เด็กลิง ชีวิตจริงของ หยู เจิ้นหวน ผู้ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาในสังคมที่ตัดสินคนจากรูปลักษณ์
ในสังคมที่ให้คุณค่ากับรูปลักษณ์ภายนอกอย่างมาก การปรากฏตัวของผู้ที่มีลักษณะแตกต่างออกไปอย่าง "เด็กลิง" หรือผู้ที่มีขนหนาทึบทั่วร่างกาย จึงเป็นประเด็นที่น่าสนใจและชวนให้เราฉุกคิดถึงการตัดสินคุณค่าของคนจากภายนอก "เด็กลิง" ที่มีขนปกคลุมร่างกายกว่า 96% โดยเฉพาะใบหน้าและแขนขา ทำให้พวกเขาดูคล้าย "ลิง" ในสายตาของผู้คน แม้ว่าขนที่ปกคลุมร่างกายจะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันมากนัก แต่ความแตกต่างนี้กลับทำให้พวกเขาถูกมองว่าเป็น "สิ่งแปลกแยก" หรือ "มนุษย์ประหลาด" ซึ่งนำไปสู่ความอยากรู้อยากเห็น การถูกรังเกียจ และความกลัวที่ไร้เหตุผล คล้ายกับการตีตราผู้ป่วยโรคเอดส์ในอดีต
เรื่องราวของ หยู เจิ้นหวน "เด็กลิงคนแรกของจีน" ที่เกิดในช่วงทศวรรษ 1980 ในมณฑลเหลียวหนิง ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง เขาได้รับการบันทึกใน "กินเนสส์เวิลด์เรคคอร์ด" ว่าเป็นบุคคลที่มีขนปกคลุมร่างกายมากที่สุดในโลก การเกิดของเขาเป็นที่แปลกใจสำหรับพ่อแม่ เนื่องจากเด็กแรกเกิดทั่วไปไม่มีขนยาวถึง 4 เซนติเมตร ปกคลุมร่างกายหนาแน่นขนาดนั้น โดยเฉพาะที่ใบหน้า ซึ่งทำให้เขาดูเหมือนตุ๊กตาขนฟูตัวเล็กๆ แม้จะมีข้อเสนอให้ทอดทิ้งเขา แต่พ่อแม่ของหยู เจิ้นหวนกลับเลือกที่จะโอบกอดและให้ความรักแก่เขาอย่างไม่แบ่งแยก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าของการเคารพทุกชีวิต
การถือกำเนิดของหยู เจิ้นหวนดึงดูดความสนใจจากนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยจำนวนมาก มีการจัดตั้งทีมวิจัยพิเศษขึ้นเพื่อศึกษาความผิดปกติของเขา และหาสาเหตุของการมีขนหนาแน่นดังกล่าว หลังจากการทดลองและการสังเกตอย่างละเอียด รวมถึงการทดสอบปฏิกิริยาต่อรสชาติและการสัมผัส ผลวิจัยสรุปว่าหยู เจิ้นหวนมีความรู้สึกและปฏิกิริยาไม่ต่างจากเด็กทั่วไป ความแตกต่างเดียวคือขนที่ปกคลุมร่างกายเท่านั้น และสาเหตุของขนที่ปกคลุมร่างกายจำนวนมากนี้เกิดจากการกลายพันธุ์ของยีนที่เรียกว่า "ปรากฏการณ์ย้อนกลับบรรพบุรุษ" (Atavism) อย่างไรก็ตาม การวิจัยนี้ต้องยุติลงเมื่อทุนสนับสนุนจากภาครัฐหมดลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อหยู เจิ้นหวนที่คุ้นเคยกับการถูกจับจ้องดูแลมาตั้งแต่เด็ก
ความสนใจจากสาธารณะนำไปสู่การถ่ายทำสารคดี "เด็กลิง" โดยมีนักวิทยาศาสตร์และแพทย์เข้าร่วมการถ่ายทำเพื่อบันทึกเรื่องราวชีวิตและการเติบโตของเขา สารคดีเรื่องนี้ทำให้หยู เจิ้นหวนเป็นที่รู้จักในวงกว้าง และนำพาโอกาสที่ไม่คาดฝันมาให้เขา เมื่อบริษัทภาพยนตร์ฮ่องกงได้ชวนเขาแสดงภาพยนตร์เรื่อง "การผจญภัยของเด็กลิงตัวน้อย" ซึ่งเขารับบทเป็นนักแสดงนำ ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้เขากลายเป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดงเด็ก และได้รับค่าตอบแทนจำนวนมาก
แต่ชื่อเสียงที่เพิ่มขึ้นก็มาพร้อมกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์และสายตาที่แตกต่างออกไป ผู้คนมักจะจ้องมองไปที่ขนของเขาด้วยความแปลกประหลาด บางคนถึงขั้นพยายามดึงขนของเขาในที่สาธารณะ สิ่งเหล่านี้สร้างความเจ็บปวดทางใจให้กับเขา โดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่น ทำให้เขารู้สึกไม่มั่นใจและพยายามปกปิดขนด้วยการสวมเสื้อแขนยาวเสมอ ความรู้สึกด้อยค่าและกลัวการถูกเยาะเย้ยทำให้เขาปลีกตัวออกจากสังคมและเคยคิดที่จะฆ่าตัวตาย
อย่างไรก็ตาม หยู เจิ้นหวนไม่ได้ยอมแพ้ต่อโชคชะตา เขายอมรับความแตกต่างของตัวเอง และได้รับการสนับสนุนจากพ่อแม่ให้ก้าวข้ามความเจ็บปวด เขาเริ่มหันมาสนใจดนตรี และได้เซ็นสัญญาเป็นนักแสดงกับโรงละครเด็กแห่งเหลียวหนิงตั้งแต่อายุ 10 ขวบ เขากลายเป็นเสาหลักของครอบครัว หาเลี้ยงพ่อแม่ และยังคงมุ่งมั่นพัฒนาตนเองด้านดนตรีและการแสดงมาตลอด 20 ปี เขาปรากฏตัวในรายการโทรทัศน์ต่างๆ เช่น "Xingguang Dadao" และ "Xinli Fangtan" รวมถึงร่วมแสดงในงานกาล่าปีใหม่ทางออนไลน์ปี 2011 นอกจากนี้ เขายังเข้าร่วมกลุ่มนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ "King Kong Star" เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ชีวิตและช่วยเหลือนักเรียนในการสร้างทัศนคติที่ถูกต้องโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมีน้ำใจและความเมตตาของเขา
ความพยายามของหยู เจิ้นหวนนำไปสู่การออกอัลบั้มเดี่ยวชื่อ "You Are My Protagonist" ซึ่งเป็นผลจากความมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้ ปัจจุบันเขายังคงเรียนรู้ อ่านหนังสือ เดินทางไปบรรยายทั่วประเทศ เพื่อแบ่งปันเรื่องราวการเติบโต ความพยายาม และความยากลำบากของเขา เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและส่งต่อพลังงานเชิงบวกให้กับผู้คน ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังสร้างคุณค่าทางสังคมอีกด้วย
หยู เจิ้นหวนไม่ต่างจากคนอื่นๆ ที่โหยหาความรัก ในวัย 20 ปี เขาได้พบกับรักแรก แต่ความสัมพันธ์ต้องจบลงเพราะพ่อของฝ่ายหญิงไม่ยอมรับในฐานะที่แตกต่างกัน เขาจึงตัดสินใจเดินทางไปภาคใต้เพื่อสร้างฐานะและพิสูจน์ตัวเอง
ต่อมาในปี 1999 เขาได้พบกับหญิงสาวอีกคนชื่อ หลิน หยุน (นามสมมุติ) แต่ความรักก็ต้องสะดุดลงอีกครั้ง เมื่อแม่ของฝ่ายหญิงต้องการให้เขาเข้ารับการผ่าตัดกำจัดขน ซึ่งหยู เจิ้นหวนปฏิเสธ เพราะเขาเชื่อว่า "ขนคือสิ่งที่สวรรค์และพ่อแม่ประทานให้ แม้จะนำมาซึ่งความเจ็บปวด แต่ก็มอบโอกาสให้เช่นกัน" เขายืนยันว่าความรักที่แท้จริงคือการยอมรับซึ่งกันและกันทั้งภายในและภายนอก ทั้งข้อดีและข้อเสีย
สุดท้าย หยู เจิ้นหวนได้พบกับคู่ชีวิตของเขาในปี 2019 เมื่อเขาประกาศข่าวดีการแต่งงานผ่านทาง Weibo แม้จะอยู่ในวัย 40 ปี เขาก็ได้ค้นพบความรักที่สมบูรณ์แบบในที่สุด
เรื่องราวของหยู เจิ้นหวนเตือนให้เราตระหนักว่ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความคิด เราไม่ควรตัดสินผู้อื่นจากรูปลักษณ์ภายนอก แต่ควรพิจารณาจากมุมมองที่เป็นกลางและรอบด้าน หยู เจิ้นหวนได้แสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็ง อดทน และมองโลกในแง่ดี แม้ต้องเผชิญกับการเย้ยหยันจากสังคม ชีวิตของเขาในฐานะนักแสดง นักร้อง และบุคคลสาธารณะ สมควรได้รับการเคารพอย่างแท้จริง
“บอย ภิษณุ" ประกาศขายบ้านหรูแล้ว ราคา 70 ล้าน
สูตรคำนวณงวด 2/1/69
นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33
ฮุน เซน เดินเกมใหญ่! ทุ่มงบกองทัพ ปลุกชาตินิยม ลั่นกัมพูชาโดน อยุติธรรมสามชั้น ไม่ก้มหัวให้ใคร
อาเซียนเนื้อหอม! เจาะเหตุผลทำไม บังกลาเทศ-ปาปัวนิวกินี-ฟิจิ อยากเข้าใกล้ครอบครัวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
อย่าเป็น "วัวลืมตีน" !! "ณวัฒน์" รับ เตีอน "ชาล็อต" เพราะระอาพฤติกรรมลืมตัว
ด่วน! แก๊งสแกมเมอร์จีน–กัมพูชาแตกฮือ ปอยเปตอลหม่าน หลังทหารกัมพูชายึดอาคารใช้เป็นฐานทหาร ตกเป็นเป้าการสู้รบชายแดน
เขมรไม่มีคิดหยุด แต่คิดว่าจะรบไทยให้ชนะด้วย F-35 ได้อย่างไรในอนาคต
ดาราดัง "เจมส์ แรนโซน" เสียชีวิตแล้ว
เห็ดทรัฟเฟิลยูนนาน: จากขุมทรัพย์ในป่าลึกสู่ดาวรุ่งดวงใหม่ที่เขย่าตลาดโลก
โฆษก "ฮุนเซน" โม้หนัก!! เคยผ่านการรบมาแล้วนับ 100 ครั้ง!!
"เซอร์ ไบรอัน เมย์" จะเปิดเพลงที่ไม่เคยเผยแพร่มาก่อนของวง Queen ให้ฟังก่อนคริสต์มาส
อาการนอยด์ ใคร ๆ ก็เป็นกันได้ แต่ถ้ารุนแรงมากไปจะส่งผลต่อสุขภาพจิตใจ ทำอย่างไรให้หายนอยด์
โฆษก "ฮุนเซน" โม้หนัก!! เคยผ่านการรบมาแล้วนับ 100 ครั้ง!!
อย่าเป็น "วัวลืมตีน" !! "ณวัฒน์" รับ เตีอน "ชาล็อต" เพราะระอาพฤติกรรมลืมตัว
กองกำลังบูรพา เปิดปฏิบัติการ ถล่มอาคารฝั่งปอยเปต ฐานสแกมเมอร์













