หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

สวัสดี…จากอดีตสู่โลกออนไลน์

โพสท์โดย krusaeng

     ในอดีต คำทักทายของคนไทยยังไม่มีมาตรฐานตายตัว การพูดทักทายมักขึ้นอยู่กับ บริบทและสถานการณ์ และสะท้อนถึงความสัมพันธ์ทางสังคมรวมถึงมารยาทที่เน้นการแสดงความเคารพด้วยการไหว้

     สมัยรัชกาลที่ 1 จนถึงต้นรัชกาลที่ 6 (ประมาณ พ.ศ. 2325 – กลางรัชกาลที่ 6) การทักทายทั่วไปมักเป็นการสอบถามสารทุกข์สุกดิบหรือกิจกรรมที่กำลังทำอยู่ เช่น “ไปไหนมา” หรือ “จะไปไหน” บางครั้งถามถึงอาหารการกินหรือสุขภาพ เช่น “กินข้าวแล้วหรือยัง” การทักทายเหล่านี้สะท้อนถึงความเอาใจใส่ต่อผู้อื่น และยังคงยึดถือ มารยาทและฐานะทางสังคม เป็นสำคัญ

     เข้าสู่สมัยรัชกาลที่ 6 (พ.ศ. 2453 – 2468) วัฒนธรรมตะวันตกเริ่มเข้ามามีอิทธิพลต่อการใช้ภาษาไทย โดยเฉพาะในหมู่ข้าราชการและผู้มีการศึกษา เริ่มมีการใช้คำทักทายตามเวลา เช่น “อรุณสวัสดิ์” (Good Morning), “ทิวาสวัสดิ์” (Good Afternoon), “สายัณห์สวัสดิ์” (Good Evening) และ “ราตรีสวัสดิ์” (Good Night) แม้จะนำคำจากต่างประเทศมาใช้ แต่ยังไม่แพร่หลายสู่ประชาชนทั่วไป

     จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 8 เมื่อวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2486 รัฐบาลสมัยจอมพล ป. พิบูลสงครามประกาศใช้คำว่า “สวัสดี” เป็นคำทักทายทางการสำหรับการพบกันหรือจากกัน คำนี้บัญญัติโดย พระยาอุปกิตศิลปสาร (นิ่ม กาญจนาชีวะ) มีที่มาจากคำบาลี “โสตถิ” หรือสันสกฤต “สวัสดิ” ซึ่งแปลว่า ความดีงาม ความเจริญรุ่งเรือง หรือความปลอดภัย การบัญญัติคำว่า “สวัสดี” ทำให้คนไทยมีคำทักทายที่เป็นมาตรฐานและสะท้อนเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของชาติ

     ปัจจุบัน คำว่า “สวัสดี” ใช้กันอย่างแพร่หลายทุกช่วงเวลา รวมถึงยามเช้า แม้จะมีคำทักทายอื่น เช่น “อรุณสวัสดิ์” อยู่บ้าง แต่ไม่แพร่หลายเท่าคำว่า “สวัสดี” การไหว้คู่กับคำทักทายกลายเป็น เอกลักษณ์ของไทย นอกจากนี้ ในยุคดิจิทัล เรามักเห็นคำทักทายสอดแทรกด้วย ดอกไม้ ภาพธรรมะ หรือคำอวยพร ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น LINE หรือ Facebook ทำให้คำทักทายไม่เพียงแค่สื่อสาร แต่ยังสร้างความอบอุ่นและความเป็นมิตรในสังคมออนไลน์

     จากอดีตที่ไม่มีคำทักทายเฉพาะเจาะจง สู่ยุคที่คำว่า “สวัสดี” กลายเป็นคำมาตรฐาน พัฒนาการของคำทักทายไทยสะท้อนให้เห็นถึง ความอ่อนโยน สุภาพ และเอาใจใส่ต่อกัน ทั้งยังแสดงถึงการปรับตัวของวัฒนธรรมไทยที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์แม้จะเปลี่ยนผ่านยุคสมัย

ขอบคุณเนื้อหา และสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่: krusaeng
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
krusaeng's profile


โพสท์โดย: krusaeng
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
3 VOTES (1.5/5 จาก 2 คน)
VOTED: khaochakan, krusaeng
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
สูตรคำนวณงวด 2/1/69ดาราดัง "เจมส์ แรนโซน" เสียชีวิตแล้วฮุน เซน เดินเกมใหญ่! ทุ่มงบกองทัพ ปลุกชาตินิยม ลั่นกัมพูชาโดน อยุติธรรมสามชั้น ไม่ก้มหัวให้ใครอาเซียนเนื้อหอม! เจาะเหตุผลทำไม บังกลาเทศ-ปาปัวนิวกินี-ฟิจิ อยากเข้าใกล้ครอบครัวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้“บอย ภิษณุ" ประกาศขายบ้านหรูแล้ว ราคา 70 ล้านด่วน! แก๊งสแกมเมอร์จีน–กัมพูชาแตกฮือ ปอยเปตอลหม่าน หลังทหารกัมพูชายึดอาคารใช้เป็นฐานทหาร ตกเป็นเป้าการสู้รบชายแดนอย่าเป็น "วัวลืมตีน" !! "ณวัฒน์" รับ เตีอน "ชาล็อต" เพราะระอาพฤติกรรมลืมตัวนักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33เห็ดทรัฟเฟิลยูนนาน: จากขุมทรัพย์ในป่าลึกสู่ดาวรุ่งดวงใหม่ที่เขย่าตลาดโลก“สม รังสี” ปลุกสติชาวเขมร ประณาม “ฮุน เซน” ไร้ศีลธรรม ปล่อยคลิปเสียงทำลายความสัมพันธ์ ก่อไฟสงครามลากเขมรดิ่งลงเหวผัวฆ่ๅเมียและลูกสาว 2 คน หลังไม่พอใจที่พวกเธอออกจากบ้าน โดยไม่สวมบุรกาโฆษก "ฮุนเซน" โม้หนัก!! เคยผ่านการรบมาแล้วนับ 100 ครั้ง!!
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
โฆษก "ฮุนเซน" โม้หนัก!! เคยผ่านการรบมาแล้วนับ 100 ครั้ง!!อาการนอยด์ ใคร ๆ ก็เป็นกันได้ แต่ถ้ารุนแรงมากไปจะส่งผลต่อสุขภาพจิตใจ ทำอย่างไรให้หายนอยด์อย่าเป็น "วัวลืมตีน" !! "ณวัฒน์" รับ เตีอน "ชาล็อต" เพราะระอาพฤติกรรมลืมตัวกองกำลังบูรพา เปิดปฏิบัติการ ถล่มอาคารฝั่งปอยเปต ฐานสแกมเมอร์
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
Insights on Mahouts and Their Role in Elephant CareElephant in Thailand: Conservation, Status, and Responsible Tourismแก้วมังกร ผลไม้บ้านๆ แต่ประโยชน์แน่น ช่วยลำไส้ ผิวใส หัวใจแข็งแรงอกหักนานเกิน 6 เดือน มีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ
ตั้งกระทู้ใหม่