เป๊ปซี่(Pepsi) : ตำนานผู้แหวกม่านกฏเหล็กคอมมิวนิสต์ และมหาอำนาจทางการทหาร
ครั้งก่อนผู้เขียนได้เขียนถึงเครื่องดื่มน้ำดำผู้ทรงอิทธิพลอย่างโคคา-โคล่า จากประวัติศาสตร์แก้ว 6 ใบ วันนี้เราจะมาพูดถึง เป๊ปซี่ บ้างแล้วกัน เพราะตำนานเรื่องราวของเป๊ปซี่ในประวัติศาสตร์ก็ไม่แพ้โคคา โคล่า เช่นกัน
หากพูดถึงเครื่องดื่มรสซ่า ดับกระหายคลายร้อนนอกจาก โคคา-โคล่าแล้ว ก็คงหนีไม่พ้นกับคู่แข่งตลอดการอย่าง เป๊ปซี่ ที่มีตำนานเล่าขานไม่แพ้โคคา-โคล่าเช่นกัน เพราะเป๊ปซี่เองเป็นเครื่องดื่มที่ทรงอิทธิพลได้รับ ขนานนามว่า เป็นแบรนด์แห่งตำนานโลกธุรกิจ แหกกฎเหล็กของสหภาพโซเวียตได้อย่างไรวันนี้ ผู้เขียนขอเล่าขานตำนานพอสังเขป
เป๊ปซี่ คือแบรนด์เครื่องดื่มน้ำอัดลมสัญชาติอเมริกัน ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก คิดค้นและออกจำหน่ายเป็นครั้งแรกใน ค.ศ. 1893 ในชื่อ “แบรดส์ ดริงค์” (Brad’s Drink) ก่อนจะเปลี่ยนเป็น “เป๊ปซี่” เมื่อปี 1898 และภายในระยะเวลาไม่กี่สิบปี เป๊ปซี่ แบรนด์เครื่องดื่มนี้ ก็ขยายความนิยมไปทั่วโลก เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์โลกทุนนิยมที่คนส่วนใหญ่สัมผัสได้ด้วยการ “ดื่ม” และเมื่อต้องการบุก สหภาพโซเวียต ประเทศผู้นำคอมมิวนิสต์ เป๊ปซี่ก็ทำได้สำเร็จ ทั้งยังเกิดดีลประวัติศาสตร์อีกด้วย
ที่มาของการแหวกกฏเหล็กของคอมมิวนีสต์
ถึงแม้ว่า เป๊ปซี่จะได้รับความนิยมและสามารถตีตลาดได้ในหลายประเทศทั่วโลก ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2ก็ตาม หากแต่การแบ่งขั้วทางการเมืองก็ยังเป็นอุปสรรคใหญ่ของเป๊ปซี่ เพราะกลุ่มประเทศสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ที่มี สหภาพโซเวียต เป็นผู้นำ มีนโยบายทางเศรษฐกิจที่ไม่ต้อนรับการลงทุนจากประเทศตะวันตก โดยเฉพาะบริบทโลกช่วงสงครามเย็น ที่ความขัดแย้งระหว่างโลกเสรีประชาธิปไตยกับโลกคอมมิวนิสต์ยิ่งรุนแรงขึ้น เพราะสหภาพโซเวียตภายใต้การนำของ โจเซฟ สตาลิน (Joseph Stalin) มีนโยบายปกครองประเทศอย่างเข้มงวด ไม่เปิดรับการลงทุนหรือวัฒนธรรมใด ๆ จากโลกทุนนิยม
แต่เมื่อสตาลินถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 5 มีนาคม ปี 1953 นิกิต้า ครุสชอฟ (Nikita Khrushchev) ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำต่อ เขาได้ล้มล้างอิทธิพลผู้นำคนก่อน มีนโยบายพัฒนาโซเวียตให้ทันสมัย และเปิดกว้างเสรีทางการเมืองและเศรษฐกิจมากขึ้น นโยบายของครุสชอฟช่วงทศวรรษ 1950 ทำให้โซเวียตปรับปรุงความสัมพันธ์กับประเทศทุนนิยมตะวันตก โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ซึ่งครุสชอฟ อนุญาตให้เข้ามาแสดงสินค้าในกรุงมอสโก เมืองหลวงของโซเวียต ในปี 1959
เมื่อข่าวการจัดนิทรรศการแพร่ออกไป โดนัลด์ เคนดัลล์ (Donald Kendall) หัวหน้าฝ่ายขายของ บริษัทที่ผลิตเครื่องดื่มเป๊ปซี่ให้ความสนใจ นำเป๊ปซี่ไปจัดแสดงด้วย เพราะตอนนั้นกำลังแข่งขันกับ “โคคา-โคล่า” อย่างดุเดือด โดยโดนัลด์ เคนดัลล์ (Donald Kendall) มีความเชื่อว่า หากสามารถบุกประเทศที่มีตลาดใหญ่สุดในโลกอย่างโซเวียตได้ คงจะทำให้เป๊ปซี่เป็นเจ้าตลาดน้ำอัดลมได้แน่นอน
ก่อนเดินทางไปยังมอสโก เคนดัลล์กังวลใจมากว่าจะสามารถขายเป๊ปซี่ได้ตามที่หวังหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เคนดัลล์รู้จักกับ ริชาร์ด นิกสัน (Richard Nixon) รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ (ในขณะนั้น) เขาจึงไปตกลงกับนิกสันว่าระหว่างที่นิกสันกับครุสชอฟสนทนากันภายในงาน
นิกสันต้องหาจังหวะยื่นเป๊ปซี่ให้ผู้นำสหภาพโซเวียตชิม โดยแก้วเป๊ปซี่ต้องอยู่ในมือของครุสชอฟ เพื่อเป็นการโฆษณาเป๊ปซี่ ซึ่งจะเปิดโอกาสให้เข้าไปทำตลาดในสหภาพโซเวียตได้
งานนิทรรศการที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ปี 1959 ขณะที่ครุสชอฟและนิกสันพูดคุยกัน นิกสันได้เดินไปที่บูธเป๊ปซี่และยื่นแก้วเป๊ปซี่ให้ครุสชอฟดื่ม ปรากฏเป็นภาพระดับตำนานที่สื่อหลายสำนักนำไปตีพิมพ์ สื่อความหมายถึงความขัดแย้งระหว่าง 2 ประเทศมหาอำนาจที่เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดี แต่สำหรับแบรนด์น้ำดำแล้ว ไม่ว่าภาพนี้จะมีนัยหรือสื่อความหมายอะไรก็ตาม ก็ไม่สำคัญกับพวกเขาเท่าความจริงที่ว่ารูปนี้คือโฆษณาอันทรงพลัง ที่จะทำให้เป๊ปซี่กลายเป็นบริษัทน้ำอัดลมเบอร์หนึ่งของโลก!
ถึงแม้ว่าผู้นำโซเวียตจะชื่นชอบเป๊ปซี่ และกล่าวถึงความเป็นไปได้ในการนำมาจำหน่ายในโซเวียต แต่ปัญหาคือ “อัตราแลกเปลี่ยนเงิน” เพราะมูลค่าเงินรูเบิลของโซเวียตถูกกำหนดมูลค่าโดยรัฐบาล ไม่เป็นไปตามกลไกตลาดปกติ ทำให้ไม่มีความน่าเชื่อถือและไม่เป็นที่ยอมรับในตลาดโลก ประกอบกับ 2 ประเทศนี้ขัดแย้งอย่างรุนแรงอีกครั้งช่วงต้นทศวรรษ 1960 โอกาสทางธุรกิจของเป๊ปซี่จึงต้องเลื่อนออกไป
ในปี 1972 สถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศกลับมาสงบ เป๊ปซี่ภายใต้การนำของเคนดัลล์ที่ตอนนั้นเลื่อนขั้นเป็นซีอีโอ ก็ยังไม่ลดละความพยายามในการบุกโซเวียต คราวนี้บริษัทแก้ปัญหามูลค่าเงิน ด้วยการนำสินค้าโซเวียตที่มีมูลค่าใกล้เคียงกับเป๊ปซี่ นั่นคือ “ว็อดก้า” ยี่ห้อ Stolichnaya ซึ่งรัฐบาลโซเวียตเป็นเจ้าของ ไปจำหน่ายที่สหรัฐฯ และเป๊ปซี่จะขายส่วนผสมให้โซเวียตนำไปผลิตในโรงงานที่ตั้งอยู่ในประเทศ ส่งผลให้เป๊ปซี่ แบรนด์เครื่องดื่มนี้ จึงเป็นน้ำอัดลมจากโลกตะวันตกยี่ห้อแรกที่บุกโซเวียตได้สำเร็จ พร้อมกับได้สิทธิเป็นผู้ผูกขาดน้ำอัดลมยี่ห้อเดียวที่มีจำหน่ายในโซเวียต ฮอตถึงขนาดในช่วงทศวรรษ 1980 เป๊ปซี่ทำยอดขายในโซเวียตได้มากกว่า 1 พันล้านขวดต่อปี!
ดีลในตำนานที่โลกต้องจดจำ
ในอีกด้าน ว็อดก้า Stolichnaya ที่เป๊ปซี่นำเข้าไปจำหน่ายในสหรัฐฯ กลับขายไม่ได้ในสัดส่วนเดียวกับที่เป๊ปซี่ขายได้ในโซเวียต เป๊ปซี่อยู่ในจุดเสียดุลทางการค้า เคนดัลล์จึงต้องหามาตรการแก้ไขปัญหานี้ เขายื่นข้อเสนอต่อรัฐบาลโซเวียตในปี 1989 ขอสินค้าที่มีมูลค่าใกล้เคียงกับยอดขายที่เป๊ปซี่ทำได้ในโซเวียต และต้องเป็นสินค้าที่นำไปขายต่อได้ง่ายและรวดเร็วกว่าว็อดก้า โดยในขณะนั้น โซเวียตประสบปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำอย่างหนัก แทบไม่มีเงินทุนสำรองเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารงานของรัฐบาล จึงเป็นที่มาของ “ดีลประวัติศาสตร์” เมื่อโซเวียตตัดสินใจยกเรือลาดตระเวน เรือรบ เรือพิฆาต และเรือดำน้ำ รวมทั้งหมดถึง 17 ลำ ให้กับเป๊ปซี่เป็นค่าแลกแปลี่ยนกับลิขสิทธิ์เป๊ปซี่ในโซเวียต
ข้อแลกเปลี่ยนดังกล่าวเรียกเสียงฮือฮาไปทั่ววงการธุรกิจและวงการการเมือง เพราะถ้าเทียบแล้ว กองเรือเกือบ 20 ลำแบบนี้สามารถทำให้ เป๊ปซี่ เป็นบริษัทที่มีอำนาจทางทหารเป็นอันดับ 6 ของโลกได้เลย ถึงขนาดหน่วยงานความมั่นคงของรัฐบาลสหรัฐฯ แสดงความกังวล แต่เคนดัลล์ก็ตอบกลับไปแบบติดตลกว่า “ผมปลดอาวุธโซเวียตได้เร็วกว่าพวกคุณซะอีก!!”
ต่อมาในเดือนพฤษภาคม ปี 1989 เป๊ปซี่ นำเรือที่แลกเปลี่ยนมาทั้งหมดไปขายต่อเป็นเศษเหล็กให้บริษัทรีไซเคิลในประเทศนอร์เวย์ นำรายได้เข้าบริษัทอย่างมหาศาลกว่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐ ยุคทองของเป๊ปซี่ในโซเวียตก็จบลงพร้อมการล่มสลายของโซเวียต ในปี 1991 ส่งผลให้ข้อตกลงทางการค้าระหว่าง 2 ฝ่ายสิ้นสุดไปด้วย โคคา-โคล่า ค่ายน้ำดำคู่แข่งเริ่มเข้ามาตีตลาดรัสเซีย สร้างฐานลูกค้าจนปักหลักได้อย่างมั่นคง สร้างแรงสั่นสะเทือนให้เป๊ปซี่อย่างหนัก
แม้ท้ายสุด เป๊ปซี่จึงไม่ใช่แบรนด์เครื่องดื่มน้ำอัดลมเพียงรายเดียวในตลาดโซเวียตนั้นอีกต่อไป แต่ครั้งหนึ่งพวกเขาก็ได้สร้าง “ตำนาน” แห่งโลกธุรกิจซึ่งเป็นที่จดจำมาถึงทุกวันนี้
******
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
เลขเด็ด "แพนแพนพารวย" งวดวันที่ 16 ธันวาคม 68..สูตรหวยเด็ด รวยก่อนใคร!
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
พบกองอาเจียนข้างตัว นัทปง ก่อนเสียชีวิต ตำรวจได้กั้นพื้นที่เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
เพื่อนสนิทเปิดใจหลังเกิดเหตุ! เผย 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา' หลับไม่ตื่น-ไม่ขอตอบปมทะเลาะในวงเหล้า ขณะผลชันสูตรชี้ชัดพบ "ไซยาไนด์"
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
พบกองอาเจียนข้างตัว นัทปง ก่อนเสียชีวิต ตำรวจได้กั้นพื้นที่เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
ทนายสายหยุด ยอมรับสลิปโอนเงินของ "นานา" เป็นของปลอม
ตุ๋นลงทุนทิพย์: ไว้ใจ เชื่อใจ หรือเกรงใจ… สุดท้ายใครคือเหยื่อ?
รอบ 3 อาการ 12: หัวใจแห่งการตื่นรู้สำหรับชีวิตประจำวัน (เอไอ รวบรวมและเรียบเรียง)
เลิกกัน แต่ปล่อยคลิปลับ — คนแบบนี้ยังมีอยู่ในโลกได้ยังไง?
7 อันดับสารพิษตัวร้าย : อยู่ให้ไกล ระวังให้ดี เพราะโลกนี้ไม่ได้อ่อนโยนกับเราเสมอไป


