หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

มารู้จักเรือเดินสมุทรในปี 1900 ยุคหลังตอนที่ 2 ตอนสุดท้าย......

โพสท์โดย vevo
HMS Himalaya
จากหัวข้อที่ผ่านมา
https://board.postjung.com/593203.html มารู้จักเรือเดินสมุทรอันหรูหราในยุค 1900 กันเถอะ
https://board.postjung.com/592919.html RMS.Lusitania เรือเดินสมุทรอีกลำที่ดังไม่เเพ้ Titanic

หลายคนได้รู้จักเรือในช่วงปี 1900 ช่วงต้นมาเเล้ว หลังจากช่วง 1950-60 ในยุค 60 มีการเปลี่ยนเเปลงรูปแบบ
เเละค่านิยมของคนในยุคนั้นและได้ส่งผลต่อรูปแบบ การใช้สอยของเรือใหม่ เรือเดินสมุทรไม่เป็นที่นิยมเเล้ว
ทำให้ไม่มีเรือเดินสมุทรอีกต่อไป เเต่ได้กลายเป็นเรือสำราญ เรือท่องเที่ยวเเทน มีหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น
- ปัจจัยทางเทคโนโลยี มีการพัฒนาคเทคโนโลยีของเครื่องบิน จนสามารถอำนวยความสะดวก
ความหรูหราได้ดีกว่าเรือเดินสมุทร ที่ต้องใช้เวลาเดินทางนานเเละเสี่ยงในเรื่องความปลอดภัย
- ปัจจัยทางเศรษฐกิจ ที่มีการเติบโตของการค้าเสรี ทำให้การลงทุนเรือที่ต้องใช้เงินสูงเริ่มไม่เป็น
ที่ต้องการ เพราะเครื่องบินใช้เงินทุนที่ตำ่กว่า เละได้กำไรเร็ว
- ปัจจัยเรื่องสภาพสังคม มีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ไม่มีการแบ่งชนชั้นเหมือนเเต่ก่อน ทำให้
มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องประโฌยชน์ใช้สอย เเละรูปแบบการโดยสารแบบใหม่ที่ไม่ตำเป็นต้องแยก
คนรวย คนจน
- ปัจจัยสภาพเเวดล้อม เช่น สภาวะสงครามที่ทำให้เรือเดินมุทรหลายลำโดนจมบ่อย จนความนิยมใน
การโดยสารเรือลดลงหรือรวมถึงความประมาท ไม่ว่าจะเป็นไฟไหม้ ชนหิน หรืออะไรก็ตาม
ฉะนั้นหัวข้อนี้    จะเป็นหัวข้อสุดท้ายเกี่ยวกับเรือเดินสมุทรต่างๆที่เหลือทั้งขนาดเล็กและใหญ่ จน ไปถึงเรือสำราญ..
จะนำเสนอเฉพาะเรือที่ดังเเละเป็นที่น่าสนใจของยุคๆนั้นมา เพราะความจริงมีเยอะมากมากๆๆ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านและสนใจ ^ ^

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1.  Empress of Ireland (1906-1914) สายการเดินเรือ Canadian Pacific Railway
 
The Empress of Ireland - Specifications:
   
Length: 570 feet (174.1 m)
Beam: 65.6 feet (19.99 m)
Tonnage: 14,191 gross tons
Engines: Quadruple expansion engines turning two propellers.
Service speed: 18 knots
Passengers: 1,580 people
เรือลำน้องของเรือ Empress of Britain สร้างขึ้นในอู่ กลาสโกว์ และเปิดตัวในปี 1906 มีเส้นทางในลิเวอร์พูล - แคนาดา
เป็นเรือแห่งความภาคภูมิใจของสายการเดินเรือนี้ ที่มีความทันสมัย รวดเร็ว ที่สุดของเเคนนาดาความเร็ว 18 น็อต

การตกเเต่ง
เรือตกเเต่งแบบอังกฤษ อารมณ์แบบสุภาพบุรุษ เน้นไม้โอ็ตสีนำ้ตาลเข้ม ตัดเฟอร์นิเจอร์เครื่องเงิน เเม้ว่าจะไม่หรูหรามาก
เเต่ก็สร้างบรรยากาศที่อบอุ่น เเละหรูหรา สำหรับเรือเดินสมุทรขนาดกลาง
บันไดกลาง เรียบๆเเต่สวยงาม
Grand Staircase on the Empress of Ireland 
ห้องทานอาหารชั้น 1
ห้องทานอาหารชั้น 2
ห้องทานอาหารชั้น 3
ห้องดนตรีชั้น 3
บรรยากาสการเล่นกีฬาบนเรือ

จุดจบ
        ในเช้าวันที่ 29 พฤษภาคม 1914  Empress of Ireland เจอหมอกหนาแน่นทำให้ทัศวิสัยไม่ดี เเละขณะนั้นเรือ Collier Storstad ก็ได้มาชนเข้ากับกลางเรืออย่างจัง ส่งผลให้เกิดรอยฉีกขาดเล็กยาวๆไปทั้วกราบขวา เกิดการเเตกตื่นของผู้โดยสาร นำ้ได้เข้าไปในเรืออย่างรวดเร็วเืรือเริ่มเสียหลัก เเละเอียงกราบขวา ผู้โดยสารหลายรายยังติดอยู่ในเรือ ไฟฟ้าในเรือดับทันที เกิดความโกลาหลอย่างรุนเเรง  เรือช่วยชีวิตไม่สามารถหย่อนลงนำ้ได้ เพราะเรือเอียงมาก 
   
ภายหลังจากการชน 14 นาที เรือได้ตะเเคงขวาจมลงทั้งลำอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ผู้โดยสารยังคงติดอยู่ในเรือที่จมลงนำ้ไปเเล้วถึง 1000 กว่าคน ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,073 คน ลูกเรือ 172ตน , ผู้โดยสาร 840 กว่าคน
        เหตุการครั้งนี้ ได้เกิดก่อนเรือLusitania จม เพียงไม่กี่วันเเละมีเวลาจมที่น้อยที่สุดของประวัติเรือโดยสารทุกชนิด เพียง... 14 นาที
(ไม่ต้องทำไรเเค่รอความตาย....)
 
หนังของเรือลำนี้ ลองชมดู.

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

2.  RMS Lancastria (1920-1940)สายการเดินเรือ Cunard

เรือของสายการเดินเรือ Cunard ลำนี้ ถูกแปลงไปเรืออพยพทหารที่นอร์เวย์ไปส่งที่ประเทศฝรั่งเศส เเละยังได้ช่วยเหลือทหารที่ชายฝั่งอีก 1000 กว่าคน ทำให้ภายในเรือแออัดอัดไปด้วยผู้คนถึง 8,000-  9,000 คน (ไม่ได้พิมพ์ผิด เรือลำเล็กๆๆลำนี้เต็มไปด้วยผู้โดยสาร + ทหาร ถึง 9000 ยัดกันเเน่นไปทั้งเรือ) ทั้งๆๆที่เรือได้รับการออกแบบสำหรับผู้โดยสารสูงสุด 1785 คน  

sinking of the lancastria

การตกเเต่ง

ตกเเต่งอย่าง Modern, Baroque , Dutchอย่างเรียบง่าย..

lancastria3 300x198 Historia del hundimiento del buque SS Lancastria 

จุดจบ

17 มิถุนายน 1940 เวลาบ่าย 4 10 นาที เรือถูกเรือดำนำ้เยอรมันยิงตอปิโดใส่ (อีกเเล้ว) ทำให้เรือเอียงตะเเคงซ้ายเเละจมลง 20 นาที มีทหารเกือบ 3000 กว่าคนติดอยู่ในท้องเรือ เเละรวมถึงผู้โดยสารที่ไม่สามารถออกมาได้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 5,000 คน รอดชีวิต ประมาณ 2,000 กว่าคน

 

 

*** จำไว้ว่าเวลาเรือเอียงตะเเคงซ้ายหรือขวา หรือจมตามเเนวขวาง เรือบดจะเยอะมากเเค่ไหนก็ไม่สามารถหย่อนลงได้เพราะถ้าหย่อนในตอนเรือเอียงจะทำให้เชือกขาด หรือเรือเสียสมดุลเเละควำ่ สุดท้ายก็ไร้ค่า มีเรือบดdHเหมือนไม่มี ต่างจากไททานิคที่จมตามเเนวยาว ที่สามารถหย่อนเรือชูชีพได้อย่างไม่มีปัญหา..

lancastria_lifeboats006

ตัวอย่าง

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

3.  SS. Cap Arcona  (1927 - 1945) สายการเดินเรือร่วม Hamburg-Amerika Line และ  Norddeutscher Lloyd

The Cap Arcona - Specifications:
   
Length: 676 feet (206.5 m)
Beam: 84 feet (25.7 m)
Tonnage: 27,560 gross tons
Engines: Steam turbines turning two propellers.
Service speed: 20 knots
Passengers: 1,315 people

        หลังสงครามโลหครั้งที่ 1 เยอรมันหวังจะฟื้นฟูตลาดการเดินเรืออีกครั้ง จึงได้ให่สายการเดินเรือทั้ง 2 สาย ออกแบบเรือโดยสารสุดหรูลำหนึ่ง เพื่อข้ามเส้นทางเดินเรือฮัมบูร์ก -อเมริกาใต้สำหรับการขยายเเละค้าขาย  เรือได้เปิดตัวเมื่อ เมื่อ 14 พฤษภาคม 1927 เพื่อเป็นเรือโดยสาร ที่หรุหราเเละทันสมัยที่สุดในยุคนั้นให้ได้ ซึ่งก็เป้นที่พึ่งพอใจของเยอรมัน ในปี 1945 เรือ Cap Arcona ถูกนำมาใช้เพื่อช่วยเหลือผู้ลี้ภัย และ ขนส่งผู้ต้องขัง จากค่ายกักกัน Neuengamme มากกว่า 5,000 คน ทำให้มีปัญหาเรื่องการเดินทางที่ยาวนานเพราะเรือทำความเร้วได้เพียง 20 น็อต จึงจำเป้นต้องมีเรือพิฆาตเยอรมัน คอยเเล่นตามไปด้วย เพื่อป้องกันการโดนจมของฝ่านศัตรู


การตกเเต่ง

เรือ Cap Arcona ตกเเต่งแบบ jacobean , Dutc, Louis XIV, Empir, Georgian เรือได้เเรงบัยนดาลใจในการตกเเต่งแบบไททานิค ขึงมีการเลียนแบบภายในหลายอย่างที่คล้ายๆๆกัน

 


สระว่ายนำ้


ห้องทานอาหาร

ห้องสูบบุหรี่

ห้องนั่งเล่น

 

จุดจบ

    เรือได้จมในวันสุดท้ายของสงครามโลกครั้งที่ 2 (วันดีจริงๆ) เมื่อ 3 พฤษภาคม 1945, หลังจากไม่กี่วันหลังจากที่ฮิตเลอร์ฆ่าตัวตายและก่อน 4 วันที่เยอรมันยอมจำนนเรือได้ถูกถูกโจมตีโดย 1B Hawkerของอังกฤษประกอบด้วยเลขที่ 184 หมู่เลขที่ 263 หมู่, ฉบับที่ 197 ฝูงบินและฉบับที่ 198 ฝูงบิน (อังกฤษโจมตีอย่างเก็บกดหลังจากเรือของตนโดนจมไปเยอะ) การโจมตีประสบความสำเร็จ ทำให้เกิดไฟ้ไหม้อย่างกว้างขวางบนเรือและต่อมาเรือได้พลิกคว่ำเเต่ยังไม่จม  ผู้โดยสาร เเละทหารบนเรือแทบจะออกมาไมไ่ด้ ผู้ที่ออกมาเรือก็จะถูกฆ่าตายทันทีโดยนักบินกองทัพอากาศยิงกราดผู้รอดชีวิตในน้ำ บนเรือที่เต็มไปด้วยผู้บริสุทธิ์ที่ไม่รู้อโหน่อิเหน่ เเละสุดท้ายเรือที่ควำ่ก็ค่อยๆจมลงไป
 

การสังหารหมู่ทั้งหมดนี้นักโทษรอดชีวิต 350 คนจาก 4,500 คน มีผู้โดยสารรอดชีวิต 490 จาก600 คน ตายรวมๆๆก็ 5000 กว่าคน เท่ากับเรือ RMS Lancastria  ถือว่าเสมอกันทั้ง2 ฝ่าย

 

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

4. RMS. Laconia   (1920-1940)สายการเดินเรือ Cunard


เป็นเรือลำน้องขอ rms. Scythia ถูกเปิดตัวในเมษายน 1921 และเดินทางครั้งแรกของเมื่อ 25 พฤษภาคม 1922 มาจากเซาแธมตันไปที่ New York ในปี 1939 ลาโคเนียได้แปลงเป็นเรือค้าและขนส่งอาวุธและขนส่งพลทหารม้า และจมลง ในปี 1941 

 

การตกเเต่ง

          ตกเเต่งแบบ Dutc , Louis, Georgian

บันไดกลาง

Hall and Staircase

ห้องสมุด

First Class Library and Writing Room

ห้องนั่งเล่น

The Lounge in First Cabin

ห้องสูบุหรี่

Smoking Room in First Class Showing Eliptical Bay WindowSmoking Room, Second Cabin

The Verandah Café

ห้องทานอาหาร

Dining Saloon in First ClassDining Saloon, Second CabinDrawing Room, Second Cabin

จุดจบ

วันที่ 12 กันยายน 1942 เรือถูกตอร์ปิโดของเยอรมันและจมลง เรือรบฝรั่งเศสมาถึงและช่วยเรือชูชีพที่รอดชีวิต  1,000 คน จาก 3200 คน


---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

5.  Wilhelm Gustloff (1938 - 1945) 

The Wilhelm Gustloff - Specifications:
   
Length: 684 feet (208.9 m)
Beam: 77 feet (23.5 m)
Tonnage: 25,484 gross tons
Engines: MAN diesels turning two propellers.
Service speed: 15 knots
Passengers: 1,465

เรือลำนี้เป็นเรือที่โด่งดังที่สุดของเยอรมัน ถูกสร้างที่อู่ต่อเรือของ Blohm & Voss ในฮัมบูร์ก เป็นเรือที่มีชื่อระดับสูง เรือเปิดตัว เมื่อ 5 พฤษภาคม 1937 เรือลำนีเป็นความภาคภูมิใจของเยอรมันเลยทีเดียว เพราะมีความทันสมัย ความสะดวกสบาย เทคโนโลยีการสื่อสารที่ทันสมัยที่สุด เเละเป็นเรือที่ฮิตเลอร์มาช่วยเปิดพิธีด้วย เรือลำนี้ไม่มีการเเบ่งเเยกผู้โดยสาร เเละเน้นฟังชันกืความเรียบงาน สะดวกสบายเเละโล่งสะอาดตา(โมเดิร์นเเหละ) เรือออกเดินทางครั้งเเรก เมื่อ 2 เมษายน 1938 สร้างความเชื่อมั่นเเละความมั่นใจของการเป็นจ้าวเเห่งการเดินเรือที่ทันสมัยอีกครั้ง เเต่น่าเสียดายที่จมลงไม่งั้น อาจได้เห็นมันเคียงคู่กับ นาซี ไปจนอีกยาวนาน.....

การตกเเต่ง

         เรือตกเเต่งแบบ Modern , Georgian

ห้องนั่งเล่น


ห้องทานอาหาร

สระว่ายนำ้ผู้โดยสาีร

จุดจบ

  การเดินทางครั้งสุดท้าย Wilhelm Gustloff  ในเดือนมกราคมปี 1945 เรือถูกโจมตีโดยตอร์ปิโด ถึง 3 ลูก!!! จากเรือดำนำ้ S - 13 ของรัสเซีย ในทะเลบอลติก ในคืนวันที่ 30 มกราคม 1945 เรือได้เอียง เเละตะเเคงซ้าย จมลงประมาณ 45 นาที มีผู้เสียชีวิตเเละตายในเรือที่กำลังจมถึงประมาณ 9,400 คน (เป็นที่รู้จักกันในการสูญเสียที่ใหญ่ที่สุดของการจมเรือที่ในประวัติศาสตร์การเดินเรือที่บันทึกไว้)


Image

ตอปิโดยิงลูกเเรงที่กลางเรือ เเละยิงต่อมาติดกันที่หัวเเละข้างเรือ จนจม..

Image

คนเกือบ 9000 คน หนีตาย

ในหนังหดหู่ทีเดียว 

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

6.  SS.Imperator  (1913 - 1938)สายการเดินเรือ Hamburg America Line (Hapag)

ในช่วงต้นปี 1910 สายการเดินเรือ Hamburg America Line เป็นคู่แข่งของ สายการเดินเรือ Cunard เเละ white star lineด้วยกระะเเสเรือขนาดใหญ่เเละการเเข่งขันที่สูงขึ้น  เรือเปิดตัว เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 1912 ที่สร้างขึ้นโดย Vulcan, สเตตินเและเป็นเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลกในเวลานั้น 52,000 ตัน มีเรือพี่น้องอีก 2 ลำคือ Bismarck ,Vaterland การเดินทางครั้งแรกของไปยัง New York เมื่อ 20 มิถุนายน 1913 เมื่อสงครามโลกครั้งที่เป็นเรือขนส่งทหารอเมริกันส่งกลับประเทศในช่วงฤดู​​ร้อน 1919 ต่อมา สายการเดินคิวนาด ก็ขอเช่าและซื้อเรือลำนี้ ในเดือนสิงหาคม 1921 สายการเดินเรือคิวนาดเปลี่ยนชื่อเรือเป็น Berengaria  และใช้งานจน ถูกยกเลิกในวันที่ 21 มีนาคม 1938

การตกเเต่ง

เรือตกแต่งแบบ Romance, Luxury

บันไดกลางของเรือ

ห้องทานอาหาร

imperator-diningroom-1sm.jpg

ห้องนอนผู้โดยสารชั้น 1

ห้องสูบบุหรี่

imperator-smoking-room-2.jpg

สระว่ายนำ้

ห้องทานอาหาร+นั่งเล่น

ห้องเต้นรำ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

7. SS.Vaterland(1914 - 1938)สายการเดินเรือ Hamburg America Line (Hapag)


The Vaterland/Leviathan - Specifications:
   
Length: 948 feet (289.6 m)
Beam: 100 feet (30.6 m)
Tonnage: 54,282 gross tons
Engines: Parsons steam turbines turning four propellers.
Service speed: 23.5 knots
Passengers: 752 in 1st Class, 535 in 2nd, 850 in 3rd & 1,772 in Steerage.
Vaterland เป็นเรือลำที่สองของตระกูล  Hamburg สร้างขึ้นโดย Blohm & Voss จากฮัมบูร์ก ถูกเปิดตัวในปี 1913 และเดินทางครั้งแรกไปยัง New York เมื่อ 14 พฤษภาคม 1914 เธอเป็นเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลกใน (54,282 ตัน) ในปี 1917 ช่วงสงคราม Vaterland ถูกยึดจากอังกฤษ และเปลี่ยนชื่อ Leviathan เเละเริ่มให้บริการใน 4 กรกฎาคม 1923 และใช้งานจนปลดระวางในปี 1938

การตกเเต่งภายใน

เหมือนเรือImperator  ทุกประการเช่นกัน

Lobby to The Main Saloon on B Deck

Lobby on B Deck

View of the Main Dining Saloon

File:The Ritz-Carlton Room of the SS Leviathan.jpg

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

8. SS.Bismarck (1922 - 1940)สายการเดินเรือ Hamburg America Line (Hapag)

The Bismarck/Majestic - Specifications:
   
Length: 955.8 feet (291.9 m)
Beam: 100.1 feet (30.6 m)
Tonnage: 56,551 gross tons
Engines: Four Parson-B & V direct drive steam turbines powering four propellers.
Service speed: 23.5 knots
Passengers: 2,145 people

     เรือลำน้องสุดท้องของตระกูล Hamburg เปิดตัวเรือในปี 1914 แต่สุดท้ายก็ยังไม่สามารถเป้นเรือโดยสารได้ เพราะเสร็จในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เช่นเดียวกับเรือ Britannic จึงถูกใช้งานจนสงคราม จนในปี 1919 เรือน้อง Imperator Vaterland, ประสบชะตากรรมเดียวกันโดนสายการเดินเรือ  White Star line ซื้อเเละเปลี่ยนชื่อเป็น Majestic การเดินทางครั้งแรกของจากเซาแธมตันที่ New York,วันที่ 10 พฤษภาคม 1922 ด้วยขับระวางถึง ที่ 56,551 ตัน, มาเจสติกเป็นเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลกตอนนั้น เเละยังมีการเพิ่มความยาวอีกเป็น 100 ฟุต crackในปี 1924 ต่อมา ในปี 1934 Bismarck  กลายเป็นส่วนหนึ่งของสายการเดินเรือร่วมCunade  White Star จนในเดือนกันยายนปี 1939 ถูกขายกลับเเละเเยกชิ้นส่วน

 
 
 การตกแต่งภายใน

 เช่นเดียวกับเรือน้อง Imperator 

ห้องทานอาหาร

ห้องทานอาหารอีกแบบ

HMS Caledonia Saloon: Seaman Boys' Mess

ห้องนั่งเล่น

S.S. Majestic Lounge Ceiling of Carved Wood and Crystal

บันไดกลาง

ทางเข้าห้องทานอาหาร

File:Palm Court of the RMS Majestic (1914).jpg

White Star Line Majestic - The Beautiful à la Carte Resturant

Lofty Central Hall of First Class Dining Saloon

Looking Down One Side of the Dining Saloon.


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

9. S.S. Normandie(1935 - 1946)สายการเดินเรือ French Line'

The Normandie - Specifications:
   
Length: 1,028 feet (314 m)
Beam: 117 feet (35.7 m)
Tonnage: Originally 79,280 gross tons, increased to 83,423 gross tons during 1935-1936 overhaul.
Engines: Steam turboelectric engines turning four propellers.
Service speed: 29 knots
Passengers: 1,972 people

          S.S. Normandie ของสายการเดินเรือ French Line' ได้กลายเป้นเรือที่ใหญ่ที่สุดในยุคนั้นถึง 5 ปี ใหญ่กว่าเรือ Majestic ของสายการเดินเรือwhite star line เเละทำลายสถิติความเร็ว ของเรื่อLusitania ของสายการเดินเรือcunard ได้ เป้น 29 น็อต เเละได้รางวัล Riband Blue ในการทำลายสถิติข้ามมหาสมุทรเเอตเเลนติคเเละแปซิฟิค เรื่อได้แรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมและการออกแบบของ Normandie Hotel ใน San Juan, Puerto Rico มันถูกออกแบบโดย Félix  วิศวกรเปอร์โตริโก, เขาคิดว่า รูปทรงเรือควรได้รับการคลาสสิกที่มีทรง cylindric แต่ Marin - Marie,ฝรั่งเศสเป็นนักออกแบบที่ทำงานกับโครงการ"นอร์มองดี", ตัดสินใจที่จะใช้เป็นรูปทรงที่ทันสมัย​​ เเละย้ายเสากระโดงเรือซึ่งมักจะอยู่ในด้านหน้าของสะพานเรือ ให้มาอยู่ข้างหลังหอบังคับการเเทน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็นเป็นต้นแบบที่ทำให้เรือลำอื่น ย้ายเสากระโดงเรือมาไว้ด้านหลังหอบังคับการจนหมด 

          เรือเปิดตัวในปี 1932 การเดินทางครั้งแรกของจาก Le Havre ไป New York เมื่อ 29 พฤษภาคม 1935, กมีการปรับปรุงในกระบวนการขั้นต้นระวางน้ำหนักเป็นตันเพิ่มขึ้นจาก 79,280 ถึง 83,423 ตันในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เรือหยุดเเล่น เเละพักที่อู่จนเมือ่เกิดสงครามที่ Pearl Harbor เรือได้เปลี่ยนชื่อเป็น U.S.S. Lafayette เพื่อเข้าร่วมเป็นเรือรบ จนเสร็จภารกิจ ในปี 1946-1947 เรือถูกทิ้งในอู่  Newark 

 

การตกเเต่ง

 เรือตกแต่งแบบModern เน้นรูปเเบบที่ทันสมัย เเละหรุหรา สร้างบรรยากาศเสมือนอยู่โรงเเรม 5 ดาว ทำให้เป็นที่โด่งดังและยังเป็นเรือที่มีการโฆษนาเยอะมากเช่นกัน ภายในจะเน้น hall สูง เล่นเเชนเดอเรียใหญ่ๆ เป็นความหรุหราที่สุดของยุคก่อนปี 50 เเละเป็นต้นแบบให้เรือสายการเดินเรืออื่นๆละทิ้งความหรูหราเเบบเก่ามาสู่แบบใหม่ เเละยังส่งผลต่อการออกแบบภายในเรือชื่อดังอีกลำ Queen Mary อย่างมาก.

ห้องทานอาหาร จะสูงไปไหนนน

ss_normandie_revisedfirstclass_a_manger.jpg.grlounge.jpg (9777 bytes)

ห้องสูบบุหรี่

Normandie grand hall-02Normandie grand hall-03

ห้องนั่งเล่น

Normandie grand salon-04

Normandie interior-01

Normandie smoking room-03

ลวดลายฝาผนังในเรือ

2010-02-10-Picture13.png

มีโรงมหรสพขนาดใหญ่ด้วย

Normandie theatre-01

ห้องนั่งเล่น

เรือลำนี้ปเ็นลำเเรกที่ปล่องควันไม่เชื่อมต่อจากท้องเรือ ทำให้ภายในเรือโล่งยาวไม่มีช่องปล่องควันมาติดขัดการตกเเต่งภายในจนเรียกการตกเเต่งภายในเรือด้วยspace นั้นว่า The longest GangPlank

Normandie dining salon-01

Normandie dining salon-02

เป้ฯเรือสำเเรกที่มีสวนภายในเรือด้วย

Normandie garden-03

ห้องพักของผู้โดยสาร

Normandie cabin-01Normandie deluxe cabin-02Normandie deluxe cabin-03

ห้องบังคับการเรือ

Normandie bridge-01

บรรยากาศของผู้โดยสาร

woodhousepg074.jpg2010-02-10-Picture14.png

สระว่ายนำ้ท้ายเรือ..

Normandie deck-02

จุดจบ

   ในวันที่ 24 ธันวาคม 1941 ระหว่างการซ่อมเรือที่อู่ ได้มีช่างคนหนึ่งจุดเเชนเดอเรียทิ้งไว้เเละเกิดไฟลัดวงจร สาเหคุเพราะเรืออยู่ในสภาพที่เก่าเเละทรุดโทรมมากจากสงครามโลกครั้งที่ 2 เมือ่ไฟลัดวงจร เรือก็ได้เฉิดฉายเเสงไฟอันอลังการ ไหม้ใหญ่โต ชนิดอยุ่ห่างออกไปยังเห้นความสูงของไฟ้ที่ไหม้ได้ มีการพยายามที่จะดับไฟ เเต่ไม่ปเ็นผลสำเร็จ เเละสุดท้าย เรือที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เร็วที่สุด เเละทันสมัยที่สุด เเละดีที่สุดในยุคก่อนปี 50 ก็ได้จมเเละเกยอยู่ข้างๆๆเเม่นำ้ในเมือง

 


lafayetteworkmen1.jpg

หลังจากไฟไหม้ก้เอียงตะเเคงจมลงนำ้เเข็ง

 


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

10. Queen Mary ( 1936 - Present Day )สายการเดินเรือร่วม Cunard White Star 

 

The Queen Mary - Specifications:
   
Length: 1,018 feet (310.9 m)
Beam: 118 feet (36 m)
Deep draught: 39 feet (11.9 m)
Tonnage: 81,235 gross tons
Engines: Steam turbines powering four four-bladed propellers.
Service speed: 29 knots
Passengers: 2,139 people

             หลังจากสายการเดินเรือฝรั่งเศษ ได้สร้างเรือ S.S. Normandie สร้างความยิ่งใหญ่มาเกือบ 5 ปี ทำให้สายการเดินเรืออังกฤษซบเซา ไม่ว่าจะด้วยเหตุการณืหลังสงคราม ทำให้ผู้คนไม่มีความเชื่อมั่นในการเดินทางด้วยเรือเดินสมุทร จึงได้มีการเริ่มโปรเจค ดึงความเชื่อมั้น เเละเจ้าเเห่งทะเลอีกครั้ง เรือลำนี้ต่อที่อู่ริมฝั่งแม่น้ำไคลต์ในประเทศสก็อตแลนด์ เมื่อ ค.ศ. 1939 มีราคา 25,000,000 เหรียญสหรัฐ มีน้ำหนักทั้งสิ้น 80,773 ตัน มีความยาว 300 เมตร (1,004 ฟุต) สูง 54 เมตร (180 ฟุต) เครื่องยนต์ขับเคลื่อน มีกำลังทั้งหมด 200,000 แรงม้า อัตราความเร็วชั่วโมงละ 30 น็อตต่อชั่วโมง มีหม้อน้ำขนาดใหญ่ต้มน้ำมีน้ำหนักถึง 400 ตัน ให้เดือดกลายเป็นไอไปใช้เป็นพลังงานขับเคลื่อนใบจักร และเครื่องกลต่างๆของลำเรืออยู่ทุก ๆ ชั่วโมง 
           เรือลำนี้บรรจุคนได้ประมาณ 2,075 คน บนดาดฟ้ามีที่ว่างทำสนามเล่นกีฬาได้ถึง 3 เอเคอร์ ภายในเรือมีร้านขายอาหาร สนามเด็กเล่น สำนักพิมพ์ สระว่ายน้ำ โรงพยาบาล และอุปกรณ์บริการความสุขอื่นๆ เครื่องอำนวยความสะดวก แก่ผู้โดยสารอย่างครบครัน เหมือนกับเมืองขนาดย่อมที่ล่องลอยไปในท้องมหาสมุทร 
        แม้ว่าเรืควีนแมรี่จะมีขนาดใหญ่โต แต่ก็สามารถเดินทางจากเมืองท่าลิเวอร์พูล อังกฤษ ถึงเมืองท่านิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ข้ามมหาสมุทรอันลันติค ในเวลาเพียง 9 วัน ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 เรือลำนี้หยุดเดินทางรับส่งผู้โดยสารเพราะเกรงจะถูกข้าศึกยิงจม แต่เมื่อสงครามผ่านพ้นไปแล้วก็ปรับปรุง ออกบริการผู้โดยสารอยู่อีกหลายปี เพิ่งมายุติการเดินทางเพื่อรับส่งผู้โดยสารในปี ค.ศ. 1967 โดยบริษัทเจ้าของขายให้แก่เศรษฐีอเมริกันคนหนึ่งเอาไปปรับปรุงใหม่ทำเป็นโรงแรม ภัตตาคาร และพิพิธภัณฑ์ลอยน้ำ ที่ ลองบีช รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งจะยังปรากฎให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ในอดีตต่อไปอีกนาน

 

การตกแต่ง

ตกเเต่งเช่นเดียวกับเรือ Queen Elizabeth

หอบังคับการเรือ

Queen Mary bridge-01

ห้องทานอาหาร

Queen Mary cabin lounge-01

Queen Mary 1st class restaurant-01

Queen Elizabeth main lounge-01

Queen Mary cabin lounge-03Queen Mary cabin restaurant-01

บาร์เหล้า

Queen Mary observation lounge-02

ห้องนั่งเล่น

Queen Mary cabin smoking room-01

Queen Mary garden lounge-01

Queen Mary main lounge-02

ห้องสมุด

Queen Mary 1st class writing room-01

ห้องพักผู้โดยสาร

Queen Mary cabin gallery-02

สระว่ายนำ้

Queen Mary cabin swimming pool-01

Queen Mary games deck-01

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

11.R.M.S. Queen Elizabeth (1940 - 1973)สายการเดินเรือร่วม Cunard White Star 

Queen Elizabeth - Specifications:
   
Length: 1,031 feet (314.9 m)
Beam: 118 feet (36 m)
Deep draught: 39 feet (11.9 m)
Tonnage: 83,673 gross tons
Engines: Steam turbines turning four propellers.
Service speed: 28.5 knots
Passengers: 2,283 people

       เรือ Queen Elizabeth, สร้างที่อู่ ฮาร์แลนด์แอนด์วูล์ฟ มีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะเป็นเจ้าแรกที่ที่สร้างเรือขนาดยาวมากที่สุด แต่ บริษัทที่มีอยู่มีปัญหาทางการเงินที่ทำให้ถูกยกเลิกในขณะที่เรือยังไม่เสร็จ และปรับขนาดให้เล้กกว่าเดิม กลายเป็น 26,000 ตันเและที่ถูกนำมาใช้ในปี 1940
  ซึ่งอยู่ในยุคช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้ไม่สามารถให้บริหารผู้โดยสารได้ จึงต้องเป้นเรือกองกำลัง จนกระทั้งญี่ปุ่นโจมตีPearl Harbor ทำให้เรืตอ้องปรับขนาดเเละบรรทุกทหารถึง 10,000 กว่าคน เเละเมื่อ เมื่อ 7 พฤษภาคม 1945,วันที่กองทัพญี่ปุ่นยอมแพ้ต่อสงคราม เรือได้ถูกนำเข้าอู่ เซาแธมตัน เเละได้เริ่มตกแต่งภายใน เเละเริ่มบริการรับส่งผู้โดยสารเที่ยวเเรก16 ตุลาคม 1946 เเละได้เปลี่ยนเป็น มหาวิทยาลัย Seawise 1952 

การตกแต่ง

เรือได้รับอิทธิพลจากเรือ Normandie มีการตกเเต่งที่ใช้รุปแบบคล้ายๆๆกัน เน้นรูปแบบ Art Deco เป้นหลัก

ห้องทานอาหาร

Queen Elizabeth 1st class verandah grill-01

Queen Elizabeth main lounge-02

Queen Elizabeth main restaurant-01

ห้องดนตรี

Queen Elizabeth 1st class salon-01

ห้องนั่งเล่น

Queen Elizabeth 1st class smoking room-01

Queen Elizabeth 1st class main lounge-01

Queen Elizabeth 1st class garden lounge-01

บาร์เหล้า+สูบบุหรี่

Queen Elizabeth bar-01

โรงหนัง

Queen Elizabeth 1st class cinema-01

สระว่ายนำ้ด้านนอก

Queen Elizabeth swimming pool-01

ขนส่งผู้คน

Queen Elizabeth as troopship-01

จุดจบ

      เมื่อวันที่ 9 มกราคม 1972, ได้มีไฟลึกลับจำนวนหนึ่งไหม้บนกลางเรือ เเละประจวบเหมาะในช่วงระบบป้องกันอัคคีภัยก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ทำให้ไม่มีคนมากพอที่จะต่อสู้กับเปลวไฟ ไฟ้ได้ไหม้ลามขยายวงกลางไปเรื่อยๆ จะท้องเรือเป็นรูเเละเเตก ทำให้นำ้เข้าเรือจนเรือเริ่มเอนเอียงทางกราบขวา

เเม้จะมีกาซ่อมเรือครั้งใหญ่ เเต่เรือก็ไม่สามารถเเล่นได้อีก ทำให้ถูกขาย ในปี 1974ได้เป็นฉากสุดท้ายสั้น ๆ ที่ปรากฏในภาพยนตร์เจมส์บอนด์ จนในที่สุดก็ถุกแยกชื้นส่วนและสิ้นสุด วันรุ่งโรจน์ของ Queen Elizabeth, เรือโดยสารที่ใหญ่ที่สุดเป้นเวลา 57 ปี, ทุกวันนี้หลายคนยังสงสัยว่า ทำไม....เรือมีชะตากรรมเดียวกับเรือ S.S. Normandie ที่โดนไฟไหม้เหมือนกัน..


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สิ้นสุดยุคเรือเดินสมุทร เข้าสู่ยุคเรือสำราญ เรือท่องเที่ยว 

(ปี 1950- ปัจจุบัน)

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 12.  SS.United States (1952 - Present Day) สายการเดินเรือ Swift with Clean Lines

 

The United States - Specifications:
   
Length: 990 feet (302.4 m)
Beam: 101 feet (30.9 m)
Tonnage: 53,329 gross tons
Service speed: 35 knots
Top speed: 43 knots
Engines: Westinghouse steam turbines turning four propellers. Engines capable of 240,000 hp.
Passengers: 1,928 people

เรือสร้างขึ้นในปี 1952 เป้นเรือที่โด่งดังมาก ฉายา "First Lady Of The Seas!" สำหรับในเส้นทางสหรัฐอเมริกาที่ออกแบบมาเพื่อความเร็วถึง 35 น็อต ใช้เงิน$ 78,000,000, กลายเป้นเรือขนส่งที่เร็วที่สุดจนได้รางวัล Riband Blue ได้ใช้งานจนถึง ปี 1996 เเละจอดที่ท่าทิ้งไว้เช่นเดียวกับเรือ queen mary

การตกเเต่ง

ตกเเต่งแบบ Modern , art Nuvo

ห้องทานอาหาร

 

 

ห้องทานอาหารผู้โดยสารชั้น 2

 

 

ห้องสูบบุหรี่

 

ห้องสมุด

โรงหนัง

 

ห้องพักผู้โดยสาร

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

13. Andrea Doria (1953 - 1956) สายการเดินเรือ Italian Line

The Andrea Doria - Specifications:
   
Length: 700 feet (213.8 m)
Beam: 90 feet (27.5 m)
Tonnage: 29,083 gross tons
Deep draught: 30 feet (9.2 m)
Service speed: 23 knots
Engines: Steam turbines powering two propellers.
Passengers: 1,221 people

       เรือของสายการเดินเรืออิตาลีลำนี้เป็นเรือที่ดังมาก  เเละหรุหราทันสมัย เเละไฮโซอย่างมากก เป็นเรือที่ออกโฆษนา เเละโด่งดังขีดสุดในช่วงยุค 50 เรืสามารถจุผู้โดยสารประมาณ 1,200 คนและ ลูกเรือ 500 คน อิตาลีเป้นประเทศหนึ่ง ที่พยายามที่จะสร้างเศรษฐกิจและชื่อเสียงหลังสงครามโลกครั้งที่ของ Andrea Doria คือไอคอนของภาคภูมิใจของชาติอิตาลี เป้นเรือที่ใหญ่ที่สุด, เร็วที่สุดและปลอดภัยที่สุดตามที่คาดคะเน เปิดตัวเมื่อ 16 มิถุนายน 1951และเริ่ม การเดินทางครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 มกราคม 1953

การตกแต่ง

ตกเเต่งแบบ art nuvo+art deco (เน้นประดับผนังด้วยgallery จากทั้วทุกมุมโลก เน้นภายในแบบติสแตก ประมาณขนทุกอย่างที่เป็นศิลปะ รุปปั้น ภาพวาด พรม เครื่องประดับ ไปประดับเรือ อย่างกะเป้นพิพิธภัณท์ )เเละเเน่นอนเมื่อมันจบ ของพวกนั้นราคาแพงๆๆก็จบไปด้วย เสียหายหลายล้านเหรียญ..

ห้องนั่งเล่นชั้น 1

ห้องทานอาหาร

ห้องนั่งเล่นอีกแบบ

ห้องสมุด

 

จุดจบ

          เมื่อ 25 กรกฎาคม 1956, ใกล้ชายฝั่งของ Nantucket, เรือ Andrea Doria ชนกับเรือ  MS Stockholm ของสายการเดินเรือของสวีเดนในสิ่งที่กลายเป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์ของการเกิดภัยพิบัติทางทะเลเสียมากที่สุด เรือ Stockholm ได้ชนเเละได้ครูดกับผนังข้างเรือ Andrea Doria ทำให้เกิดรุขนาดใหญ่ทันที (กรณีเดียวกับเรือEmpress of Ireland)

         A graphic of the Stockholm and the Andrea Doria crash.            

Andrea Doria                                                          และเราก็มาจอยกัน                                                               MS Stockholm 

เรือ Andrea Doria เริ่มเเสดงอาการเอียงวูบอย่างรุนแรงทางกราบขวา    ทำให้ผู้โดยสารแตกตื่น (คอนเซปเดิม) ลงเรือช่วยชีวิต เเละทำให้เรือช่วยชีวิตฝั่งซ้ายไม่สามารถใช้งานได้ เเต่เรือลำนี้มีความโชคดีมาก ที่ได้รับการช้วยเหลืออย่างรวดเร็ว เร่งด่วนทั้งทางบก ทางนำ้ ทางอากาศทำให้มีผู้เสียชีวิตเพียง 46 คน จาก ผู้โดยสาร 1706 คน


สภาพหัวเรือ    MS Stockholm หลังการชน หัวเรือหลุด เเต่ดันไม่จม นำ้ก้ไม่เข้าเรือมากด้วย เเละยังเเล่นต่อไปในสภาพนั้นได้อีก

ส่วนเรืออันหรูหราอย่าง Andrea Doria   เพียงโดนสะกิดก็เอียงเเละจมซะเเล้ว

ในทางเทคนิคเเล้ว เรือสามารถลอยอยู่เเละเเล่นต่อไปได้หากเอียงไป 15 องศา

เเต่นี่ 20 องศา ทำให้เรือไม่สามารถเเล่นต่อไปได้เเละก็ต้องจมลง..

andrea doria high resolution desktop 2126x1535 wallpaper

แต่ประสิทธิภาพของการออกแบบทางเทคนิคของเรือทำให้เรือลอยอยู่ไปมานานกว่า 11 ชั่วโมงหลังจากชน

ทำให้ผู้โดยสาร สามารถเก็บข้าวของ เสื้อผ้า รองเท้า  หรืออาจเเต่งหน้าแต่งตัวเพื่อลงเรือช่วยชีวิตยังได้(ประชดนะ)

 

นาทีจมสุดท้าย

หลังจากเรือลอยโต่งเต้งไปมาบนเเม่นำ้เกทือบ 10 กว่าชม. ให้เฮลิคอปเตอรืได้บันทึกวาระสุดท้ายของเรือ เรือก้ได้ค่อยๆๆจมลงอย่างเงียบๆพร้อมกับศิลปะ ข้าวของ เครื่องประดับราคาเเเพงมูลค่าหลายล้าน....

Sinking Glory

Goodbye Andrea Doria .................................................................

Andrea Doria เป็นเรือโดยสารข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกลำสุดท้ายที่จม ก่อนที่เครื่องบินจะพัฒนาเเละกลายเป้นทางเลือกในการเดินทางใหม่ และเรือ Andrea Doria  คือเรือเดินสมุทร ลำสุดท้าย........ 

เกร็ดทั้วไป..

- เชื่อว่าหลายคนคงเคยดูหนังเรื่อง Ghost ship เรือผี ได้รู้สึกคุ้นๆๆไหมว่าเรือในหนัง คล้ายๆๆกับเรือนี้ คำตอบคือ คงละลำกัน เเต่หนังได้เอาเรือ Andrea Doria มาเป้นเเรงบันดาลใจ ในการออกแบบเืรือในหนัง ที่ชื่อว่า Antonia graza

        

- เรือ Poseidon ก้ได้เเรงบันดาลใจจากเรือ queen mary 2

               

 

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

รายชื่อเรือที่ใหญ่ที่สุดเรียงตั้งเเต่อดีตถึงปัจจุบัน กดดูจะเข้าใจมากยิ่งขึ้น.. ขอบคุณคับ

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8D%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81

 

----------------------------------------------------------------------END------------------------------------------------------------------------

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
vevo's profile


โพสท์โดย: vevo
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
96 VOTES (4/5 จาก 24 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เขมรขอถก JBC ด่วน ยันไม่รับเส้นเขตแดน จากการใช้กำลังของไทยเจาะสเปก กริเพน ทําไมกองทัพไทยถึงเลือกใช้เขมรหวัง "คนอินเดีย" มาเที่ยวกัมพูชามากขึ้น หลังทหารไทยล้มรูปปั้นจนกลายเป็นดราม่า"พลทหารโตเกียว" ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด BM-21 ในสมรภูมิบ้านหนองจาน.เขมรเร่งซ่อม สะพาน หลังถูก F-16 ทิ้งระเบิดลง ในช่วงปะทะภาพนี้ที่รอคอย !!! ทหารไทยนำตู้คอนเทนเนอร์ไปวางกั้นพรมแดนบ้านหนองจาน ตามเส้นเขตแดน 1:50000 เป็นที่เรียบร้อย"โดม ปกรณ์ ลัม" ทัวร์ลงหนัก! หลังเมนต์ใส่ "จินนี่" งานนี้โดนโซเชียลถล่มยับนครพนมเปิดเมืองหนาว! จัด งาน “Nakhonphanom Winter Festival 2026” เคียงดาว หนาวลม ชมโขง ชูอุโมงค์ไฟ 500 เมตร ดาวล้านดวงริมฝั่งโขงสลิปเงินเดือนของนักบินโผล่บนโซเชียล ทำชาวเน็ตตาโตเขมรทุ่มเงินจ้างนักร้องเกาหลีมาโปรโมทประเทศเปิดประวัติ ผู้สมัคร สส.พรรคส้ม โดนจับคดีฟอกเงินและยาเสพติดนรกแตกก่อนวันเซ็นสัญญา F16 ไทยบึ้มสะพาน คืนหมาหอน "ฮุนเซน" อกแตก แพ้หมดรูป จำยอมเซ็นสงบศึก
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ชาวบ้านเขมรไม่กล้าเดินทางกลับบ้านเพราะกลัวกับระเบิดที่ฝังไว้ตามพื้นเมื่อการชอปปิงบำบัด Retail Therapy กลับไม่ได้ทำให้หายเครียด วางแผนการซื้ออย่างไรให้การชอปปิงช่วยฮีลใจ และ ฮีลเงินในกระเป๋า
ตั้งกระทู้ใหม่