หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ชายยิ้มปริศนาแห่งราชวงศ์ชิง ภาพถ่าย 100 ปี กับเบื้องหลังที่ไม่ใช่แค่การข้ามเวลา

เนื้อหาโดย อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย

เมื่อไม่นานมานี้ ภาพถ่ายเก่าแก่ที่รู้จักกันในชื่อ "ชายผู้ยิ้ม" (The Smiling Man) ได้กลายเป็นประเด็นถกเถียงอย่างเผ็ดร้อนบนโซเชียลมีเดียต่างประเทศ ด้วยเหตุผลที่เรียบง่ายแต่ชวนให้คิด นั่นคือความประหลาดใจที่ชาวจีนในราชวงศ์ชิงเมื่อกว่า 100 ปีก่อน จะสามารถโพสท่าทางและรอยยิ้มที่ดูเป็นธรรมชาติราวกับคนยุคปัจจุบันได้ หลายคนตั้งข้อสงสัยว่าชายในภาพเป็นคนข้ามเวลาหรือไม่ เพราะในยุคนั้น การถ่ายภาพมักจะถูกมองว่าเป็นเรื่องจริงจังและเคร่งขรึม ถึงขนาดที่การยิ้มในภาพถ่ายแทบจะเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน 

ภาพถ่าย "ชายผู้ยิ้ม" นี้ถูกบันทึกไว้ระหว่างการสำรวจประเทศจีนของ Jacob H. Schiff โดยมีนักวิชาการหนุ่มชาวเยอรมัน Berthold Laufer ได้รับมอบหมายให้เดินทางไปศึกษาวัฒนธรรมจีน ระหว่างพำนักอยู่ในจีนนานถึง 3 ปี Laufer ได้บันทึกภาพถ่ายไว้กว่า 1,430 ภาพ แต่สิ่งที่ทำให้ตัวเขาเองก็ประหลาดใจคือ ท่าทางของชายชาวจีนในภาพนี้ ที่ฉีกกฎเกณฑ์การโพสท่าถ่ายรูปในยุคนั้นอย่างสิ้นเชิง 

ชาวต่างชาติจำนวนมากแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับภาพนี้ โดยชี้ให้เห็นว่าตลอด 100 ปีแรกของการประดิษฐ์กล้องถ่ายภาพ การยิ้มในภาพถ่ายเป็นเรื่องที่พบเห็นได้ยากยิ่ง เนื่องจากผู้คนมองว่าการถ่ายภาพเป็นเรื่องที่เคร่งขรึมและจริงจังอย่างมาก กว่าที่การยิ้มในการถ่ายภาพจะกลายเป็นเรื่องปกติก็ล่วงเลยไปจนถึงช่วงปลายทศวรรษ 1920

มีทฤษฎีหลายอย่างที่พยายามอธิบายปรากฏการณ์นี้ บางคนเชื่อว่าสุขภาพฟันเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนไม่ยิ้ม เพราะการดูแลฟันยังไม่แพร่หลายนักในอดีต แต่ก็มีอีกมุมมองที่น่าสนใจคือ ในยุคนั้น คนอาจจะมีโอกาสถ่ายรูปเพียงครั้งเดียวในชีวิต การที่ภาพถ่ายออกมาโดยไม่มียิ้มอาจกลายเป็นความเสียใจไปตลอดชีวิต นี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้การยิ้มในการถ่ายภาพเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น 

ปัจจัยสำคัญที่สุดที่ส่งผลต่อการโพสท่าถ่ายภาพ คือ ประวัติศาสตร์การพัฒนากล้องถ่ายภาพ ในช่วงแรกเริ่ม กล้องถ่ายภาพมีเวลาการเปิดรับแสง (Exposure Time) ที่ยาวนานมาก อาจใช้เวลาถึง 8 ชั่วโมงสำหรับภาพถ่ายใบแรกของโลกที่บันทึกโดย Nicéphore Niépce ในปี 1826 ชื่อภาพ "View from the Window at Le Gras" (ภาพวิวจากหน้าต่างที่เลอกรา) ลองจินตนาการว่าต้องยิ้มค้างไว้ 8 ชั่วโมง คงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

อย่างไรก็ตาม ในช่วงทศวรรษ 1850 และ 1860 เวลาการเปิดรับแสงได้ลดลงอย่างมาก จากหลายชั่วโมงเหลือเพียงไม่กี่วินาที ทำให้ผู้คนสามารถแสดงออกถึงบุคลิกและตัวตนได้อย่างรวดเร็วและเป็นธรรมชาติมากขึ้น นี่คือจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่กำหนดวิธีการโพสท่าถ่ายภาพของเรา 

หลังจาก Niépce และ Louis Daguerre ได้ร่วมกันพัฒนากระบวนการถ่ายภาพ Daguerreotype ในปี 1839 ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นที่แท้จริงของเทคโนโลยีการถ่ายภาพ แม้เทคโนโลยีจะพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อลดเวลาการเปิดรับแสง แต่ชุดอุปกรณ์ถ่ายภาพในยุคแรกๆ ยังคงมีขนาดใหญ่ เทอะทะ และเคลื่อนย้ายลำบากมาก ดังที่บทความจาก "China Photography" เคยบรรยายไว้ว่า "ช่างภาพที่ออกไปถ่ายภาพต้องแบกเต็นท์บังแสง สารเคมี แผ่นกระจก ขาตั้งกล้องที่หนักอึ้ง และเหยือกน้ำ ซึ่งอุปกรณ์ทั้งหมดต้องใช้รถม้าทั้งคันในการขนส่ง"

