ไทลีนอลเจ้าปัญหา.

ทรัมป์ประกาศว่าตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป จะมีการเรียกเก็บภาษี 100% สำหรับยาที่มีตราสินค้าหรือสิทธิบัตรทั้งหมดที่ผลิตนอกสหรัฐอเมริกา

 เว้นแต่บริษัทกำลังสร้างหรือได้เริ่มสร้างโรงงานผลิตในสหรัฐอเมริกาแล้ว หากบริษัทได้เริ่มสร้างโรงงานในสหรัฐอเมริกาแล้ว ภาษีจะได้รับการยกเว้น นี่เป็นส่วนหนึ่งของภาษีรอบล่าสุดของทรัมป์ รถบรรทุกหนักนำเข้าจะถูกเรียกเก็บภาษี 25% ,ตู้ครัวและห้องน้ำจะถูกเรียกเก็บภาษี 50% และเฟอร์นิเจอร์หุ้มเบาะจะถูกเรียกเก็บภาษี 30%

ทรัมป์อ้างถึงมาตรา 232 ของกฏหมายการขยายการค้า ซึ่งอนุญาตให้ประธานาธิบดีเรียกเก็บภาษีโดยตรงโดยอ้างเหตุผลด้าน "ความมั่นคงแห่งชาติ" โดยไม่ต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภา 

ซึ่งงานนี้ บริษัทยารายใหญ่ส่วนใหญ่ ได้ประกาศการลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในสหรัฐอเมริกา  เช่น Merck, AstraZeneca และ Johnson & Johnson ซึ่งคาดว่าพวกเขาจะสามารถหลีกเลี่ยงภาษีเหล่านี้ได้บางส่วน

อย่างไรก็ตาม ยาขายดีหลายชนิดยังคงพึ่งพาโรงงานในต่างประเทศเป็นอย่างมาก เช่น ยาเบาหวานและยาลดน้ำหนักของ Novo Nordisk

อย่าง Ozempic และ Wegovy มีส่วนผสมหลักผลิตในเดนมาร์ก Mounjaro,ของ Eli Lilly ใช้กระบวนการผลิตบางส่วนในไอร์แลนด์ Stelara

และ Darzalex ของ Johnson & Johnson,Opdivo ของ Bristol-Myers Squibb และ Cosentyx และ Entresto ของ Novartis ส่วนใหญ่ผลิตในสวิตเซอร์แลนด์หรือเดนมาร์ก 

รวมถึง ยารักษาโรคหายากและยารักษามะเร็งบางชนิดจากบริษัทยาญี่ปุ่น (เช่น Chugai และ Otsuka Pharmaceutical) อาจได้รับผลกระทบเช่นกัน นอกจากยาแล้ว สหรัฐฯ ยังมีแผนที่จะตรวจสอบการนำเข้าเซมิคอนดักเตอร์ แร่ธาตุสำคัญ หุ่นยนต์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ 

โดยมีศักยภาพที่จะขยายไปยังภาคส่วนอื่นๆ ต่อไปในอนาคต