หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

"กรมทหารรักษาวัง" กองทัพส่วนพระองค์ที่เกิดและดับพร้อมกับยุคสมัย

โพสท์โดย Thai Weapon Channel

หน่วยทหารพิเศษในร่มพระบารมี

ในหน้าประวัติศาสตร์การทหารและการเมืองไทยสมัยใหม่ มีหน่วยงานหนึ่งที่ถือกำเนิดขึ้นจากความจำเป็นทางการเมืองและดำรงอยู่เพื่อค้ำจุนความมั่นคงแห่งพระราชบัลลังก์โดยเฉพาะ นั่นคือ "กรมทหารรักษาวัง" หน่วยงานนี้มิใช่เพียงกองกำลังอารักขาตามแบบแผน แต่เป็นกองทัพส่วนพระองค์ที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงจัดตั้งขึ้นด้วยพระราชประสงค์ส่วนพระองค์ ดังนั้น การศึกษาการก่อตั้ง โครงสร้าง และจุดจบของกรมทหารรักษาวัง จึงไม่ใช่เป็นเพียงการบอกเล่าเรื่องราวของหน่วยทหารหน่วยหนึ่ง แต่คือการชันสูตรความพยายามของสถาบันกษัตริย์ในการสร้างเครื่องมืออำนาจส่วนพระองค์ เพื่อรับมือกับความท้าทายทางการเมืองในยุคเปลี่ยนผ่านที่ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์กำลังสั่นคลอนอย่างรุนแรง

กรมทหารรักษาวังเป็นหน่วยงานใหม่ที่ก่อตั้งขึ้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ปัจจัยชี้ขาดที่นำไปสู่การจัดตั้งหน่วยงานพิเศษนี้มิใช่ความจำเป็นทางยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศ แต่มาจากชนวนเหตุสำคัญที่สั่นคลอนความไว้วางพระราชหฤทัยที่ทรงมีต่อกองทัพ อันเป็นกลไกอำนาจหลักของรัฐในขณะนั้น

จุดกำเนิดจากความระแวง: ผลสะเทือนแห่งกบฏ ร.ศ. 130

รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเริ่มต้นขึ้นท่ามกลางแรงสั่นสะเทือนต่อระเบียบอำนาจแบบเดิม เหตุการณ์ "กบฏ ร.ศ. 130" ได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนทางความคิดด้านความมั่นคงส่วนพระองค์ของพระมหากษัตริย์ และเป็นแรงผลักดันโดยตรงที่นำไปสู่การก่อตั้งกองกำลังที่ไว้วางพระราชหฤทัยได้อย่างสมบูรณ์

การท้าทายพระราชอำนาจครั้งแรก

ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2454 ได้เกิดเหตุการณ์ที่อาจนับได้ว่าเป็น "การปฏิวัติครั้งแรกของประเทศไทย" หรือที่รู้จักกันในนาม "กบฏ ร.ศ. 130" กลุ่มนายทหารหนุ่มจำนวนหนึ่งได้รวมตัวกันวางแผนเปลี่ยนแปลงการปกครอง โดยมีแกนนำคนสำคัญประกอบด้วย:

• ร้อยเอก เหล็ง ศรีจันทร์

• ร้อยโท จรูญ ณ บางช้าง

• ร้อยตรี จรูญ ษตะเมษ

• ร้อยตรี เจือ ศิลาอาศน์

แม้ว่าแผนการจะล้มเหลวและคณะผู้ก่อการถูกจับกุมได้ทั้งหมด แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความมั่นคงในพระราชบัลลังก์อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เพราะนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ราชวงศ์ที่สถาบันกษัตริย์ถูกท้าทายพระราชอำนาจโดยตรงจากกลุ่มบุคคลที่เป็นสามัญชน ปรากฏการณ์นี้ถือเป็นการพังทลายของความเชื่อเดิมที่ว่ากองทัพคือผู้พิทักษ์ราชบัลลังก์ที่ภักดีอย่างไม่มีเงื่อนไข และได้สร้างรอยร้าวลึกในความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันกษัตริย์กับกลไกอำนาจทางทหารของรัฐอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ปฏิกิริยาทันที: การก่อตั้งหน่วยทหารส่วนพระองค์

ผลสะเทือนจากเหตุการณ์กบฏนำไปสู่การตัดสินพระทัยครั้งสำคัญ หลังจากนั้นเพียง 3 เดือน หน่วยงานทหารส่วนพระองค์ที่ชื่อว่า "กรมทหารรักษาวัง" ก็ได้รับการจัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อทำหน้าที่ถวายความปลอดภัยเป็นการส่วนพระองค์ แทนที่กรมทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์เดิม

