รหัสลับแห่งดวงดาว : ความลับที่ซ่อนอยู่ในฝาโลงหินของชนเผามายา (Sarcophagus Lid of Pakal)
“ชนเผ่ามายา” ที่หลายๆคนรู้จักผ่านสารคดี ละคร ภาพยนตร์ นั่นคือ กลุ่มชนพื้นเมืองในภูมิภาคเมโสอเมริกา (เม็กซิโก กัวเตมาลา และเบลีซ) ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากอารยธรรมมายาโบราณอันรุ่งเรือง ปัจจุบันมีชาวมายาหลายล้านคนอาศัยอยู่ในภูมิภาคนี้ โดยยังคงรักษาภาษาและวัฒนธรรมดั้งเดิมไว้ได้. ชาวมายามีความเชี่ยวชาญด้านคณิตศาสตร์ ดาราศาสตร์ สถาปัตยกรรม และมีระบบปฏิทินที่ซับซ้อน ด้วยความที่ชนเผ่านี้มีความเก่งกาจด้านวิทยาการด้านต่างๆนี้เอง จึงได้พบสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ในยุคกลางก็คงหนีไม่พ้น ชิเชนอิตซา (Chichen Itza)ประเทศแม็กซิโก เชนอิตซา (Chichen Itza) เป็นภาษามายา แปลว่า ต้นทางแห่งความสุขสบายของประชาชน ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเม็กซิโก เป็นแหล่งโบราณคดีที่สร้างขึ้นโดยชาวมายันซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ของเทพเจ้า แต่วันนี้ผู้เขียนไม่ได้พูดถึง เชนอิตซา (Chichen Itza) แต่จะพูดถึงฝาโลงบันลือโลกที่แฝงด้วยรหัสลับแห่งดวงดาวที่ซ่อนอยู่ นั่นคือ “Sarcophagus Lid of Pakal”
ในใจกลางป่าทึบของแคว้น Palenque ทางตอนใต้ของเม็กซิโก นักโบราณคดีได้ค้นพบสุสานของกษัตริย์มายาองค์หนึ่งที่ชื่อว่า พระเจ้า “คินิช จานาบ ปาแคล” (K’inich Janaab’ Pakal) ผู้ครองราชย์ในศตวรรษที่ 7โดยสิ่งที่โดดเด่นที่สุดในสุสายและเป็นขอถกเถียงกันระดับโลกไม่ใช่เพียงความยิ่งใหญ่ของมัน แต่คือ "ฝาหินแกะสลัก" ของโลงศพ ที่บางคนเชื่อว่าอาจเป็น ภาพของมนุษย์ต่างดาว หรือ นักบินอวกาศในยานพาหนะล้ำยุค
ปาคัล กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งปาเลงเก ผู้ปกครองปาเลงเกมาเกือบ 70 ปี (โดยประมาณปี ค.ศ. 683 )ได้สวรรคต ช่วงเวลาของปาคัลเป็นช่วงเวลาแห่งความรุ่งเรืองอย่างยิ่งใหญ่สำหรับประชาชน ซึ่งได้ถวายเกียรติแด่พระองค์ด้วยการฝังพระศพไว้ในวิหารจารึก ซึ่งเป็นพีระมิดที่ปาคัลทรงสั่งให้สร้างขึ้นโดยเฉพาะเพื่อใช้เป็นสุสานของพระองค์ ปาคัลถูกฝังอยู่ในเครื่องหยกอันวิจิตร รวมถึงหน้ากากมรณะอันงดงาม เหนือหลุมฝังศพของปาคัลมีหินโลงศพขนาดใหญ่วางอยู่ ซึ่งแกะสลักอย่างประณีตบรรจงเป็นรูปปาคัลที่ประสูติเป็นเทพเจ้า โลงศพของปาคัลและยอดหินของปาคัลเป็นหนึ่งในการค้นพบครั้งสำคัญทางโบราณคดีตลอดกาล “ฝาโลงศพขนาดใหญ่ของปาคัล
ฝาโลงศพของปาคัลทำจากหินเพียงก้อนเดียว มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า หนาประมาณ 245-290 มิลลิเมตร (ประมาณ 9-11.5 นิ้ว) ในแต่ละจุด ฝาโลงมีขนาดกว้าง 2.2 เมตร ยาว 3.6 เมตร (ประมาณ 7 ฟุต คูณ 12 ฟุต) หินก้อนมหึมานี้หนักถึงเจ็ดตัน มีการแกะสลักที่ด้านบนและด้านข้าง หินก้อนมหึมานี้คงไม่สามารถลงบันไดจากยอดวิหารจารึกได้ หลุมศพของปาคัลถูกปิดผนึกก่อน จากนั้นจึงสร้างวิหารขึ้นล้อมรอบหลุมศพ
เมื่อรุซ ลูอิลิเยร์ค้นพบหลุมศพ เขาและลูกน้องได้ใช้แม่แรงสี่ตัวยกขึ้นอย่างยากลำบาก ยกขึ้นทีละน้อย พร้อมกับสอดไม้ชิ้นเล็กๆ เข้าไปในช่องว่างเพื่อยึดหลุมศพให้อยู่กับที่ หลุมศพยังคงเปิดอยู่จนถึงปลายปี พ.ศ. 2553 จากนั้นฝาโลงขนาดใหญ่ก็ถูกลดระดับลงอย่างยากลำบากอีกครั้ง ปกคลุม ร่าง ของปาคัลซึ่งถูกนำกลับมายังหลุมศพของเขาในปี พ.ศ. 2552 ขอบสลักของฝาโลงศพบอกเล่าเหตุการณ์ต่างๆ จากชีวิตของปาคาลและบรรพบุรุษผู้สูงศักดิ์ของเขา ด้านใต้บันทึกวันเกิดและวันตายของเขา ด้านอื่นๆ กล่าวถึงเจ้าผู้ครองนครปาเลงเกอีกหลายพระองค์และวันตายของพวกเขา ด้านเหนือแสดงบิดามารดาของปาคาล พร้อมวันตายของพวกเขา
ด้านข้างของโลงศพ ที่ด้านข้างและปลายของโลงศพมีรูปสลักอันน่าทึ่ง 8 รูป เป็นรูปบรรพบุรุษของปาคัลกำลังเกิดใหม่เป็นต้นไม้ แสดงให้เห็นว่าดวงวิญญาณของบรรพบุรุษผู้ล่วงลับยังคงหล่อเลี้ยงลูกหลาน ภาพบรรพบุรุษของปาคัลและอดีตผู้ปกครองปาเลงเกประกอบด้วย
ภาพสองภาพของพ่อของปากัล K'an Mo' Hix ที่กำลังเกิดใหม่เป็นต้น Nance
ภาพสองภาพของแม่ของปากัล สักกุก ที่กำลังเกิดใหม่เป็นต้นโกโก้
คุณย่าทวดของปาคัล โยห์ล อิคนัล ปรากฏให้เห็นสองครั้ง โดยเกิดใหม่เป็นต้นซาโปเต้และต้นอะโวคาโด ชนาห์บ์
ปาคัล ที่ 1 ปู่ของปาคัล เกิดใหม่เป็นต้นฝรั่ง
พระเจ้ากาน บาห์ลัมที่ 1 (ผู้ปกครองเมืองปาเลงเก ค.ศ. 572-583) เสด็จกลับมาเกิดใหม่เป็นต้น ซาโปเต้ พระเจ้าคัน จอย ชิตัม ที่ 1 (ผู้ปกครองเมืองปาเลงเก ประมาณ พ.ศ. 1072-1108) กลับมาเกิดใหม่เป็นต้นอะโวคาโด
อะห์กัล โม' นาฮ์บ์ที่ 1 (ผู้ปกครองเมืองปาเลงเก ประมาณ ค.ศ. 501-524) เกิดใหม่เป็นต้นฝรั่ง
ฝาด้านบนของโลงศพ ภาพสลักอันงดงามบนฝาโลงศพเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกของศิลปะมายา แสดงให้เห็นปาคัลกำลังเกิดใหม่ ปาคัลนอนหงาย สวมเครื่องประดับ เครื่องประดับศีรษะ และผ้าโพกศีรษะ ปาคัลปรากฏอยู่กลางจักรวาล กำลังเกิดใหม่เป็นชีวิตนิรันดร์ เขากลายเป็นหนึ่งเดียวกับเทพอูเนน-คาวิลล์ ผู้ซึ่งเกี่ยวข้องกับข้าวโพด ความอุดมสมบูรณ์ และความอุดมสมบูรณ์ เขากำลังโผล่ออกมาจากเมล็ดข้าวโพดที่อสูรกายแห่งโลก ถือครองไว้ ซึ่งฟันขนาดมหึมาของมันปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน ปาคัลกำลังโผล่ออกมาพร้อมกับต้นไม้แห่งจักรวาลที่มองเห็นได้ด้านหลังเขา ต้นไม้จะพาเขาขึ้นสู่ท้องฟ้า ที่ซึ่งเทพอิทซัมนาจ มังกรฟ้า กำลังรอเขาอยู่ในร่างนกและหัวงูสองหัวอยู่สองข้าง
ความสำคัญของโลงศพของปากัล
ฝาโลงศพของปาคัล (Pakal’s Sarcophagus) เป็นงานศิลปะของชาวมายาอันล้ำค่าและเป็นหนึ่งในการค้นพบทางโบราณคดีที่สำคัญที่สุดตลอดกาลภาพสลักบนฝาโลงศพช่วยให้นักวิชาการชาวมายาสามารถระบุวันที่ เหตุการณ์ และความสัมพันธ์ในครอบครัวที่มีอายุกว่าพันปีได้
ภาพกลางของปาคัลที่ถือกำเนิดใหม่เป็นเทพเจ้า เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์คลาสสิกของศิลปะมายา และมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำความเข้าใจว่าชาวมายาโบราณมองความตายและการเกิดใหม่อย่างไร
สังเกตว่ายังมีการตีความอื่นๆ เกี่ยวกับศิลาจารึกของปาคัลอยู่ด้วย การตีความที่โดดเด่นที่สุดน่าจะเป็นแนวคิดที่ว่าเมื่อมองจากด้านข้าง (โดยปาคัลตั้งตรงและหันไปทางซ้าย) อาจดูเหมือนเขากำลังควบคุมเครื่องจักรบางอย่าง แนวคิดนี้นำไปสู่ทฤษฎี "นักบินอวกาศชาวมายา" ซึ่งระบุว่ารูปสลักนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นปาคัล แต่เป็นนักบินอวกาศชาว มายา ที่ขับยานอวกาศ แม้ว่าทฤษฎีนี้จะฟังดูน่าสนใจ แต่นักประวัติศาสตร์ที่ยอมสละเวลาพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว ได้หักล้างความเชื่อนี้อย่างสิ้นเชิง
อาจสรุปได้ว่าภาพสลักบนฝาโลงของปากัล เต็มไปด้วยรายละเอียดที่ลึกซึ้ง และมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ในวัฒนธรรมมายา เช่น ตำแหน่งของปาคัล อยู่ในท่าคล้ายเอนหลัง ขาเหยียดและงอ คล้ายลอยอยู่กลางอากาศ และมือก็ดูเหมือนกำลังจับ คันบังคับอยู่ ด้านบนมี ต้นไม้แห่งชีวิต (World Tree) ซึ่งมีนกเทพเจ้าประจำสวรรค์เกาะอยู่ ด้านล่างสุดมี "สัตว์ปากจระเข้" อ้าปาก ซึ่งหมายถึงโลกใต้พิภพ ส่วน พระเจ้า ปาแคล อยู่ตรงกลางของจักรวาล ซึ่งเป็นที่เชื่อมระหว่างโลกสวรรค์ โลกมนุษย์ และนรก
