข้าห้องทานอาหาร
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
9.
S.S. Normandie(1935 - 1946)สายการเดินเรือ French Line'
| The Normandie - Specifications: | |
| Length: | 1,028 feet (314 m) |
| Beam: | 117 feet (35.7 m) |
| Tonnage: | Originally 79,280 gross tons, increased to 83,423 gross tons during 1935-1936 overhaul. |
| Engines: | Steam turboelectric engines turning four propellers. |
| Service speed: | 29 knots |
| Passengers: | 1,972 people |
S.S. Normandie ของสายการเดินเรือ French Line' ได้กลายเป้นเรือที่ใหญ่ที่สุดในยุคนั้นถึง 5 ปี ใหญ่กว่าเรือ Majestic ของสายการเดินเรือwhite star line เเละทำลายสถิติความเร็ว ของเรื่อLusitania ของสายการเดินเรือcunard ได้ เป้น 29 น็อต เเละได้รางวัล Riband Blue ในการทำลายสถิติข้ามมหาสมุทรเเอตเเลนติคเเละแปซิฟิค เรื่อได้แรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมและการออกแบบของ Normandie Hotel ใน San Juan, Puerto Rico มันถูกออกแบบโดย Félix วิศวกรเปอร์โตริโก, เขาคิดว่า รูปทรงเรือควรได้รับการคลาสสิกที่มีทรง cylindric แต่ Marin - Marie,ฝรั่งเศสเป็นนักออกแบบที่ทำงานกับโครงการ"นอร์มองดี", ตัดสินใจที่จะใช้เป็นรูปทรงที่ทันสมัย เเละย้ายเสากระโดงเรือซึ่งมักจะอยู่ในด้านหน้าของสะพานเรือ ให้มาอยู่ข้างหลังหอบังคับการเเทน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็นเป็นต้นแบบที่ทำให้เรือลำอื่น ย้ายเสากระโดงเรือมาไว้ด้านหลังหอบังคับการจนหมด
เรือเปิดตัวในปี 1932 การเดินทางครั้งแรกของจาก Le Havre ไป New York เมื่อ 29 พฤษภาคม 1935, กมีการปรับปรุงในกระบวนการขั้นต้นระวางน้ำหนักเป็นตันเพิ่มขึ้นจาก 79,280 ถึง 83,423 ตันในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เรือหยุดเเล่น เเละพักที่อู่จนเมือ่เกิดสงครามที่ Pearl Harbor เรือได้เปลี่ยนชื่อเป็น U.S.S. Lafayette เพื่อเข้าร่วมเป็นเรือรบ จนเสร็จภารกิจ ในปี 1946-1947 เรือถูกทิ้งในอู่ Newark

