ตำนานของตำรวจอาร์เจนตินาที่ว่ากันว่า เขาถูกมนุษย์ต่างดาวจับตัวไป...
ในโลกที่เต็มไปด้วยเหตุการณ์ลึกลับ มีบางเรื่องที่ยิ่งเล่าก็ยิ่งสร้างความสั่นสะเทือนในใจผู้คน หนึ่งในนั้นคือเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นในประเทศอาร์เจนตินา เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ค.ศ. 2006 ซึ่งเปลี่ยนชีวิตของตำรวจหนุ่มคนหนึ่งไปตลอดกาล
หลุยซ์ เซอร์จิโอ ปูเชตา ตำรวจวัย 31 ปี จากเมืองเจเนอรัลพิโก แคว้นลาพัมปา กำลังปฏิบัติหน้าที่แทนเพื่อนร่วมงานในคืนวันนั้น เขาออกลาดตระเวนด้วยมอเตอร์ไซค์ตั้งแต่เวลาประมาณหนึ่งทุ่มครึ่ง ท่ามกลางความเงียบสงบของชนบทอันเวิ้งว้าง ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นเพียงหน้าที่ปกติ จนกระทั่งเวลาประมาณสามทุ่มครึ่ง เมื่อเขาพบกับสิ่งที่ไม่คาดฝัน
เบื้องหน้าของเขา ปรากฏแสงไฟสีแดงสองดวงที่เรืองรองอยู่ในความมืด ราวกับดวงตาที่จับจ้องมา ความสว่างจ้าทำให้สายตาพร่ามัว และที่น่าหวาดหวั่นไปกว่านั้นคือ ร่างกายของเขากลับไม่ตอบสนอง ราวกับถูกตรึงด้วยพลังบางอย่าง เขาเคยเป็นอดีตทหารที่ผ่านการฝึกมาอย่างเข้มแข็ง แต่ในวินาทีนั้น เขากลับอ่อนแรงจนขยับไม่ได้แม้แต่น้อย
ไม่นานหลังจากนั้น ปูเชตาก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย อุปกรณ์ของเขา—ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ วิทยุ หรือแม้แต่ปืนพก—ถูกพบตกอยู่กระจัดกระจายห่างจากมอเตอร์ไซค์ที่จอดทิ้งไว้ราว 800 เมตร ยิ่งไปกว่านั้น รอยเท้าที่เหลืออยู่ก็แสดงลักษณะประหลาด แต่ละก้าวห่างกันถึง 7 เมตร ราวกับว่าเขาไม่ได้เดินด้วยแรงของมนุษย์
เจ้าหน้าที่พยายามค้นหาจนถึงราวตีสอง แต่พายุฝนที่โหมกระหน่ำก็ทำให้ทุกอย่างต้องหยุดลง ร่องรอยทั้งหมดถูกลบหายไปในความมืดและสายฝน
กระทั่งรุ่งเช้า ชาวบ้านคนหนึ่งกลับพบปูเชตานั่งกอดเข่าซุกหน้าอยู่ริมถนนลูกรัง เขามีรอยไหม้ที่ฝ่าเท้า ดวงตาหลบเลี่ยงไม่กล้าเผชิญกับแสงสว่าง แต่ที่น่าตกตะลึงคือ จุดที่พบตัวนั้นห่างจากบริเวณที่เขาหายตัวไปเกือบ 30 กิโลเมตร ทั้งที่ตลอด 18 ชั่วโมงที่ผ่านมา เขาไม่ได้กินอาหารหรือดื่มน้ำเลย ทว่าร่างกายกลับไม่แสดงอาการอ่อนล้า และเสื้อผ้าของเขาก็ยังคงแห้งสนิท ราวกับไม่เคยผ่านพายุฝนเมื่อคืนมาก่อน