โดยนักประวัติศาสตร์ และโบราณคดี ตีความภาพสลักนี้ว่า มันคือ การเดินทางของกษัตริย์ปากัล สู่โลกวิญญาณ ผ่านแกนกลางของจักรวาล ซึ่งก็คือต้นไม้แห่งชีวิต ที่เชื่อมโลกทั้ง 3 เอาไว้ด้วยกันแต่ก็มีอีกความเชื่อหนึ่งที่เอาไปเกี่ยวโยงกับทฤษฎี “ นักบินอวกาศโบราณ ” ว่าเพราะเจ้าปาคัลในภาพไม่ได้อยู่ในท่า “กำลังตาย” แต่เหมือน กำลังขับยานอวกาศเสียมากกว่า โดยด้านล่างจะเป็นเครื่องยนต์ และด้านบนคือหัวจรวด แล้วคุณอย่างไรกับกับภาพที่เห็นนี้บ้างครับ
เจาะสเปก กริเพน ทําไมกองทัพไทยถึงเลือกใช้
ภาพนี้ที่รอคอย !!! ทหารไทยนำตู้คอนเทนเนอร์ไปวางกั้นพรมแดนบ้านหนองจาน ตามเส้นเขตแดน 1:50000 เป็นที่เรียบร้อย
เขมรขอถก JBC ด่วน ยันไม่รับเส้นเขตแดน จากการใช้กำลังของไทย
ป้าแม่บ้านยืนยันความบริสุทธิ์ ไม่ได้ตั้งใจให้เด็กดื่มน้ำยาฆ่าเชื้อ โอดชีวิตลำบาก ต้องเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล
เขมรเร่งซ่อม สะพาน หลังถูก F-16 ทิ้งระเบิดลง ในช่วงปะทะ
นรกแตกก่อนวันเซ็นสัญญา F16 ไทยบึ้มสะพาน คืนหมาหอน "ฮุนเซน" อกแตก แพ้หมดรูป จำยอมเซ็นสงบศึก
อย.บุกจับแหล่งผลิตสมุนไพรเถื่อนที่ยังลักลอบทำและขาย แม้ถูกสั่งเลิกผลิตมากว่า 20 ปีแล้ว
ส่องโปรไฟล์ "จินนี่ ยศสุดา" จากลูกสาวนักการเมืองสู่ดาวรุ่งดวงใหม่ที่น่าจับตามอง
นิวซีแลนด์ สวรรค์ที่มีราคา... เมื่อ "ความสงบ" สวนทางกับ "ค่าครองชีพ"
ด่วน! ซาอุฯ เปิดฉากโจมตีทางอากาศถล่มท่าเรือมุกัลลา เยเมน เล็งเป้าเรือบรรทุกอาวุธหนุน STC ความขัดแย้งพันธมิตรปะทุเดือด
ไก่ป่าเกรทเตอร์เซจ นกสุดแปลกแห่งทุ่งอเมริกา กับ “ถุงลมนิรภัย” ประจำตัว โชว์เกี้ยวพาราสีสะเทือนธรรมชาติ
จีนเผยภาพถ่ายเมืองไทเปจากโดรน พร้อมยืนยันว่า "ไต้หวันเป็นดินแดนของจีน"
นรกแตกก่อนวันเซ็นสัญญา F16 ไทยบึ้มสะพาน คืนหมาหอน "ฮุนเซน" อกแตก แพ้หมดรูป จำยอมเซ็นสงบศึก
เขมรทุ่มเงินจ้างนักร้องเกาหลีมาโปรโมทประเทศ
อินเดียแห่เที่ยวกัมพูชา เปิดไฟลต์ตรง กระแสมรดกฮินดูมาแรง
5 จอมโจรขมังเวทแห่งที่ราบสูง: ตำนานเสือร้ายภาคอีสานที่โลกต้องจดจำ
เปิดตำนานอาถรรพ์ "ปู่โสมเฝ้าทรัพย์" แห่งวัดกุฎีดาว: ความลี้ลับที่อยู่คู่แผ่นดินอยุธยา
โศกนาฏกรรมแม่ทัพ"หยวนฉงฮ่วน"ผู้ถูกกิน: เมื่อวีรบุรุษผู้ปกป้องแผ่นดิน ถูกชาวบ้าน "แล่เนื้อ" แกล้มเหล้าเพราะคำลวง
ย้อนรอยประวัติศาสตร์: เส้นทางปฏิทินไทยจาก "1 เมษา" สู่ "เคาท์ดาวน์ 1 มกรา"


