เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ "หลักเขตแดนสยาม-เขมร" ที่มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5
เมื่อเอ่ยถึงเส้นพรมแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา หลายคนอาจนึกถึงภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยภูเขาและป่าไม้หนาแน่น แต่สิ่งที่แฝงอยู่ในผืนดินเหล่านั้นกลับเต็มไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่า “หลักเขตแดนสยาม–เขมร” คือสัญลักษณ์สำคัญที่บอกเล่าเรื่องราวการปักปันเขตแดนระหว่างสยามกับกัมพูชาในยุคที่ภูมิรัฐศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเผชิญแรงกดดันจากมหาอำนาจตะวันตก
หลักเขตแดนเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นระหว่างปี พ.ศ. 2451 – 2452 ในสมัยรัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี ช่วงเวลาที่สยามต้องเผชิญกับการคุกคามจากฝรั่งเศส ซึ่งในขณะนั้นเข้ามามีอิทธิพลและยึดครองดินแดนกัมพูชา การเจรจาและการปักปันเขตแดนในครั้งนั้น จึงไม่ใช่เพียงการกำหนดเส้นแบ่งทางภูมิศาสตร์ แต่ยังเป็นการยืนยันถึงความพยายามของสยามในการรักษาอธิปไตยและปกป้องดินแดนที่เหลืออยู่
มีการสร้างหลักเขตแดนทั้งหมด 73 หลัก แต่ละหลักมีลักษณะเป็นแท่งหินที่มีข้อความจารึกไว้ทั้งสี่ด้าน โดยใช้สี่ภาษา ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาเขมร ภาษาอังกฤษ และภาษาฝรั่งเศส เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ข้อความบนหลักเขตที่โดดเด่นและน่าจดจำ คือคำว่า “SIAM” และคำว่า “ក្រុងស្រោម” (อ่านว่า กรุงสยาม) ซึ่งปรากฏอยู่เคียงคู่กันในฐานะหลักฐานทางเอกสารและวัตถุที่สะท้อนให้เห็นถึงอัตลักษณ์ของชาติ
ตำแหน่งของหลักเขตแดนเหล่านี้ทอดยาวตั้งแต่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจรดอ่าวไทย โดย หลักเขตที่ 1 ตั้งอยู่บริเวณช่องเกล หรือช่องสะงำ ตำบลไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ส่วน หลักเขตที่ 73 ซึ่งเป็นหลักสุดท้าย ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทะเล ระหว่างบ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด กับบ้านจามเยีย จังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา เส้นทางของหลักเขตจึงไม่เพียงกำหนดขอบเขตของรัฐ แต่ยังพาดผ่านภูมิประเทศที่มีความงดงามและเต็มไปด้วยเรื่องราวทางวัฒนธรรม
แม้กาลเวลาจะผ่านมากว่าร้อยปี แต่หลักเขตแดนสยาม–เขมรยังคงยืนหยัดเป็นพยานเงียบ ๆ ของประวัติศาสตร์ หลักหินเหล่านี้ไม่เพียงทำหน้าที่แบ่งเขตแดนระหว่างสองประเทศ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้เชิงการทูต ความมุ่งมั่นของบรรพบุรุษ และการรักษาเกียรติภูมิของชาติในยุคที่สยามกำลังเผชิญความท้าทายจากโลกภายนอก
ในปัจจุบัน หลักเขตแดนเหล่านี้ยังคงมีความสำคัญในฐานะหลักฐานทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีที่ช่วยให้เราเข้าใจภูมิหลังของความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชา รวมทั้งสะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาและวิธีคิดของคนในสมัยรัชกาลที่ 5 ที่เลือกใช้ทั้งภาษาและสัญลักษณ์เพื่อบันทึกความเป็นชาติไว้ให้คงอยู่ชั่วลูกชั่วหลาน
“หลักเขตแดนสยาม–เขมร” จึงไม่ใช่เพียงแท่งหินธรรมดา หากแต่เป็นเสมือนร่องรอยแห่งประวัติศาสตร์ ที่เตือนให้เราตระหนักถึงคุณค่าของเอกราชและอธิปไตย ซึ่งบรรพชนได้พยายามรักษาไว้ด้วยความยากลำบาก และยังคงส่งต่อมาเป็นมรดกสำคัญให้คนไทยในวันนี้
ทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจาย
📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำ
เขมรวิเคราห์ "จุดอ่อนของ T-50TH คืออะไร?"
จรวดจีนฟัดจรวดจีน เปิดคลังอาวุธลับสมรภูมิสระแก้ว เมื่อไทย-เขมรต่างงัดไม้เด็ด "สายเลือดมังกร" มาดวลกัน
รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่
"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชน
ปิดตำนาน 10 ปี "น้องคะน้า หรือ โมโมโนกิ คานะ" อำลาวงการทั้งน้ำตา
อ.เฉลิมชัย ออกโรงยับยั้งกลางดึก หลังผลงานในวัดถูกทุบทำลาย หวิดสูญสิ้นมรดกศิลป์ของแผ่นดิน
เลขเด็ดพญาคันคาก ลุ้นโชครับปีใหม่ งวด 2 มกราคม 2569
"พญาบึ้ง" จ.อ่างทอง คัดเลขเด็ดเน้นๆ ลุ้นโชคงวด 2/1/69
ทางบุญลุ้นทางรวย:พิธีเสกพระปิดตา ณ โบสถ์มหาอุด 1,000 ปี วัดป่าเลไลยก์
เลขเด็ดเม็ดเดียว "เจ๊นุ๊ก บารมีมหาเฮง" ประเดิมงวดแรก 2/1/69
Body Gratitude การกล่าวขอบคุณร่างกาย ที่ให้เราได้ใช้ร่างกายในการดำเนินชีวิต โดยไม่ได้จำกัดแค่ความงาม เพื่อลดการเปรียบเทียบกับผู้อื่น และ สุขภาพจิตที่ดีขึ้น
เขมร ยอมมาโต๊ะเจรจาที่จันทบุรี หลังไทยดัดหลัง "ไม่ย้ายประเทศ"
เลขเด็ด "มหาทักษา" งวดวันที่ 2 มกราคม 69 มาแล้ว!..ส่องด่วนเลย!
อ.เฉลิมชัย ออกโรงยับยั้งกลางดึก หลังผลงานในวัดถูกทุบทำลาย หวิดสูญสิ้นมรดกศิลป์ของแผ่นดิน
ปิดตำนาน 10 ปี "น้องคะน้า หรือ โมโมโนกิ คานะ" อำลาวงการทั้งน้ำตา
“ทำไมคนขยันหลายคนยังไม่ประสบความสำเร็จ? ความจริงที่ไม่มีใครบอกคุณ”
ทึ่งทั่วโลก : "ทะเลสาบเพโท" ทะเลสาบสีฟ้าเทอร์ควอยซ์แสนสดใสที่มองจากมุมสูงแล้วมีรูปร่างเหมือน "หัวสุนัขจิ้งจอก" ด้วยน๊า
จะว่าไปแล้ว "น้ำผึ้ง" นั้นคือ อุจจาระของผึ้งหรือไม่ ?
ทึ่งทั่วไทย : "สะพานท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย" (Bali Hai Pier) ในยามค่ำคืน