หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ฆาตกรรมไร้เงา

เนื้อหาโดย อักษราลัย

ฆาตกรรมไร้เงา

 

โดย : อักษราลัย

 

เมื่อเงาไม่ทาบทับลงบนพื้น ความจริงก็ยิ่งพร่าเลือน

 

 ฝนตกในคืนที่ไม่มีเสียงฟ้าร้อง ละอองเม็ดโปรยลงมาอย่างสุภาพ ราวไม่อยากรบกวนความเงียบงันของบ้านไม้สามชั้นริมเนินเขา บ้านหลังนั้นไม่ใช่บ้านใหม่ แต่ก็ไม่ถึงกับทรุดโทรม โครงสร้างไม้สักแห้งสนิท ส่งกลิ่นเฉพาะของเนื้อไม้เก่าแก่ที่ผ่านฤดูฝนมานับสิบปี กลิ่นที่ปะปนกันระหว่างความชื้นและความทรงจำ หน้าต่างทรงสูงมีบานกระจกฝ้าแบบโบราณ บานหนึ่งแง้มอยู่เล็กน้อย ปล่อยให้ม่านลูกไม้ขาวสะอาดปลิวไสวราวลมหายใจของบ้าน

 

 หลังคามุงกระเบื้องเคลือบสีเข้มที่ซีดจางด้วยแสงแดดและเวลา ยื่นออกมาคล้ายหมวกกว้าง ช่วยบังหน้าประตูไม้บานคู่ที่แกะลวดลายดอกไม้ละเอียดลออ ตะไคร่น้ำเขียวคล้ำขึ้นตามแนวรอยต่อของบันไดหินหน้าบ้านที่ทอดยาวจากรั้วขึ้นไปจนถึงชานไม้หน้าประตู

 

 ไฟหน้ารถมืดดับก่อนถึงประตูรั้ว สนิมของกลอนเหล็กเก่าดังสะท้อนเมื่อมือเรียวยาวผลักประตูออกด้วยแรงเบา ๆ เสียงเหล็กสีเทาเสียดสีกับบานไม้เก่าแผ่วเบาราวเสียงลมหายใจของบ้านที่ยังไม่ตื่น

 

 นักสืบหญิงในเสื้อกันฝนสีดำก้าวลงมาอย่างเงียบเชียบ เธอไม่ถาม ไม่มีเสียงทัก ไม่มีบทสนทนาแรกเริ่ม เพราะคำตอบ... ถูกเขียนไว้แล้ว ด้วยคราบเลือดบนพื้นห้องโถง

 

 แต่...

 

 ไม่มีศพ

 ไม่มีร่าง

 ไม่มีเสียงกรีดร้อง

 

 มีเพียงความว่างเปล่าที่ถูกจัดวางอย่างพิถีพิถัน ราวกับใครบางคนตั้งใจให้ทุกอย่าง "ดูเหมือน" คดีฆาตกรรม ดอกไม้ในแจกันทรงสูงยังไม่เฉา หนังสือพิมพ์วางพับเรียบร้อยบนโต๊ะชา ไม่มีร่องรอยการต่อสู้

 แต่ผ้าม่านโปร่งริมหน้าต่างปลิวไหวช้า ๆ พร้อมคราบเลือดจาง ๆ บนปลายชายผ้า

 

 ความเงียบแผ่คลุมทั้งบ้าน ไม่ใช่ความเงียบแบบว่างเปล่า แต่เป็นความเงียบที่เหมือนมีเสียงบางอย่างซ่อนอยู่ใต้ชั้นของอากาศที่ไม่อาจจับต้องได้ คล้ายเสียงลมหายใจที่หยุดนิ่งแต่ยังคงกดดันให้รู้สึกถึงมันอยู่ตลอดเวลา

 

 "เขาหายไปเมื่อคืน"

 เสียงของหญิงวัยกลางคนเอ่ยขึ้นเบา ๆ ราวกระซิบกับตัวเองมากกว่าจะพูดกับใคร

 

 เธอสวมชุดนอนผ้าซาตินเรียบไร้รอยยับ ดวงตาไม่แดง ไม่บวม ไม่มีน้ำตา แต่ในแววตานั้นมีบางอย่างสั่นไหว ราวภาพสะท้อนในสายน้ำที่มีเงาลมพาดผ่าน

 

 เธอชื่อทิพย์วรรณ ภรรยาของเจ้าของบ้าน ผู้หญิงที่ดูไม่อ่อนแอ แต่ก็ไม่แข็งกร้าว น้ำเสียงของเธอเหมือนผ้าชีฟองบางเบาที่ลอยอยู่ในห้องซึ่งอากาศหนาวเย็นเกินเหตุ

 

 หลานชายเจ้าของบ้านยืนกอดอกอยู่ที่มุมบันได เขาสูง ผอม หัวไหล่ลาด และดูเหมือนกำลังฝืนตัวเองไม่ให้สั่น เขาไม่หลบสายตานักสืบ แต่ก็ไม่สบตาเช่นกัน ราวกับกำลังมองอะไรที่ไกลออกไป… หรือไม่อยากเห็นความจริงที่อยู่ตรงหน้า

 

 คนขับรถวัยกลางคนยืนนิ่งอยู่ใกล้ประตู เขาสวมเสื้อกันฝนที่เปียกชื้น และไม่พูดอะไรเลยตั้งแต่ต้น เขายืนนิ่งจนแทบกลืนไปกับเงามืดในห้องรับแขก

 

 และแม่บ้านวัยเกษียณที่เคยลาออกไปเมื่อปีที่แล้ว บัดนี้กลับมานั่งอยู่ตรงห้องครัวโดยไม่มีใครถามว่าทำไม สีหน้าเธอสงบ แต่ดวงตาคอยมองใครบางคนเสมอ ราวกับรู้ว่าอะไรบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง

 

 นักสืบไม่พูด

 แต่รองเท้าหนังเปียกฝนของเธอ เหยียบย่ำลงบนรอยเปียกที่แทรกผ่านพรมสีครีม

 

 แผ่นไม้ใต้พรมยังชื้น... ไม่ใช่แค่จากฝนที่สาดผ่านหน้าต่างเปิดทิ้งไว้ แต่มันชื้นจากข้างใต้... จากบางอย่างที่ซ่อนอยู่ลึกลงไป

 

 เธอเงยหน้ามองกระจกข้างบันได

 กระจกเก่าแก่มีลายแกะสลักริมกรอบไม้

 ไม่มีเงาของเธอสะท้อนกลับมา

 ไม่มีของใครเลย

 

 บ้านทั้งหลังไม่มีแม้เสียงเครื่องใช้ไฟฟ้า ไม่มีเสียงนาฬิกาเดิน

 เงียบงันจนเหมือนโลกหยุดหมุน ณ ตรงนี้มาหลายชั่วโมง

 

 “เขาเคยพูดถึงอะไรแปลก ๆ ก่อนหายตัวไปไหม?”

นักสืบถามในที่สุด เสียงของเธอนุ่มแต่แฝงความหนักแน่น เหมือนน้ำตกที่ไหลผ่านซอกหิน

 

 ทิพย์วรรณหันหน้ามามองนิดหนึ่ง ก่อนตอบว่า

“เขาเริ่มไม่ไว้ใจใคร…แม้แต่ตัวเอง เขาฟังทุกเสียงฝีเท้าในบ้านอย่างใส่ใจ ขังตัวเองอยู่ในห้องนานขึ้น และเริ่มจดทุกอย่างที่ได้ยิน แม้แต่เสียงลมหายใจตัวเอง”

 

 หลานชายยิ้มบาง ๆ มุมปาก

 “ถ้าใครสักคนอยากให้คุณเชื่อว่าเขาตายไปแล้ว ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ คุณจะทำอย่างไร?”

