Picosure Pro ดีไหม รักษาฝ้ากระ ลบรอยสัก ได้อย่างไร

Picosure Pro ดีไหม รักษาฝ้ากระ ลบรอยสัก ได้อย่างไร
รู้จัก Picosure Pro เลเซอร์รักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ ลบรอยสัก และฟื้นฟูผิวในระยะยาว พร้อมข้อมูลที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจทำ
ปัญหาผิวหน้าไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน และก็ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีเร่งด่วนเพียงครั้งเดียว โดยเฉพาะปัญหาที่เกี่ยวข้องกับ “เม็ดสีผิว” อย่างฝ้า กระ จุดด่างดำ และรอยสิว ซึ่งมักฝังลึกอยู่ในชั้นผิว และมีปัจจัยกระตุ้นซ้ำอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด ฮอร์โมน ความเครียด หรือพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน

 

หลายคนเริ่มต้นดูแลผิวด้วยสกินแคร์ แต่เมื่อใช้ไปสักระยะกลับพบว่าผลลัพธ์ไม่ชัดเจน หรือเห็นผลเพียงผิวชั้นบน ขณะที่ปัญหาจริงยังคงอยู่ เทคโนโลยีเลเซอร์จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญ โดยเฉพาะเลเซอร์รุ่นใหม่ที่ไม่ได้มุ่งเน้นแค่ความแรง แต่เน้นความแม่นยำและความปลอดภัยต่อผิว

 

หนึ่งในเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์นี้โดยเฉพาะคือ Picosure Pro เลเซอร์ที่ออกแบบมาให้จัดการกับเม็ดสีผิวอย่างตรงจุด พร้อมกระตุ้นการฟื้นฟูผิวจากภายใน โดยลดผลกระทบต่อผิวชั้นนอกให้มากที่สุด
บทความนี้จะอธิบายเกี่ยวกับ Picosure Pro อย่างละเอียด ตั้งแต่กลไกการทำงาน ผลลัพธ์ที่ควรคาดหวัง ความเหมาะสมของแต่ละสภาพผิว ไปจนถึงแนวทางการดูแลผิวเพื่อยืดอายุผลลัพธ์ให้คงอยู่นานที่สุด

 

รู้จักเลเซอร์ Picosure Pro คืออะไร

Picosure Pro คือเลเซอร์ในกลุ่ม Picosecond Laser ซึ่งเน้นการรักษาปัญหาผิวที่ดี ไม่ควรทำร้ายโครงสร้างผิวที่แข็งแรง เลเซอร์รุ่นเก่าจำนวนมากใช้หลักการสร้างความร้อนเพื่อเผาหรือทำลายเม็ดสี แม้จะเห็นผลเร็ว แต่ก็มักตามมาด้วยผลข้างเคียง เช่น ผิวไหม้ ผิวบาง หรือรอยดำหลังทำ ในขณะที่ Picosure Pro เลือกใช้หลักการที่ต่างออกไป คือ การส่งพลังงานในช่วงเวลาที่สั้นมาก เพื่อทำให้เม็ดสีแตกตัวด้วยแรงกระแทก แทนการใช้ความร้อน

ความเร็วของพลังงานในระดับ Picosecond (หนึ่งในล้านล้านวินาที) ทำให้พลังงานสามารถเข้าไปจัดการเม็ดสีได้ทันที โดยไม่เกิดการสะสมความร้อนในผิว ส่งผลให้ผิวรอบข้างยังคงแข็งแรง และลดโอกาสเกิดการระคายเคืองในระยะยาว

 

หลักการทำงานของ Picosure Pro ในระดับชั้นผิว

เมื่อเลเซอร์ Picosure Pro ถูกยิงลงสู่ผิว พลังงานจะทำงานใน 2 กลไกหลักพร้อมกัน ได้แก่

 

1. การแตกตัวของเม็ดสีอย่างละเอียด
พลังงานเลเซอร์จะทำให้เม็ดสีเมลานินหรือเม็ดสีจากรอยสักแตกออกเป็นอนุภาคขนาดเล็กมาก ร่างกายสามารถกำจัดออกได้ผ่านระบบภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ ทำให้สีผิวค่อย ๆ จางลงอย่างสม่ำเสมอ

 

2. การกระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูผิว
ในขณะเดียวกัน พลังงานบางส่วนจะกระตุ้นให้ผิวเริ่มกระบวนการซ่อมแซมตัวเอง ส่งผลให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ในชั้นผิว ผิวจึงไม่ได้แค่ใสขึ้น แต่ยังแข็งแรง เรียบเนียน และดูอ่อนเยาว์ขึ้นจากโครงสร้างภายใน
นี่คือเหตุผลที่ Picosure Pro ถูกนำมาใช้ทั้งในกลุ่มรักษาเม็ดสี และกลุ่มฟื้นฟูผิว (Skin Rejuvenation)

 

Picosure Pro ช่วยแก้ปัญหาผิวด้านใดได้บ้าง

1. ลดเลือนฝ้าและกระอย่างเป็นธรรมชาติ

ฝ้าและกระเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเม็ดสีผิวในระดับลึก การรักษาที่ใช้พลังงานไม่เหมาะสมอาจกระตุ้นให้ฝ้าเข้มขึ้นได้ Picosure Pro ถูกออกแบบมาให้สลายเม็ดสีอย่างอ่อนโยน จึงช่วยให้ฝ้าค่อย ๆ จางลงโดยไม่กระตุ้นเม็ดสีใหม่

1. จัดการจุดด่างดำและสีผิวไม่สม่ำเสมอ

จุดด่างดำจากแดด อายุ หรือรอยสิว มักทำให้ผิวดูหมองและไม่สม่ำเสมอ Picosure Pro ช่วยปรับโทนสีผิวให้เรียบเนียนขึ้น ผิวดูใสขึ้นทั้งหน้า ไม่ใช่แค่เฉพาะจุด

1. ฟื้นฟูผิวที่มีรอยสิวสะสม

รอยสิวไม่ได้เป็นแค่ปัญหาเรื่องสีผิว แต่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างผิวที่เสียสมดุล การกระตุ้นคอลลาเจนของ Picosure Pro ช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น รอยสิวดูตื้นลง และผิวดูแข็งแรงขึ้นในระยะยาว

1. ปรับผิวให้ละเอียด กระชับ และดูสุขภาพดี

เมื่อผิวสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่อง รูขุมขนจะค่อย ๆ ดูเล็กลง ผิวหน้าดูเนียนละเอียดและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวโดยไม่ต้องพักฟื้น

1. ลบรอยสักด้วยความเสี่ยงต่ำ

Picosure Pro สามารถจัดการเม็ดสีรอยสักได้หลายเฉด โดยเฉพาะสีที่ลบยาก ลดโอกาสเกิดแผลเป็นเมื่อเทียบกับเลเซอร์รุ่นเดิม

 

ทำ Picosure Pro กี่ครั้งถึงเห็นความเปลี่ยนแปลง

การรักษาด้วย Picosure Pro เป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความต่อเนื่อง เพราะการกำจัดเม็ดสีต้องใช้เวลาที่ร่างกายค่อย ๆ ขับออก

1. หลังทำครั้งแรก: ผิวจะดูใสขึ้นเล็กน้อย สีผิวสม่ำเสมอขึ้น
2. หลังทำ 2–3 ครั้ง: รอยคล้ำเริ่มจางลงชัดเจน ผิวเรียบขึ้น
3. หลังทำ 4–6 ครั้ง: ผลลัพธ์ชัดเจนทั้งเรื่องเม็ดสีและคุณภาพผิว

 

ระยะห่างระหว่างแต่ละครั้งประมาณ 3–4 สัปดาห์ เพื่อให้ผิวฟื้นตัวอย่างเหมาะสม

 

ผลลัพธ์ของ Picosure Pro อยู่ได้นานแค่ไหน

หากดูแลผิวอย่างถูกต้อง ผลลัพธ์จาก Picosure Pro สามารถอยู่ได้นานหลายเดือนถึง 1 ปี หรือมากกว่านั้น โดยเฉพาะในผู้ที่ป้องกันแสงแดดอย่างสม่ำเสมอและดูแลผิวต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ฝ้าและเม็ดสีเป็นปัญหาที่มีโอกาสกลับมาได้ การทำซ้ำเป็นระยะจึงถือเป็นการดูแลผิวระยะยาว ไม่ใช่การรักษาครั้งเดียวแล้วจบ

 

ใครบ้างที่เหมาะกับการทำ Picosure Pro

1. ผู้ที่มีปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ
2. ผู้ที่มีรอยสิวสะสมและผิวไม่เรียบ
3. ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวโดยไม่พักฟื้น
4. ผู้ที่ไม่ต้องการเลเซอร์ที่รุนแรง
5. ผู้ที่ต้องการผิวใสแบบดูเป็นธรรมชาติ

 

ใครบ้างที่ควรหลีกเลี่ยงหรือปรึกษาแพทย์ก่อนทำ

1. ผู้ที่มีผิวอักเสบหรือแผลเปิด
2. ผู้ที่มีโรคผิวหนังเรื้อรัง
3. สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร
4. ผู้ที่ใช้ยาที่ทำให้ผิวไวต่อแสง
5. ผู้ที่เพิ่งโดนแดดจัดหรือผิวไหม้

 

การเตรียมผิวก่อนทำ Picosure Pro

1. หลีกเลี่ยงแสงแดดก่อนทำอย่างน้อย 1–2 สัปดาห์
ก่อนทำ Picosure Pro ควรหลีกเลี่ยงการออกแดดจัด การทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานาน หรือการอาบแดด เนื่องจากผิวที่โดนแดดมากจะมีการกระตุ้นเม็ดสีเมลานินสูง หากทำเลเซอร์ในช่วงที่ผิวยังคล้ำหรือไหม้แดด อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการระคายเคืองหรือรอยดำหลังทำได้

 

2. งดใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวก่อนทำ
ควรงดการใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ AHA, BHA, Retinol, Vitamin A หรือครีมไวท์เทนนิ่งเข้มข้น อย่างน้อย 5–7 วันก่อนทำ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวบางหรือไวต่อพลังงานเลเซอร์มากเกินไป

 

3. งดทำหัตถการผิวหน้าอื่น ๆ ชั่วคราว
เช่น การลอกผิว การทำไมโครนีดลิ่ง เลเซอร์ชนิดอื่น หรือการฉีดสารเติมเต็ม ควรเว้นระยะอย่างน้อย 1–2 สัปดาห์ เพื่อให้ผิวกลับสู่สภาพปกติและพร้อมต่อการทำ Picosure Pro

 

4. แจ้งแพทย์เกี่ยวกับสุขภาพผิวและยาที่ใช้อยู่
ควรแจ้งแพทย์หากมีโรคผิวหนัง ประวัติแพ้ง่าย หรือกำลังรับประทานยาที่ทำให้ผิวไวต่อแสง เช่น ยารักษาสิวบางชนิด ยาปฏิชีวนะบางกลุ่ม เพื่อให้แพทย์ประเมินความเหมาะสมและปรับพลังงานเลเซอร์ให้ปลอดภัยที่สุด

 

5. หลีกเลี่ยงการโกน แวกซ์ หรือสครับผิวบริเวณที่จะทำ
อย่างน้อย 3–5 วันก่อนทำ Picosure Pro เพื่อป้องกันการระคายเคืองหรือผิวอักเสบก่อนเข้ารับบริการ

 

6. มาพบแพทย์ด้วยผิวที่สะอาด
ในวันที่เข้ารับบริการควรล้างหน้าให้สะอาด งดแต่งหน้า งดทาครีมกันแดดหรือโลชั่น เพื่อให้เลเซอร์สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

 

7. พักผ่อนให้เพียงพอและดื่มน้ำมาก ๆ
การนอนหลับพักผ่อนและการดื่มน้ำอย่างเหมาะสมช่วยให้ผิวแข็งแรงและฟื้นตัวได้ดีหลังทำเลเซอร์

 

การดูแลผิวหลังทำ Picosure Pro เพื่อยืดผลลัพธ์

1. ดูแลผิวอย่างอ่อนโยนในช่วง 24 ชั่วโมงแรก
หลังทำอาจมีอาการผิวแดงหรืออุ่นเล็กน้อย ซึ่งเป็นปฏิกิริยาปกติ สามารถประคบเย็นเบา ๆ เพื่อลดอาการได้ ควรหลีกเลี่ยงการถู นวด หรือสัมผัสผิวแรง ๆ ในช่วงแรก

 

2. ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์อ่อนโยน
เลือกใช้คลีนเซอร์สูตรอ่อนโยน ปราศจากแอลกอฮอล์ น้ำหอม และสารผลัดเซลล์ผิว ล้างหน้าเบา ๆ ด้วยน้ำอุณหภูมิห้อง และซับหน้าให้แห้งโดยไม่ถู

 

3. เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างสม่ำเสมอ
หลังทำ Picosure Pro ผิวอาจรู้สึกแห้งหรือตึง ควรใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ช่วยเติมน้ำให้ผิวและเสริมเกราะป้องกันผิว เพื่อช่วยให้ผิวฟื้นตัวเร็วและสร้างคอลลาเจนได้ดี

 

4. ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน
ผิวหลังเลเซอร์ไวต่อแสงมาก ควรใช้ครีมกันแดด SPF 50 PA+++ ขึ้นไป และทาซ้ำทุก 2–3 ชั่วโมงหากอยู่กลางแจ้ง รวมถึงหลีกเลี่ยงแสงแดดจัดโดยตรงในช่วง 1–2 สัปดาห์แรก

 

5. หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ผิวร้อน
เช่น การซาวน่า อบไอน้ำ ออกกำลังกายหนัก หรือแช่น้ำร้อน อย่างน้อย 5–7 วัน เพราะความร้อนอาจกระตุ้นเม็ดสีและทำให้ผิวฟื้นตัวช้าลง

 

6. งดใช้สกินแคร์ที่ระคายเคืองผิว
ควรงดผลิตภัณฑ์ที่มีกรดผลไม้ เรตินอล หรือสารไวท์เทนนิ่งเข้มข้น อย่างน้อย 5–7 วัน หรือจนกว่าผิวจะกลับสู่สภาพปกติ

 

7. หากมีผิวลอกหรือสะเก็ดเล็กน้อย ห้ามแกะ
ปล่อยให้หลุดออกเองตามธรรมชาติ และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการเกิดรอยดำหรือรอยแผลเป็น

 

8. ดูแลสุขภาพผิวจากภายใน
ดื่มน้ำให้เพียงพอ พักผ่อนอย่างเหมาะสม และลดความเครียด เพราะปัจจัยเหล่านี้มีผลต่อการฟื้นฟูผิวและการเกิดเม็ดสีในระยะยาว

 

9. สังเกตอาการผิดปกติ
หากมีอาการแดง บวม แสบ หรือผิวคล้ำผิดปกติและไม่ดีขึ้นภายในไม่กี่วัน ควรรีบกลับมาพบแพทย์เพื่อประเมินและดูแลอย่างเหมาะสม

 

สรุป Picosure Pro คือทางเลือกของการดูแลผิวในระยะยาว

Picosure Pro ไม่ใช่เลเซอร์ที่เน้นผลลัพธ์แบบเร่งด่วน แต่เป็นเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อปรับสมดุลผิว ฟื้นฟูโครงสร้างผิว และจัดการปัญหาเม็ดสีอย่างยั่งยืน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผิวใส แข็งแรง และดูดีในระยะยาวโดยไม่ต้องแลกกับความเสี่ยงสูง