หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เส้นทางการค้าที่เก่าแก่ที่สุดของโลก

เนื้อหาโดย ดร กิฟท์นางมารพยากรณ์

    การเดินทางของพ่อค้าเร่ในยุคอารยธรรมโบราณ ที่ได้เดินทางไปในเมืองต่างๆบนเส้นทางสายไหม จากซีกโลกตะวันออกไปยังซีกโลกตะวันตก ถือเป็นการเดินทางที่น่าตื่นเต้น การผจญภัย และจิตวิญญาณแห่งเส้นทางการค้านี้ตั้งแต่ อารยธรรมโบราณก่อนคริสตกาลจนถึงยุคกลาง โดยมีอุปสรรคเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยเมื่อจักรวรรดิโรมันเสื่อมถอยลง

     ในศตวรรษที่ 19 เฟอร์ดินานด์ ฟอน ริชโธเฟน (Ferdinand von Richthofen) นักภูมิศาสตร์ชาวเยอรมัน เริ่มมองหาคำศัพท์ที่จะใช้ในการอธิบายเส้นทางการค้าสำหรับการขนส่งผ้าไหมและสินค้าหรูหราอื่น ๆ ระหว่างแถบตะวันออกไกลและเมดิเตอร์เรเนียน

     ในช่วงศตวรรษแรกก่อนคริสตกาลจนถึงช่วงยุคกลาง ท้ายที่สุด เฟอร์ดินานด์ก็ได้ตัดสินใจตั้งชื่อเส้นทางสายนี้ว่า "เส้นทางสายไหม" ตามสินค้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความมั่งคั่งของโลกตะวันออกมากที่สุด และถือเป็นเส้นทางการค้าที่เก่าแก่ที่สุด

    เส้นทางสายไหมซึ่งเชื่อมต่อโลกตะวันออกและตะวันตกมานานกว่า 2,000 ปี ก่อนคริสตกาล โดยเป็นทั้งเส้นทางบกและเส้นทางทะเลที่อำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนสินค้า วัฒนธรรม และเทคโนโลยีระหว่างอารยธรรมต่างๆ ทั่วทั้งยูเรเซีย 

     อย่างไรก็ตามถึงแม้การค้าจะเจริญรุ่งเรืองเส้นทางสายไหมนี้ส่งผลให้ตามรอยแนวเส้นทางเกิดเมืองใหม่ๆ ที่มีความเจริญรุ่งเรือง เป็นศูนย์กลางความมั่งคั่งที่แทบจะจินตนาการไม่ถึง เป็นที่ซึ่งการค้าขายและการแลกเปลี่ยนสินค้าเกิดขึ้นระหว่างทาง แม้ว่าผ้าไหมจีนจะเป็นจุดเริ่มต้น แต่ทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่อูฐไปจนถึงกาแฟก็ถูกค้าขายไปตามเส้นทาง ปัจจุบัน มหานครโบราณเหล่านี้ยังคงหลงเหลืออยู่บ้าง อาทิเช่นมหานครเพตรา (ที่ผู้เขียนเคยเขียนมาในมุมมองของแหล่งการค้าอารยธรรมโบราณ) เป็นเครื่องเตือนใจอันน่าทึ่งถึงพลังและความเจริญรุ่งเรืองของเส้นทางการค้าสายไหม ซึ่งหากมองในมุมมองที่เห็นเพตราแล้วคือเมืองในอดีตที่ล่มสลายไปพร้อมกับรูปแบบการเดินทางที่เปลี่ยนจากทางบกไปเป็นทางน้ำแล้ว

      ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 38 พ.ศ. 2557 ณ กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ มีมติให้ขึ้นทะเบียนเส้นทางสายไหมในจีน คาซัคสถาน และคีร์กีซสถาน เป็นแหล่งมรดกโลกภายใต้ชื่อ "เส้นทางสายไหม"

     ในทัศนะของผู้เขียนตั้งข้อสงสัยว่า แล้วในความเป็นมรดกโลกของเส้นทางสายไหมนี้ มีเมืองไหนบ้างที่ยังคงหลงเหลือร่องรอยอารยธรรมทางการค้าบนเส้นทางสายไหมและยังธำรงค์คงอยู่ให้คนรุ่นไหมได้รับกลิ่นอายความเป็นเมืองที่มีอารยธรรมรุ่งเรืองจนถึงปัจจุบัน  และที่เป็นจุดพักของพ่อค้าเร่เหล่านี้มีอะไรไรบ้าง เลยขอมาเล่าเรื่องราวแนวเส้นทางที่เป็นมรดกโลก และเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่น่าสนใจในเส้นทางสายไหมนี้

     เมืองคีวา อุซเบกิสถาน : คีวาเป็นหนึ่งในสามเมืองในอุซเบกิสถานซึ่งเป็นจุดแวะพักสำคัญตลอดเส้นทางสายไหม อิชอน-กาลา เมืองกำแพงยุคกลางที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างสวยงาม และขึ้นทะเบียนมรดกโลกจากยูเนสโกด้วย เป็นที่ตั้งของอนุสรณ์สถานที่เกี่ยวกับเส้นทางการค้าบนเส้นทางสายไหม ได้รับการบูรณะหลายสิบแห่ง เช่น พระราชวังทาช-เฮาลีอันวิจิตรตระการตา และหออะซานคาลตา-ไมเนอร์ที่ยังสร้างไม่เสร็จ

     เมืองซีอาน ประเทศจีน : เดิมชื่อฉางอัน เมืองหลวงโบราณแห่งนี้เป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในเอเชียตะวันออก ค้นพบโดยจางเฉียมในสมัยราชวงศ์ฮั่น ในฐานะจุดเริ่มต้นเส้นทางสายไหมทางตะวันออก ซีอานเป็นสะพานสำคัญระหว่างจีนยุโรป และตะวันออกกลาง และกลายเป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างประเทศ

     คุณค่าทางประวัติศาสตร์ของซีอานบนเส้นทางสายไหม ทำให้ซีอานเป็นสถานที่ที่ต้องไปเยือนอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่มีกำแพงเมืองจีนโบราณ 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก แต่ซีอานยังมีมัสยิดใหญ่ที่สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ถัง และสุสานทหารดินเผา ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสุสานขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่ จิ้นซีฮ่องเต้ จักรพรรดิองค์แรกของจีน

    เมืองเมิร์ฟ เติร์กเมนิสถาน : ครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองหลวงทางวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรือง แหล่งมรดกโลกของยูเนสโกแห่งนี้เคยถูกประเมินว่าเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ถูกทำลายลงในสมัยจักรวรรดิมองโกล และไม่สามารถฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ได้ ปัจจุบันเหลือเพียงซากปรักหักพัง แหล่งโบราณคดีที่ไม่มีใครอาศัยอยู่แห่งนี้ แท้จริงแล้วประกอบด้วยเมืองห้าเมืองที่สร้างขึ้นติดกัน เนื่องจากเส้นทางน้ำที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาในขณะนั้น อุทยานโบราณคดีเมิร์ฟได้รับฉายาว่า "เมืองเร่ร่อน" ครอบคลุมพื้นที่กว่า 1,000 เฮกตาร์ กระจายตัวอยู่ทั่วที่ราบอันแห้งแล้งทางตอนเหนือของไบรามาลี

    เมืองซามาร์คันด์ อุซเบกิสถาน : เมืองซามาร์คันด์ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองที่อเล็กซานเดอร์มหาราชเคยยึดครอง ปัจจุบันเป็นหนึ่งในเมืองที่มีผู้อยู่อาศัยเก่าแก่ที่สุดในเอเชียกลาง และได้รับเลือกให้เข้าอยู่ในรายชื่อมรดกโลกของยูเนสโกในปี พ.ศ. 2544 แม้ว่าจะมีสถานที่ให้ชมและทำมากมายที่นี่ แต่ซามาร์คันด์มีชื่อเสียงมากที่สุดจากจัตุรัสเรจิสถาน ซึ่งประกอบด้วยโรงเรียนสอนศาสนา (madrasah) ที่น่าทึ่งสามแห่ง และมัสยิดบีบี-ข่านยม์

     เมืองอาชกาบัต เติร์กเมนิสถาน : ได้รับฉายาว่า "ลาสเวกัสแห่งคาราคุม" เป็นหนึ่งในเมืองบนเส้นทางสายไหมที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก ตั้งอยู่ระหว่างทะเลทรายคาราคุมและเทือกเขาโคเพตดัก ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของมัสยิดสีทองอร่าม พระราชวังหินอ่อนสีขาว และอนุสาวรีย์อันตระการตา เช่น หอคอยอนุสาวรีย์รัฐธรรมนูญสูง 185 เมตร และอนุสาวรีย์แห่งความเป็นกลาง ซุ้มประตูโค้งสามขาขนาดใหญ่

     เมืองเตหะราน อิหร่าน : เมืองหลวงของอิหร่านอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ ครอบคลุมพื้นที่ 18,909 ตารางกิโลเมตร สร้างขึ้นบนพื้นที่เดิมของชุมชนเรย์ หรือรายี ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางสายไหมหลายแห่งที่เชื่อมต่อกันในอิหร่าน สถานที่สำคัญที่นี่คือ เรย์ บาซาร์ และพระราชวังโกลสถานอันวิจิตร

     เมืองบูคารา อุซเบกิสถาน : บูคารา หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ไข่มุกแห่งเส้นทางสายไหม" เป็นเมืองที่สวยงาม มีอายุกว่า 2,500 ปี ร่องรอยทางประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าของเมืองนี้ สะท้อนผ่านอนุสรณ์สถานทางสถาปัตยกรรม 140 แห่งที่ยืนหยัดผ่านกาลเวลา ซึ่งรวมถึงสุสานอิสมาอิล ซามานี ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 10 รวมถึงมัสยิดและโรงเรียนสอนศาสนาหลายแห่งที่ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองบูคาราอันเก่าแก่

 

     เมืองอัลมาตี คาซัคสถาน : ประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้ เป็นที่ตั้งของหนึ่งในเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุดของเอเชียกลาง อัลมาตีเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการค้าและการเกษตรชั้นนำบนเส้นทางสายไหมตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 ถึงศตวรรษที่ 14 และยังมีโรงกษาปณ์ประจำรัฐของตนเองอีกด้วย นอกจากนี้เมืองที่ใหญ่ที่สุดของคาซัคสถานที่รายล้อมไปด้วยเทือกเขาทรานส์-อิลี-อาลาเตาอันสง่างาม ถือเป็นเมืองที่มีความสวยงามที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย และยังกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักเล่นสกีในช่วงฤดูหนาวอีกด้วย

อิสตันบูล ตุรกี : เดิมคือ คอนสแตนติโนเปิล เป็น จุดแวะพักที่สำคัญที่สุดจุดหนึ่ง บนเส้นทางสายไหม เนื่องจากทำเลที่ตั้งอันเป็นยุทธศาสตร์ เป็น จุดบรรจบของเส้นทางบกและเส้นทางทะเล ที่เชื่อมต่อยุโรป เอเชีย และแอฟริกา สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์หลายแห่ง เช่น สุเหร่าโซเฟีย (Hagia Sophia) เป็นพยานถึงความรุ่งเรืองและความสำคัญของเมืองบนเส้นทางสายไหม 

เพตรา จอร์แดน : เมืองโบราณของจอร์แดนที่ตั้งอยู่บนเส้นทางสายไหมในฐานะศูนย์กลางการค้าที่สำคัญของชาวนาบาเตียน โดยมีทำเลที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์ซึ่งเอื้อต่อการค้าผ้าไหม เครื่องเทศ และสินค้าอื่น ๆ ที่เดินทางจากตะวันออกไกลไปยังโลกตะวันตกผ่านเส้นทางหลัก เมืองนี้ยังเป็นที่รู้จักในฐานะ "นครสีชมพู" เพราะสถาปัตยกรรมอันงดงามที่แกะสลักจากหินทรายสีชมพู ถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่สุดของโลกเเห่งหนึ่ง

 

เมืองทูรูฟาน หรือ ทูรูปาน จีน : เป็นเมืองสำคัญในมณฑลซินเจียง ประเทศจีน ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางสำคัญของเส้นทางสายไหมสายเหนือและสายกลาง โดยมีลักษณะเด่นคือเป็นดินแดนที่แห้งแล้งและร้อนที่สุดในจีน นั่นคือทะเลทรายโกบี ถือเป็นทะเลทรายที่ยาวที่สุดในเอเชีย แต่ก็มีระบบชลประทานใต้ดินที่ยอดเยี่ยม และมีเมืองโบราณสำคัญอย่างเมืองโบราณเจียวเหอกู่เฉิน และ เมืองโบราณเกาชาง รวมถึงเป็นแหล่งปลูกองุ่นไร้เมล็ดที่สำคัญของจีน

    นอกจากนี้ทูรูฟานเป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนเส้นทางสายไหมสายเหนือและสายกลาง ทำให้เป็นเมืองสำคัญในการค้าและการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมในอดีต

   เมืองเจนัว อิตาลี : เจนัว (Genoa) เมืองท่าที่ตั้งอยู่ในอิตาลี มีประวัติความเป็นมายาวนานและทรงคุณค่า ด้วยการเป็นศูนย์กลางทางการค้าสำคัญในบนเส้นทางสายไหม และยุคกลาง เมืองนี้เคยเป็นเมืองที่มีอำนาจมากที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนเมื่อหลายร้อยปีก่อน เมื่อประมาณ 800 ปีที่แล้ว 

    ในช่วงต้นยุคกลาง (medieval period) เจนัวเป็นหนึ่งในเมืองที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของอิตาลี โดยเฉพาะในด้านการค้า การเดินเรือ และการมีอิทธิพลต่อการสร้างเส้นทางการค้าระหว่างยุโรปและโลกตะวันออก ในปัจจุบัน เจนัวยังคงเป็นเมืองที่สำคัญทั้งทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เมืองนี้เป็นที่รู้จักในฐานะมรดกโลกที่ได้รับการคุ้มครองจากองค์การยูเนสโก โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง เช่น มหาวิหารซานลอเรนโซ (San Lorenzo Cathedral) และพระราชวังโดซา (Palazzo Ducale) 

    จะเห็นได้ว่าเมืองที่เป็นจุดพักของพ่อค้าเร่ตามแนวเส้นทางสายไหมนี้ ไม่เพียงแต่เป็นจุดพักทางการค้า แลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกันแล้ว ยังมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างวัฒนธรรม นวัตรกรรมต่างๆ จากซีกโลกตะวันออก และโลกตะวันตกเข้าไว้ด้วยกัน ดั่งจะเห็นได้จากร่องรอยที่เหลือไว้ในอารยธรรม สิ่งปลูกสร้าง โบราณสถานต่างๆที่ทำให้คนยุคหลังเห็นถึงความเพียรพยาม และความมุ่งมั่น บนเส้นทางนี้

อย่างไรก็ตามจะเห็นได้ว่า เส้นทางสายไหมนี้ถือเป็นเส้นทางการค้าที่เก่าแก่ที่สุดในโลกแล้ว ยังมีเมืองเป็นมรดกโลกอีกมากมายตามแนวเส้นทาง และมีสิ่งมหัศจรรย์ของโลกมากที่สุด

****

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
40 VOTES (5/5 จาก 8 คน)
VOTED: kyogisa, davin, famai, projor007, แด๊ดดี้จอเเดน, Freya Rune, goldfish13, ดร กิฟท์นางมารพยากรณ์
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติพบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบินชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีดพืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีนเปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหมสภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปีแคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการีแบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
"ตระกูลฮุน" ถึงคราวอวสาน! คนในชิ่งหนีปิดฮุยวัน-ปชช.หมดตัวเงินในบัญชีถอนไม่ได้เหนือความเชื่อ! "ซูเปอร์ฟูลมูน" เรื่องที่เราอาจไม่เคยรู้...“ย้อนวันวานอาหารจานละ 2-3 บาท กินอิ่มทั้งบ้านด้วยเงินไม่กี่บาท ราคาน่ารักที่วันนี้หาไม่ได้แล้ว”ทำไมต้องหย่ากัน หลังถูกคดีความ? เหตุผลที่ฟังดูดราม่า…แต่จริงกว่าที่คิดน้องแร็คคูนบุกร้านค้า ดื่มจัดหนัก จนเมาค้าง เห็นแล้วนึกถึงคนเหมือนกันนะเนี่ย (ฮา)นี่คือสิ่งมีชีวิตที่สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก Redwood และ Sequoia
อัลปากา VS อัลปากา: พลังศักดิ์สิทธิ์จากสัตว์แห่งอินคา สู่โลหะมงคลในวงการพระเครื่องไทยถอดรหัสเสน่ห์ร้ายของยอดนักรัก! ทายนิสัยความเป็น "คาสโนว่าและคลาสโนวี่" ตามเดือนเกิด พร้อมส่องพฤติกรรมการแสดงออกเปิดตำนาน "ฮัตเชปซุต" ฟาโรห์หญิงผู้ต้อง "สวมเครา" ท้าทายกฎบุรุษ จนถูกลบชื่อนาน 3,500 ปี!บัวน่าปลูก...สายมูต้องห้ามพลาด! เสริมมงคลให้ชีวิตรุ่งเรือง
ตั้งกระทู้ใหม่