การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ทำให้คนมีโอกาสแพ้ละอองเกสรมากขึ้นเพราะ

1. ฤดูกาลเกสรยาวนานขึ้น

อุณหภูมิที่สูงขึ้นทำให้ฤดูใบไม้ผลิเริ่มเร็วกว่าเดิม และฤดูใบไม้ร่วงสิ้นสุดช้าลง

ผลคือพืชปล่อยเกสรเป็นเวลานานขึ้น → คนจึงสัมผัสกับละอองเกสรมากขึ้นในแต่ละปี

2. ปริมาณเกสรเพิ่มขึ้น

ระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) สูงขึ้น → พืชบางชนิด เช่น หญ้าแร็กวีด และ ต้นโอ๊ก สร้างละอองเกสรได้มากขึ้น

มีการทดลองพบว่าภายใต้ CO₂ ที่สูง ต้นพืชผลิตเกสรได้มากขึ้นหลายเท่าตัว

3. ละอองเกสรมีความ "แพ้ง่าย" กว่าเดิม

มีหลักฐานว่าพืชผลิตเกสรที่มีโปรตีนก่อภูมิแพ้เข้มข้นขึ้น → กระตุ้นอาการแพ้รุนแรงกว่าเก่า

4. เหตุการณ์สภาพอากาศรุนแรง เช่น พายุฝนฟ้าคะนอง

พายุสามารถดูดละอองเกสรขึ้นไปบนก้อนเมฆ ทำให้แตกเป็นอนุภาคเล็กมาก

อนุภาคเล็กเหล่านี้กลับลงสู่พื้นและเข้าสู่ทางเดินหายใจได้ง่ายขึ้น → ทำให้เกิด “โรคหอบหืดจากพายุฝนฟ้าคะนอง” (Thunderstorm asthma)

5. การกระจายของพืชรุกราน (invasive species)

สภาพอากาศที่เปลี่ยนไปเอื้อให้พืชแพร่เกสรสูง เช่น หญ้าแร็กวีด ขยายพันธุ์ไปยังพื้นที่ใหม่ ๆ → ทำให้คนที่ไม่เคยสัมผัสละอองเกสรพืชชนิดนี้มาก่อนเริ่มแพ้

6. ความเสี่ยงจากปัจจัยสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ

ไฟป่าและมลพิษในอากาศเพิ่มขึ้นจาก Climate Change → ทำให้ระบบทางเดินหายใจอ่อนแอ และไวต่อเกสมากขึ้น

สรุปคือ ภาวะโลกร้อนทำให้มีทั้ง "มากขึ้น" "นานขึ้น" และ "รุนแรงขึ้น" ของละอองเกสรที่เป็นตัวการก่อภูมิแพ้ค่ะ