เราเริ่มยืนตรงเคารพธงชาติตอน 8 โมงเช้ากันตั้งแต่เมื่อไหร่?
เราเริ่มยืนตรงเคารพธงชาติตอน 8 โมงเช้ากันตั้งแต่เมื่อไหร่?
1.0 จากความคุ้นเคยสู่คำถามทางประวัติศาสตร์
ลองนึกภาพตาม: เสียงสัญญาณนาฬิกาบอกเวลาแปดนาฬิกาเช้าตรู่ ตามมาด้วยท่วงทำนองเพลงชาติที่คุ้นหู ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใด กิจวัตรทุกอย่างพลันหยุดนิ่ง ผู้คนยืนสงบเพื่อแสดงความเคารพต่อผืนธงไตรรงค์ ภาพฉากอันเป็นหนึ่งเดียวนี้ดูเหมือนจะอยู่คู่กับสังคมไทยมาเนิ่นนาน แต่หากย้อนกลับไปในหน้าประวัติศาสตร์ เราจะพบว่านี่คือธรรมเนียมที่เพิ่งถือกำเนิดขึ้นได้ไม่ถึงหนึ่งศตวรรษ
แม้ว่า "ธงไตรรงค์" จะโบกสะบัดในฐานะธงชาติไทยมานานกว่า 100 ปี แต่ธรรมเนียมการยืนตรงเคารพธงชาติพร้อมกันทั่วประเทศนั้นเพิ่งเกิดขึ้นมาได้เพียงประมาณ 80 กว่าปีเท่านั้น คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าธรรมเนียมที่เราปฏิบัติกันจนเป็นเรื่องปกติในทุกวันนี้ มีจุดเริ่มต้นมาจากไหนและเมื่อไหร่? เรื่องราวทั้งหมดนี้ต้องย้อนกลับไปพิจารณาประกาศสำคัญของรัฐบาลในอดีต ซึ่งได้วางรากฐานและสร้างจุดเปลี่ยนทางวัฒนธรรมครั้งสำคัญของชาติ
2.0 จุดเริ่มต้น: การวางรากฐานผ่านกฎหมายและรัฐนิยม
การสร้างธรรมเนียมปฏิบัติระดับชาตินั้นเริ่มต้นจากการวางกรอบทางกฎหมายและนโยบายของรัฐบาลในยุคเปลี่ยนแปลงการปกครอง
2.1 กฎหมายฉบับแรก (พ.ศ. 2478)
ในสมัยรัฐบาลพระยาพหลพลพยุหเสนา ได้มีการออก "กฎกระทรวงมหาดไทยเรื่อง ระเบียบการชักธงชาติ" ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2478 กฎหมายฉบับนี้นับเป็นก้าวแรกที่กำหนดระเบียบการชักธงและการประดับธงชาติอย่างเป็นทางการ แต่ถึงกระนั้น การยืนตรงเคารพธงชาติก็ยังไม่เป็นที่แพร่หลายในหมู่ประชาชนทั่วไป
2.2 ประกาศรัฐนิยมฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2482)
จุดเปลี่ยนที่สำคัญยิ่งขึ้นเกิดขึ้นในวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2482 เมื่อรัฐบาลได้ออก "ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยรัฐนิยมฉะบับที่ 4" ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเชิดชูความสำคัญของสัญลักษณ์ประจำชาติ โดยได้กำหนดแนวทางปฏิบัติในการเคารพธงชาติและเพลงชาติไว้อย่างชัดเจน ดังนี้
• การเคารพธงชาติ: ให้ยืนตรงแสดงความเคารพเมื่อเห็นการชักธงขึ้น-ลง ณ ที่ทำการราชการ
• การเคารพธงสำคัญ: ให้แสดงความเคารพต่อธงไชยเฉลิมพลและธงทางทหารอื่นๆ
• การเคารพเพลงชาติ: ให้ผู้ร่วมงานพิธีหยุดนิ่งแสดงความเคารพเมื่อได้ยินเพลงชาติ
• การเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมี: ให้ผู้คนในโรงมหรสพหรืองานสโมสรแสดงความเคารพเมื่อได้ยินเพลงสรรเสริญฯ
จะเห็นได้ว่านี่ไม่ใช่แค่การออกกฎหมาย แต่คือโครงการสร้างวัฒนธรรมขนานใหญ่ ข้อความในตอนท้ายของประกาศที่ระบุว่า “เมื่อได้เห็นผู้ใดไม่แสดงความเคารพ...พึงช่วยกันตักเตือนชี้แจง” คือกุญแจสำคัญที่สะท้อนยุทธศาสตร์ของรัฐบาล นี่คือการยอมรับว่าการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมไม่สามารถบังคับใช้ด้วยกฎหมายเพียงอย่างเดียว แต่ต้องอาศัยการโน้มน้าวทางสังคมและแรงผลักดันจากคนในชุมชนเอง ซึ่งเป็นการปูทางไปสู่การใช้สื่อมวลชนที่ทรงพลังยิ่งกว่าในขั้นต่อไป