การตกเเต่ง
เรือตกแต่งแบบModern เน้นรูปเเบบที่ทันสมัย เเละหรุหรา สร้างบรรยากาศเสมือนอยู่โรงเเรม 5 ดาว ทำให้เป็นที่โด่งดังและยังเป็นเรือที่มีการโฆษนาเยอะมากเช่นกัน ภายในจะเน้น hall สูง เล่นเเชนเดอเรียใหญ่ๆ เป็นความหรุหราที่สุดของยุคก่อนปี 50 เเละเป็นต้นแบบให้เรือสายการเดินเรืออื่นๆละทิ้งความหรูหราเเบบเก่ามาสู่แบบใหม่ เเละยังส่งผลต่อการออกแบบภายในเรือชื่อดังอีกลำ Queen Mary อย่างมาก.
ห้องทานอาหาร จะสูงไปไหนนน
ห้องสูบบุหรี่
ห้องนั่งเล่น
ลวดลายฝาผนังในเรือ
มีโรงมหรสพขนาดใหญ่ด้วย
ห้องนั่งเล่น
เรือลำนี้ปเ็นลำเเรกที่ปล่องควันไม่เชื่อมต่อจากท้องเรือ ทำให้ภายในเรือโล่งยาวไม่มีช่องปล่องควันมาติดขัดการตกเเต่งภายในจนเรียกการตกเเต่งภายในเรือด้วยspace นั้นว่า The longest GangPlank
เป้ฯเรือสำเเรกที่มีสวนภายในเรือด้วย
ห้องพักของผู้โดยสาร
ห้องบังคับการเรือ
บรรยากาศของผู้โดยสาร
สระว่ายนำ้ท้ายเรือ..
จุดจบ
ในวันที่ 24 ธันวาคม 1941 ระหว่างการซ่อมเรือที่อู่ ได้มีช่างคนหนึ่งจุดเเชนเดอเรียทิ้งไว้เเละเกิดไฟลัดวงจร สาเหคุเพราะเรืออยู่ในสภาพที่เก่าเเละทรุดโทรมมากจากสงครามโลกครั้งที่ 2 เมือ่ไฟลัดวงจร เรือก็ได้เฉิดฉายเเสงไฟอันอลังการ ไหม้ใหญ่โต ชนิดอยุ่ห่างออกไปยังเห้นความสูงของไฟ้ที่ไหม้ได้ มีการพยายามที่จะดับไฟ เเต่ไม่ปเ็นผลสำเร็จ เเละสุดท้าย เรือที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เร็วที่สุด เเละทันสมัยที่สุด เเละดีที่สุดในยุคก่อนปี 50 ก็ได้จมเเละเกยอยู่ข้างๆๆเเม่นำ้ในเมือง
หลังจากไฟไหม้ก้เอียงตะเเคงจมลงนำ้เเข็ง

