ชีวิตประจำวันส่งผลต่อการเกิดฝ้าอย่างไร ? รวมวิธีป้องกันและดูแลผิว
ชีวิตประจำวันส่งผลต่อการเกิดฝ้าอย่างไร ?
รวมวิธีป้องกันและดูแลผิว
ฝ้าเป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในผู้หญิงวัยทำงานและผู้ที่ต้องเผชิญแสงแดดอยู่เป็นประจำ การเกิดฝ้าเกิดจากความผิดปกติของการสร้างเม็ดสีเมลานินในผิวหนัง ทำให้เกิดเป็นจุดด่างดำหรือรอยคล้ำบนใบหน้าและร่างกาย แม้ว่าปัจจัยทางพันธุกรรมจะมีส่วน แต่ปัจจัยจากชีวิตประจำวันก็มีบทบาทสำคัญต่อการเกิดฝ้าเช่นเดียวกัน
บทความนี้จะพาคุณมาทำความเข้าใจว่า กิจวัตรประจำวันที่คุณทำอยู่ทุกวันสามารถกระตุ้นให้เกิดฝ้าได้อย่างไร พร้อมแนะนำแนวทางการป้องกันและการดูแลผิวให้ฝ้าลดลงอย่างมีประสิทธิภาพ
ฝ้าคืออะไร?
ฝ้า หรือ Melasma เป็นภาวะที่ผิวเกิดรอยคล้ำหรือแผ่นสีเข้มผิดปกติบนใบหน้าและบางครั้งบนร่างกาย ฝ้าสามารถเกิดได้หลายสี ตั้งแต่น้ำตาลอ่อน น้ำตาลเข้ม ไปจนถึงสีเทา โดยเกิดจาก เม็ดสีเมลานินถูกสร้างมากเกินไป ซึ่งการเกิดฝ้านั้นอาจมาจากหลายสาเหตุทั้งภายในร่างกายและพฤติกรรมประจำวันที่เราทำอยู่ทุกวัน
ฝ้ามักเกิดบริเวณที่ผิวสัมผัสกับแสงแดดมาก เช่น หน้าผาก โหนกแก้ม จมูก และเหนือริมฝีปาก การเข้าใจปัจจัยชีวิตประจำวันที่มีผลต่อการเกิดฝ้าจะช่วยให้สามารถป้องกันและลดความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจัยชีวิตประจำวันที่ส่งผลต่อการเกิดฝ้า
กิจวัตรประจำวันของเราส่งผลต่อผิวและสามารถกระตุ้นให้เกิดฝ้าได้ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดฝ้า มีดังนี้
1. การสัมผัสแสงแดดโดยไม่ป้องกัน
แสงแดดถือเป็นตัวกระตุ้นหลักของการเกิดฝ้า โดยเฉพาะรังสี UVA และ UVB เมื่อผิวได้รับแสงแดดโดยตรง เซลล์เมลาโนไซต์จะผลิตเม็ดสีเมลานินมากขึ้น เพื่อปกป้องผิวจากแสง UV แต่เมลานินที่สร้างมากเกินไปจะสะสมและทำให้เกิดฝ้า
- การออกแดดช่วงเวลา 10.00-16.00 น. โดยไม่ป้องกันมีโอกาส เกิดฝ้า มากที่สุด
- แม้ในร่มก็สามารถเกิดฝ้าได้จากรังสี UVA ที่ผ่านกระจก
แนวทางป้องกัน: สวมหมวกปีกกว้าง ใช้ครีมกันแดดค่า SPF 30+ PA+++ ทาเป็นประจำทุก 2-3 ชั่วโมง และหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด
2. ความเครียดสะสม
ความเครียดเป็นปัจจัยภายในที่ทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งส่งผลต่อการทำงานของเมลาโนไซต์และกระตุ้นให้เกิดฝ้าได้
- ผู้ที่มีความเครียดเรื้อรังมักมีโอกาสเกิดฝ้ามากขึ้น
- ความเครียดยังลดประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ผิวตอบสนองต่อปัจจัยกระตุ้นได้ง่าย
แนวทางป้องกัน: ฝึกสมาธิ ออกกำลังกายเบา ๆ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ และสร้างกิจกรรมผ่อนคลายจิตใจเพื่อลดโอกาสเกิดฝ้า
3. การนอนหลับไม่เพียงพอ
การพักผ่อนไม่เพียงพอทำให้ร่างกายฟื้นฟูผิวได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้ผิวอ่อนแอและไวต่อแสงมากขึ้น
- การนอนน้อยหรือพักผ่อนไม่เป็นเวลา ทำให้โอกาส เกิดฝ้า สูงขึ้น