3.0 จุดเปลี่ยนสำคัญ: พลังของ "วิทยุกระจายเสียง"
แม้จะมีประกาศและระเบียบออกมาแล้ว แต่ยังขาดกลไกสำคัญที่จะทำให้เกิดการปฏิบัติพร้อมกันทั่วประเทศในเวลาเดียวกัน ซึ่งนำไปสู่การใช้สื่อที่ทรงพลังที่สุดในยุคนั้นเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์ นั่นคือ "วิทยุ"
3.1 แนะนำ "นายมั่น-นายคง"
รายการวิทยุ "นายมั่น-นายคง" คือเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อชิ้นสำคัญของรัฐบาลในเวลานั้น ผ่านรูปแบบการสนทนากับผู้ฟังทางบ้านในประเด็นต่างๆ และรายการนี้เองที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในการนัดหมายให้คนไทยทั้งชาติสร้างประวัติศาสตร์ร่วมกัน
3.2 คำประกาศผ่านคลื่นวิทยุ (13 กันยายน 2485)
ในวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2485 รายการ "นายมั่น-นายคง" ได้ออกอากาศเชิญชวนและนัดหมายให้คนไทยทุกคนยืนตรงเคารพธงชาติพร้อมกันในเช้าวันรุ่งขึ้น โดยใช้ถ้อยคำที่ทรงพลังและปลุกใจดังนี้
เวลา 8.00 น. นับตั้งแต่เช้าวันพรุ่งนี้เป็นต้นไปผู้ที่มีเครื่องรับวิทยุ ก็ขอได้โปรดเปิดไห้ดังๆ ด้วย เพื่อเพื่อนบ้านไกล้เรือนเคียง และคนสัญจรไปมาจะได้ยินทั่วๆ กัน…
สิ่งแรกฉันหยากขอไห้ยุวชนช่วยฉันไห้พร้อมเพรียง เมื่อเวลาประกาสไห้เคารพทงชาติไห้ทำทุกคนเปนการเคารพชาติที่มีคุนแก่เรา และไห้บอกคนไนบ้านทุกคนทำการเคารพด้วยบอกว่าธงชาติชักขึ้นแล้ว เอกราชของไทยยังบุญมั่นขวันยืนดี เราต้องพร้อมไจกันทำการเคารพทั่วทั้งชาติ ในเวลาเดียวกัน
ฉันเชื่อมั่นว่าการเคารพทงชาติคราวหน้านี้จะสำเร็จได้ด้วยความรักชาติของยุวชนเป็นสำคัน
บริบทในยุคนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำความเข้าใจคำประกาศนี้ การพุ่งเป้าไปที่ "ยุวชน" คือยุทธศาสตร์การสร้างชาติที่แยบยล โดยมุ่งปลูกฝังธรรมเนียมใหม่ให้หยั่งรากลึกในคนรุ่นต่อไป การเชื่อมโยงการยืนตรงเคารพธงชาติเข้ากับ "เอกราชของไทย" เป็นการยกระดับกิจวัตรประจำวันให้กลายเป็นการแสดงออกถึงความเป็นปึกแผ่นและอธิปไตยของชาติ ท่ามกลางแรงกดดันจากภายนอกในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 และทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้ผ่าน "วิทยุ" ซึ่งเป็นสื่อเดียวในยุคนั้นที่สามารถส่งสารไปถึงคนทั้งประเทศและนัดหมายให้ทุกคนทำสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกันได้
4.0 14 กันยายน 2485: วันที่คนไทยยืนตรงเคารพธงชาติพร้อมกันเป็นครั้งแรก
4.1 ภาพประวัติศาสตร์
เช้าวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2485 ได้จารึกหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ เสียงจากเครื่องรับวิทยุที่ถูกเปิดให้ดังที่สุดเท่าที่จะทำได้ก้องกังวานไปทั่วสยามประเทศ ตั้งแต่ตลาดสดที่ผู้คนกำลังจับจ่าย ไปจนถึงลานโรงเรียนที่นักเรียนเข้าแถว และหน้าสถานที่ราชการที่ข้าราชการเตรียมพร้อม เมื่อสัญญาณเวลา 8.00 น. มาถึง พร้อมกับเสียงเพลงชาติที่บรรเลงขึ้นพร้อมกันทั่วแผ่นดินเป็นครั้งแรก ทุกกิจกรรมพลันหยุดนิ่ง ผู้คนทุกหมู่เหล่าต่างพร้อมใจกันยืนสงบนิ่งเพื่อเคารพธงชาติ นี่คือภาพประวัติศาสตร์ที่ธรรมเนียมปฏิบัติได้ถือกำเนิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม และได้สืบทอดต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
4.2 สรุปเส้นเวลา (Timeline) สู่ธรรมเนียมปฏิบัติ
เราสามารถสรุปพัฒนาการที่นำไปสู่ธรรมเนียมการยืนตรงเคารพธงชาติได้ดังนี้
|
ปี พ.ศ. |
เหตุการณ์สำคัญ |
|
2478 |
รัฐบาลออก "กฎกระทรวงมหาดไทย" วางระเบียบการชักธงชาติเป็นครั้งแรก |
|
2482 |
รัฐบาลออก "รัฐนิยมฉบับที่ 4" กำหนดแนวทางปฏิบัติในการเคารพธงชาติและเพลงชาติ |
|
2485 |
• 13 ก.ย.: รายการวิทยุ "นายมั่น-นายคง" นัดหมายประชาชนทั่วประเทศ<br>• 14 ก.ย.: คนไทยยืนตรงเคารพธงชาติพร้อมกันทั่วประเทศเป็นครั้งแรก |
5.0 บทสรุป: จากนโยบายรัฐสู่มรดกทางวัฒนธรรม
เรื่องราวทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นว่า ธรรมเนียมการยืนตรงเคารพธงชาติที่เราคุ้นเคยไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่เป็นผลจากโครงการสร้างวัฒนธรรมของรัฐที่ถูกผลักดันอย่างเป็นระบบและจริงจัง โดยมีสื่อวิทยุกระจายเสียงเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างการรับรู้และนัดหมายผู้คนทั้งชาติให้ปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน
ดังนั้น ในทุกครั้งที่เราได้ยินเสียงเพลงชาติและหยุดยืนตรงเพื่อแสดงความเคารพ นั่นคือการสืบทอดการกระทำที่มีจุดเริ่มต้นมาจากความพยายามในการสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคนในชาติเมื่อ 80 กว่าปีก่อนนั่นเอง
อ้างอิงจาก: บันทึกผลงานของรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ระหว่าง พ.ศ. ๒๔๙๑–๒๔๙๙ ผู้จัดทำ กรมศิลปากร, หนังสือ การเมืองในประวัติศาสตร์ ธงชาติไทย หนังสือเล่มนี้พัฒนามาจากวิทยานิพนธ์เรื่อง “ธงไตรรงค์กับการสร้างอุดมการณ์รัฐไทย พ.ศ. 2459–2520” ซึ่งเป็นงานศึกษาที่ละเอียดมากเกี่ยวกับประวัติของธงชาติไทย ความหมาย การนำมาใช้ และการสร้างอุดมการณ์ความเป็นชาติในแต่ละยุคสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุครัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการออก "ประกาศรัฐนิยมฉบับที่ 4 ว่าด้วยเรื่องการเคารพธงชาติ เพลงชาติ และเพลงสรรเสริญพระบารมี" และเป็นจุดเริ่มต้นของการยืนตรงเคารพธงชาติ 8 โมงเช้าอย่างแพร่หลาย
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
"ธรรมนัส" สวนดราม่าจัดซีเกมส์ ย้ำไทยพร้อม 100% แต่ขอทำแบบ "พึ่งตัวเองล้วนๆ"
ซาอุฯ สั่ง "มันอัดเม็ดไทย" เพิ่ม 30,000 ตัน! เกษตรกรเฮลั่น
นี่คือสิ่งมีชีวิตที่สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก Redwood และ Sequoia
เฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับของจีน ทดสอบบินและยิงกระสุนจริงครั้งแรกแล้ว
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ