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
10.
Queen Mary ( 1936 - Present Day )สายการเดินเรือร่วม Cunard White Star
| The Queen Mary - Specifications: | |
| Length: | 1,018 feet (310.9 m) |
| Beam: | 118 feet (36 m) |
| Deep draught: | 39 feet (11.9 m) |
| Tonnage: | 81,235 gross tons |
| Engines: | Steam turbines powering four four-bladed propellers. |
| Service speed: | 29 knots |
| Passengers: | 2,139 people |
หลังจากสายการเดินเรือฝรั่งเศษ ได้สร้างเรือ S.S. Normandie สร้างความยิ่งใหญ่มาเกือบ 5 ปี ทำให้สายการเดินเรืออังกฤษซบเซา ไม่ว่าจะด้วยเหตุการณืหลังสงคราม ทำให้ผู้คนไม่มีความเชื่อมั่นในการเดินทางด้วยเรือเดินสมุทร จึงได้มีการเริ่มโปรเจค ดึงความเชื่อมั้น เเละเจ้าเเห่งทะเลอีกครั้ง เรือลำนี้ต่อที่อู่ริมฝั่งแม่น้ำไคลต์ในประเทศสก็อตแลนด์ เมื่อ ค.ศ. 1939 มีราคา 25,000,000 เหรียญสหรัฐ มีน้ำหนักทั้งสิ้น 80,773 ตัน มีความยาว 300 เมตร (1,004 ฟุต) สูง 54 เมตร (180 ฟุต) เครื่องยนต์ขับเคลื่อน มีกำลังทั้งหมด 200,000 แรงม้า อัตราความเร็วชั่วโมงละ 30 น็อตต่อชั่วโมง มีหม้อน้ำขนาดใหญ่ต้มน้ำมีน้ำหนักถึง 400 ตัน ให้เดือดกลายเป็นไอไปใช้เป็นพลังงานขับเคลื่อนใบจักร และเครื่องกลต่างๆของลำเรืออยู่ทุก ๆ ชั่วโมง
เรือลำนี้บรรจุคนได้ประมาณ 2,075 คน บนดาดฟ้ามีที่ว่างทำสนามเล่นกีฬาได้ถึง 3 เอเคอร์ ภายในเรือมีร้านขายอาหาร สนามเด็กเล่น สำนักพิมพ์ สระว่ายน้ำ โรงพยาบาล และอุปกรณ์บริการความสุขอื่นๆ เครื่องอำนวยความสะดวก แก่ผู้โดยสารอย่างครบครัน เหมือนกับเมืองขนาดย่อมที่ล่องลอยไปในท้องมหาสมุทร
แม้ว่าเรืควีนแมรี่จะมีขนาดใหญ่โต แต่ก็สามารถเดินทางจากเมืองท่าลิเวอร์พูล อังกฤษ ถึงเมืองท่านิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ข้ามมหาสมุทรอันลันติค ในเวลาเพียง 9 วัน ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 เรือลำนี้หยุดเดินทางรับส่งผู้โดยสารเพราะเกรงจะถูกข้าศึกยิงจม แต่เมื่อสงครามผ่านพ้นไปแล้วก็ปรับปรุง ออกบริการผู้โดยสารอยู่อีกหลายปี เพิ่งมายุติการเดินทางเพื่อรับส่งผู้โดยสารในปี ค.ศ. 1967 โดยบริษัทเจ้าของขายให้แก่เศรษฐีอเมริกันคนหนึ่งเอาไปปรับปรุงใหม่ทำเป็นโรงแรม ภัตตาคาร และพิพิธภัณฑ์ลอยน้ำ ที่ ลองบีช รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งจะยังปรากฎให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ในอดีตต่อไปอีกนาน
การตกแต่ง
ตกเเต่งเช่นเดียวกับเรือ Queen Elizabeth
หอบังคับการเรือ
ห้องทานอาหาร
บาร์เหล้า
ห้องนั่งเล่น
ห้องสมุด
ห้องพักผู้โดยสาร
สระว่ายนำ้
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
11.
R.M.S. Queen Elizabeth (1940 - 1973)สายการเดินเรือร่วม Cunard White Star
| Queen Elizabeth - Specifications: | |
| Length: | 1,031 feet (314.9 m) |
| Beam: | 118 feet (36 m) |
| Deep draught: | 39 feet (11.9 m) |
| Tonnage: | 83,673 gross tons |
| Engines: | Steam turbines turning four propellers. |
| Service speed: | 28.5 knots |
| Passengers: | 2,283 people |
เรือ Queen Elizabeth, สร้างที่อู่ ฮาร์แลนด์แอนด์วูล์ฟ มีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะเป็นเจ้าแรกที่ที่สร้างเรือขนาดยาวมากที่สุด แต่ บริษัทที่มีอยู่มีปัญหาทางการเงินที่ทำให้ถูกยกเลิกในขณะที่เรือยังไม่เสร็จ และปรับขนาดให้เล้กกว่าเดิม กลายเป็น 26,000 ตันเและที่ถูกนำมาใช้ในปี 1940
ซึ่งอยู่ในยุคช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้ไม่สามารถให้บริหารผู้โดยสารได้ จึงต้องเป้นเรือกองกำลัง จนกระทั้งญี่ปุ่นโจมตีPearl Harbor ทำให้เรืตอ้องปรับขนาดเเละบรรทุกทหารถึง 10,000 กว่าคน เเละเมื่อ เมื่อ 7 พฤษภาคม 1945,วันที่กองทัพญี่ปุ่นยอมแพ้ต่อสงคราม เรือได้ถูกนำเข้าอู่ เซาแธมตัน เเละได้เริ่มตกแต่งภายใน เเละเริ่มบริการรับส่งผู้โดยสารเที่ยวเเรก16 ตุลาคม 1946 เเละได้เปลี่ยนเป็น มหาวิทยาลัย Seawise 1952
การตกแต่ง
เรือได้รับอิทธิพลจากเรือ Normandie มีการตกเเต่งที่ใช้รุปแบบคล้ายๆๆกัน เน้นรูปแบบ Art Deco เป้นหลัก
ห้องทานอาหาร
ห้องดนตรี
ห้องนั่งเล่น
บาร์เหล้า+สูบบุหรี่
โรงหนัง
สระว่ายนำ้ด้านนอก
ขนส่งผู้คน
จุดจบ
เมื่อวันที่ 9 มกราคม 1972, ได้มีไฟลึกลับจำนวนหนึ่งไหม้บนกลางเรือ เเละประจวบเหมาะในช่วงระบบป้องกันอัคคีภัยก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ทำให้ไม่มีคนมากพอที่จะต่อสู้กับเปลวไฟ ไฟ้ได้ไหม้ลามขยายวงกลางไปเรื่อยๆ จะท้องเรือเป็นรูเเละเเตก ทำให้นำ้เข้าเรือจนเรือเริ่มเอนเอียงทางกราบขวา
เเม้จะมีกาซ่อมเรือครั้งใหญ่ เเต่เรือก็ไม่สามารถเเล่นได้อีก ทำให้ถูกขาย ในปี 1974ได้เป็นฉากสุดท้ายสั้น ๆ ที่ปรากฏในภาพยนตร์เจมส์บอนด์ จนในที่สุดก็ถุกแยกชื้นส่วนและสิ้นสุด วันรุ่งโรจน์ของ Queen Elizabeth, เรือโดยสารที่ใหญ่ที่สุดเป้นเวลา 57 ปี, ทุกวันนี้หลายคนยังสงสัยว่า ทำไม....เรือมีชะตากรรมเดียวกับเรือ S.S. Normandie ที่โดนไฟไหม้เหมือนกัน..
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สิ้นสุดยุคเรือเดินสมุทร เข้าสู่ยุคเรือสำราญ เรือท่องเที่ยว
(ปี 1950- ปัจจุบัน)
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
12.
SS.United States (1952 - Present Day) สายการเดินเรือ Swift with Clean Lines
| The United States - Specifications: | |
| Length: | 990 feet (302.4 m) |
| Beam: | 101 feet (30.9 m) |
| Tonnage: | 53,329 gross tons |
| Service speed: | 35 knots |
| Top speed: | 43 knots |
| Engines: | Westinghouse steam turbines turning four propellers. Engines capable of 240,000 hp. |
| Passengers: | 1,928 people |
เรือสร้างขึ้นในปี 1952 เป้นเรือที่โด่งดังมาก ฉายา "First Lady Of The Seas!" สำหรับในเส้นทางสหรัฐอเมริกาที่ออกแบบมาเพื่อความเร็วถึง 35 น็อต ใช้เงิน$ 78,000,000, กลายเป้นเรือขนส่งที่เร็วที่สุดจนได้รางวัล Riband Blue ได้ใช้งานจนถึง ปี 1996 เเละจอดที่ท่าทิ้งไว้เช่นเดียวกับเรือ queen mary

การตกเเต่ง
ตกเเต่งแบบ Modern , art Nuvo
ห้องทานอาหาร

ห้องทานอาหารผู้โดยสารชั้น 2

ห้องสูบบุหรี่

ห้องสมุด

โรงหนัง

ห้องพักผู้โดยสาร

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
13. Andrea Doria (1953 - 1956) สายการเดินเรือ Italian Line
| The Andrea Doria - Specifications: | |
| Length: | 700 feet (213.8 m) |
| Beam: | 90 feet (27.5 m) |
| Tonnage: | 29,083 gross tons |
| Deep draught: | 30 feet (9.2 m) |
| Service speed: | 23 knots |
| Engines: | Steam turbines powering two propellers. |
| Passengers: | 1,221 people |
เรือของสายการเดินเรืออิตาลีลำนี้เป็นเรือที่ดังมาก เเละหรุหราทันสมัย เเละไฮโซอย่างมากก เป็นเรือที่ออกโฆษนา เเละโด่งดังขีดสุดในช่วงยุค 50 เรืสามารถจุผู้โดยสารประมาณ 1,200 คนและ ลูกเรือ 500 คน อิตาลีเป้นประเทศหนึ่ง ที่พยายามที่จะสร้างเศรษฐกิจและชื่อเสียงหลังสงครามโลกครั้งที่ของ Andrea Doria คือไอคอนของภาคภูมิใจของชาติอิตาลี เป้นเรือที่ใหญ่ที่สุด, เร็วที่สุดและปลอดภัยที่สุดตามที่คาดคะเน เปิดตัวเมื่อ 16 มิถุนายน 1951และเริ่ม การเดินทางครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 มกราคม 1953
การตกแต่ง
ตกเเต่งแบบ art nuvo+art deco (เน้นประดับผนังด้วยgallery จากทั้วทุกมุมโลก เน้นภายในแบบติสแตก ประมาณขนทุกอย่างที่เป็นศิลปะ รุปปั้น ภาพวาด พรม เครื่องประดับ ไปประดับเรือ อย่างกะเป้นพิพิธภัณท์ )เเละเเน่นอนเมื่อมันจบ ของพวกนั้นราคาแพงๆๆก็จบไปด้วย เสียหายหลายล้านเหรียญ..
ห้องนั่งเล่นชั้น 1

ห้องทานอาหาร
ห้องนั่งเล่นอีกแบบ
ห้องสมุด
จุดจบ
เมื่อ 25 กรกฎาคม 1956, ใกล้ชายฝั่งของ Nantucket, เรือ Andrea Doria ชนกับเรือ MS Stockholm ของสายการเดินเรือของสวีเดนในสิ่งที่กลายเป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์ของการเกิดภัยพิบัติทางทะเลเสียมากที่สุด เรือ Stockholm ได้ชนเเละได้ครูดกับผนังข้างเรือ Andrea Doria ทำให้เกิดรุขนาดใหญ่ทันที (กรณีเดียวกับเรือEmpress of Ireland)
Andrea Doria และเราก็มาจอยกัน MS Stockholm
เรือ Andrea Doria เริ่มเเสดงอาการเอียงวูบอย่างรุนแรงทางกราบขวา ทำให้ผู้โดยสารแตกตื่น (คอนเซปเดิม) ลงเรือช่วยชีวิต เเละทำให้เรือช่วยชีวิตฝั่งซ้ายไม่สามารถใช้งานได้ เเต่เรือลำนี้มีความโชคดีมาก ที่ได้รับการช้วยเหลืออย่างรวดเร็ว เร่งด่วนทั้งทางบก ทางนำ้ ทางอากาศทำให้มีผู้เสียชีวิตเพียง 46 คน จาก ผู้โดยสาร 1706 คน

สภาพหัวเรือ MS Stockholm หลังการชน หัวเรือหลุด เเต่ดันไม่จม นำ้ก้ไม่เข้าเรือมากด้วย เเละยังเเล่นต่อไปในสภาพนั้นได้อีก
ส่วนเรืออันหรูหราอย่าง Andrea Doria เพียงโดนสะกิดก็เอียงเเละจมซะเเล้ว
ในทางเทคนิคเเล้ว เรือสามารถลอยอยู่เเละเเล่นต่อไปได้หากเอียงไป 15 องศา
เเต่นี่ 20 องศา ทำให้เรือไม่สามารถเเล่นต่อไปได้เเละก็ต้องจมลง..
แต่ประสิทธิภาพของการออกแบบทางเทคนิคของเรือทำให้เรือลอยอยู่ไปมานานกว่า 11 ชั่วโมงหลังจากชน
ทำให้ผู้โดยสาร สามารถเก็บข้าวของ เสื้อผ้า รองเท้า หรืออาจเเต่งหน้าแต่งตัวเพื่อลงเรือช่วยชีวิตยังได้(ประชดนะ)
นาทีจมสุดท้าย
หลังจากเรือลอยโต่งเต้งไปมาบนเเม่นำ้เกทือบ 10 กว่าชม. ให้เฮลิคอปเตอรืได้บันทึกวาระสุดท้ายของเรือ เรือก้ได้ค่อยๆๆจมลงอย่างเงียบๆพร้อมกับศิลปะ ข้าวของ เครื่องประดับราคาเเเพงมูลค่าหลายล้าน....

Goodbye Andrea Doria .................................................................
Andrea Doria เป็นเรือโดยสารข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกลำสุดท้ายที่จม ก่อนที่เครื่องบินจะพัฒนาเเละกลายเป้นทางเลือกในการเดินทางใหม่ และเรือ Andrea Doria คือเรือเดินสมุทร ลำสุดท้าย........
เกร็ดทั้วไป..
- เชื่อว่าหลายคนคงเคยดูหนังเรื่อง Ghost ship เรือผี ได้รู้สึกคุ้นๆๆไหมว่าเรือในหนัง คล้ายๆๆกับเรือนี้ คำตอบคือ คงละลำกัน เเต่หนังได้เอาเรือ Andrea Doria มาเป้นเเรงบันดาลใจ ในการออกแบบเืรือในหนัง ที่ชื่อว่า Antonia graza
- เรือ Poseidon ก้ได้เเรงบันดาลใจจากเรือ queen mary 2
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รายชื่อเรือที่ใหญ่ที่สุดเรียงตั้งเเต่อดีตถึงปัจจุบัน กดดูจะเข้าใจมากยิ่งขึ้น.. ขอบคุณคับ
----------------------------------------------------------------------END------------------------------------------------------------------------
เขมรขอถก JBC ด่วน ยันไม่รับเส้นเขตแดน จากการใช้กำลังของไทย
เจาะสเปก กริเพน ทําไมกองทัพไทยถึงเลือกใช้
เขมรหวัง "คนอินเดีย" มาเที่ยวกัมพูชามากขึ้น หลังทหารไทยล้มรูปปั้นจนกลายเป็นดราม่า
"พลทหารโตเกียว" ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด BM-21 ในสมรภูมิบ้านหนองจาน.
เขมรเร่งซ่อม สะพาน หลังถูก F-16 ทิ้งระเบิดลง ในช่วงปะทะ
ภาพนี้ที่รอคอย !!! ทหารไทยนำตู้คอนเทนเนอร์ไปวางกั้นพรมแดนบ้านหนองจาน ตามเส้นเขตแดน 1:50000 เป็นที่เรียบร้อย
"โดม ปกรณ์ ลัม" ทัวร์ลงหนัก! หลังเมนต์ใส่ "จินนี่" งานนี้โดนโซเชียลถล่มยับ
นครพนมเปิดเมืองหนาว! จัด งาน “Nakhonphanom Winter Festival 2026” เคียงดาว หนาวลม ชมโขง ชูอุโมงค์ไฟ 500 เมตร ดาวล้านดวงริมฝั่งโขง
สลิปเงินเดือนของนักบินโผล่บนโซเชียล ทำชาวเน็ตตาโต
เขมรทุ่มเงินจ้างนักร้องเกาหลีมาโปรโมทประเทศ
เปิดประวัติ ผู้สมัคร สส.พรรคส้ม โดนจับคดีฟอกเงินและยาเสพติด
นรกแตกก่อนวันเซ็นสัญญา F16 ไทยบึ้มสะพาน คืนหมาหอน "ฮุนเซน" อกแตก แพ้หมดรูป จำยอมเซ็นสงบศึก
ชาวบ้านเขมรไม่กล้าเดินทางกลับบ้านเพราะกลัวกับระเบิดที่ฝังไว้ตามพื้น
เมื่อการชอปปิงบำบัด Retail Therapy กลับไม่ได้ทำให้หายเครียด วางแผนการซื้ออย่างไรให้การชอปปิงช่วยฮีลใจ และ ฮีลเงินในกระเป๋า


































































.jpg)




















































































