สุสานที่ถูกลืมกลางมหานครโอซาก้า
พบสุสานโบราณในโอซาก้า ญี่ปุ่น มีศพกว่า 1,500 ศพ ย้อนไปถึงยุคเอโดะ
สุสานเก่าแก่ที่ถูกลืมเลือนได้ถูกค้นพบในพื้นที่พัฒนาใหม่กลางเมืองโอซาก้า ซึ่งมีแผนจะสร้างตึกระฟ้าสูง 4 แห่งในบริเวณนี้
ทีมนักโบราณคดีในเมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ขุดพบสุสานโบราณที่มีซากศพมากกว่า 1,500 ศพ ในเขตคิตะของเมือง การสำรวจพื้นที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1991 และพบว่าสุสานอุเมะดะฮะกะแห่งนี้มีอายุย้อนไปถึงยุคเอโดะ ระหว่างปี ค.ศ. 1603 ถึง 1867 จากประกาศของเมืองโอซาก้า การขุดค้นครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างคณะกรรมการการศึกษาเมืองโอซาก้าและสมาคมมรดกทางวัฒนธรรมโอซาก้า ซึ่งดำเนินโครงการต่อเนื่องยาวนานเกือบ 30 ปี โดยปัจจุบันนักวิจัยกำลังวิเคราะห์ซากและโบราณวัตถุที่ค้นพบเพิ่มเติม
“ขณะนี้ซากศพและกระดูกมนุษย์ที่ขุดพบกำลังอยู่ระหว่างการคัดแยกและวิเคราะห์” แถลงการณ์ระบุ พร้อมระบุเพิ่มเติมว่า “นอกจากมนุษย์แล้ว ยังพบซากสัตว์อื่น ๆ ด้วย เช่น ลูกหมูมากกว่า 4 ตัวในฝั่งเหนือของสุสาน และม้า 2 ตัวในฝั่งใต้ รวมถึงซากกระดูกแมวอีกด้วย”
เว็บไซต์หนึ่งในญี่ปุ่น รายงานว่า สุสานอุเมะดะฮะกะ เป็นหนึ่งในสุสานเก่าแก่ 7 แห่งในโอซาก้า โดยตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟโอซาก้า การค้นพบนี้ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญด้านโบราณคดี เปรียบได้กับการพบสุสานสงครามกลางเมืองใต้ไทม์สแควร์ในนิวยอร์ก สมาคมทรัพย์สินทางวัฒนธรรมเมืองโอซาก้า ได้ประกาศการค้นพบอย่างเป็นทางการในช่วงเริ่มพัฒนาเขตอุเมะคิตะ ซึ่งเป็นโครงการพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่มีเป้าหมายสร้างตึกระฟ้า 4 แห่ง อย่างไรก็ตาม การก่อสร้างจะยังไม่เริ่มต้นจนกว่าจะมีการเก็บกู้และเคลื่อนย้ายซากทั้งหมดอย่างเหมาะสม
นักโบราณคดีเชื่อว่าสุสานแห่งนี้ใช้สำหรับฝังศพผู้คนที่อาศัยอยู่ใกล้ปราสาทโอซาก้าเป็นเวลากว่า 200 ปี โดยในพื้นที่ฝั่งเหนือของสุสาน ไม่พบข้าวของส่วนตัวใด ๆ ประกอบกับมีการฝังรวมศพหลายรายในจุดเดียวกัน ทำให้นักวิจัยคาดว่าผู้เสียชีวิตเหล่านี้อาจเสียชีวิตจากการระบาดของโรคหรือภัยพิบัติธรรมชาติ และน่าจะเป็นประชาชนทั่วไปที่มีฐานะยากจน ในทางตรงกันข้าม พื้นที่ฝั่งใต้ของสุสานมีการฝังศพแบบเป็นทางการและพบโบราณวัตถุมากมาย เช่น ลูกปัด เหรียญทอง จาน หม้อ ตุ๊กตา และแผ่นจารึกทางศาสนา นักวิจัยเชื่อว่าผู้เสียชีวิตในส่วนนี้น่าจะมีฐานะร่ำรวยกว่า โดยถูกฝังในโลงไม้ หรือเผาและบรรจุไว้ในโกศ
นอกจากนี้ ยังมีการพบหลักฐานว่าผู้เสียชีวิตบางรายเคยป่วยด้วยโรคซิฟิลิสและเนื้องอกในกระดูก ซึ่งนักวิทยาศาสตร์กำลังศึกษาต่อไป และเมื่อเสร็จสิ้นการวิเคราะห์ทั้งหมด จะมีการจัดพิธีกรรมฝังศพใหม่อย่างเหมาะสมโดยพระสงฆ์ในพุทธศาสนา
สุดท้ายนี้ ทั้งนักโบราณคดีและนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่างพยายามรักษาสมดุลระหว่างการอนุรักษ์ทางประวัติศาสตร์กับผลประโยชน์เชิงพาณิชย์ โดยคาดหวังว่าข้อมูลทางโบราณคดีที่ได้จากการค้นพบครั้งนี้จะช่วยเปิดเผยประวัติศาสตร์ของผู้ที่ถูกฝัง ณ สุสานแห่งนี้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้นในอนาคต
ที่มา: allthatsinteresting.com
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
"ธรรมนัส" สวนดราม่าจัดซีเกมส์ ย้ำไทยพร้อม 100% แต่ขอทำแบบ "พึ่งตัวเองล้วนๆ"
Unseen ไทยแลนด์ เกาะรูปหัวใจ "ทุ่งทะเลหลวง" สุโขทัย
“ศุภจี” เฮ! ARASCO ซาอุฯ สั่งซื้อมันสำปะหลังอัดเม็ดเพิ่ม 3 หมื่นตัน ปีหน้าลุ้นพุ่งแตะ 1 แสนตัน





