สาวบาร์พัฒน์พงศ์เล่นกับช้างเร่ร่อน ภาพหายากจากยุคที่ช้างยังเดินกลางกรุง
ย้อนวันวาน พ.ศ. 2534 — สาวบาร์พัฒน์พงศ์เล่นกับช้างเร่ร่อน ภาพหายากจากยุคที่ช้างยังเดินกลางกรุง
ในช่วงต้นทศวรรษ 2530 ถึง 2540 บรรยากาศกลางคืนในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะย่านพัฒน์พงศ์ ไม่ได้มีแค่แสงสีเสียงจากบาร์หรือคลับชื่อดังเท่านั้น หากยังมีภาพที่สะท้อนวัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่หลายคนอาจลืมเลือนไปแล้ว — ช้างเร่ร่อน
ภาพถ่ายจากปี พ.ศ. 2534 โดยช่างภาพต่างชาติ Michele Lannacci เผยให้เห็นกลุ่มสาวๆ จากบาร์ย่านพัฒน์พงศ์ที่ออกมาเล่นกับช้าง ซึ่งในเวลานั้นเป็นเรื่องที่พบเห็นได้ทั่วไปในเขตเมือง โดยเฉพาะย่านท่องเที่ยวหรือกลางคืน ช้างเร่ร่อนมักถูกเจ้าของจูงออกมาขายอาหารช้าง เช่น กล้วย อ้อย พร้อมเครื่องรางของขลัง และยังมีการให้บริการ “ลอดท้องช้าง” ตามความเชื่อของคนไทยว่าจะช่วยสะเดาะเคราะห์ แก้ดวงตก ปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไปจากชีวิต
พัฒน์พงศ์ในยุคนั้นเป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยวกลางคืนและพื้นที่เศรษฐกิจไม่เป็นทางการ มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติจำนวนมาก รวมถึงวิถีชีวิตแบบผสมผสานระหว่างความเชื่อพื้นบ้านและธุรกิจเมืองใหญ่ การปรากฏตัวของช้างกลางถนนคอนกรีต แม้จะเป็นเรื่องน่าตื่นตาสำหรับนักท่องเที่ยว แต่ก็เป็นฉากชีวิตที่สะท้อนถึงความย้อนแย้งอย่างชัดเจน
การนำช้างออกมาเร่ร่อนในเขตเมืองเกิดจากปัญหาหลายด้าน ตั้งแต่การขาดแคลนรายได้ของควาญช้างในชนบท การลดพื้นที่ป่า ตลอดจนความนิยมของนักท่องเที่ยวที่อยาก “สัมผัส” ช้างใกล้ๆ แต่ในทางกลับกัน ช้างเมืองกลับต้องเผชิญกับภาวะเครียดจากสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม แสงไฟ รถยนต์ เสียงดัง และอาหารที่ไม่เหมาะกับการดำรงชีวิตของมัน
ในช่วงปี 2543 เป็นต้นมา รัฐบาลและองค์กรพิทักษ์สัตว์เริ่มเข้มงวดกับการนำช้างมาเร่ร่อนในเมือง มีการประกาศห้ามและปรับบทลงโทษแก่ผู้กระทำผิด โดยให้เหตุผลด้านความปลอดภัยของทั้งช้างและประชาชน รวมถึงการส่งเสริมให้ช้างได้อยู่ในถิ่นที่ควรอยู่ เช่น ศูนย์อนุรักษ์ช้างและอุทยานต่างๆ
ปัจจุบัน ภาพแบบในอดีตเหล่านี้แทบไม่มีให้เห็นอีกต่อไปแล้ว ย่านพัฒน์พงศ์เองก็เปลี่ยนแปลงไปมาก ร้านค้า บาร์ และนักท่องเที่ยวลดน้อยลงโดยเฉพาะหลังโควิด-19 แต่ภาพถ่ายหายากจากปี 2534 นี้ยังคงเป็นหลักฐานที่น่าสนใจว่าครั้งหนึ่งกลางมหานครกรุงเทพฯ เคยมี "ช้างเร่ร่อน" เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตยามค่ำคืน — ภาพที่อาจดูแปลกตาในสายตาคนรุ่นใหม่ แต่เต็มไปด้วยเรื่องราวของยุคสมัยที่ผ่านพ้นไปแล้ว
> เครดิตภาพ: Michele Lannacci
ภาพประวัติศาสตร์ที่บอกเล่าความทรงจำของเมืองหลวงในมุมที่ต่างออกไป
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชง
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
สารพิษในร่าง 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา'! ตำรวจเร่งสอบพยาน ตรวจบ้านพักซ้ำ รอญาติจากเชียงราย
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
ไวรัลอีกครั้ง! “I Promise I Will Comeback” รีรันคืนจอ
ตำรวจแยกสอบ 2 เคส! “เวย์ ไทเทเนี่ยม” ถูกเหยื่อแจ้งความฉ้อโกง อ้างชื่อนักธุรกิจดังตุ๋นลงทุนหุ้นทิพย์ สูญกว่า 50 ล้าน
ตร.เผย เวย์ ไทเทเนี่ยม ใช้ชื่อนักธุรกิจดังหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงิน 50 ล้าน