 

 ไม่มีใครตอบ

 

---

 

: เงาที่เคลื่อนไหวในห้วงเวลา

 

 คืนนั้นฝนยังไม่หยุดตก

 นักสืบเดินไปยังบันไดชั้นสอง มือไล้ไปตามราวไม้ที่ขัดจนมันเงา แต่มีเสี้ยนบางจุดตำเข้าเนื้อเธอ เธอไม่ร้อง ไม่หยุด แค่หยดเลือดเล็ก ๆ ซึมออกมา เธอมองเลือดของตัวเอง ก่อนปาดมันออกอย่างไม่ใส่ใจ แล้วเดินต่อไปอย่างเงียบงัน

 

 ห้องนอนของเจ้าของบ้านไม่มีร่องรอยถูกรื้อค้น ผ้าปูเตียงยังคงตึงเป๊ะ หนังสือเรียงอยู่บนชั้นอย่างมีระเบียบ

แต่บนโต๊ะทำงาน มีซองจดหมายปิดผนึกหนึ่งฉบับ วางไว้ข้างตลับเทป

 

 เธอเปิดจดหมาย อ่านเงียบ ๆ

 

 “ถ้าคุณได้อ่านข้อความนี้ แสดงว่าผมไม่อยู่แล้ว... หรืออย่างน้อยก็ไม่อยู่ในรูปแบบที่คุณรู้จัก ผมไม่ไว้ใจพวกเขาอีกต่อไปแล้ว แต่ที่แย่กว่านั้น... ผมไม่ไว้ใจแม้แต่ตัวเอง”

 

 เทปไม่มีเสียงใด ๆ นอกจากเสียงลมหายใจแผ่ว ๆ และเสียงฝีเท้าเบาราวแมวเดินบนไม้เก่า

 และก่อนจะหยุด... มีเสียงหนึ่งกระซิบว่า

 

 “เขาจะมาฆ่าฉันในฝัน… ฉันแค่ต้องตื่นก่อน”

 

 นักสืบปิดเครื่องเล่นเทปลงช้า ๆ สายตาเธอมองผ่านหน้าต่างออกไปยังสวนหลังบ้านที่มืดสลัว

 ลมหอบหนึ่งพัดม่านขึ้น แล้วเธอก็เห็น เงาร่างหนึ่งยืนอยู่นอกหน้าต่าง ไม่ขยับ ไม่ก้าวเข้าใกล้

 เพียงแต่… ไม่มีเงาทอดลงบนพื้นดินเบื้องล่างเลย

 

---

 

: ใต้เงาที่ไร้ร่าง

 

 ในคืนนั้น นักสืบยังไม่จากไป เธอขอพักอยู่ที่บ้านหลังนั้น เพื่อรอดูว่าเงาที่ไม่มีเงานั้น จะกลับมาอีกหรือไม่

 

 แต่สิ่งที่กลับมาไม่ใช่เงา

 มันคือเสียงลมหายใจของบ้านทั้งหลังที่เริ่มเปลี่ยนไป

 แววตาของแต่ละคนที่ไม่เหมือนเดิม

 คือคำกระซิบในทางเดินที่ไม่มีใครยืนอยู่

 คือบานประตูที่ขยับช้า ๆ โดยไม่มีใครแตะต้อง

 

 และในที่สุด เธอก็พบ “ห้องลับ” ซ่อนอยู่หลังตู้หนังสือชั้นล่าง

 ในนั้นมืดสนิท และเย็นกว่าทุกที่

 มีเพียงเก้าอี้ไม้ตัวหนึ่ง กับสมุดจดบันทึกหนาปกหนัง

 

 เธอเปิดอ่าน

 หน้าสุดท้าย เขียนไว้ว่า:

 

 “ถ้าฉันหายไป… แสดงว่าฉันพิสูจน์ได้แล้ว ว่าความกลัวสามารถฆ่าได้ โดยไม่ต้องใช้มือ”

 

 เจ้าของบ้านไม่ตาย

 เขาแอบซ่อนอยู่ในห้องลับนั้นเอง ทั้งหมดเพื่อเฝ้ามองพวกเขาทุกคน เพื่อดูว่าใครจะเผยธาตุแท้ ใครจะเชื่อ ใครจะสารภาพในสิ่งที่ตนไม่ได้ทำ

 

 แต่เขาพลาด…

 เขาค่อย ๆ บ้าคลั่งไปเองในความเงียบงันนั้น

 หลงอยู่ในเงาของตัวเอง จนไม่เหลือสติจะออกมาจากที่ซ่อนอีก

 

 เขาถูกพบในอีกสามวันต่อมา

 นั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ ร่างกายยังมีชีวิต แต่ดวงตาว่างเปล่า และริมฝีปากขยับไม่หยุดว่า

 

 “ใครสักคน… กำลังเฝ้าดูอยู่”

 

 ไม่มีใครตาย

 ไม่มีฆาตกร

 ไม่มีศพ

 

 แต่ในบ้านหลังนั้น…ความไว้ใจ… ถูกฆ่าตายอย่างเลือดเ

ย็น

 

 ความจริง… ไม่เคยมีเงา

 และบางครั้ง…เงาที่เราคิดว่าเห็น อาจเป็นเพียงร่องรอยของจิตใจที่กลัวจนสร้างมันขึ้นมาเอง

 

---จบ —

เนื้อหาโดย: อักษราลัย
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
อักษราลัย's profile


โพสท์โดย: อักษราลัย
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เขมรวิเคราห์ "จุดอ่อนของ T-50TH คืออะไร?""ซินแสดัง" เผยดวงเมืองประเทศไทย ปี 2569..ยิ่งรบ ยิ่งแข็งแกร่ง ศัตรูแพ้ราบคาบวิเคราะห์หวยงวดวันที่ 2 มกราคม 69 โดยใช้ AI..เลขไหนมีสิทธิ์ถูกรางวัล"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชนเซ็นหยุดยิงได้ 35 นาที สระแก้วเดือดอีกรอบ! ถล่มปืนใหญ่AI วิเคราะห์เลขท้าย 2 ตัว งวดวันที่ 2 มกราคม 69..โดยใช้สถิติย้อนหลัง 20 ปีทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจาย📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำ"สรยุทธ" โดนโซเชียลแซะแรง..ตอบกลับสั้นๆ กับประโยคในตำนานเซียนหวยคึกคัก ม้าสีหมอกปล่อยแนวทางเลขเด็ด งวด 2 มกราคม 2568สยายปีกรับทรัพย์! เลขเด็ด "นกตาทิพย์" แนวทางรวยงวดใหม่ 2 มกราคม 2569เมื่อนักธุรกิจมาดเข้ม กลายเป็น "เชฟโอปป้า" เพื่อหลานรัก
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
AI วิเคราะห์เลขท้าย 2 ตัว งวดวันที่ 2 มกราคม 69..โดยใช้สถิติย้อนหลัง 20 ปี📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำแม่น้ำที่ไหลผ่านประเทศต่างๆ จำนวนมากที่สุดในโลกเซ็นหยุดยิงได้ 35 นาที สระแก้วเดือดอีกรอบ! ถล่มปืนใหญ่
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
ไอ้ด่างคลองบางมุด จระเข้กินคนที่ใหญ่ที่สุดอ.เฉลิมชัย ออกโรงยับยั้งกลางดึก หลังผลงานในวัดถูกทุบทำลาย หวิดสูญสิ้นมรดกศิลป์ของแผ่นดินชีวิตที่แตกต่างในทางความรู้สึก แม้ว่าเรานั้นจะอยู่ในแผ่นดินแผ่นเดียวกันท้องฟ้า สายน้ำและอาคารปราสาท ต่างรอแสงแห่งวัน (เวียงจันทน์ ประเทศลาว)
ตั้งกระทู้ใหม่