ผู้ชายใบหน้าเหลี่ยม มีอารมณ์ทางเพศสูงกว่าใบหน้าแบบอื่น ๆ

สตีเฟ่น อาร์นอคกี้ (Steven Arnocky) ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยา แห่งมหาวิทยาลัยนิพิซซิ่ง (Nipissing University) ประเทศแคนนาดา และคณะ ได้เผยแพร่บทความเกี่ยวกับงานวิจัยชื่อว่า The Facial Width-to-Height Ratio Predicts Sex Drive, Sociosexuality, and Intended Infidelity จากการทดลอง กลุ่มตัวอย่างผู้ชายและผู้หญิงที่มีความสัมพันธ์จำนวน 457 คน ในการทดลอง อาร์นอคกี้ พยายามหาความสัมพันธ์ระหว่างสัดส่วนความกว้างยาวของใบหน้า (Facial Width-to-Height Ratio-FWHR) และแรงขับทางเพศของกลุ่มตัวอย่าง โดยเก็บข้อมูลความกว้าง และความยาวของใบหน้าของกลุ่มตัวอย่างแต่ละคน เพื่อหาสัดส่วนความกว้างยาวของใบหน้า จากนั้น ผู้วิจัยก็จะให้กลุ่มตัวอย่างทำแบบสอบถาม เพื่อชี้วัดว่าตนนั้นมีแรงขับทางเพศมากน้อยขนาดไหน

ผลวิจัยที่ได้ชี้ว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีค่าสัดส่วนความกว้างยาวของใบหน้าสูง จะมีความต้องการทางเพศที่สูงตามไปด้วย พูดแบบง่าย ๆ คือ คนไหนที่ยิ่งมีรูปร่างใบหน้าที่กลม และกว้าง จะมีความต้องการทางเพศมากขึ้น โดยความสัมพันธ์แบบนี้เกิดขึ้นกับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย

เหตุใดความกว้างยาวของใบหน้าคนเราจึงสัมพันธ์กับแรงขับทางเพศ พบว่า น่าจะมาจาก ‘ฮอร์โมนเพศ’ จากงานวิจัยหลาย ๆ ชิ้น คนที่มีรูปร่างของใบหน้าที่กลมและกว้าง มักจะมีฮอร์โมนเพศที่สูงตามไปด้วย

ทีมวิจัยได้วิเคราะห์สัดส่วนของใบหน้า เพื่อมาประเมินผลร่วมกัน ปรากฏว่า ผู้ชายที่มีรูปทรงใบหน้าสี่เหลี่ยม จะมีอารมณ์หรือความรู้สึกต้องการทางเพศสูงกว่าใบหน้าแบบอื่น ๆ และมักจะเป็นคนที่ง่ายๆ สบายๆ ไม่คิดมากกับความสัมพันธ์ทางเพศแบบชั่วครั้งชั่วคราว (one-night stand) จากผลลัพธ์ของงานวิจัย อาร์นอคกี้ สรุปไว้ว่า ผู้ชายที่มีสัดส่วน FWHR สูงมีแนวโน้มจะโกหก และไม่ซื่อสัตย์ต่อคู่รักของตนในอนาคต มีแนวโน้มนอกใจคู่รักได้ มากกว่า ผู้ชายที่มีรูปหน้าเรียว ผอม หรือหน้ายาวด้วย