เมื่อสภาพจิตใจเริ่มสงบลง ปูเชตาได้เล่าถึงประสบการณ์ที่เขาพบ เขาอธิบายว่า หลังจากแสงสีแดงเข้ามาครอบงำ ร่างกายของเขาราวกับย้อนกลับไปเป็นทารกในครรภ์ ความทรงจำในวัยเยาว์ผุดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่เขาจะรู้สึกเหมือนลอยอยู่เหนือท้องฟ้า เห็นภูมิทัศน์เบื้องล่างและความร้อนที่แผ่ซ่านออกมาจากฝ่าเท้า ภาพสุดท้ายที่เขาจำได้คือบางสิ่งบางอย่างกำลังยกตัวเขาขึ้นไป
แม้เหตุการณ์นั้นจะผ่านไปนานหลายปี แต่ปูเชตาก็ยังคงถูกหลอกหลอน ความหวาดกลัวทำให้เขาไม่กล้าเฉียดเข้าไปในพื้นที่เดิมอีกเลย สุดท้ายเขาตัดสินใจลาออกจากการเป็นตำรวจในเดือนพฤษภาคม ปี 2013 เพื่อหลีกหนีจากเงาของความทรงจำครั้งนั้น
เรื่องราวของเขากลายเป็นที่สนใจของผู้คนจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่เชื่อในมนุษย์ต่างดาวและสิ่งมีชีวิตนอกโลก มันถูกเล่าขานต่อกันเป็นตำนานท้องถิ่นของอาร์เจนตินา และเมื่อถูกเผยแพร่สู่โลกออนไลน์ เรื่องราวนี้ก็ยิ่งขยายวงกว้าง สร้างคำถามที่ยังคงไร้คำตอบจนถึงทุกวันนี้ว่า—คืนวันนั้น หลุยซ์ เซอร์จิโอ ปูเชตา พบเจอกับอะไรกันแน่?
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่ง
วิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569
BBC ยกให้ "กรุงพนมเปญ" ติด TOP20..ปลายทางที่ดีที่สุดในโลก
เจาะสถิติสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี (งวด 2 มกราคม)
รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่
ลือสะพัด เกาหลีใต้ถีบส่งแรงงานเขมรกลับบ้าน 5 หมื่นราย หลัง 37 องค์กรเกาหลี ไม่ทนพวกเขมรป่วนเมือง
เขมร มาตามนัด ประชุม GBC
ไทยซื้อระบบป้องกันทางอากาศใหม่ !
เขมร ยอมมาโต๊ะเจรจาที่จันทบุรี หลังไทยดัดหลัง "ไม่ย้ายประเทศ"
ป้าฟันต้นมะม่วงแก้วขมิ้นเพราะเกลียดเขมรที่ทำร้ายคนและทหารไทย ยอมรับความเกลียดและอยากให้ทหารจัดการเรื่องนี้เร็วๆ
อาเซียนเทเขมร ไม่เอาด้วย โยนให้ไทย กับกัมพูชาไปเคลียร์กันเอง
ปิดฉากบทบาทนักการเมือง! "นอท พันธ์ธวัช" ย้ำชัดลาออกพรรคเปลี่ยน พร้อมประกาศจุดยืนไม่หนุนฝ่ายใด
ป้าฟันต้นมะม่วงแก้วขมิ้นเพราะเกลียดเขมรที่ทำร้ายคนและทหารไทย ยอมรับความเกลียดและอยากให้ทหารจัดการเรื่องนี้เร็วๆ
ปิดฉากบทบาทนักการเมือง! "นอท พันธ์ธวัช" ย้ำชัดลาออกพรรคเปลี่ยน พร้อมประกาศจุดยืนไม่หนุนฝ่ายใด
อาเซียนเทเขมร ไม่เอาด้วย โยนให้ไทย กับกัมพูชาไปเคลียร์กันเอง
“รอยแผลบนขาของพลายประตูผา…คือรอยน้ำตาของคนทั้งแผ่นดิน”



