Hydnora africana – ต้นไม้ปรสิต ที่น่ามหัศจรรย์ใต้ผืนดินแห่งแอฟริกา
ในผืนดินกึ่งแห้งแล้งของแอฟริกาใต้ มีสิ่งหนึ่งซ่อนตัวอยู่เงียบ ๆ ใต้พื้นดินเกือบตลอดชีวิต จนกระทั่งถึงเวลาอันเหมาะสม มันจึงโผล่ขึ้นมาให้ผู้พบเห็นได้ประหลาดใจ สิ่งนั้นคือ Hydnora africana พืชปรสิตที่ได้รับฉายาว่า “พืชที่แปลกที่สุดในโลก” ด้วยรูปร่างและวิถีชีวิตที่แตกต่างจากพืชทั่วไปอย่างสิ้นเชิง
Hydnora africana เป็นพืชที่ไม่มีคลอโรฟิลล์ จึงไม่สามารถสังเคราะห์แสงเพื่อสร้างอาหารได้เหมือนพืชส่วนใหญ่ มันต้องพึ่งพาการดูดสารอาหารจากรากของพืชเจ้าบ้าน โดยเฉพาะพืชในตระกูล Euphorbia เช่น Euphorbia mauritanica และ Euphorbia tirucalli ผ่านโครงสร้างใต้ดินที่คล้ายรากหนาอวบน้ำ ซึ่งแทงเข้าไปในรากของเจ้าบ้านเพื่อดูดซับสารอาหารมาหล่อเลี้ยงร่างกาย
ตลอดช่วงเวลาส่วนใหญ่ของชีวิต Hydnora africana จะซ่อนตัวอยู่ใต้พื้นดินอย่างมิดชิด ไม่มีลำต้นหรือใบให้เห็นแม้แต่น้อย สิ่งเดียวที่จะโผล่ขึ้นมาสู่โลกภายนอกคือดอก ซึ่งจะปรากฏขึ้นในช่วงออกดอกเท่านั้น ดอกของมันมีลักษณะหนา สีส้มปนแดงหรือน้ำตาล กลีบสี่หรือห้ากลีบเชื่อมกันแน่นราวกับหมวกที่ปิดอยู่ และจะค่อย ๆ แย้มออกเมื่อบานเต็มที่
ทว่ากลยุทธ์การดึงดูดแมลงของมันไม่ได้อาศัยความสวยงามหรือกลิ่นหอมหวานเหมือนดอกไม้ทั่วไป แต่ใช้กลิ่นเน่าเหม็นคล้ายซากสัตว์หรืออุจจาระเป็นตัวล่อ เหยื่อของกลิ่นนี้คือแมลงจำพวกด้วงมูลสัตว์และด้วงกินซาก เมื่อแมลงบินตามกลิ่นมาถึงและพลัดตกลงไปในดอก ขนเล็ก ๆ ด้านในจะกักพวกมันไว้ชั่วคราวเพื่อให้ช่วยผสมเกสรให้กับดอกไม้โดยไม่รู้ตัว และเมื่อกระบวนการเสร็จสิ้น ดอกก็จะปล่อยพวกมันเป็นอิสระ
หลังจากการผสมเกสรผ่านพ้นไป ผลของ Hydnora africana จะพัฒนาอยู่ใต้ดิน กลายเป็นผลเบอร์รี่กลมขนาดใหญ่ เปลือกหนาแข็ง อาจมีเส้นผ่านศูนย์กลางได้ถึง 80 มิลลิเมตร ภายในเต็มไปด้วยเนื้อคล้ายวุ้นรสหวานอ่อน ๆ อุดมด้วยแป้ง และมีเมล็ดเล็ก ๆ จำนวนมาก บางครั้งอาจมากถึง 20,000 เมล็ดในผลเดียว ผลเหล่านี้เป็นอาหารของสัตว์ป่าหลายชนิด เช่น หมาจิ้งจอก และยังถูกมนุษย์ในท้องถิ่นนำมากิน ใช้เป็นสมุนไพร หรือเป็นแหล่งสกัดแทนนิน
Hydnora africana จัดอยู่ในวงศ์ Hydnoraceae ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มพืชดอกที่เก่าแก่ที่สุดของโลก ราวกับเป็นตัวแทนจากยุคดึกดำบรรพ์ที่ยังคงดำรงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน ถิ่นกำเนิดของมันกระจายตั้งแต่นามิเบียทางตะวันตกเฉียงใต้ ไล่ลงมาจนถึงพื้นที่แหลมเคป และแผ่ขยายขึ้นไปทางเหนือผ่านสวาซิแลนด์ บอตสวานา ควาซูลู-นาตาล จนถึงเอธิโอเปีย โดยมักพบในพื้นที่ที่มีพืชตระกูล Euphorbia ซึ่งทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านและแหล่งพลังงานหลัก
พืชชนิดนี้อาจไม่งดงามตามแบบดอกไม้ในสวน แต่หากได้พบเจอ ก็ยากที่จะลืม ทั้งเพราะรูปลักษณ์ประหลาด วิถีชีวิตที่ซ่อนเร้น และกลยุทธ์การอยู่รอดที่เฉพาะตัวอย่างยิ่ง
ปิดตำนานรถ EV ราคาถูก ทิ้งลูกค้า, ดีลเลอร์ หอบเงินจากภาครัฐฯ กลับจีนหน้าตาเฉย
10 พรรณไม้สวยพิษร้าย: ความงดงามที่ต้องแลกด้วยอันตรายถึงชีวิต
เจ้าของบริษัทขายกิจการ แจกโบนัสพนักงานคนละ 443,000 ดอลลาร์
5 จอมโจรขมังเวทแห่งที่ราบสูง: ตำนานเสือร้ายภาคอีสานที่โลกต้องจดจำ
วิเคราะห์หวยงวดวันที่ 2 มกราคม 69 โดยใช้ AI..เลขไหนมีสิทธิ์ถูกรางวัล
บทเรียนรักกลางสมุทร: อดีตลูกเรือสำราญเตือนสติ ทำไม "ความรักในที่ทำงาน" บนเรือถึงเป็นดราม่าที่หนีไม่พ้น
เซียนหวยคึกคัก ม้าสีหมอกปล่อยแนวทางเลขเด็ด งวด 2 มกราคม 2568
เปิดตำนานอาถรรพ์ "ปู่โสมเฝ้าทรัพย์" แห่งวัดกุฎีดาว: ความลี้ลับที่อยู่คู่แผ่นดินอยุธยา
บุรีรัมย์เดือด! ศึกชิงเก้าอี้ สส. วันแรกคึกคัก 'ไหม ศิริกัญญา' บุกถิ่นพรรคสีน้ำเงิน ท้าชนกลุ่มอำนาจเดิม
หลังหยุดยิง จีนบริจาคเงินและของให้เขมร มูลค่า 20 ล้านหยวน
พระสงษ์ชาวเวียดนาม ผู้เสียสละชีวิตตัวเองเพื่อปกป้องศาสนา
เรื่องของผู้ชายที่ควรรู้เกี่ยวกับการช่วยตัวเองบ่อยๆ ว่าจะทำให้ระดับฮอร์โมนเพศชายลดลงหรือไม่
เฉลยแล้ว! 2 จุดอับใน "เครื่องซักผ้า" ที่หลายคนมองข้าม จนกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคโดยไม่รู้ตัว
“แอ่งดานาคิล” ราวกับอยู่บนต่างดาว สถานที่สุดโหดร้ายแห่งหนึ่งของโลก
ภาพของเจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงหรือทีมทำความสะอาด ที่กำลังปฏิบัติงานบริเวณ "ดวงตา" ขององค์พระพุทธรูปอุชิคุ ไดบุตสึ