กลัวการมีลูก
คนรุ่นใหม่มีความกังวลและมีเป้าหมายที่จะไม่มีลูก ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น แม้ว่าผมจะโสดอยู่ก็ตาม แต่ผมก็วางแผนชีวิตคู่ในอนาคตของผมไว้เช่นนั้น ส่วนตัวผมมีเหตุผลดังนี้
1.ไม่พร้อมจะเลี้ยงดูบุตร การจะมีลูกสักคนถือเป็นเรื่อสำคัญ ต้องมีความพร้อมทั้งเรื่องทุนทรัพย์และเรื่องการอบรมเลี้ยงดู เราต้องให้เวลากับลูกมากพอ พร้อมทั้งเลี้ยงดูให้เป็น รู้จักเล่นกับลูก ยอมรับความคิดเห็นและความต้องการของลูก เพื่อให้ลูกมีความมั่นใจในตัวเอง แต่ก็ไม่ถึงกับเอาแต่ใจตนเอง เพื่อให้ลูกรู้จักยับยั้งชั่งใจเลือกในสิ่งที่ให้ผลตอบแทนกับชีวิตแล้วคุ้มค่าในระยะยาว การอบรมเลี้ยงดูเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เข้มงวดมากไปลูกก็เสียคนได้ ปล่อยปละละเลยก็ไม่ดี เรื่องนี้มีผลต่อความฉลาดความสามารถและทักษะของลูกได้เช่นกัน
2.ความคาดหวังที่มีต่อบุตร เป็นธรรมดาที่เราอยากให้ลูกเป็นคนเก่งมีอนาคตและมีชีวิตที่ดีกว่าตัวพ่อแม่เอง แต่หลายคนไม่ได้เป็นเช่นนั้น ผมเป็นลูกคนหนึ่งที่ยังให้การพึ่งพาไม่ได้ ในช่วงที่เรียนจบใหม่ๆยังต้องใช้เวลาสร้างตัวไปสักพัก คอยบริหารรายจ่ายให้มีเงินเหลือ โชคดีที่ทางบ้านยังรับภาระค่าใช้จ่ายหลักได้อยู่ ผมจึงรับผิดชอบในส่วนของผมได้ และมีเงินเหลือเก็บมากพอสมควร แต่ก็ยังไม่มากพอตามมาตรฐานของคนเรียนจบปริญญาตรี เพราะผมทำงานต่ำกว่าวุฒิเพื่อให้มีเงินเดือนจุนเจือเข้ามาก่อน ในช่วงปีสองปี
หากเรียนจบในสาขาอันเป็นที่นิยมของสังคม แน่นอนว่าสังคมจะให้การยอมรับ เพราะเป็นอาชีพที่ต้องการและเรียนจบได้ยาก เช่นนี้แล้วตัวเด็กจะไม่ต้องกังวลเรื่องตกงานเลย แต่ทั้งนี้มันก็ขึ้นอยู่กับความชอบ ความสนใจ และความสามารถของตัวเด็กเอง พ่อแม่จะไปบังคับลูกไม่ได้ ครั้นกลัวว่าลูกจะไม่สามารถเลี้ยงดูพ่อแม่ในอนาคตได้ไม่ดีพอ มันก็เป็นอีกเรื่องนึง เพราะทุกอาชีพมันมีโอกาสแสวงหาแสดงความสามารถกันอยู่แล้ว มันอาจจะมีโอกาสมาก โอกาสน้อย แต่ทุกอาชีพล้วนเป็นฟันเฟืองของสังคมทั้งสิ้น ไม่ได้เจตนาจะลบหลู่อาชีพของใคร แต่ต้องยอมรับก่อนว่าทุกอาชีพสร้างคุณค่าแตกต่างกัน อาชีพไหนสร้างคุณค่าได้มากกว่า ฐานเงินเดือนเริ่มต้นทำงานย่อมมากกว่าเป็นธรรมดา ทั้งนี้ก็มีบางคนเช่นกันที่สามารถสร้างตัวร่ำรวย ภาคภูมิใจในตนเองได้โดยไม่ต้องง้อการเรียนจบจากคณะที่ยอดนิยมเลย
ในเรื่องความสามารถเป็นเรื่องละเอียดอ่อน มีทั้งปัจจัยควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ พื้นฐานสติปัญญาของแต่ละคน ยิ่งถ้าเปรียบเทียบตัวเราเองกับพ่อแม่แล้ว เราเข้าใจเลยว่าพ่อแม่ลำบากกาย ลำบากใจแค่ไหน ทั้งเรื่องเงินและเรื่องที่ทำงาน พ่อแม่กว่าจะเลี้ยงดูเรามาเติบใหญ่ และเราก็ไม่ล้ำเลิศพออย่างที่ควรจะเป็น ถ้าหากจะหวังบุตรมาเลี้ยงดูตัวเราเองในอนาคตแล้วละก็...อย่ามีบุตรเลยจะดีที่สุด
3.สถานภาพความสัมพันธ์ของคนรัก จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าหากเราแต่งงานมีลูกด้วยกันแล้ว พออยู่ไปอยู่มาเกิดขัดเคืองไม่พอใจกันจนอยู่ไม่ได้ สุดท้ายคนเป็นพ่อ คนเป็นแม่ต่างแยกย้ายไปมีคู่ชีวิตคนใหม่ มีลูกกับคนใหม่ด้วยกัน โดยที่ลูกคนเก่าไม่เป็นที่ต้องการ
ผมได้ยินเรื่องนี้ครั้งแรกตอน ป.5 ฟังแล้วก็ตกใจ จนเกิดวลีที่พูดกันว่า "เราทุกคนเกิดจากความสุขของพ่อแม่" จนครูนาฎศิลป์ได้ยินเข้าถึงหูก็พาลโกรธ บอกว่าไม่ควรพูดแบบนี้ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม โดยที่แกไม่สนใจเลยว่าเด็กเขาไปเจออะไรร้ายแรงมาในชีวิต ผมบอกกับตัวเองว่าเราโชคดีที่ไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เห็นพ่อแม่ทะเลาะกันแทบทุกวันก็ปลงตก รู้สึกไม่อยากมีลูก เพราะถ้าหากเราไม่ได้เกิดมา ท่านคงแยกย้ายไปสร้างชีวิตใหม่กันนานแล้ว เว้นแต่ว่าการหย่าร้างจะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผูกพันธ์กับบุตรและเกิดข้อโต้แย้งขอสิทธิ์ในการเลี้ยงดูบุตรคนนั้น ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เด็กคนนั้นย่อมต้องมีบาดแผลลึกๆในใจไม่มากก็น้อย และในทางจิตวิทยาแล้วตัวเด็กเองที่มีประสบการณ์แบบนี้มีโอกาสล้มเหลวในชีวิตคู่สูง
เราจะมั่นใจได้ยังไงว่าเราจะครองเรือนกันได้โดยที่ไม่เกิดการหย่าร้าง ไม่มีอะไรรับประกันได้เลยว่าการคบหาอยู่ครองเรือนของเรานั้นจะมีความสุขมากกว่าความทุกข์หรือไม่ คุ้มมั้ยกับการตัดสินใจเลือกคู่ของเรา เพราะการเลิกรากันไปนั้น ส่วนหนึ่งลึกๆภายในใจย่อมต้องมีความผูกพันธ์อยู่บ้างเป็นธรรมดา ทว่าการมีลูกด้วยกันแล้วหย่าร้างต่อมาภายหลัง ไม่ใช่แค่เราเท่านั้นที่เจ็บปวด ลูกเราเองก็เช่นกัน
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจ
ค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวน
ทึ่งทั่วโลก : หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่" หมู่บ้านที่สร้างอยู่ริมหน้าผา สถานที่ท่องเที่ยวแสนน่าทึ่งของประเทศจีน
สถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่น
จีน ไฟเขียว ให้ไทย ถล่มรังแก๊งสแกมเมอร์
นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33
ไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญ
ภาพวาดแผ่นเดียว ครูต้องรีบแจ้งแม่ให้พาไปหาหมอ ด่วน!!!
IO เขมรปั่นหนัก! ใช้ AI สร้างพาสปอร์ตปลอม อ้าง “บัวขาว” เป็นคนกัมพูชา ไม่ใช่คนไทย