การก่อตั้งหน่วยงานนี้ขึ้นมาใหม่สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว "ทรงไม่วางใจกองทัพ" อีกต่อไป พระองค์จึงทรงมุ่งหวังให้กรมทหารใหม่นี้เป็นดั่งปราการด่านสุดท้ายและเป็นหลักประกันความมั่นคงที่แท้จริงให้แก่พระองค์และพระราชบัลลังก์

โครงสร้างองค์กร: กองทัพในกำกับดูแลโดยตรง

โครงสร้างของกรมทหารรักษาวังถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อให้เป็นอิสระจากระบบราชการทหารปกติ และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของพระมหากษัตริย์โดยตรง การออกแบบนี้สะท้อนเป้าหมายสูงสุดในการสร้างกองกำลังที่มีความจงรักภักดีเป็นที่ตั้งและสามารถควบคุมสั่งการได้อย่างเบ็ดเสร็จ

ความเป็นอิสระจากกองทัพ

กรมทหารรักษาวังมีลักษณะเป็นองค์กรอิสระที่แยกขาดจากกองทัพบกอย่างสิ้นเชิงในหลายมิติ ดังนี้:

• สายการบังคับบัญชา: แยกออกจากกระทรวงกลาโหมโดยสิ้นเชิง

• ผู้บังคับบัญชาสูงสุด: มีสมุหราชองครักษ์เป็นผู้บังคับการ ทำหน้าที่รับสนองพระบรมราชโองการโดยตรงจากพระมหากษัตริย์

• งบประมาณ: ไม่ได้ใช้งบประมาณแผ่นดิน แต่ใช้เงินจาก "พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์" ในการดำเนินกิจการทั้งหมด

• กระบวนการยุติธรรม: มี "ศาลทหารรักษาวัง" เป็นของตนเอง สำหรับพิจารณาคดีความของกำลังพลในสังกัดโดยเฉพาะ

การจัดสรรกำลังพลและบุคลากร

หน่วยงานถูกจัดแบ่งโครงสร้างออกเป็น 2 กองพัน โดยมีการกำหนดพื้นที่ประจำการอย่างชัดเจน ได้แก่:

• กองพันที่ 1 ประจำการที่พระบรมมหาราชวัง

• กองพันที่ 2 ประจำการที่พระราชวังดุสิต

ที่มาของกำลังพลนั้นเน้นการคัดเลือกจากบุคคลใกล้ชิดและข้าราชบริพารที่สามารถไว้วางพระราชหฤทัยได้เป็นหลัก โดยมีที่มาจากหลายส่วนประกอบกัน คือ:

• ข้าราชบริพารที่โอนย้ายมาจาก "กรมวังนอกเดิม"

• ข้าราชการในพระราชสำนัก และมหาดเล็กในสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่สมัครเข้าร่วม

• นายทหารบางส่วนจากกระทรวงกลาโหมที่ทรงมีพระราชประสงค์ขอให้โอนย้ายมาสังกัด

คัดเลือกผู้นำที่ไว้วางพระราชหฤทัย

ในส่วนของผู้บังคับบัญชาระดับสูงนั้น พระองค์ทรงคัดเลือกจากบุคคลที่ทรงไว้วางพระราชหฤทัยอย่างยิ่งและทำงานรับใช้ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทมาโดยตลอด ตัวอย่างเช่น:

• จเรทหารรักษาวัง: พระยาประสิทธิ์ศุภการ (หม่อมหลวงเฟื้อ พึ่งบุญ)

• รองจเรทหารรักษาวัง: พระยานนทิเสนสุเรนทรภักดี (แมค เศียนเสวี)

• ผู้บังคับการกรม: พระยาอนิรุทธเทวา (หม่อมหลวงฟื้น พึ่งบุญ)

แม้โครงสร้างที่เน้นความภักดีเช่นนี้จะดูแข็งแกร่งในแง่ของการควบคุม แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นจุดที่ก่อให้เกิดปัญหาด้านประสิทธิภาพและความขัดแย้งเชิงบทบาทตามมาในภายหลัง

ปัญหาภายในและความขัดแย้งเชิงบทบาท

การให้ความสำคัญกับความจงรักภักดีเหนือกว่าความสามารถทางการทหาร ประกอบกับบทบาทที่ขยายออกไปนอกเหนือภารกิจการอารักขา ทำให้กรมทหารรักษาวังต้องเผชิญกับปัญหาและความท้าทายที่สำคัญสองประการ

ช่องว่างทางยุทธวิธี: จากข้าราชบริพารสู่ทหาร

ปัญหาพื้นฐานที่สุดของหน่วยงานนี้คือ กำลังพลส่วนใหญ่ซึ่งเป็นข้าราชบริพารที่ถูกโอนย้ายมานั้น "ไม่มีความรู้เรื่องยุทธวิธีทางการทหาร หรือมีอยู่บ้างก็เพียงเล็กน้อยจากการเข้ารับการฝึกเสือป่า" ซึ่งไม่เพียงพอต่อการเป็นหน่วยทหารเต็มรูปแบบ เพื่อแก้ไขจุดอ่อนนี้ รัชกาลที่ 6 จึงทรงมีพระบรมราชโองการให้จัดตั้งโรงเรียนนายสิบขึ้นภายในหน่วยงาน โดยให้ "เปิดสอนหลักสูตรนายสิบตามแบบกองทัพบก" เพื่อยกระดับความรู้ความสามารถของกำลังพลให้ทัดเทียมกับทหารอาชีพ

การแทรกแซงกิจการกองทัพ

นอกเหนือจากภารกิจถวายความปลอดภัย กรมทหารรักษาวังยังมีบทบาทในการ "แทรกแซงกิจการภายในกองทัพบก" กรณีที่ชัดเจนที่สุดคือ "เรื่องการเกณฑ์ทหาร" โดยทรงมีพระบรมราชานุญาตให้กรมทหารรักษาวังสามารถทำการเกณฑ์ทหารได้เช่นเดียวกับกองทัพบก ซึ่งส่งผลให้ข้าราชการในสังกัดกระทรวงวังและข้าราชบริพารที่ใกล้ชิดในพระองค์สามารถเข้าประจำการในหน่วยงานนี้ และไม่ต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหารในสังกัดของกองทัพบกตามปกติ การกระทำดังกล่าวไม่เพียงแต่สร้างสิทธิพิเศษให้แก่คนกลุ่มหนึ่ง แต่ยังเป็นการบ่อนทำลายหลักการของระบบการเกณฑ์ทหารแห่งชาติอย่างเป็นระบบ และส่งผลโดยตรงให้เกิดความขัดแย้งเชิงโครงสร้างระหว่าง 'กองทัพของวัง' และ 'กองทัพของรัฐ' ซึ่งยิ่งตอกย้ำความไม่ไว้วางพระราชหฤทัยและสร้างความบาดหมางกับผู้นำในกองทัพบกมากขึ้นไปอีก

หน่วยงานที่ถูกสร้างขึ้นอย่างเร่งด่วนเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะ และผูกติดกับพระราชประสงค์ส่วนพระองค์ของผู้ปกครองเช่นนี้ ย่อมมีชะตากรรมที่ไม่ยั่งยืนเมื่อบริบททางการเมืองและยุคสมัยได้เปลี่ยนไป

จุดสิ้นสุดของหน่วยงาน: เมื่อสิ้นรัชสมัยแห่งผู้ก่อตั้ง

ชะตากรรมของกรมทหารรักษาวังผูกติดอยู่กับรัชสมัยของพระผู้ก่อตั้งอย่างไม่อาจแยกจากกันได้ เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต สถานะของหน่วยงานนี้ก็เปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง ปัจจัยทางการเมืองและเศรษฐกิจในรัชสมัยต่อมาได้นำไปสู่การยุบเลิกหน่วยงานนี้ในที่สุด

ภายหลังสิ้นรัชกาลที่ 6 กรมทหารรักษาวังซึ่งเกิดขึ้นด้วยวัตถุประสงค์เฉพาะกิจ ได้กลายเป็น "ส่วนเกินของระบบราชการเช่นเดียวกับกิจการเสือป่า" ลำดับเหตุการณ์ที่นำไปสู่จุดจบของหน่วยงานนี้เป็นไปตามขั้นตอนดังนี้:

สมัยรัชกาลที่ 7: พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรง "ลดความสำคัญ ด้วยการลดทอนอัตรากำลังพล" เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจและลดทอนหน่วยงานที่ถือเป็นส่วนพระองค์ของรัชกาลก่อน

ยุคคณะราษฎร: หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 หน่วยงานที่มีลักษณะเป็นกองทัพส่วนพระองค์เช่นนี้ไม่สอดคล้องกับระเบียบการปกครองใหม่ จึงได้ถูก "ยุบเลิกไป" ในที่สุด เป็นการปิดฉากกองกำลังพิเศษที่ถือกำเนิดขึ้นเพื่อพิทักษ์ราชบัลลังก์โดยสมบูรณ์

มรดกและบทเรียนจากกรมทหารรักษาวัง

เรื่องราวของกรมทหารรักษาวัง ตั้งแต่จุดเริ่มต้นที่มาจากความหวาดระแวงทางการเมืองหลังเหตุการณ์กบฏ ร.ศ. 130 สู่การสร้างองค์กรที่เน้นความภักดีส่วนพระองค์เป็นหัวใจ ไปจนถึงปัญหาภายในด้านศักยภาพและความขัดแย้งกับกองทัพ และสิ้นสุดลงพร้อมกับการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองครั้งใหญ่ของประเทศ คือภาพสะท้อนที่ชัดเจนของสภาวะความเปราะบางในโครงสร้างอำนาจรัฐช่วงปลายระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์

กรณีศึกษาของกรมทหารรักษาวังจึงเป็นมากกว่าบันทึกประวัติศาสตร์ของหน่วยทหารหน่วยหนึ่ง ท้ายที่สุด เรื่องราวของกรมทหารรักษาวังได้กลายเป็นบทเรียนเชิงประจักษ์ว่า สถาบันที่ถูกสร้างขึ้นจากเจตจำนงส่วนบุคคลและขาดการยอมรับจากโครงสร้างอำนาจหลักของรัฐ ย่อมมิอาจต้านทานแรงเฉื่อยของการปฏิรูปสู่ความเป็นรัฐสมัยใหม่ และมีชะตากรรมที่จะต้องล่มสลายไปพร้อมกับระบอบการเมืองที่ให้กำเนิดมันขึ้นมา

โพสท์โดย: กับข้าวกับปลา
อ้างอิงจาก: ทหารของพระราชากับการสร้างสำนึกแห่งศรัทธาและภักดี, หนังสือเล่มนี้พัฒนามาจากวิทยานิพนธ์ปริญญาเอก โดยมีเนื้อหาส่วนหนึ่งครอบคลุมประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างพระมหากษัตริย์กับกองทัพไทยตั้งแต่รัชกาลที่ 5 จนถึง พ.ศ. 2497 ซึ่งรวมถึงการวิเคราะห์การกำเนิดของหน่วยทหารส่วนพระองค์อย่าง กรมทหารรักษาวัง และบทบาทในการสร้างความจงรักภักดีในกองทัพสมัยใหม่, “กรมทหารรักษาวังของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว” : พลเรือนในเครื่องแบบทหาร, เป็นบทความตีพิมพ์ในวารสารศิลปวัฒนธรรม (มีนาคม 2559) และเผยแพร่ในระบบออนไลน์ ซึ่งวิเคราะห์การก่อตั้ง บทบาท และความสัมพันธ์ของกรมทหารรักษาวังในบริบทของความไม่วางพระทัยต่อกองทัพบกในรัชกาลที่ 6 โดยชี้ให้เห็นถึงลักษณะที่เป็น "พลเรือนในเครื่องแบบทหาร"
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Thai Weapon Channel's profile


โพสท์โดย: Thai Weapon Channel
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีดพืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่าชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีนพบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบินแบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปีแคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการีเปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหมสภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ซาอุฯ สั่ง "มันอัดเม็ดไทย" เพิ่ม 30,000 ตัน! เกษตรกรเฮลั่นนี่คือสิ่งมีชีวิตที่สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก Redwood และ Sequoiaเฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับของจีน ทดสอบบินและยิงกระสุนจริงครั้งแรกแล้ว‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
“ย้อนวันวานอาหารจานละ 2-3 บาท กินอิ่มทั้งบ้านด้วยเงินไม่กี่บาท ราคาน่ารักที่วันนี้หาไม่ได้แล้ว”ทำไมต้องหย่ากัน หลังถูกคดีความ? เหตุผลที่ฟังดูดราม่า…แต่จริงกว่าที่คิดนี่คือสิ่งมีชีวิตที่สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก Redwood และ SequoiaUnseen ไทยแลนด์ เกาะรูปหัวใจ "ทุ่งทะเลหลวง" สุโขทัย
ตั้งกระทู้ใหม่