- ผิวขาดการฟื้นฟู ทำให้ฝ้าที่มีอยู่เดิมเข้มขึ้น
แนวทางป้องกัน: ควรนอนอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน และพยายามนอนและตื่นให้เป็นเวลา เพื่อให้ร่างกายและผิวสามารถซ่อมแซมตัวเองได้เต็มที่
4. การรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม
อาหารที่มีน้ำตาลสูง หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สามารถส่งผลต่อฮอร์โมนในร่างกาย และกระตุ้นการอักเสบ ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดฝ้า
- การรับประทานอาหารทอด อาหารแปรรูป หรือของหวานมากเกินไปสามารถทำให้เกิดฝ้า ได้ง่ายขึ้น
- การดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มโอกาสให้ผิวอักเสบและฝ้าลุกลาม
แนวทางป้องกัน: รับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผักผลไม้สด ลดน้ำตาล และดื่มน้ำอย่างเพียงพอ
5. การดูแลผิวไม่เหมาะสม
การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น โทนเนอร์แอลกอฮอล์หรือสครับที่รุนแรง อาจทำให้ผิวไวต่อแสงและเสี่ยงต่อการเกิดฝ้า
- การล้างหน้ารุนแรงหรือใช้ผลิตภัณฑ์แรงเกินไปสามารถทำให้ เกิดฝ้า ได้
- การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ไม่เหมาะสมจะทำให้ฝ้าลุกลามเร็วขึ้น
แนวทางป้องกัน: ใช้ผลิตภัณฑ์อ่อนโยนต่อผิว เลือกสูตรสำหรับผิวแพ้ง่าย และหลีกเลี่ยงสารที่ทำให้ระคายเคือง
6. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนมีผลต่อการทำงานของเซลล์เมลาโนไซต์ การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน เช่น ช่วงตั้งครรภ์ หรือการใช้ยาคุมกำเนิด สามารถทำให้ เกิดฝ้า ได้
- ฝ้าที่เกิดจากฮอร์โมนมักเป็นฝ้าผสมหรือฝ้าลึก
- การสังเกตและปรึกษาแพทย์ช่วยควบคุมการเกิดฝ้าได้
ฝ้าประเภทต่าง ๆ
การรู้จักประเภทของฝ้าจะช่วยเลือกวิธีป้องกันและรักษาได้อย่างเหมาะสม
- ฝ้าตื้น (Epidermal Melasma)
- เกิดที่ชั้นหนังกำพร้า สีเข้มชัดเจน
- ตอบสนองต่อการรักษาได้ง่าย
- หากไม่ระวังชีวิตประจำวัน สามารถ เกิดฝ้า เพิ่มขึ้นได้
- ฝ้าลึก (Dermal Melasma)
- เกิดในชั้นหนังแท้ สีออกเทาหรือม่วง
- รักษายาก ต้องใช้เทคโนโลยีเฉพาะ
- การเผชิญแสงแดดหรือความเครียดสามารถทำให้ฝ้าลึก เกิดฝ้า ซ้ำได้
- ฝ้าผสม (Mixed Melasma)
- มีเมลานินสะสมทั้งชั้นหนังกำพร้าและหนังแท้
- ต้องจัดการหลายระดับของผิว
ชีวิตประจำวันที่ไม่ใส่ใจสามารถทำให้ฝ้าผสม เกิดฝ้า เพิ่มขึ้น
บริเวณที่มักเกิดฝ้า
ฝ้ามักเกิดบริเวณที่ผิวสัมผัสแสงแดดบ่อย เช่น
- โหนกแก้ม
- หน้าผาก
- จมูก
- ริมฝีปากบน
- ขมับและกรอบหน้า
นอกจากนี้ยังพบฝ้าที่คอ แขน และหลังมือ การดูแลผิวทุกส่วนของร่างกายจึงสำคัญเพื่อลดโอกาสเกิดฝ้า
รวมวิธีลดความเสี่ยงในการเกิดฝ้า
การปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวันสามารถช่วยลดโอกาสเกิดฝ้า ได้
- หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง
- ทาครีมกันแดดเป็นประจำ
- พักผ่อนให้เพียงพอและลดความเครียด
