เลี้ยงผี ล้านนาวิถีสู่สังคม
ความเชื่อหนึ่งของชาวล้านนาที่ปลูกฝังเหนียวแน่น
คงไม่พ้นการ "ปู่จาผี" (บูชาผี) เจ้าค่ะ
วันนี้เจ้านางจะนำเสนอว่าผีให้คุณ, ให้โทษ ในล้านนานั้นมีอะไรบ้าง
และความสำคัญของการเซ่นไหว้ บูชาผี ก่อให้เกิดบรรทัดฐานของสังคมได้อย่างไร
ทั่วทุกภาคของประเทศไทย ล้วนแต่ปรากฎความเชื่อเกี่ยวกับการบูชาผี.. ภาคเหนือและภาคอีสานนั้นมีความเชื่อหลายๆ อย่างที่คล้ายกัน เจ้านางก็อยากรู้เรื่องการไหว้ผีของชาวอีสานเจ้าค่ะ วอนผู้รู้ช่วยเอามาแบ่งปันด้วยนะเจ้าค่ะ
ล้านนา หรือภาคเหนือนั้นมีภูมิประเทศที่เป็นป่าเขาแดนดง วิถีชีวิตผู้คนจึงคลุกคลีกับธรรมชาติ และด้วยความเกรงกลัวต่อภัยต่างๆ การเซ่นไหว้ เพื่อให้ผีพอใจและดูแลปกปักรักษาตน ความเชื่อนี้ค่อนข้างจะเข้มข้นและเหนียวแน่นมากๆ แม้สังคมเมืองปัจจุบันความเจริญจะทำให้ร่องรอยวัฒนธรรมเลือนหาย แต่ความเชื่อเรื่องการไหว้ผีของลูกข้าวนึ่งนั้นยังมีบทบาทนักในจารีตสังคมชนบท...
...และการไหว้ผีนี่เอง เป็นตัวแปรสำคัญที่ก่อให้เกิดบรรทัดฐานของสังคม...
การซื้อผี-ขายผีในล้านนา
เงินค่าผีคนล้านนามาจากตำนานซื้อผีจากชาวลัวะ
เอิ้ว...ซื้อผีบ๋อ.....เอิ้ว...มีผีมาขายเน้อ ไผจะซื้อผีมาซื้อเน้อ.......
เสียงชาวลัวะเอิ้นตะโกนบอกชาวบ้านที่สนใจมาซื้อผีเอาไว้รักษาบ้านเรือน เอาไว้เป็นผู้ปกปักรักษาคนในครัวเรือน

โดยแต่ละผีจะให้คุณแตกต่างกันไปเริ่มตั้งแต่
-ผีปู่ย่า หากใครซื้อผีนี้ไว้จะทำให้ลูกหลาน ญาติพี่น้องอยู่ดีมีสุข เกิดความรักใคร่สามัคคีกัน
ญาติพี่น้องลูกหลานเครือญาติทุกคนจะมารวมกัน เกิดความอบอุ่นในวงค์ตระกูล
-ผีกะ หรือผีปอบ หาก ใครซื้อผีนี้จะทำให้วงค์ตระกูลเป็นคนขยันหากินไม่เลือกว่าจะค่ำมืด
กลางวันกลางคืนก็จะหากินไม่หยุดหย่อน มักเป็นผู้มีเงินเพราะความขยัน
-ผีมดผีเม็ง หากใครซื้อผีนี้จะส่งผลให้วงค์ตระกูลมีความสุขสนุกสนานดังนั้นวงค์ตระกูลของผู้ที่มีผีนี้รักษา
ก็จะกำหนดพิธีกรรมในวันที่ไหว้ผีในรอบปีญาติๆวงค์ตระกูลก็มาฟ้อนบวงสรวง เรียกกันว่าพิธีกรรมการฟ้อนผีมดผีเม็ง
ทำให้ญาติพี่น้องวงค์ตระกูลสนุกสนานรื่นเริง
เมื่อพ่อค้าชาวลัวะมาขายผีตามหมู่บ้าน ผู้คนพื้นเมืองที่ต้องการซื้อผีต่างก็ซื้อผีคือสวย (กรวย) ดอกไม้เป็นสินค้าแทนผี เมื่อซื้อแล้วก็นำสวยดอกไม้ไปไว้ในที่ๆลัวะบอกกล่าว คือ
>>> ผีปู่ย่าให้นำสวยไปไว้ในห้องเรือนใหญ่หนึ่งแห่งและทำหอผีปู่ย่าไว้ที่บริเวณในรั้วบ้านอีกหนึ่งแห่งส่วนราคาตามแต่จะตกลงกัน
เช่น อาจเป็น ๓๒ แถบ ๔๕ แถบ เป็นต้น ส่วนใครซื้อ
>>> ผีกะต้องนำสวยดอกไม้ไปไว้ในหม้อเลี้ยงผี นำหม้อไปวางไว้บนเพดาน เพื่อให้ผีกะได้อยู่ในหม้อ ไม่ออกไปทำร้ายใคร ราคาผีก้ะ อาจเป็น ๑๒ แถบ ๒๕ แถบ แล้วแต่จะตกลงกัน
>>> ผีมดผีเม็งก็จะต้องนำสวยดอกตัวแทนผีไปไว้ในหิ้งผีบนบ้านในห้องนอน แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องเลี้ยงปีละ หนึ่งครั้งหรือสองสามปีครั้งแล้วแต่จะตั้งเงื่อนไขกันไว้ ในการเลี้ยงจะต้องมีดนตรีบรรเลงให้เกิดความม่วนงัน สนุกรื่นเริง ราคาผีมดผีเม็งอาจเป็น ๓๖ บาท ๑๒ บาทแล้วแต่ความพอใจ
ตั้งแต่ผู้คนได้ซื้อผีที่ตนเองต้องการมาไว้คุ้มครองบ้าน ทำให้ผีมีบทบาทในวิถีชีวิตคนในครอบครัวกันมาก หากใครเข้าบ้านเรือนโดยไม่บอกเจ้าบ้าน หรือเข้าไปในห้องนอนถือว่าผิดผี ต้องถูกปรับไหมเท่าราคาค่าผีที่บ้านนั้นซื้อมา เช่น ถ้าซื้อสวยผีมาจำนวน ๓๒ แถบ ก็ต้องเสียค่าปรับเป็นเงิน ๓๒ บาท เท่าเงินซื้อผี ที่สำคัญคือผีจะปกป้องลูกสาวในครอบครัวนั้น หากใครจับมือ ถือแขน ถูกต้องเนื้อตัว ล่วงเกินผู้หญิงในครองครัวนั้นๆก็ต้องถูกปรับเสียค่าผี ตามราคาที่บรรพบุรุษได้ซื้อสวยผีมาไว้ครั้งแรก
แม้จะสืบต่อๆกันมาเป็นเวลานานนับร้อยๆ พันๆปี การเสียค่าผีก็ต้องเป็นเงื่อนไขของทุกครอบครัว ที่มีผีปกปักรักษาวงค์ตระกูลไม่ว่า ผีปู่ย่า ผีกะ ผีมดผีเม็งด้วยมีการเลี้ยงผีไว้ป้องกันผู้คนในครอบครัวดังกล่าวจะเห็นว่า เดือนเก้าเหนือ (เดือนเจ็ดภาคกลาง) ผู้คนล้านนาต่างมีการเลี้ยงผี หรือหากมีงานเกี่ยวกับวงศ์ตระกูลก็จะเลี้ยงผีกัน ทำให้ญาติๆมาร่วมกันประกอบพิธีโดยเฉพาะถึงปีใหม่หรือสงกรานต์
ลูกหลานวงศ์ตระกูลที่อยู่ไกลกันก็จะมารวมกันทำพิธีเลี้ยงผีที่ตระกูลของตนมีอยู่ งานสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือการใส่ผีในการแต่งงาน เจ้าบ่าวต้องนำเงินค่าเสียผีใส่ขัน(พาน) พร้อมข้าวตอกดอกไม้ไปไหว้สาญาติผู้ใหญ่ เจ้าสาวเรียกว่าเงินเสียผีหรือเงินใส่ผี เป็นเงื่อนไขว่าได้เป็นผีในครัวเรือนเดียวกันแล้ว ภาษาล้านนาว่า" ผีตั๋วเดียวกั๋น" คือต้องเป็นญาติเครือเดียวกันนั่นเอง ผีล้านนาจึงมีความสำคัญมาก ในวิถีชีวิตของพวกเขา ตั้งแต่โบราณมาจนปัจจุบัน หลายๆครอบครัวก็ยังเลี้ยงผี มีผีปู่ย่า ผีกะ และผีมดผีเม็งกันอยู่
อย่างไรก็ตามหลายๆครอบครัวในปัจจุบันไม่เลี้ยงผีที่บรรพบุรุษซื้อมา ทำให้ลูกหลานไปอยู่ที่ไกลหาโอกาสกลับมารวมกันได้ยาก โดยเฉพาะความเชื่อเรื่องการเสียผี ค่าปรับค่าล่วงเกินเกี่ยวกับผี ไม่มีในหัวใจคนสมัยใหม่ จึงทำให้หญิงสาวถูกล่อลวง เสียผู้เสียคนไปมากต่อมาก
หิ้งผี
หม้อผีกะ
หอผีปู่ย่า
อ่านเรื่องราวที่เป็นบทความวิชาการมาแล้ว (ซึ่งบางคนอาจจะข้ามไป
)
มาเอาเรื่องราวจากประสบการณ์ของเจ้านางบ้างดีกว่า
ในล้านนานั้นมีหลายเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ การนับถือผีของไตลื้อ, ไตเม็ง, ยอง, ลั๊วะ เจ้านางไม่รู้ลึกนะเจ้าค่ะ ไม่อาจจะอธิบายได้... แต่ต้นตระกูลและชุมชนของเจ้านางนั้นเป็น ไตยวน ตระกูลของเจ้านางนั้นนับถือผีปู่ย่า แต่บางบ้านบางตระกูลเค้าก็นับถือผีกะ (ผีปอบ) เจ้าค่ะ
ตระกูลไหนที่นับถือผีกะเค้าจะปกปิดเป็นความลับ เพราะถือเป็นเรื่องอับอาย แม้แต่ลูกหลานในตระกูลนั้นก็จะไม่รู้ว่าผีบรรพบุรุษของตัวเองเป็นผีกะ คนที่ล่วงรู้จะมีเพียงแค่คนเดียวนั่นคือ ลูกสาวคนโตผู้สืบทอดหม้อผีกะมาจากยาย (ที่ตายไปแล้ว) การไหว้ผีของล้านนานั้นจะยกย่องให้สตรีเป็นผู้สืบสายเลือด ถ้ามีงานพิธีต่างๆ ก็จะให้สตรีผู้นั้นเป็นผู้บอกกล่าวแก่ผี บางคนถ้าหากขวัญอ่อน ก็อาจจะเป็นม้าทรงของผีปู่ย่าได้
กลับมาเรื่องผีกะต่อนะเจ้าค่ะ - - ผีกะจะถูกเลี้ยงไว้ในหม้อ โดยผู้ที่เลี้ยงจะมีแค่คนเดียว และหากเลี้ยงผีไม่ดี ผีไม่พอใจ ผีกะก็จะไปเข้าสิงกินขวัญของชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านเจ็บป่วย และประกาศให้อับอายว่าใครเป็นเจ้าของผี บางทีก็ตะหลบตะแลงแปลงร่างเป็นเจ้าของผีไปออกหากินของสดของคาว หรือหากเจ้าของผีไปอาฆาต โกรธเคืองใคร ผีกะก็จะไปทำร้ายคู่กรณี
หากชาวบ้านรู้ว่าตระกูลไหนเป็นผีกะ ก็จะไม่ยอมให้ลูกหลานไปแต่งงานด้วย เพราะลูกหลานของตนจะต้องเข้ารีต และไหว้ผีกะตามไปด้วย แม่ของเจ้านางเอง ก็เคยถูกยายห้ามไม่ให้แต่งงานกับผู้ชายคนหนึ่งในหมู่บ้าน เพราะกลัวลูกหลานจะสืบรับไหว้ผีกะต่อมา..
ผีกะ มักจะเป็น แม่บ้าน เมื่อแม่บ้านเป็นผีกะแล้ว คนในครอบครัวก็อาจเป็นผีกะได้ คือเป็นได้ทั้งครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ ลูก ลูกเขย ลูกสะใภ้ ว่ากันว่าผู้ใดก็ตามที่หลับนอนกับหญิงที่เป็นผีกะ หรือกินข้าวร่วมกับผู้ที่เป็นผีกะครบ 7 วัน แล้ว ก็จะเป็นผีกะไปด้วย ส่วนผู้ที่จะมอบหมายให้ผู้อื่นเป็นผีกะต่อจากตนก็คือแม่บ้าน เท่านั้น คนที่เป็นผีกะนั้นมักจะมีกลิ่นคาวจากปาก และลมหายใจ ตัวผีกะนั้น มีสัตว์พาหนะประจำตัว คือ นกเค้าผีกะ หรือนกเค้าแมว โดยเฉพาะนกเค้าแมวตัวเล็ก
เวลาเย็น หรือยามค่ำคืน เมื่อคนที่เป็นผีกะไปที่ไหน นกนี้ก็ไปปรากฏตัวในที่นั้น ๆ เป็นการล่วงหน้าเสมอ
“ความเชื่อของคนล้านนา ยังระบุอีกว่า บางคนว่าผีกะมักจะอาศัยนกที่ว่านี้ออกไปหากิน โดยเจ้าของ หรือคนที่เป็นผีกะไม่รู้เรื่อง แต่ชาวบ้านก็มักจะสังเกตว่า ในยามค่ำคืน หากผู้หญิงคนไหนเป็นผีกะ จะมีนกชนิดดังกล่าวมาบินโฉบตัดหน้า หรือร้องดักอยู่ข้างหน้า ที่สำคัญผู้หญิงที่เป็นผีกะยิ่งดึกจะยิ่งสวย วิธีทดลองว่าใครเป็นผีกะให้นำตองกล้วยงำเครือ หรือใบตองใบสุดท้าย ที่ปกเครือกล้วยอยู่นั้น มาเสกแล้วมองลอดใบกล้วย หรือใช้ใบพลูมาเสก แล้วมองลอดหว่างขาของตน หากสาวนั้นเป็นผีกะแล้ว จะพบว่ามีนกเค้าผีกะ หรือนกเค้าแมว สองตัวเกาะที่ไหล่ของหญิงคนนั้น แล้วคอยแลบลิ้น เลียแก้ม และใบหน้าให้หญิงสาวมีใบหน้าที่งดงาม สวยในยามค่ำคืน”
หากผีกะไปเข้าสิงทำร้ายขวัญใคร ครูบา หมออาคม จะใช้หม้อดินครอบศีรษะ แล้วร่ายคาถาขูดหมิ่นหม้อ ทำให้เจ้าของผีกะหัวล้านเกลี้ยง (จนถึงปัจจุบัน เจ้าของผีกะคนนั้นก็ยังเป็นผู้หญิงที่ไม่มีผม) : กรณีนี้เกิดขึ้นกับตระกูลข้างๆ บ้านเจ้านางค่ะ หุหุหุ แต่นานมาแล้ว,,, เรื่องของเรื่องคือ ตั้งแต่รุ่นทวดๆ ของตระกูลนี้เค้าไปทำไร่ไถนาตามประสาคนโบราณ แล้วไปเจอสำเภาเงิน สำเภาทอง จึงเก็บกลับมาและขายไปตามประสา ต่อมาคนในตระกูลเกิดเจ็บป่วย เมื่อให้ม้าทรงถามผีปู่ย่า ก็กลายเป็นว่าผีปู่ย่าเตลิดหายไปแล้ว ไม่คุ้มครองคนในตระกูล กลายเป็นพันธะสัญญาใหม่ต้องเลี้ยงผีกะ คงจะคล้ายๆกับการทำผิดครูแล้วกลายเป็นผีปอบ จึงทำให้ตระกูลนี้ต้องไหว้ผีกะสืบมา........
เรื่องนี้จึงถือเป็นข้อสำคัญมาก หากคนโบราณไปเก็บเจอของเก่าแก่ เค้าจะทิ้งไว้ที่เดิมไม่ไปยุ่ง เพราะกลัวว่าผีจะติดมาทำให้ตระกูลของตัวเองต้องไหว้ผีกะ ลูกหลานก็จะไม่บริสุทธิ์
ส่วนผีที่คนล้านนากลัวที่สุด เป็นผีที่มีฤทธิ์มากนั่นคือ ผีกะยักษ์
อันนี้เจ้านางไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นยังไง เพราะไม่มีใครเคยเห็น แต่ล้วนกล่าวอ้างถึงกำลังฤทธิ์เดชของมัน
เรื่องผิดผีก็เป็นเรื่องสำคัญ ผิดผีคืออะไร? คนสมัยก่อน หากหนุ่มสาวไปมาหาสู่จีบกันจะอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่ โดยจะจัดแจงบริเวณหนึ่งใต้ถุนบ้านให้ผู้หญิงปั่นฝ้าย ตีฝ้าย และมีแคร่ไม้มีบริเวณให้หนุ่มๆ ที่แวะเวียนมาจีบนั่งต่อคารมคมคายกับสาวเจ้า ไม่ให้แอบไปคบกันลับหลัง แต่จะพูดคุยจีบกันก็ให้ผู้ใหญ่รับรู้
ดังนั้นจึงห้ามแตะเนื้อต้องตัว ห้ามก้าวเข้าขื่อประตูห้องของหญิง ห้ามขึ้นเรือนโดยไม่ได้รับอนุญาติ ฯลฯ.... หากละเมิดจะถือว่าผิดผี คนในตระกูลฝ่ายหญิงจะล้มป่วย เกิดอาเพท ด้วยเหตุนี้จึงทำให้คนโบราณมีความรู้เรื่องเพศศึกษาน้อยมาก และไม่ได้หมกมุ่นอยู่กับเรื่องพรรค์นี้
เช่น แม่อุ๊ย (ยาย) ของเจ้านางเอง สมัยสาวๆ (12-13) ท่านเคยเล่าว่าคุณตามาเยี่ยมหาหม่อน (แม่ของยาย) บังเอิญไม่มีใครอยู่บ้าน มีแต่ยายของเจ้านาง คุณตาด้วยความที่เป็นผู้ใหญ่กว่าหลายปี ก็ไม่ได้คิดอะไร แค่มาแตะไหล่บอกว่า "เอ้อ... งั้นไปละเน้อ" ตามประสาผู้ใหญ่เอ็นดูเด็ก คุณยายเจ้านางเลยตกใจและกลัวมาก สุดท้ายจึงลงเอยด้วยการใส่ผี (ให้ฝ่ายชายเอาเงินเล็กน้อยมาซื้อผี เข้าร่วมตระกูล) และแต่งงานกัน 


สะตวง ใช้สำหรับเรียกขวัญ ส่งเคราะห์หากเจ็บป่วย
สะตวงเซ่นเจ้าที่และท้าวจตุรบาล

การเลี้ยงผีฝาย กุศโลบายรักษาต้นน้ำ
เครดิต;
วิเคราะห์หวยงวดวันที่ 2 มกราคม 69 โดยใช้ AI..เลขไหนมีสิทธิ์ถูกรางวัล
ทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจาย
"ซินแสดัง" เผยดวงเมืองประเทศไทย ปี 2569..ยิ่งรบ ยิ่งแข็งแกร่ง ศัตรูแพ้ราบคาบ
"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชน
10 พรรณไม้สวยพิษร้าย: ความงดงามที่ต้องแลกด้วยอันตรายถึงชีวิต
เจ้าของบริษัทขายกิจการ แจกโบนัสพนักงานคนละ 443,000 ดอลลาร์
ปิดตำนานรถ EV ราคาถูก ทิ้งลูกค้า, ดีลเลอร์ หอบเงินจากภาครัฐฯ กลับจีนหน้าตาเฉย
เขมรวิเคราห์ "จุดอ่อนของ T-50TH คืออะไร?"
เซียนหวยคึกคัก ม้าสีหมอกปล่อยแนวทางเลขเด็ด งวด 2 มกราคม 2568
AI วิเคราะห์เลขท้าย 2 ตัว งวดวันที่ 2 มกราคม 69..โดยใช้สถิติย้อนหลัง 20 ปี
เมื่อตัวแม่ปะทะเจ้าของบริษัท! "ป้ารัตนา" โชว์สกิลสัมภาษณ์งาน ทำเอา "มอส มัดจุก" ถึงกับไปไม่เป็น
เปิดใจ "เหมย หมึกเป็นซาซิมิ" นาทีช็อกเห็นภาพบาดตาผ่านกล้องวงจรปิด บทเรียนของความไว้ใจ
สาวปริศนาปล่อยอึในร้านมินิมาร์ท พนง.เก็บกวาดปล่อยโฮ เพราะต้องตามเช็ด (เหตุเกิดที่ไทย)
วัฒนธรรมของ สัตว์เลื้อยคลาน ที่มันคือกิ้งก่าขนาดใหญ่
นี่หน่ะหรือ ขนมที่ใช้ในพิธีขันหมาก
ศึกเดือดกลางเมืองชล! "ไอซ์ รักชนก" ปะทะคารมกลุ่มแม่ยก "พี่เฮ้ง" ปมแก้รัฐธรรมนูญและตรวจสอบทุจริต