จนกระทั่ง George Eastman ผู้ก่อตั้ง Kodak ได้เข้ามาปฏิวัติวงการในปี 1888 ด้วยการประดิษฐ์ฟิล์มม้วน (Roll Film) และกล้อง Box Camera ที่ใช้งานง่าย (Point-and-shoot) พร้อมสโลแกนอันโด่งดัง "You push the button, we do the rest." (คุณเพียงแค่กดชัตเตอร์ ส่วนที่เหลือเราจัดการเอง) ทำให้การถ่ายภาพกลายเป็นเรื่องง่ายและเข้าถึงได้สำหรับคนทั่วไป

กล้อง Kodak Box Camera รุ่นแรกมีราคาเพียง 25 ดอลลาร์ และหลังจากถ่ายภาพครบ 100 เฟรม ผู้ใช้ก็เพียงส่งกล้องคืน Kodak เพื่อล้างและอัดภาพ จากนั้น Kodak ก็จะส่งกล้องพร้อมฟิล์มใหม่กลับมาให้

ในปี 1900 Kodak ยังได้เปิดตัวกล้อง Brownie ที่มีราคาเพียง 1 ดอลลาร์ ทำให้การถ่ายภาพเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายยิ่งขึ้น และในอีก 35 ปีต่อมา Kodak ก็ได้เปิดตัวฟิล์มสี Kodachrome ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของยุคภาพถ่ายสี 

จากกล้องที่ต้องใช้รถม้าขนส่ง สู่กล้องดิจิทัล และในปัจจุบัน กล้องในสมาร์ทโฟนที่ทุกคนพกพา ทำให้เราสามารถถ่ายภาพและแบ่งปันบนอินเทอร์เน็ตได้ทันที การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและน่าทึ่ง ทำให้เกิดคำถามว่า ในอีก 10 ปีข้างหน้า ด้วยการมาถึงของเทคโนโลยี 5G และความก้าวหน้าอื่น ๆ การถ่ายภาพจะอยู่ในรูปแบบใดกันแน่? และคุณคิดว่า "ชายผู้ยิ้ม" ในราชวงศ์ชิงผู้นั้น จะยิ้มกว้างกว่านี้หรือไม่ หากเขามีโอกาสได้สัมผัสกล้องในยุคปัจจุบัน?

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
30 VOTES (5/5 จาก 6 คน)
VOTED: guaytiawsensak, Thorsten, โยนี กีใหญ่, sakura1569, เป็ดปักกิ่ง, paktronghie
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
วิเคราะห์หวยงวดวันที่ 2 มกราคม 69 โดยใช้ AI..เลขไหนมีสิทธิ์ถูกรางวัล"ซินแสดัง" เผยดวงเมืองประเทศไทย ปี 2569..ยิ่งรบ ยิ่งแข็งแกร่ง ศัตรูแพ้ราบคาบAI วิเคราะห์เลขท้าย 2 ตัว งวดวันที่ 2 มกราคม 69..โดยใช้สถิติย้อนหลัง 20 ปีเซียนหวยคึกคัก ม้าสีหมอกปล่อยแนวทางเลขเด็ด งวด 2 มกราคม 2568ทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจายเจ้าของบริษัทขายกิจการ แจกโบนัสพนักงานคนละ 443,000 ดอลลาร์"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชนเขมรวิเคราห์ "จุดอ่อนของ T-50TH คืออะไร?"10 พรรณไม้สวยพิษร้าย: ความงดงามที่ต้องแลกด้วยอันตรายถึงชีวิตเปิดใจ "เหมย หมึกเป็นซาซิมิ" นาทีช็อกเห็นภาพบาดตาผ่านกล้องวงจรปิด บทเรียนของความไว้ใจปิดตำนานรถ EV ราคาถูก ทิ้งลูกค้า, ดีลเลอร์ หอบเงินจากภาครัฐฯ กลับจีนหน้าตาเฉยเมื่อตัวแม่ปะทะเจ้าของบริษัท! "ป้ารัตนา" โชว์สกิลสัมภาษณ์งาน ทำเอา "มอส มัดจุก" ถึงกับไปไม่เป็น
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
วัฒนธรรมของ สัตว์เลื้อยคลาน ที่มันคือกิ้งก่าขนาดใหญ่นี่หน่ะหรือ ขนมที่ใช้ในพิธีขันหมากศึกเดือดกลางเมืองชล! "ไอซ์ รักชนก" ปะทะคารมกลุ่มแม่ยก "พี่เฮ้ง" ปมแก้รัฐธรรมนูญและตรวจสอบทุจริตบราวนี่ ไม่ใช้เตาอบ ส่วนผสมน้อย อร่อยสร้างภาพความงามที่ไม่เสื่อมคลายของ คิมซารัง แม้จะอายุเกือบ 50 ปีแล้วก็ตาม'ซ่าหริ่ม' ขนมไทยโบราณที่ยังนิยมอยู่ในยุคปัจจุบัน
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
เผยโฉม "Dracula’s Chivito": จานก่อกำเนิดดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดในจักรวาลเท่าที่เคยพบ“ทำไมคนขยันหลายคนยังไม่ประสบความสำเร็จ? ความจริงที่ไม่มีใครบอกคุณ”ทึ่งทั่วโลก : "ทะเลสาบเพโท" ทะเลสาบสีฟ้าเทอร์ควอยซ์แสนสดใสที่มองจากมุมสูงแล้วมีรูปร่างเหมือน "หัวสุนัขจิ้งจอก" ด้วยน๊าจะว่าไปแล้ว "น้ำผึ้ง" นั้นคือ อุจจาระของผึ้งหรือไม่ ?
ตั้งกระทู้ใหม่