- เลือกอาหารและเครื่องดื่มที่เหมาะสม
- ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอ่อนโยน
- ตรวจสุขภาพผิวกับแพทย์ผิวหนัง
การรักษาฝ้า
การรักษาฝ้าแบ่งออกเป็นหลายวิธี โดยเลือกตามชนิดและความลึกของฝ้า
1. การทาครีมลดฝ้า
ใช้ครีมที่มีส่วนผสมทางการแพทย์ เช่น ไฮโดรควิโนน, กรดโคจิก เพื่อยับยั้งการสร้างเมลานิน
- ช่วยให้ผิวสว่างและฝ้าจางลง
- หากไม่ป้องกันชีวิตประจำวัน ฝ้ายังคง เกิดฝ้า ซ้ำได้
2. การรับประทานยารักษาฝ้า
เช่น Tranexamic Acid, Glutathione, วิตามิน C, E, และ Polypodium leucotomos extract
- ใช้ร่วมกับครีมและเลเซอร์
- ต้องอยู่ภายใต้การดูแลแพทย์
- ป้องกันฝ้ากลับมา เกิดฝ้า ซ้ำ
3. การรักษาด้วยเลเซอร์
เทคโนโลยีเลเซอร์หลายชนิด เช่น NU Pico Laser, Sylfirm X Plus, Dual Yellow Laser, Code of White
- ลดฝ้าเม็ดสีและฝ้าลึก
กระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสติน - สามารถลดโอกาส เกิดฝ้า ซ้ำหลังทำเลเซอร์
4. โปรแกรม Melasma Fade
โปรแกรมเฉพาะทางจากรมย์รวินท์ คลินิก
- ยับยั้งการผลิตเมลานิน
- ลดโอกาสฝ้ากลับมา เกิดฝ้า ซ้ำ
- เหมาะกับผู้ที่มีฝ้าหนักและต้องการผลลัพธ์รวดเร็ว
ปัจจัยที่ทำให้เกิดฝ้าซ้ำ
แม้รักษาฝ้าหายแล้ว ปัจจัยเหล่านี้สามารถทำให้ฝ้ากลับมา เกิดฝ้า อีก
- แสงแดดและรังสี UV
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
- ผลิตภัณฑ์ระคายเคืองผิว
- ไม่ทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ
- ความเครียดและพักผ่อนไม่เพียงพอ
การดูแลผิวหลังรักษาจึงสำคัญ เพื่อลดโอกาสเกิดฝ้าซ้ำ
ข้อสรุป
ชีวิตประจำวันมีผลต่อการเกิดฝ้าอย่างมาก ตั้งแต่การสัมผัสแสงแดด การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด การรับประทานอาหาร และการดูแลผิวไม่เหมาะสม การปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวันร่วมกับการรักษาฝ้าอย่างถูกวิธี จะช่วยลดโอกาส เกิดฝ้า และทำให้ผิวสุขภาพดีได้
การป้องกันและดูแลอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้ฝ้าที่มีอยู่ลดลงและป้องกันฝ้าใหม่ไม่ให้กลับมาเกิดฝ้าซ้ำในอนาคต
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชง
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
ไวรัลอีกครั้ง! “I Promise I Will Comeback” รีรันคืนจอ
ตำรวจแยกสอบ 2 เคส! “เวย์ ไทเทเนี่ยม” ถูกเหยื่อแจ้งความฉ้อโกง อ้างชื่อนักธุรกิจดังตุ๋นลงทุนหุ้นทิพย์ สูญกว่า 50 ล้าน
ตร.เผย เวย์ ไทเทเนี่ยม ใช้ชื่อนักธุรกิจดังหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงิน 50 ล้าน
ภาพ 3 มิติ คืออะไร? เทคนิคสร้างภาพเสมือนจริงสำหรับมือใหม่
Microsoft Fabric คืออะไร? แนะนำเครื่องมือใหม่จาก Microsoft สำหรับองค์กรยุคดิจิทัล
ทุกสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ ESG คืออะไร และทำไมถึงสำคัญต่อองค์กร
ดึงหน้า (Facelift) คืออะไร? มีกี่เทคนิค รวมข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ
