Sculptra กับ Radiesse ต่างกันอย่างไร? ตัวไหนตอบโจทย์?
Sculptra กับ Radiesse ต่างกันอย่างไร? ตัวไหนตอบโจทย์?
ปัจจุบันเทคโนโลยีความงามมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ทำให้มีตัวเลือกหลากหลายในการฟื้นฟูผิวและกระตุ้นคอลลาเจน หนึ่งในหัตถการยอดนิยมคือ โปรแกรมฉีด Sculptra และ โปรแกรมฉีด Radiesse ซึ่งทั้งสองโปรแกรมได้รับความนิยมสูง แต่มีจุดเด่นและวิธีการทำงานที่แตกต่างกัน ทั้งในด้านส่วนประกอบ หลักการทำงาน และเทคนิคการฉีด บทความนี้จะช่วยให้ทุกคนเข้าใจความแตกต่างระหว่าง Sculptra และ Radiesse รวมถึงแนะนำว่าโปรแกรมใดเหมาะกับใครบ้าง เพื่อช่วยประกอบการตัดสินใจสำหรับผู้ที่สนใจการฉีดฟิลเลอร์กระตุ้นคอลลาเจน
Sculptra คืออะไร?
Sculptra คือสารกระตุ้นคอลลาเจน (Biostimulator) ที่พัฒนาและผลิตโดยบริษัท Galderma Laboratories ถือเป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนยี่ห้อแรกของโลกที่ได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาในสหรัฐอเมริกา (US FDA) และถูกนำมาใช้ในวงการแพทย์ทั่วโลกตั้งแต่ปี 1999 โดยมีงานวิจัยรองรับประสิทธิภาพมากกว่า 50 ฉบับ ทำให้มั่นใจได้ว่าปลอดภัยและสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ
สารประกอบหลักของ Sculptra คือ Poly-L-Lactic Acid (PLLA) ซึ่งสังเคราะห์จากพืช มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว ช่วยทดแทนคอลลาเจนที่สูญเสียไปตามวัย ทำให้ผิวแน่นกระชับ อิ่มฟู และลดความหย่อนคล้อยอย่างเป็นธรรมชาติ
Radiesse คืออะไร?
Radiesse เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจน (Biostimulator) ที่พัฒนาและผลิตโดยบริษัท Merz Aesthetics ถือเป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก และถูกนำมาใช้ในวงการแพทย์ตั้งแต่ปี 2006 มีงานวิจัยรองรับประสิทธิภาพมากกว่า 250 ฉบับ และมียอดการใช้งานมากกว่า 15 ล้านไซริงค์ ใน 85 ประเทศ ทำให้มั่นใจได้ว่าปลอดภัยและสามารถสลายตัวตามกระบวนการธรรมชาติ
ส่วนประกอบหลักของ Radiesse คือ Calcium Hydroxylapatite (CaHA) ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ที่เลียนแบบแร่ธาตุในร่างกายมนุษย์ พบได้ในกระดูกและฟัน มีลักษณะเป็นอนุภาคทรงกลมขนาดเล็กสม่ำเสมอ ประมาณ 25–45 ไมครอน คุณสมบัติของ Radiesse คือช่วยเติมเต็มหรือเพิ่มปริมาตรในบริเวณที่ฉีด พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนจากภายใน ทำให้ผิวเต่งตึง แน่นกระชับ และดูอ่อนเยาว์มากขึ้น
Sculptra กับ Radiesse แตกต่างกันอย่างไร?
Sculptra และ Radiesse มีความแตกต่างกันในหลายด้านทั้งส่วนประกอบ กลไกการทำงาน จุดเด่น วิธีการฉีด จำนวนครั้ง และระยะเวลาเห็นผล สามารถสรุปความแตกต่างได้ดังนี้
ส่วนประกอบหลัก
- Sculptra: มีส่วนประกอบหลักคือ Poly-L-Lactic Acid (PLLA) 150 mg, Sodium Carboxymethylcellulose (CMC) 90 mg และ Non-Pyrogenic Mannitol 127.5 mg โดยสาร PLLA เป็นสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนธรรมชาติยี่ห้อแรกของโลก ได้รับการรับรองจาก US FDA และสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ เหลือไว้เพียงคอลลาเจนที่ร่างกายสร้างขึ้น
- Radiesse: มีส่วนประกอบหลักคือ Calcium Hydroxylapatite (CaHA) 30% ในรูปแบบ Microspheres และ Sodium Carboxymethylcellulose (CMC) 70% เป็นเจลที่ช่วยนำพา CaHA เข้าสู่ผิว CaHA เป็นสารสังเคราะห์เลียนแบบแร่ธาตุในร่างกาย พบได้ในกระดูกและฟัน จึงเข้ากันได้ดีกับร่างกายและไม่ก่อปฏิกิริยาต่อต้าน
กลไกการทำงาน
- Sculptra: เมื่อฉีด PLLA จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนผ่านกระบวนการอักเสบระดับเซลล์ (Subclinical Inflammation) กระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาว (Macrophages) ส่งสัญญาณไปยัง Fibroblast เพื่อสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวแน่นกระชับและอิ่มฟูในระยะยาว
- Radiesse: CaHA จะทำงานโดยตรงกับเซลล์ Fibroblast เพื่อสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ โดยไม่ผ่านกระบวนการอักเสบ ทำให้ผิวเต่งตึง กระชับ และอ่อนเยาว์
จุดเด่น
- Sculptra: กระตุ้นคอลลาเจน Type 1 ได้สูงถึง 66.5% ฟื้นฟูโครงสร้างผิวชั้นลึก แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยและหลวมให้กลับมาแน่นกระชับ ดูอิ่มฟู
- Radiesse: ฟื้นฟูสารสำคัญต่อผิว 5 ประการ ได้แก่ คอลลาเจน Type 1 (150%), คอลลาเจน Type 3 (130%), อีลาสติน (260%), กระตุ้นหลอดเลือดเล็ก (Angiogenesis) และ Proteoglycan
วิธีการฉีด
- Sculptra: มาในรูปผง ต้องผสมกับน้ำเกลือปราศจากเชื้อและเขย่าให้เป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นฉีดเข้าสู่ผิวชั้นลึก หลังฉีดต้องนวดหน้าติดต่อกัน 5 วัน วันละ 5 ครั้ง ครั้งละ 5 นาที เพื่อกระจายตัวยาและลดโอกาสเกิดก้อน
- Radiesse: มาในรูปเจลพร้อมฉีด สามารถฉีดแบบ Non-diluted เพื่อเติมเต็มเฉพาะจุด หรือแบบ Diluted/Hyper Diluted เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนเป็นวงกว้างโดยไม่เน้นการเติมเต็ม
จำนวนครั้งที่ฉีด
- Sculptra: แนะนำฉีด 2–3 ครั้ง เว้นระยะ 4–6 สัปดาห์ต่อครั้ง เพื่อให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนอย่างเต็มที่
- Radiesse: แนะนำฉีด 1–3 ครั้ง เว้นระยะ 4 สัปดาห์ต่อครั้ง ครั้งแรกสามารถเห็นผลเติมเต็มทันที จากนั้นกระตุ้นคอลลาเจนต่อเนื่อง
ระยะเวลาเห็นผล
- Sculptra: ไม่เห็นผลทันที จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงประมาณ 2–4 สัปดาห์ และเห็นผลชัดเจนภายใน 3–6 เดือน ผลลัพธ์คงอยู่ได้ถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิว
- Radiesse: เห็นผลทันทีในด้านการเติมเต็ม ส่วนผลกระตุ้นคอลลาเจนจะเห็นชัดภายใน 3–6 เดือน และผลลัพธ์คงอยู่ได้ถึง 2 ปี
Sculptra เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป และเริ่มมีผิวเสื่อมสภาพตามวัย
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยหรือมีริ้วรอยเหี่ยวย่น ต้องการยกกระชับผิว
- ผู้ที่มีริ้วรอยลึก ร่องแก้ม หรือร่องใต้ตาชัดเจน
- ผู้ที่ผิวหลวม ขาดความอิ่มฟูและวอลุ่ม
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากภายในให้แข็งแรง
- ผู้ที่ต้องการเติมคอลลาเจนให้ผิวกลับมาเนียนแน่น
- ผู้ที่ต้องการปรับปรุงคุณภาพผิวให้เรียบเนียนและกระชับขึ้น
- ผู้ที่อยากเพิ่มความหนาแน่นของผิวเพื่อผิวดูอิ่มฟู
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนานและเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนในระยะยาว
Radiesse เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป และเริ่มมีผิวเสื่อมสภาพตามวัย
- ผู้ที่มีริ้วรอยลึก ร่องแก้ม หรือร่องหน้าตามวัยอย่างชัดเจน
- ผู้ที่ต้องการเพิ่มปริมาตรให้ผิวเฉพาะจุด เช่น คาง แก้ม หรือกรอบหน้า
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ขาดความกระชับ
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้คมชัด ดูมีมิติ
- ผู้ที่ผิวขาดวอลุ่ม หรือผิวไม่ยืดหยุ่น
- ผู้ที่มีรอยเหี่ยวย่นบริเวณหลังมือ
- ผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ได้ทั้งทันทีและในระยะยาว
ข้อดีของ Sculptra
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน Type 1 ได้มากถึง 66.5% ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากภายใน
- ย้อนวัยผิวให้ดูอ่อนเยาว์ และเพิ่มความแน่นกระชับอย่างเป็นธรรมชาติ
- ปลอดภัยต่อร่างกาย PLLA สารสังเคราะห์จากพืช ไม่จับตัวเป็นก้อนง่าย และสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ
- ผลลัพธ์ยาวนาน คงอยู่ได้นานถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
- ให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ เพราะคอลลาเจนเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผิวค่อย ๆ เติมเต็มและฟื้นฟู
- เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนยี่ห้อแรกที่ได้รับการรับรองจาก FDA
- ใช้มาตั้งแต่ปี 1999 และมีงานวิจัยรองรับระดับโลกมากกว่า 50 ฉบับ
ข้อดีของ Radiesse
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน Type 1 มากถึง 150% และ Type 3 มากถึง 130% พร้อมเพิ่มอีลาสติน (Elastin) ถึง 260%
- เพิ่ม Proteoglycan ช่วยกักเก็บน้ำในเซลล์ผิว และกระตุ้น Angiogenesis เพื่อบำรุงผิวจากภายใน
- เติมเต็มปริมาตรผิวได้ทันทีหลังฉีด พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว
- ปลอดภัยต่อร่างกาย CaHA เข้ากับเนื้อเยื่อได้ดี ลดโอกาสเกิดปฏิกิริยาต่อต้าน
- ผลลัพธ์ยาวนาน คงอยู่ได้นานถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
- ใช้ในวงการแพทย์ตั้งแต่ปี 2006 มีงานวิจัยรองรับระดับโลกมากกว่า 250 ฉบับ
- ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล
Sculptra และ Radiesse ต่างเป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนเพื่อฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์ แต่แตกต่างกันที่ส่วนประกอบและกลไก Sculptra (PLLA) เน้นกระตุ้นคอลลาเจนระยะยาว เหมาะกับการฟื้นฟูผิวหย่อนคล้อยทั่วหน้า ผลลัพธ์ค่อยเป็นค่อยไปและเป็นธรรมชาติ ส่วน Radiesse (CaHA) ให้ผลสองขั้นตอน ทั้งเติมเต็มปริมาตรทันทีและกระตุ้นคอลลาเจน เหมาะกับการเติมเต็มเฉพาะจุด เช่น คาง ขมับ และกรอบหน้า การเลือกโปรแกรมจึงขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและความต้องการ แนะนำปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจฉีด
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชง
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
ถามหาพี่เวย์ พี่เวย์ก็มา ในไลฟ์ของชีนานาเมื่อคืน นอกจากมาช่วยขายบัตรคอนแปปนึงแล้ว ก็มาถือเค้กแฮปปี้เบิร์ดเดย์ชีนานาด้วย
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
ตรงนี้มีคำตอบคนละครึ่งพลัสเฟส 1 ใช้ไม่หมดสามารถนำไปใช้เฟส 2 ได้หรือไม่
กัมพูชา ซัดไทย ไร้ความพร้อม ขาดศักยภาพในการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์แนะ ไม่พร้อมอย่าจัด ให้ดูปี 2023 ที่กัมพูชาเป็นเจ้าภาพ ปีนั้นไร้ที่ติ นานาชาติล้วนชื่นชม
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
Amazing! สาวหูขาดได้รับการปลูกถ่ายหูใหม่บนหลังเท้า
ถามหาพี่เวย์ พี่เวย์ก็มา ในไลฟ์ของชีนานาเมื่อคืน นอกจากมาช่วยขายบัตรคอนแปปนึงแล้ว ก็มาถือเค้กแฮปปี้เบิร์ดเดย์ชีนานาด้วย
"เจนสุดา" ฟาดแรง! "นานา" อย่าเอาเด็กมาเรียกความสงสาร..น้ำตาไม่ได้ช่วยอะไรเลย
ตำรวจเรียกสอบเพื่อนสนิทที่อยู่ในเหตุการณ์คืนที่ "นัทปง" เสียชีวิต
สยอง! งูยักษ์ 5 เมตรหนัก 60 กิโลฯ พังเพดานห้องน้ำ จู่โจมบ้านชาวมาเลเซีย
ภาพ 3 มิติ คืออะไร? เทคนิคสร้างภาพเสมือนจริงสำหรับมือใหม่
Microsoft Fabric คืออะไร? แนะนำเครื่องมือใหม่จาก Microsoft สำหรับองค์กรยุคดิจิทัล
ทุกสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ ESG คืออะไร และทำไมถึงสำคัญต่อองค์กร
ดึงหน้า (Facelift) คืออะไร? มีกี่เทคนิค รวมข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ
