ตำนานของคู่รักสามี-ภรรยานักดนตรี ที่มีส่วนในการช่วยชีวิตคนบนเรือสำราญกว่า 500 คน
ในคืนมรสุมของวันที่ 4 สิงหาคม 1991 เรือสำราญ Oceanos แล่นท่ามกลางพายุรุนแรงกลางทะเลนอกชายฝั่ง Wild Coast ของแอฟริกาใต้
สภาพเรือที่เก่าทรุดโทรมอยู่แล้วทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงอย่างรวดเร็ว ท่อระบายน้ำและระบบกั้นน้ำบางส่วนชำรุด น้ำทะเลจึงทะลักเข้าสู่ห้องเครื่อง ไฟฟ้าดับ เครื่องยนต์หยุดทำงาน และเรือเริ่มเอียงท่ามกลางความโกลาหล
แต่สิ่งที่สร้างความตื่นตะลึงยิ่งกว่าคือ — แทนที่กัปตันและเจ้าหน้าที่อาวุโสจะอยู่ควบคุมสถานการณ์ กลับมีบางคนรีบหนีลงเรือก่อน ปล่อยให้ผู้โดยสารนับร้อยไร้ผู้นำท่ามกลางทะเลเดือด
ในช่วงเวลาไร้ทิศทางนี้ ชายคนหนึ่งก้าวออกมา — มอส ฮิลส์ นักกีตาร์ชาวอังกฤษ และ เทรซี ภรรยามือเบส ทั้งคู่เป็นเพียงนักดนตรีประจำเรือ ไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการเดินเรือ แต่พวกเขากลับรวบรวมสติ จัดระเบียบสถานการณ์ ปลอบขวัญผู้โดยสาร ใช้วิทยุส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ และเริ่มวางแผนอพยพ
ท่ามกลางคลื่นลมโหมกระหน่ำ มอสและเพื่อนร่วมวงช่วยกันปล่อยเรือชูชีพ แม้พายุจะทำให้ทุกขั้นตอนเต็มไปด้วยอันตราย กระทั่งกองทัพเรือแอฟริกาใต้ส่งเฮลิคอปเตอร์มาถึง เขาปีนขึ้นดาดฟ้าสูงสุด คาดสายรัดทีละคนเพื่อดึงผู้โดยสารขึ้นจากเรือที่กำลังจะจม
ปฏิบัติการช่วยเหลือกินเวลาหลายชั่วโมง ก่อนที่ผู้โดยสารและลูกเรือ 571 คน จะรอดชีวิตทั้งหมดโดยไม่มีใครเสียชีวิต
มอสเป็นหนึ่งในคนสุดท้ายที่ออกจากเรือ — เพียง 45 นาทีก่อนที่ Oceanos จะจมหายไปใต้ผืนน้ำ
ภายหลัง กัปตัน ยาน อัฟรานาส ให้เหตุผลว่าที่ออกจากเรือก่อนก็เพื่อ "จัดการภารกิจช่วยเหลือให้ดียิ่งขึ้น" พร้อมทิ้งวลีชวนช็อกว่า
“เมื่อผมสั่งให้อพยพแล้ว เวลาใครจะออกก็ไม่สำคัญ ถ้าใครอยากอยู่ต่อก็อยู่ได้”
คำพูดนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก และในที่สุดเขากับเจ้าหน้าที่บางคนก็ถูกตัดสินว่าประมาทโดยคณะกรรมการสอบสวนของกรีซ
ในทางตรงกันข้าม มอส ฮิลส์ กลายเป็นฮีโร่ในสายตาผู้รอดชีวิต เรื่องราวครั้งนั้นถูกจดจำในฐานะ “ปาฏิหาริย์กลางทะเล”
และในปีต่อ ๆ มา เขาได้ทำงานเป็นหัวหน้าฝ่ายกิจกรรมบนเรือสำราญ กลับมาสร้างเสียงหัวเราะและรอยยิ้มให้ผู้โดยสาร — บนผืนน้ำที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสนามรบเอาชีวิตรอดของเขาเอง
อ้างอิงจาก - World od Cruising (MTS Oceanos), Wikipedia
เบื้องหลัง "หัวปากกา" ชิ้นจิ๋ว ความยากระดับสร้างยานอวกาศ ที่มหาอำนาจหลายชาติยังยอมแพ้
ช่วงเวลาที่การดื่มกาแฟให้ประโยชน์สูงที่สุด
เปิดตำนาน "ไซยาไนด์": จากความบังเอิญทางศิลปะ สู่สารพิษพลิกประวัติศาสตร์โลก
เปิดภาพของฝากให้เขมร
ความสําเร็จอยู่ที่ใจ
คุณป้ามาซื้อยา จำชื่อยาไม่ได้จึงวาดรูปให้เภสัชกรดู ทำให้ชาวเน็ตทึ่ง!
'น้องฉัตร' ทวงบัลลังก์! บินเดี่ยวเหินฟ้า 'ดูไบ-ซาอุฯ' เสกความปังให้ 'ไบรท์-ฝ้าย'
หนุ่มฮ่องกงอาศัยในห้องขนาดแค่ 8 ตร.ม. แต่เมื่อเปิดประตูดูข้างใน กลับมีครบเลย!
"ลาพิสลาซูลี" (Lapis Lazuli) มัจจุราชสีน้ำเงิน สัญลักษณ์เเห่งอำนาจในประวัติศาสตร์
รีวิวหนังดัง NOBODY 2 คนธรรมดานรกเรียกพี่ 2
"ทอม ฮิกส์" เจ้าของทีมสตาร์สเรนเจอร์ส และ ลิเวอร์พูล เสียชีวิตแล้ว!!
หมีดำในสวนสัตว์จีนสติแตก! พุ่งเข้าใส่ผู้ดูแลเพื่อแย่งแครอท
จ.ส.อ.ศตวรรษ สุจริต พลีชีพปกป้องอธิปไตยชาติ
เปิดภาพของฝากให้เขมร
ภาษาที่ควรเรียนที่สุด ในอีก5ปีข้างหน้า
'น้องฉัตร' ทวงบัลลังก์! บินเดี่ยวเหินฟ้า 'ดูไบ-ซาอุฯ' เสกความปังให้ 'ไบรท์-ฝ้าย'
ความสําเร็จอยู่ที่ใจ
ลูกบ้านไหนมีบ้าง เปิดตำรา "ปานมงคล" 10 จุดที่ช่วยเสริมโชคลาภตลอดชีวิต!
เช็กด่วน! ท่านอนที่คุณชอบอาจทำลายสุขภาพและเส้นประสาทโดยไม่รู้ตัว
ร้ายกว่าน้ำมันหมู "ราชาแห่งไขมันอิ่มตัว" ทำลายหลอดเลือดที่หลายคนไม่คาดคิด
"ลาพิสลาซูลี" (Lapis Lazuli) มัจจุราชสีน้ำเงิน สัญลักษณ์เเห่งอำนาจในประวัติศาสตร์