รีวิวหนังดัง MISSION IMPOSSIBLE THE FINAL RECKONING มิชชั่น อิมพอสซิเบิ้ล ปิดปฏิบัติการล่าพิกัดมรณะ

 

ภาคต่อครั้งที่ 8 ของ MISSION IMPOSSIBLE สานต่อจากสิ่งที่ค้างคาเอาไว้ในภาคที่ 7 (MISSION IMPOSSIBLE DEAD RECKONING PART 1) ในการหยุดยั้งนิวเคลียร์จากเรือดำน้ำ พร้อมตามล่ากุญแจทั้งสองส่วนไม่ให้ตกอยู่ในมือของ Gabriel เรื่องราวใหญ่โตไปถึงระดับรัฐบาลชั้นสูงและทหารชั้นผู้ใหญ่ก็ต้องมาเกี่ยวข้อง

 

Tom Cruise นำแสดงเช่นเคย พิสูจน์ความทุ่มเทของคนวัย 60+ แต่ยังไหว กำกับการแสดงโดย Christopher Mcquirrie เช่นเดิม เหตุการณ์ต่อจากภาคที่แล้วโดยการเดินหมากแข่งกับ A.I. อย่าง Entity

 

 

เรื่องย่อ

Ethan Hunt ต้องต่อสู้กับปัญญาประดิษฐ์อย่าง Entity โดย Gabriel ยังคงพยายามหาทางควบคุม Entity แต่ล้มเหลว เขาจึงเป็นฝ่ายแย่งชิงไวรัสทำลาย Entity จาก Luther แล้วเอามันมาต่อรองกับ Hunt ทางเดียวที่เขาจะเอาไวรัสไปจากเขาได้คือต้องไปเอา Source Code รหัสต้นฉบับของ Entity มาแลกกับไวรัส

 

Ethan Hunt ตัดสินใจทำงานแยกเป็นสองฝั่ง โดยให้ Benji คุมทีม มี Grace, Paris, Degas คอยส่งรหัสมอร์สบอกพิกัดของเรือดำน้ำ Sevastopol ส่วนตนจะไปขอความร่วมมือจากกองทัพจากประธานาธิบดีหญิง Erika Sloane เพื่อส่งเขาไปถึงเรือดำน้ำ Sevastopol ที่จมอยู่ใต้ทะเล

 

Hunt ต้องนำ Podcova ที่บรรจุ Source Code รวมกับไวรัสในมือ Gabriel จึงจะยับยั้ง Entity ได้

 

 

โดยผลกระทบคือหาก Entity ควบคุมหัวรบนิวเคลียร์ของทุกประเทศได้แล้ว มันจะสั่งยิงล้างบางมนุษยชาติ

 

ขณะเดียวกัน Euguene Kittridge ก็เล็งเห็นว่า Hunt อาจจะล้มเหลวและมีลับลมคมในบางอย่างจึงส่ง Jasper Briggs เข้ามาทำงานเรื่องนี้โดยตรง หาก Entity เข้ายึด Cyberspace ครอบคลุมทั้งหมดจะไม่มีอะไรหยุดยั้งมันได้

 

 

นักแสดงนำ

• Tom Cruise รับบทเป็น Ethan Hunt
• Hayley Atwell รับบทเป็น Grace
• Simon Pegg รับบทเป็น Benji Dunn
• Ving Rhames รับบทเป็น Luther Stickell
• Esai Morales รับบทเป็น Gabriel
• Pom Klementieff รับบทเป็น Paris
• Henry Czerny รับบทเป็น Eugene Kittridge
• Holt McCallany รับบทเป็น Serling
• Janet McTeer รับบทเป็น Walters
• Nick Offerman รับบทเป็น General Sidney
• Hannah Waddingham รับบทเป็น Admiral Neely
• Tramell Tillman รับบทเป็น Captain Bledsoe
• Shea Whigham รับบทเป็น Briggs
• Greg Tarzan Davis รับบทเป็น Degas
• Angela Bassett รับบทเป็น Erika Sloane
• Charles Parnell รับบทเป็น Richards
• Rolf Saxon รับบทเป็น William Donloe

 

 

ความชื่นชอบและประทับใจของครีเอเตอร์

1.ภาค 8 ของแฟรนไชส์นี้ช่างน่าผิดหวัง ทั้งฉาก Action น้อย (แต่ฉากสู้ประชิดตัวเดือดมาก น้อย แต่มสกด้วยคุณภาพ) เนื้อเรื่องไม่ค่อยมีอะไรให้น่าติดตาม เดินเรื่องช้า ช้ามากๆ เกือบจะน่าเบื่อแต่หนังก็พยายามดึงประเด็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากภาคก่อนๆมาชวนให้ Surprise เสมอ

 

2.แม้จะมีความพยายามเชื่อมโยงกับภาคเก่าทั้งหมด ด้วยการเอาตัวละครจากภาคแรกเมื่อปี 1996 มาเป็นสีสันก็ไม่อาจลบล้างข้อด้อยของสิ่งที่เป็นอยู่ในภาคที่แปดนี้ได้ สำหรับบางคนอาจรู้สึกว่าการดูภาค 7 แค่ภาคเดียวนั้นไม่เพียงพอแน่นอน

 

3.ส่วนสาเหตุหลักที่ทำให้หนังเดินเรื่องช้า คงเป็นเพราะฉากในเรือดำน้ำที่คอยค้นหา Podcova นานเกือบ 40 นาทีโดยมีพระเอกอยู่ในฉากคนเดียว การถ่ายทำแบบไม่ใช้ CGI ทำให้ต้นทุนสูง งบทุนสร้างมหาศาล เน้นการเก็บภาพสวยๆแบบไม่ให้เสียเที่ยวเปล่าจึงต้องใช้ Footage ตรงนี้ให้คุ้มค่าที่สุด

 

 

4.ฉากเสี่ยงตายอีกฉากคือการปีนบนปีกเครื่องบินสองชั้น เป็นการใช้งบประมาณที่คุ้มมาหน่อย รู้สึกว่าหนังกลับมาเป็น MISSION IMPOSSIBLE อย่างที่ควรเป็นอีกครั้งและภาคนี้ถือเป็นภารกิจที่โหดหินที่สุดก็ว่าได้ เพราะในเรื่องพระเอกต้องโน้มน้าวขอความเชื่อใจจากคนอื่นอีกด้วย ซึ่งความเชื่อเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นได้ยาก

 

5.หนังภาคต่อแบบ BACK TO BACK คือมีการแบ่งเป็น Part one และ Part two มีความเสี่ยงในแง่ของการบริหารน้ำหนักของเนื้อเรื่อง ซึ่ง DEAD RECKONING PART ONE (2023) ทำหน้าที่ของมันอย่างสมบูรณ์แล้ว ทำให้ภาคนี้ไม่มีอะไรจะเล่าให้ซับซ้อนนัก หากพิจารณาให้ดี ตัดประเด็นปลีกย่อยออกไป ภาคนี้มีแค่เรื่องตามหา Podcova กับไวรัสคอมพิวเตอร์เพื่อยับยั้ง Entity แค่นั้นเอง ระเบิดอย่างอื่นเป็นเพียงไม้ประดับเท่านั้น

 

6.การจับแพะชนแกะอย่างตีนกระต่าย เรื่องของเจ้าหน้าที่ William Donloe เรื่องที่เกิดขึ้นกับ Jim Phelps และลูกชายของเขา ภาพจำเก่าๆจากภาคก่อนๆมันย้อนกลับมาในใจชวนระลึกถึงความหลัง สะท้อนให้เห็นว่าผู้สร้างไม่ได้ลืมเรื่องราวที่ผ่านมาและอยากย้ำเตือนก่อนจะปิดฉากเป็นภาคสุดท้าย

 

 

7.Pattern ไม่ซ้ำกับภาคก่อนยังคงเป็นครรลองหลักของแฟรนไชส์นี้ ทุกภาคจะไม่มีความรู้สึกจำเจและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่หาไม่ได้จากภาคก่อนๆ แต่ยังคงอรรถรสในแบบของ MISSION IMPOSSIBLE เอาไว้

 

8.แม้จะมีคนชื่นชมความทุ่มเทกับความเสี่ยงตายและการออกแบบงานสร้าง ซึ่งครีเอเตอร์ก็ยอมรับ แต่ก็ต้องพูดไปตามความจริงว่ามันทำให้กินเวลาของหนังไปมาก จนไม่มีเวลามาขยายความปมเรื่องให้ชัดเจน เช่น Marie หญิงสาวที่ถูกฆ่าตายเมื่อ Ethan เจอ Gabriel ในวันแรก เขาต้องมีดีมากจนทำให้ Ethan คร้ามเกรง แต่ปมตรงนี้ก็ถูกตัดออกไป ไม่ได้ขยายความอะไรเลย.... เรื่องของตีนกระต่ายก็แถแบบจับแพะชนแกะว่ามันเชื่อมโยงกับ Entity และความร้ายกาจของ Entity คนดูก็ไม่รู้สึกตื่นเต้นเหมือนอย่าง A.I. จากเรื่อง Eagle Eye (2008) ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากที่หนังตัดเข้าสู่บทสรุปจนไม่มีรายละเอียดอะไรเลย

 

9.อยากให้มีภาคต่อ ครีเอเตอร์ยอมรับว่าพระเอกอายุมากแล้ว แต่การส่งต่อให้กับพระเอกคนอื่นโดยไม่มีทีท่าว่าใครจะแสดงได้ดีและเป็นที่ชื่นชอบได้เหมือนอย่าง Tom Cruise แบบนี้ก็ถือว่ามันยังไม่ควรเอาใครมาแทนที่และ Tom Cruise ยังสามารถทำภาคต่อได้ ชนิดที่เรียกว่าแข่งกับหอแต๋วแตกได้เลย

 

อย่าให้เป็นเหมือนอย่าง IRONMAN ที่พระเอกอย่าง Robert Downey Jr. ยังสามารถแสดงได้ดีแต่กลับพาตัวละครไปพบจุดจบอย่างน่าเสียดาย ทั้งที่คนอื่นก็ไม่สามารถจะแสดงได้จนเป็นที่นิยมเหมือนอย่างเขา