Elasty Filler ดีไหม เหมาะกับใคร ช่วยเรื่องอะไรบ้าง

Elasty Filler ดีไหม เหมาะกับใคร ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
รู้จัก Elasty Filler ฟิลเลอร์เนื้อนิ่มจากเกาหลี ช่วยแก้ใต้ตาลึก ร่องลึก และปรับรูปหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมข้อควรรู้ก่อนฉีด
เมื่ออายุเพิ่มขึ้น โครงสร้างผิวและใบหน้าจะค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คอลลาเจนและอิลาสตินลดลง ไขมันใต้ผิวบางลง ส่งผลให้เกิดปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย ร่องลึก ใต้ตาโทรม หน้าดูอ่อนล้าและแก่กว่าวัย หลายคนจึงเริ่มมองหาทางเลือกในการฟื้นฟูผิวและปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด

 

หนึ่งในหัตถการที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง คือ “ฟิลเลอร์” โดยเฉพาะฟิลเลอร์ที่ให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็ง ไม่เป็นก้อน และเข้ากับผิวได้ดี ซึ่ง Elasty Filler ถือเป็นหนึ่งในฟิลเลอร์ที่ถูกพูดถึงมาก ด้วยจุดเด่นด้านความนิ่ม ความยืดหยุ่น และความละมุนของผลลัพธ์

 

บทความนี้จะพาคุณทำความเข้าใจ Elasty Filler อย่างละเอียด ตั้งแต่คืออะไร มีกี่รุ่น ช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง เหมาะกับใคร รวมถึงการเตรียมตัวและการดูแลหลังฉีด เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจอย่างรอบคอบ

 

รู้จักก่อนฉีด Elasty Filler คืออะไร

Elasty Filler คือ ฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายมนุษย์ตามธรรมชาติ มีคุณสมบัติเด่นในการอุ้มน้ำ เพิ่มความชุ่มชื้น และช่วยพยุงโครงสร้างผิว จุดเด่นของ Elasty Filler คือโครงสร้างของเนื้อฟิลเลอร์ที่นิ่ม ละเอียด และมีความยืดหยุ่นสูง เมื่อฉีดเข้าสู่ผิวจะสามารถกลืนไปกับเนื้อผิวได้ดี ลดโอกาสการเกิดก้อน ความแข็ง หรือผิวเป็นคลื่น ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ เหมาะกับงานละเอียดและบริเวณผิวบางเป็นพิเศษ

 

Elasty Filler มาจากประเทศอะไร

Elasty Filler เป็นฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีความงามและเวชศาสตร์ชะลอวัย ฟิลเลอร์รุ่นนี้ถูกพัฒนาด้วยเทคโนโลยีเฉพาะที่ช่วยให้เนื้อ HA มีความยืดหยุ่นสูง คงรูปดี และสลายอย่างสม่ำเสมอ

 

จุดเด่นของ Elasty Filler ที่แตกต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไป

Elasty Filler ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบสวยละมุน ไม่ดูแข็งหรือเปลี่ยนหน้าอย่างชัดเจน จุดเด่นที่สำคัญ ได้แก่

1. เนื้อฟิลเลอร์นิ่มเป็นพิเศษ เหมาะกับผิวบาง
2. มีความยืดหยุ่นสูง เคลื่อนไหวไปกับสีหน้าได้ดี
3. เกลี่ยง่าย ลดโอกาสการเป็นก้อน
4. ให้ผิวดูอิ่ม ฟู และดูสุขภาพดี
5. ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ไม่โป๊ะ

 

Elasty Filler มีกี่รุ่น และแต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร

เพื่อให้เหมาะกับปัญหาและตำแหน่งที่ฉีด Elasty Filler ถูกแบ่งออกเป็น 3 รุ่นหลัก โดยมีความหนาแน่นแตกต่างกัน

1. Elasty F Plus เป็นฟิลเลอร์เนื้อบางเบา เหมาะสำหรับผิวชั้นตื้น เช่น ใต้ตา ริ้วรอยเล็ก ๆ หน้าผาก หรือบริเวณที่ต้องการความละเอียดสูง ให้ผิวดูเรียบเนียนและสดใส
2. Elasty D Plus มีความหนืดระดับปานกลาง เหมาะสำหรับริ้วรอยระดับกลาง เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก หรือการเติมวอลลุ่มริมฝีปาก ให้รูปทรงอิ่มสวยแต่ยังดูเป็นธรรมชาติ
3. Elasty G Plus เป็นรุ่นที่มีความคงตัวสูง เหมาะสำหรับการปรับโครงสร้างใบหน้า เช่น คาง ขมับ แก้มตอบ หรือจุดที่ต้องการพยุงรูปหน้าให้ชัดขึ้น แต่ยังคงความนุ่ม ไม่แข็งทื่อ

 

Elasty Filler ช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง

Elasty Filler สามารถนำมาใช้แก้ปัญหาผิวและรูปหน้าได้หลากหลาย ดังนี้

1. ช่วยลดริ้วรอยและร่องลึก เติมเต็มร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก มุมปากตก ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น
2. ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาลึก ใต้ตาคล้ำ เหมาะกับผิวใต้ตาที่บาง ลดความโทรม ทำให้ดวงตาดูสดใสขึ้น
3. ช่วยเติมแก้มตอบและขมับยุบ เพิ่มความฟูให้ใบหน้า ลดลุคโทรม ทำให้หน้าแลดูละมุน
4. ช่วยปรับรูปคางและโครงหน้า ทำให้คางได้สัดส่วน หน้าเรียวขึ้นอย่างดูเป็นธรรมชาติ
5. ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว HA ในฟิลเลอร์ช่วยอุ้มน้ำ ทำให้ผิวดูฉ่ำ สุขภาพดี และเรียบเนียนขึ้น

 

ใครบ้างที่เหมาะกับการฉีด Elasty Filler

Elasty Filler เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะ

1. ผู้ที่มีผิวบางและกังวลเรื่องฟิลเลอร์เป็นก้อน
2. ผู้ที่มีปัญหาใต้ตาลึก ใต้ตาคล้ำ
3. ผู้ที่มีแก้มตอบ ขมับยุบ หน้าดูโทรม
4. ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าแบบละมุน
5. ผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรก
6. ผู้ที่ไม่ต้องการเปลี่ยนโครงหน้าชัดเจนเกินไป

 

Elasty Filler ฉีดบริเวณใดได้บ้าง

1. ใต้ตา / ร่องน้ำตา
2. ร่องแก้ม
3. ร่องน้ำหมาก
4. แก้มตอบ
5. ขมับ
6. คาง
7. กรอบหน้า
8. หน้าผาก (บางกรณี)

 

Elasty Filler ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน

โดยทั่วไป Elasty Filler จะอยู่ได้นานประมาณ 8–18 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นที่ใช้ ตำแหน่งที่ฉีด การดูแลหลังทำ และการเผาผลาญของแต่ละบุคคล เมื่อฟิลเลอร์สลายสามารถเติมซ้ำได้

 

ฉีด Elasty Filler เห็นผลภายในกี่วัน

หลังฉีดสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที และจะเห็นผลชัดเจนมากขึ้นภายใน 1–2 สัปดาห์ เมื่ออาการบวมยุบและฟิลเลอร์เข้าที่

 

ใครบ้างที่ไม่เหมาะกับ Elasty Filler

1. หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
2. ผู้ที่มีการอักเสบหรือติดเชื้อบริเวณใบหน้า
3. ผู้ที่มีโรคภูมิคุ้มกันผิดปกติบางชนิด
4. ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แข็ง คม ชัดมากเป็นพิเศษ

 

ข้อควรรู้ในการเตรียมตัวก่อนฉีด Elasty Filler

1. งดยาและอาหารเสริมที่ทำให้เลือดออกง่าย 3–7 วัน
2. งดแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24–48 ชั่วโมง
3. พักผ่อนให้เพียงพอ
4. ดื่มน้ำให้มาก
5. แจ้งประวัติสุขภาพกับแพทย์

 

ข้อควรรู้ในการดูแลตัวเองหลังฉีด Elasty Filler

1. ประคบเย็นใน 24 ชั่วโมงแรก
2. หลีกเลี่ยงการกด นวด หรือสัมผัสแรง
3. งดความร้อนและออกกำลังกายหนัก 48–72 ชั่วโมง
4. งดแอลกอฮอล์ 24–48 ชั่วโมง
5. ดื่มน้ำมาก ๆ
6. สังเกตอาการผิดปกติและพบแพทย์ตามนัด

 

สรุป Elasty Filler ฟิลเลอร์เนื้อนิ่มจากเกาหลี

Elasty Filler เป็นฟิลเลอร์ HA จากเกาหลีที่โดดเด่นเรื่องความนิ่มและความยืดหยุ่น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวและปรับรูปหน้าอย่างดูเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะบริเวณผิวบางและงานละเอียด หากฉีดโดยแพทย์ในคลินิกที่มาตรฐาน และดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม จะช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ สดใส และสมดุลได้อย่างมั่นใจ

 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Elasty Filler (FAQ)

1. Elasty Filler ต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร
Elasty Filler มีจุดเด่นเรื่อง เนื้อฟิลเลอร์ที่นิ่มและยืดหยุ่นสูง เมื่อฉีดแล้วสามารถกลืนไปกับผิวได้ดี เหมาะกับบริเวณผิวบางและจุดที่ต้องการความเป็นธรรมชาติ เช่น ใต้ตา ร่องลึกตื้น ๆ และการเติมความฟูให้ใบหน้า โดยไม่ทำให้หน้าดูแข็งหรือเป็นก้อนง่าย

 

2. Elasty Filler เหมาะกับฉีดใต้ตาหรือไม่
เหมาะมาก โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาใต้ตาลึก ใต้ตาโทรม หรือผิวใต้ตาบาง เพราะเนื้อฟิลเลอร์นิ่ม เกลี่ยง่าย ลดโอกาสการเป็นก้อนหรือเห็นขอบฟิลเลอร์ได้ดีกว่าฟิลเลอร์เนื้อแข็ง

 

3. Elasty Filler ฉีดแล้วเป็นก้อนได้ไหม
โอกาสเกิดก้อนค่อนข้างน้อย หากฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ เลือกรุ่นและปริมาณเหมาะสม รวมถึงดูแลหลังฉีดอย่างถูกต้อง อย่างไรก็ตาม หากเกิดความไม่เรียบเนียน แพทย์สามารถช่วยเกลี่ยหรือแก้ไขได้

 

4. Elasty Filler เหมาะกับการฉีดคางหรือไม่
สามารถใช้ได้ โดยเฉพาะในคนที่ต้องการคางดูละมุน ไม่แหลม ไม่แข็งเกินไป รุ่นที่มีความคงตัวสูงของ Elasty จะช่วยปรับสัดส่วนคางให้สมดุลกับใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ

 

5. Elasty Filler ฉีดปากได้ไหม
สามารถใช้ฉีดปากได้ในกรณีที่ต้องการลุคปากอิ่ม ดูนุ่ม ฟู และไม่เป็นแท่งแข็ง เหมาะกับผู้ที่ชอบทรงปากธรรมชาติ ไม่ต้องการขอบปากคมชัดมาก

 

6. ฉีด Elasty Filler เจ็บไหม
ขณะฉีดจะรู้สึกเจ็บหรือแสบเล็กน้อย แต่ฟิลเลอร์มีส่วนผสมของยาชา และแพทย์มักใช้เทคนิคช่วยลดความเจ็บ ทำให้สามารถทนได้ ไม่เจ็บรุนแรง

 

7. หลังฉีด Elasty Filler ต้องพักฟื้นไหม
ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แต่อาจมีอาการบวม แดง หรือช้ำเล็กน้อย ซึ่งจะค่อย ๆ หายไปภายในไม่กี่วัน

 

8. หลังฉีด Elasty Filler แต่งหน้าได้เมื่อไร
สามารถแต่งหน้าเบา ๆ ได้หลัง 24 ชั่วโมง และควรหลีกเลี่ยงการกด นวด หรือแต่งหน้าหนักบริเวณที่ฉีดในช่วงแรก

 

9. หลังฉีด Elasty Filler ออกกำลังกายได้ไหม
ควรงดออกกำลังกายหนักอย่างน้อย 24–48 ชั่วโมง เพื่อป้องกันอาการบวม ช้ำ และลดความเสี่ยงฟิลเลอร์เคลื่อน

 

10. ควรฉีด Elasty Filler ซ้ำบ่อยแค่ไหน
เมื่อฟิลเลอร์เริ่มสลายและผลลัพธ์ลดลง สามารถเข้ารับการเติมซ้ำได้ โดยทั่วไปมักอยู่ที่ประมาณ 10–18 เดือน ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล